ภิกษุ ท. ! คนชนิดไรชื่อว่า ผู้หมดหวัง ?
ภิกษุ ท. ! ในโลกนี้ คนบางคน จำเพาะมาเกิดในตระกูลต่ำ เช่น
ตระกูลจัณฑาล ตระกูลจักสาน ตระกูลนายพราน ตระกูลทำหนัง หรือ
ตระกูลคนเทขยะมูลฝอย เป็นคนยากจน ไม่ค่อยมีข้าวน้ำจะบริโภค เป็นอยู่
อย่างแร้นแค้น เป็นที่ซึ่งแม้ของกินอันเป็นเดนก็หากินได้โดยยาก ซ้ำมีผิวพรรณ
ขี้เหร่ นุ่งห่มขี้ริ้ว ร่างแคระ อมโรค ตาพิการ มือแป ขาง่อย อ่อนเปลี้ย ไม่
มีโอกาสจะได้ข้าว ได้น้ำ ผ้าผ่อน ยวดยาน เครื่องประดับ เครื่องหอม
เครื่องทา เครื่องนั่งนอน และเครื่องโคมไฟ กะเขาเลย. คนเข็ญใจผู้นั้น
ได้ยินข่าวว่า “พวกกษัตริย์ ได้ทำการอภิเษกกษัตริย์องค์หนึ่ง ขึ้นเป็นเจ้าแผ่นดิน
ด้วยพิธีราชาภิเษก” ดังนี้, ก็คิดถึงตัวว่า “สำหรับเรา ย่อมไม่มีหวัง ที่กษัตริย์
ทั้งหลาย จักอภิเษกยกเราขึ้นเป็นเจ้าแผ่นดิน ด้วยพิธีราชาภิเษกอย่างนั้นบ้าง”
ดังนี้. ภิกษุ ท. ! นี้เรียกว่า คนหมดหวัง.
ภิกษุ ท. ! ฉันใดก็ฉันนั้น : นักบวชบางคน ในกรณีนี้ เป็น คนทุศีล
มีความเป็นอยู่เลวทราม ไม่สะอาด มีความประพฤติชนิดที่ตนเองนึกแล้ว
ก็กินแหนงตัวเอง มีการกระทำที่ต้องปกปิดซ่อนเร้น ไม่ใช่สมณะก็ปฏิญญาว่า
เป็นสมณะ ไม่ใช่คนประพฤติพรหมจรรย์ก็ปฏิญญาว่าประพฤติพรหมจรรย์
เป็นคนเน่าใน เปียกแฉะ มีสัญชาติหมักหมม เหมือนบ่อที่เทขยะมูลฝอย. นัก
บวชผู้นั้น ได้ยินข่าวว่า “ภิกษุรูปหนึ่ง ได้ทำให้แจ้งเจโตวิมุตติ ปัญญาวิมุตติ
อันไม่มีอาสวะ เพราะหมดอาสวะ ด้วยปัญญาอันยิ่งเอง ในชาติที่ปรากฏอยู่นี้
แล้วจึงเข้าอยู่ในวิหารธรรมนั้น” ดังนี้, ก็คิดถึงตัวว่า “สำหรับเรา ย่อมไม่
มีหวังเลย ที่จะทำให้แจ้งเจโตวิมุตติ ปัญญาวิมุตติ อันไม่มีอาสวะ เพราะ
หมดอาสวะ ด้วยปัญญาอันยิ่งเอง ในชาติที่ปรากฏอยู่นี้ แล้วจึงเข้าอยู่ในวิหาร
ธรรมนั้น” ดังนี้. ภิกษุ ท. ! นี้เรียกว่า คนหมดหวัง.
บาลี พระพุทธภาษิต ติก. อํ. ๒๐/๑๓๕/๔๕๒, ตรัสแก่ภิกษุทั้งหลาย.
ผู้หมดหวัง(พระสูตร)
ภิกษุ ท. ! ในโลกนี้ คนบางคน จำเพาะมาเกิดในตระกูลต่ำ เช่น
ตระกูลจัณฑาล ตระกูลจักสาน ตระกูลนายพราน ตระกูลทำหนัง หรือ
ตระกูลคนเทขยะมูลฝอย เป็นคนยากจน ไม่ค่อยมีข้าวน้ำจะบริโภค เป็นอยู่
อย่างแร้นแค้น เป็นที่ซึ่งแม้ของกินอันเป็นเดนก็หากินได้โดยยาก ซ้ำมีผิวพรรณ
ขี้เหร่ นุ่งห่มขี้ริ้ว ร่างแคระ อมโรค ตาพิการ มือแป ขาง่อย อ่อนเปลี้ย ไม่
มีโอกาสจะได้ข้าว ได้น้ำ ผ้าผ่อน ยวดยาน เครื่องประดับ เครื่องหอม
เครื่องทา เครื่องนั่งนอน และเครื่องโคมไฟ กะเขาเลย. คนเข็ญใจผู้นั้น
ได้ยินข่าวว่า “พวกกษัตริย์ ได้ทำการอภิเษกกษัตริย์องค์หนึ่ง ขึ้นเป็นเจ้าแผ่นดิน
ด้วยพิธีราชาภิเษก” ดังนี้, ก็คิดถึงตัวว่า “สำหรับเรา ย่อมไม่มีหวัง ที่กษัตริย์
ทั้งหลาย จักอภิเษกยกเราขึ้นเป็นเจ้าแผ่นดิน ด้วยพิธีราชาภิเษกอย่างนั้นบ้าง”
ดังนี้. ภิกษุ ท. ! นี้เรียกว่า คนหมดหวัง.
ภิกษุ ท. ! ฉันใดก็ฉันนั้น : นักบวชบางคน ในกรณีนี้ เป็น คนทุศีล
มีความเป็นอยู่เลวทราม ไม่สะอาด มีความประพฤติชนิดที่ตนเองนึกแล้ว
ก็กินแหนงตัวเอง มีการกระทำที่ต้องปกปิดซ่อนเร้น ไม่ใช่สมณะก็ปฏิญญาว่า
เป็นสมณะ ไม่ใช่คนประพฤติพรหมจรรย์ก็ปฏิญญาว่าประพฤติพรหมจรรย์
เป็นคนเน่าใน เปียกแฉะ มีสัญชาติหมักหมม เหมือนบ่อที่เทขยะมูลฝอย. นัก
บวชผู้นั้น ได้ยินข่าวว่า “ภิกษุรูปหนึ่ง ได้ทำให้แจ้งเจโตวิมุตติ ปัญญาวิมุตติ
อันไม่มีอาสวะ เพราะหมดอาสวะ ด้วยปัญญาอันยิ่งเอง ในชาติที่ปรากฏอยู่นี้
แล้วจึงเข้าอยู่ในวิหารธรรมนั้น” ดังนี้, ก็คิดถึงตัวว่า “สำหรับเรา ย่อมไม่
มีหวังเลย ที่จะทำให้แจ้งเจโตวิมุตติ ปัญญาวิมุตติ อันไม่มีอาสวะ เพราะ
หมดอาสวะ ด้วยปัญญาอันยิ่งเอง ในชาติที่ปรากฏอยู่นี้ แล้วจึงเข้าอยู่ในวิหาร
ธรรมนั้น” ดังนี้. ภิกษุ ท. ! นี้เรียกว่า คนหมดหวัง.
บาลี พระพุทธภาษิต ติก. อํ. ๒๐/๑๓๕/๔๕๒, ตรัสแก่ภิกษุทั้งหลาย.