▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
บันทึกนักเดินทาง
ภาพถ่ายทิวทัศน์
เที่ยวต่างประเทศ
เที่ยวยุโรป
ประเทศอังกฤษ
[CR] บุก Devon & Cornwall ไข่มุกแห่งทะเลเคลติก Day 2
Continue From บุก Devon & Cornwall ไข่มุกแห่งทะเลเคลติก Day 1 : http://ppantip.com/topic/35450771
หลังจาก Recharge Battery ตนเอง Battery มือถือ และ Battery กล้องถ่ายรูป เรียกได้ว่า Recharge แบบ Full Cycle ไปเลย เนื่องมาจากความเหนื่อยล้าจากการเดินทางซึ่งค่อนข้างไกลและกินเวลาหลายชั่วโมงในวันแรก เช้าวันที่ 2 ได้เริ่มต้นขึ้นด้วยความสดชื่น พลังงานเต็มเปี่ยมแบบไม่ต้องพก Power Bank ติดตัว
แผนการเดินทางในวันนี้เป็นไปตามแผนที่ด้านบน หลักๆ คือเดินทางออกจาก Exeter ด้วยทางด่วน Devon Express วิ่งตรงทะลุผ่านอุทยาน Dartmoor National Park ชมธรรมชาติตามทางด้วยทางหลวงหมายเลข B3357 แวะเดินเที่ยวธรรมชาติที่เมือง Dartmeet จากนั้น จะทะลุอุทยานแห่งนี้มุ่งหน้าสู่เมืองท่องเที่ยวชื่อ Tavistock แล้วย้อนกลับด้วยทางหลวงเดิม ผ่านเข้าชม Buckfast Abbey ที่เมือง Buckfastleigh แล้ววิ่งกลับเข้าสู่ Exeter
Dartmoor ไม่ใช่ Darth Maul
พูดถึง Dartmoor แฟนๆ Star Wars อย่าเพิ่งนึกไปถึงศิษย์เอกตัวแดงคนเก่งของ Emperor Palpatine ที่โดน Obi-Wan ฆ่าไปนะครับ (คนละดาร์ทกันนะ) Dartmoor อันนี้เป็นชื่อเรียกของเขตทุ่งโล่งสลับหุบเขาสูงต่ำ ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของแคว้น Devon ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลให้เป็นพื้นที่อนุรักษ์ ได้รับการตั้งให้เป็นอุทยานแห่งชาติ มีพื้นที่ทั้งหมดกว้างถึง 954 ตารางกิโลเมตร โดย Dartmoor นั้น มีชื่อเสียงโด่งดัง เป็นพื้นที่ๆ มีอากาศบริสุทธิแห่งหนึ่ง ทำให้มีนักท่องเที่ยวมากหน้าหลายตา ต้องการเดินทางเข้าชมธรรมชาติในอุทยานแห่งนี้พอสมควร
ทันทีที่รถวิ่งเข้าสู่เขตอุทยานโดยถนนสาย B3357 พื้นที่โดยรอบก็เปลี่ยนจากบรรยากาศถนนต่างจังหวัด มีทุ่งโล่ง 2 ข้างทาง ไปเป็นลักษณะของป่าโปร่งคล้ายบริเวณเขาใหญ่ของบ้านเรา เพียงแต่ถนนที่ตัดผ่านให้รถวิ่งนั้น มีเพียง 2 เลน โดยรถจะต้องวิ่งสวนกัน เท่านั้น ส่งผลให้รถยนต์ไม่สามารถเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงมากนัก เนื่องจากต้องระมัดระวังในเรื่องของทางโค้งซึ่งอาจมีรถสวนมาได้
หลังจากเข้าสู่เขตอุทยานมาได้ประมาณ 1 ชั่วโมง จะพบกับสะพานหินแคบๆ ตัดข้ามแม่น้ำดาร์ท (River Dart) โดยสะพานแห่งนี้ได้รับการขนานนามว่าเป็น Historic Bridge of the River Dart เราจึงตัดสินใจหยุดพักรถและชมบรรยากาศบริเวณสะพานหินดังกล่าว สะพานแห่งนี้ มีพื้นที่ค่อนข้างแคบ รถยนต์สามารถวิ่งผ่านได้ที่ละคันเท่านั้น เนื่องจากทางสำหรับรถวิ่งบนสะพานถูกบีบเหลือแค่ช่องเดียว ทำให้ยานพาหนะที่ข้ามสะพานไปมา จะต้องสลับกันข้ามตามจังหวะ
หลังจากข้ามสะพานหินดังกล่าวแล้ว รถยังคงวิ่งบนถนนสาย B3357 ผ่านจุดกึ่งกลางของอุทยานแห่งนี้ และเข้าถึงเขตเมืองท่องเที่ยวเล็กๆ ชื่อว่า Dartmeet ซึ่งตั้งชื่อมาจากที่ตั้งของเมือง เนื่องจากเป็นจุดบรรจบกันของแม่น้ำสายย่อยๆ จากฝั่งตะวันออกและตะวันตก มารวมกันเป็น River Dart
โดยพื้นที่ในส่วนของแม่น้ำที่ไหลผ่านเมือง จะค่อนข้างตื้นและมีหินก้อนใหญ่ขวางทางน้ำอยู่ ทำให้สามารถเดินเล่นตามแม่น้ำโดยอาศัยการเดินบนก้อนหินจากก้อนหนึ่งไปอีกก้อนหนึ่งได้ ซึ่งระหว่างทางจะสามารถเห็นชาวเมืองมาทำกิจกรรมตกปลาในบริเวณแม่น้ำ
ทางเดินก้อนหินดังกล่าวนำไปสิ้นสุดเส้นทางที่ประติมากรรมก้อนหินชุดใหญ่ ซึ่งซ้อนกันในลักษณะเป็นสะพานพาดขนาดจิ๋ว มีฐานสองฝั่งรองรับไว้ ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปนั่งถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกลางสะพานจิ๋วดังกล่าวได้ ประติมากรรมชุดนี้ถือเป็น landmark ที่สำคัญแห่งหนึ่งของเมือง Dartmeet และเห็นได้ว่าเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจมารอคิวถ่ายภาพอยู่เป็นจำนวนมาก
จาก Dartmeet นั้น รถยนต์ได้มุ่งสู่ทิศตะวันตกด้วยถนนสายเดิม จะพบว่าลักษณะพื้นที่ของฝั่งตะวันตกนั้น เริ่มเปลี่ยนแปลงไปเป็นลักษณะของทุ่งหญ้าสีเขียวโล่ง โดยสามารถพบกับฝูงสัตว์ซึ่งถือเป็น Logo ประจำอุทยานแห่งนี้ด้วย ได้แก่ “ม้า” นั่นเอง โดยม้าที่ได้พบนั้น เป็นม้าธรรมดา แต่หากมีเวลามากๆ และสามารถท่องเที่ยวให้รอบอุทยานอย่างจริงจังแล้วนั้น จะมีโอกาสได้พบกับ “ม้าแคระ” หรือ Pony ได้
รถยนต์จึงได้หยุดจอดพักอีกครั้ง ณ บริเวณจุดชมวิวจุดหนึ่งในทุ่งโล่งบนถนนสาย B3357 และกิจกรรมยอดฮิตของนักท่องเที่ยวก็ได้เริ่มขึ้น ได้แก่ การถ่ายภาพ เก็บบรรยากาศทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา รวมทั้งเก็บอากาศดีๆ เข้าปอดให้เต็มที่ ก่อนจะออกเดินทางมุ่งหน้าออกจากอุทยาน และเข้าสู่จุดหมายปลายทางต่อไป “Tavistock”
Tavistock เมืองแห่งการค้า
Tavistock ตั้งอยู่บริเวณฝั่งตะวันตกของรัฐ Devon ติดกับเขตของ Dartmoor National Park มีแม่น้ำ Tavy ตัดผ่านเมือง โดยเมืองแห่งนี้ถือเป็นตลาดค้าขายเก่าแก่ โดยเฉพาะทางด้านค้าขายแร่ดีบุก
การเดินเที่ยวชมนั้นค่อนข้างง่ายเนื่องจากเป็นเมืองเล็ก โดยตั้งหลักที่จตุรัตกลางเมือง หรือเรียกว่า Bedford Square ซึ่งมีรูปปั้นของ Sir Francis Drake นักเดินเรือชาวอังกฤษ ตัวเมืองมีซอกซอยเล็กๆ ให้เดินเล่นมากมาย ส่วนตัวค่อนข้างชอบเมืองนี้ ด้วยตึกรามบ้านช่องที่สูงไม่เกิน 3 ชั้น และผู้คนที่ค่อนข้างน่ารักเป็นมิตร มี Museum ให้สาย history ได้เข้าชม นับเป็นเมืองประวัติศาสตร์ที่มีความสงบและน่าอยู่อาศัยเมืองหนึ่ง
ใช้เวลาอยู่ที่ Tavistock ไม่นานมากนัก รถยนต์ก็พาวิ่งกลับสู่ถนนสาย B3357 เช่นเดิม ตัดผ่าน Dartmoor อีกครั้งและมุ่งหน้าสู่ Buckfastleigh
Buckfast Abbey
รถยนต์ได้หยุดจอดอีกครั้ง ณ เมือง Buckfastleigh เพื่อให้เข้าชม Buckfast Abbey ซึ่งถือเป็น Abbey เก่าแก่ของนิกาย Roman Catholic ปัจจุบันอยู่ภายใต้การบริหารจัดการของ Benedictine Order หรือคณะเบเนดิกติน
ตัว Abbey ค่อนข้างสีสันแปลกตาใน theme เหลืองเทา หลังคาสีเขียว ตัวอาคารอยู่ในลักษณะเป็นโบสถ์ขนาดเล็ก ไม่ใหญ่มาก
ภายในเป็นโถง มีที่นั่งสองฝั่งเหมือนกับโบสถ์ทั่วไป ตามเสาประดับไปด้วยรูปปั้นนักบุญต่างๆ
จุดหนึ่งที่ชอบโทนสีของโบสถ์แห่งนี้ คือ เทียนที่อยู่ในครอบแก้วสีน้ำเงินและสีแดง เป็นการผสมสีที่ค่อนข้างเท่ห์ มีเสน่ห์ ประกอบกับโทนบรรยากาศภายใน Abbey ทำให้ดูขลังไม่น้อย