▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
บันทึกนักเดินทาง
ภาพถ่ายทิวทัศน์
เที่ยวยุโรป
เที่ยวต่างประเทศ
ประเทศอังกฤษ
[CR] บุก Devon & Cornwall ไข่มุกแห่งทะเลเคลติก Day 3
Continue From บุก Devon & Cornwall ไข่มุกแห่งทะเลเคลติก Day 2 : https://ppantip.com/topic/36740212
การเดินทางได้ย่างเข้าสู่วันที่ 3 ของทริปแล้วครับ เช้าวันที่ 3 นี้ อากาศก็เป็นใจเหมือนอย่างเคย มีแสงแดดยามเช้าส่องแสงเป็นประกายและดูท่าทางว่าวันนี้แสงแดดก็อยู่กับเราไปตลอดทั้งวัน โปรแกรมท่องเที่ยวในวันนี้จะผ่านเข้าสู่เขตของแคว้น Cornwall อย่างแท้จริงแล้ว โดยจะผ่านชมเมือง Launceston จากนั้นมุ่งหน้าสู่เมืองชายฝั่งริมทะเลอย่าง Boscastle อีกทั้งเมืองบ้านเกิดของ King Arthur อย่าง Tintagel ก่อนจะเข้าสู่เมือง Falmouth ซึ่งจะใช้เป็น Base Camp แห่งใหม่ในการท่องเที่ยวบริเวณรอบ Cornwall
เส้นทางการท่องเที่ยวในวันนี้จะพาเราออกจาก Exeter โดยอาศัยถนนเส้น Bypass หมายเลข A30 มุ่งหน้าเข้าสู่แคว้น Cornwall โดยวิ่งรถจาก Exeter ไปประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที ก็ถึงเมือง Launceston
Launceston เป็นเมืองเก่าแก่โบราณซึ่งปกครองตนเองมาโดยตลอด ตั้งอยู่ทางตะวันตกของแม่น้ำ Tamar ซึ่งเป็นจุดแบ่งพรมแดนระหว่างแคว้น Devon และ Cornwall จึงได้ชื่อว่าเป็นเมืองหน้าด่านของแคว้น Cornwall โดยเฉพาะ ภายในตัวเมืองมีลักษณะเป็นเนินขึ้นๆลงๆที่ค่อนข้างชัน พื้นที่ๆสูงที่สุดของเมืองเป็นที่ตั้งของ Launceston Castle
ใช้เวลาเดินชมเมืองโดยเดินผ่าน City Center เพียงเล็กน้อย เนื่องจาก Launceston นั้น ไม่ใช่เมืองที่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากนัก จึงเก็บภาพบริเวณจตุรัสกลางเมือง และออกเดินทางสู่จุดหมายหลักต่อไป ได้แก่ Boscastle
ออกจากเมือง Launceston แล้ว มุ่งหน้าทิศตะวันตกไปประมาณ 30 กิโลเมตร โดยถนนสาย A395 ก็จะเข้าสู่ทางเข้าเมือง Boscastle ซึ่งมีลักษณะเป็นเนินลาดลงเข้าสู่ตัวเมืองด้านล่าง มีลานจอดรถขนาดปานกลางอยู่ทางด้านขวามือ
Boscastle เป็นหมู่บ้านชาวประมง ตั้งอยู่ทางชายฝั่งด้านทิศเหนือของแคว้น Cornwall ลักษณะที่ตั้งของหมู่บ้านนั้น เป็นเมืองเล็กๆ ที่มีเนินเขาขนาดใหญ่ขนาบสองฝั่ง โดยมีแม่น้ำผ่ากลางตลอดความยาว และไหลออกสู่ปากอ่าว ซึ่งแน่นอนว่าเมืองแห่งนี้ เป็นหนึ่งในจุดหมายที่นักท่องเที่ยวที่มา Cornwall จะต้องผ่านเข้ามาเยี่ยมชมอยู่เสมอ การเดินชมเมืองนั้นก็ง่ายแสนง่าย เนื่องจากมีถนนสายหลักอยู่แค่เส้นเดียว เดินได้ยาวๆ ตั้งแต่ทางเข้าหมู่บ้าน ไปจนถึงชายฝั่งริมทะเลซึ่งมีลักษณะเป็นหน้าผา
ภายในเมือง มีร้านกาแฟให้นั่งสบายๆ รวมถึงร้าน Gift Shop ต่างๆ เรียงรายอยู่ตามแนวถนน จุดสำคัญอีกจุดหนึ่งที่สามารถดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินเข้าไปเยี่ยมชม ได้แก่ พิพิธภัณฑ์แม่มด ซึ่งตั้งอยู่ทางฝั่งขวาของถนนเส้นหลัก ภายในพิพิธภัณฑ์เล็กๆ แห่งนี้ เป็นที่รวบรวมอุปกรณ์ของสะสมต่างๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับแม่มด ซึ่งเจ้าของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้จัดแสดงมาตั้งแต่ปี 1951 ไม่ว่าจะเป็นเครื่องรางของขลังทั้งหลาย หัวกะโหลกครอบโถ ว่ากันไปจนถึงรูปปั้นแม่มดเสมือนจริง นั่งร่ายมนต์กับลูกแก้วคู่ใจ อยู่ในมุมห้องอันมืดมิด เดินดูแล้วก็แอบเสียวสันหลังดีไม่น้อย
ความเป็นจริงแล้ว จุดพีคของหมู่บ้านแห่งนี้ ไม่ได้จำกัดไว้เฉพาะความสวยงาม classic น่าเดินเล่นภายในตัวเมืองเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงทางเดินขึ้นชมความสวยงามของตัวเมืองในมุม Bird Eye View จากบนหน้าผาสูง ซึ่งขนาบตัวเมืองสองฝั่งตามที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น ทางเดินบนหน้าผาฝั่งซ้าย มีระยะทางค่อนข้างสั้น และสิ้นสุดอยู่ ณ จุดหนึ่งเท่านั้น แต่ทางเดินบนหน้าผาฝั่งขวา สามารถเดิน (กึ่งไต่) ยาวได้ไปจนถึงปากอ่าว เมื่อเดินไปจนถึงจุดสูงสุดของหน้าผาฝั่งขวา จะสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของมหาสมุทรแอตแลนติกอันกว้างใหญ่ ซึ่งถือเป็นจุดที่สวยงามจุดหนึ่งในแคว้น Cornwall เลยก็ว่าได้ ในส่วนของสภาพเส้นทางนั้นค่อนข้างอันตราย เนื่องจากเป็นทางเดินธรรมชาติ มีลักษณะเป็นหินตะปุ่มตะป่ำ แหลมคม และค่อนข้างลื่น ต้องใช้ความระมัดระวังในการเดินค่อนข้างมาก ไอ้รอบขาขึ้นน่ะไม่เท่าไหร่ แต่ขาลงที่สิครับ เสียวจะลื่นล้มหน้าทิ่มขอบหินอยู่หลายจังหวะ
หลังจากเดินชม Boscastle จนสาสมใจแล้ว รถยนต์ก็ได้ออกเดินทางต่อโดนวิ่งผ่านเส้นทางสาย B3263 ไปทางตะวันตกประมาณ 6 กิโลเมตร ก็เดินทางถึงเมือง Tintagel ซึ่งเป็นจุดท่องเที่ยวที่สำคัญอีกจุดหนึ่ง เนื่องด้วยมีชื่อเสียงเป็นถึงบ้านเกิดเมืองนอนของ King Arthur รวมถึงปราสาท Tintegel จุดเริ่มต้นเรื่องเล่าเกี่ยวกับอัศวินโต๊ะกลม โดยเมืองแห่งนี้ตั้งอยู่ริมชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกเช่นเดียวกับ Boscastle
รถยนต์พามาจอดบริเวณลานจอดรถ ใกล้กับทางเข้า Tintagel Castle และ Merlin’s Cave แต่เนื่องด้วยเวลาที่ค่อนข้างมีจำกัด ทำให้ต้องเลือกว่าจะเข้าชม Tintagel Castle หรือลงไปชม Merlin’s Cave ในครั้งนี้จึงคิดว่า ไหนๆก็มาทะเล จะไปชมปราสาททำไม ลงไปดูถ้ำดีกว่า อยู่ติดชายหาด จะได้ถือโอกาสลงไปเดินเหยียบสัมผัสน้ำทะเลได้ด้วย ดังนั้น หลังจากเดินตามทางเข้ามาระยะหนึ่ง เมื่อถึงทางแยกระหว่างปราสาทกับถ้ำ ก็เลยเลือกลงบันไดทางด้านขวา มุ่งหน้าสู่ชายหาดด้านล่าง
ชายหาดทางด้านล่างนั้น เป็นชายหาดแคบๆ ขนาดเล็ก รายล้อมไปด้วยหน้าผาขนาดใหญ่รอบด้าน ส่วนทะเลบริเวณนั้น มีโขดหินขนาดปานกลางงอกขึ้นมา และกลายเป็นพื้นที่สำหรับชาวเมืองในการปีนและกระโดดน้ำเล่น ทางด้านซ้ายสุดของชายหาดดังกล่าว มีทางเข้าไปสู่ถ้ำใต้หน้าผา ซึ่งเป็นถ้ำที่ทะลุผ่านใต้ Tintagel Castle มีความยาวร่วม 100 เมตร ซึ่งถ้ำแห่งนี้เกิดขึ้นจากการกัดเซาะของน้ำทะเล ดังนั้น เมื่อน้ำทะเลหนุนสูง ภายในถ้ำจะไม่สามารถเดินเข้าได้เลย Merlin’s Cave แห่งนี้ โด่งดังมาจากเรื่อง Idyll s of the King ซึ่งเล่าเรื่องราวสมัย King Arthur ยังทรงพระเยาว์ และถูกคลื่นซัดมาเกยฝั่ง โดย Merlin เป็นผู้ช่วยชีวิตไว้
Tintagel เป็นเมืองที่ค่อนข้างนับถือ King Arthur เป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญ ซึ่งหากสังเกตดูจากร้านค้าต่างๆ แล้ว จะพบชื่อของ King Arthur ไปปรากฎอยู่บนชื่อร้านต่างๆเยอะ เช่น Pub หรือร้านอาหารที่ใช้ชื่อ King Arthur’s Arm ทำให้เห็นได้ว่า Tintagel ก็เป็นเมืองที่ค่อนข้างมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานพอดู