เรื่องสั้นประกอบภาพวาดฝีมือลิค่ะ
ความรักคือศิลปะ
โดย...ล. วิลิศมาหรา
ในคืนอันเปล่าเปลี่ยว...ทว่าหัวอกหัวใจกลับระส่ำระสาย อึงอลวุ่นวายไปด้วยเรื่องราวร้อยแปดของคนหัวเดียวกระเทียมลีบอย่างการะเกด หญิงสาวผู้เก็บตัวอยู่แต่ในบ้านจนไม่ค่อยมีเพื่อน แน่นอนว่าเธอย่อมเหงา และเพื่อคลายเหงาเธอจึงชอบพูดคุยกับคนในโลกเสมือนจริง มากกว่าจะออกไปพบผู้คนข้างนอกตัวบ้าน
หวังเอาไว้ลึกๆ ในใจว่า ถ้าหากเธอโชคดี...บางทีเธออาจได้พบกับใครบางคน ผู้ซึ่งจะเข้ามาทำให้โลกจริงอันแสนเงียบเหงาของเธอเปลี่ยนไปก็ได้
หญิงสาวหย่อนตัวลงนั่งที่โต๊ะทำงานในห้องนอน กระตุกโซ่โคมไฟรูปหยดน้ำให้เกิดแสงสว่าง คืนนี้เป็นอีกคืนที่ข่มตาหลับลงได้ยาก และในเมื่อนอนกระสับกระส่ายอยู่ตั้งค่อนคืน จึงตัดสินใจลุกมาทำอะไรบางอย่าง เมื่อแสงไฟสว่างขึ้นเธอมองเลยไปที่นาฬิกาข้างฝาผนัง ดึกป่านนี้คนอยู่ไกลคนนั้นคงกำลังนอนหลับสบาย...เขาจะรู้ไหมนะว่าเธอนอนไม่หลับ และกำลังดึงลิ้นชัก หยิบเอากระดาษขาวแผ่นที่วาดรูปนางเงือกพิสดารค้างไว้ออกมาวาง
ก่อนอำลากันในกล่องข้อความเมื่อตอนสี่ทุ่ม เธอบอกเขาไปว่ากำลังวาดรูปอยู่รูปหนึ่ง เป็นรูปที่สื่อถึงตัวตนของคนวาดที่ค่อนข้างขี้ขลาด แปลกแยก อยากวาดให้เสร็จโดยเร็ว อยากอวดให้เขาเห็น เคยเล่าให้เขาฟังหลายครั้งเวลาที่ได้พบกันทางแชทว่า ตัวเองเป็นคนค่อนข้างแปลกแยกและอ่อนแอ รูปวาดอาจเผยบุคลิกตัวตนอย่างที่เล่าให้เขาเข้าใจได้
“ทำไมว่าตัวเองแบบนั้นล่ะครับ” ตัวอักษรบอกความสงสัย
“ก็มันจริงนี่คะ ฉันเหมือนติดกับดักของตัวเอง อยู่ในกรงความคิดวกวนหาทางออกไม่เจอ ทั้งที่บานประตูทางออกก็เปิดกว้างสว่างโร่ แต่ฉันกลับมองไม่เห็น ฉันหมายถึงว่า ตัวเองไม่กล้าเผชิญหน้ากับความจริง ใจฉันยังขลาดเกินกว่าที่จะเดินออกไปหาอิสระข้างนอกนั่น”
พิมพ์ตอบกลับไปกับความคิดในหัวตัวเอง ขณะที่เริ่มรู้สึกถึงน้ำผุดออกมาคลอตา
“คุณอาจแค่กำลังสับสน....”
“ก็คงใช่แบบนั้นด้วย...ฉันต้องการเติมเต็มความกล้านั้นค่ะ ใจขลาดของฉันมันแห้งเหมือนขาดน้ำหล่อเลี้ยง ข้างในนี้ก็โดดเดี่ยว ถ้าหากฉันกล้าพอ ฉันคงได้ออกไปพบเจอผู้คนที่เป็นคนจริงๆ ไม่ใช่เฉพาะแต่ในโลกออนไลน์แบบนี้”
“วาดรูปก็ดีครับ”
เข้าใจว่าเธออาจสื่อไปกระทบใจเขาเข้าก็ได้ เพราะเขาเองก็คือบุคคลในรูปแบบที่เธอว่า ปลายทางอีกด้านหนึ่งจึงหายเงียบไปเป็นครู่ ก่อนพิมพ์ข้อความกลับมา เขาเปลี่ยนมาคุยเรื่องงานผ่อนคลายอารมณ์ของเธอ พร้อมส่งรูปช่อดอกกุหลาบสีแดงช่อใหญ่
“ดีแล้วที่คุณเลือกทำสิ่งที่คุณชอบ เพราะมันจะทำให้ใจคุณจดจ่ออยู่กับสิ่งนั้น ไม่วอกแวกไปคิดถึงเรื่องไม่สบายใจอีก เมื่อคุณเลือกวาดรูป คุณก็ต้องเข้าใจในสิ่งที่คุณวาด ถ้าคุณคิดว่าตัวเองเป็นคนแปลก ก็ลองปลดปล่อยความแปลกนั้นออกมา ความขลาดกลัวก็เหมือนกัน ถ้าไม่ยอมเผชิญหน้ากับมัน ที่ไหนคุณจะรู้ว่าคุณมีความกล้า ผมจะคอยเป็นกำลังใจให้ครับ”
คนที่เธอแอบมีความหวังเลือกที่จะให้กำลังใจเหมือนที่ผ่านๆ มา ไม่ใช่ให้ทางออกอย่างที่เธอต้องการ...
เธอค่อยๆ ลากลายเส้นดินสอสีไปเบาๆ ปรากฏเป็นเรือนร่างของหญิงสาวที่มีลำตัวท่อนล่างเป็นปลา ลวดลายตามเกล็ดและครีบหางเป็นลายไทย เธอเลียนแบบเส้นสายมาจากศิลปินที่ตัวเองชื่นชอบ ซึ่งศิลปินผู้นั้นช่างมีฝีมือวาดลายเส้นอันแสนวิจิตร ราวกับไม่ใช่ฝีมือมนุษย์จนเธอต้องนึกประหลาดใจ
แต่ท่อนบนนางเงือกของเธอคือหญิงสาวชาวตะวันตก...มันเป็นงานที่ท้าทาย แปลกแยกแตกต่าง ราวกับอารมณ์ของคนวาดในขณะนี้ ที่ไม่ปะติปะต่อเป็นเนื้อเดียวกันเอาเสียเลย มันแหว่งวิ่นขาดออกคล้ายแผ่นกระดาษถูกฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย แล้วโปรยปรายให้ตกลงเกลื่อนพื้น
ทว่าการไล่ดินสอสีอย่างบรรจงก็ช่วยสงบจิตใจอลหม่านอึงอลเหมือนคลื่นในทะเลยามถูกลมพายุโหมกระหน่ำลง กล้ามเนื้อตึงเขม็งค่อยๆ ผ่อนคลาย ลายเส้นเริ่มชัดเจนขึ้นทีละน้อย กระทั่งเกิดเป็นสีสันตามจินตนาการที่อยากสื่อ เธอเพลิดเพลินอยู่กับการวาดรูป จนในที่สุดภาพนางเงือกหน้าตาท่าทางเป็นหญิงตะวันตกแต่ลำตัวเป็นเงือกไทยก็เสร็จสมบูรณ์ เธอยกแผ่นกระดาษขึ้นดู รอยยิ้มปริ่มเปรมเผยออก...
ตี๊ด...ตี๊ด...
เสียงสัญญาณส่งข้อความในไลน์ดังขึ้น ปลุกหญิงสาวให้สะดุ้งตื่นจากความฝัน เอื้อมมือไปคว้ามันมากดดู เวลาในมือถือบอกว่าเช้านี้เธอตื่นเอาเมื่อตะวันสายโด่ง
“ไลน์มาปลุก...ตื่นแล้วลงมาหานะ ฉันรออยู่โถงคอนโดข้างล่างนี่เอง”
ข้อความมาจากวิทยาเพื่อนชายคนสนิท พร้อมภาพชายหนุ่มหน้าตี๋กำลังยืนยิ้มตาหยีชูช่อดอกไม้ยื่นมาที่หน้าจอ ช่อดอกไม้ในมือเขาล้วนเป็นดอกกุหลาบสีแดงทั้งช่อ
“สุขสันต์วันวาเลนไทน์นะเกด ฉันเอาดอกกุหลาบกับช็อคโกแลตมาให้ แล้วจะพาไปเลี้ยงไอติมด้วย”
ไม่ว่ากุหลาบช่อนั้นจะสื่อความหมายอะไรหรือไม่ แต่เธอก็รู้สึกจุกแน่นในอกอย่างประหลาด หัวตาร้อนรื้นขึ้นมาเสียอย่างนั้น
“รอฉันอาบน้ำแต่งตัวแป๊บหนึ่งนะ เดี๋ยวฉันลงไป”
พิมพ์ตอบเพื่อนชายคนที่ไม่เคยแสดงออกว่าคิดอะไรกับเธอเกินเพื่อนกลับไป สะบัดตัวลุกจากที่นอน เหลียวมองหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่ดำมืดสนิท ไม่มี “เขา” คนในโลกออนไลน์ที่เฝ้าปลอบประโลมเธอหรอก ดอกกุหลาบสีแดงของเขาก็เหมือนกัน แท้จริงมันเป็นเพียงแค่ความฝัน ดอกกุหลาบ 'จริง' ที่จับต้องได้รออยู่ข้างล่างโน่นแล้ว...ฉุกใจคิดถึงคำพูดของคนในฝันขึ้นมาอีกครั้ง
... ความขลาดกลัวก็เหมือนกัน ถ้าไม่ยอมเผชิญหน้ากับมัน ที่ไหนคุณจะรู้ว่าคุณมีความกล้า...
มันคงมาจากจิตใต้สำนึกของตัวเธอเองกระมัง เกิดคำถามขึ้นในใจอย่างปัจจุบันทันด่วนยามเมื่อยังตื่นอยู่
ถ้าวิทยาสารภาพรัก เธอกล้าพอจะรับรักเพื่อนสนิทของตัวเองไหมล่ะ การะเกด
จบ.
ความรักคือศิลปะ
โดย...ล. วิลิศมาหรา
ในคืนอันเปล่าเปลี่ยว...ทว่าหัวอกหัวใจกลับระส่ำระสาย อึงอลวุ่นวายไปด้วยเรื่องราวร้อยแปดของคนหัวเดียวกระเทียมลีบอย่างการะเกด หญิงสาวผู้เก็บตัวอยู่แต่ในบ้านจนไม่ค่อยมีเพื่อน แน่นอนว่าเธอย่อมเหงา และเพื่อคลายเหงาเธอจึงชอบพูดคุยกับคนในโลกเสมือนจริง มากกว่าจะออกไปพบผู้คนข้างนอกตัวบ้าน
หวังเอาไว้ลึกๆ ในใจว่า ถ้าหากเธอโชคดี...บางทีเธออาจได้พบกับใครบางคน ผู้ซึ่งจะเข้ามาทำให้โลกจริงอันแสนเงียบเหงาของเธอเปลี่ยนไปก็ได้
หญิงสาวหย่อนตัวลงนั่งที่โต๊ะทำงานในห้องนอน กระตุกโซ่โคมไฟรูปหยดน้ำให้เกิดแสงสว่าง คืนนี้เป็นอีกคืนที่ข่มตาหลับลงได้ยาก และในเมื่อนอนกระสับกระส่ายอยู่ตั้งค่อนคืน จึงตัดสินใจลุกมาทำอะไรบางอย่าง เมื่อแสงไฟสว่างขึ้นเธอมองเลยไปที่นาฬิกาข้างฝาผนัง ดึกป่านนี้คนอยู่ไกลคนนั้นคงกำลังนอนหลับสบาย...เขาจะรู้ไหมนะว่าเธอนอนไม่หลับ และกำลังดึงลิ้นชัก หยิบเอากระดาษขาวแผ่นที่วาดรูปนางเงือกพิสดารค้างไว้ออกมาวาง
ก่อนอำลากันในกล่องข้อความเมื่อตอนสี่ทุ่ม เธอบอกเขาไปว่ากำลังวาดรูปอยู่รูปหนึ่ง เป็นรูปที่สื่อถึงตัวตนของคนวาดที่ค่อนข้างขี้ขลาด แปลกแยก อยากวาดให้เสร็จโดยเร็ว อยากอวดให้เขาเห็น เคยเล่าให้เขาฟังหลายครั้งเวลาที่ได้พบกันทางแชทว่า ตัวเองเป็นคนค่อนข้างแปลกแยกและอ่อนแอ รูปวาดอาจเผยบุคลิกตัวตนอย่างที่เล่าให้เขาเข้าใจได้
“ทำไมว่าตัวเองแบบนั้นล่ะครับ” ตัวอักษรบอกความสงสัย
“ก็มันจริงนี่คะ ฉันเหมือนติดกับดักของตัวเอง อยู่ในกรงความคิดวกวนหาทางออกไม่เจอ ทั้งที่บานประตูทางออกก็เปิดกว้างสว่างโร่ แต่ฉันกลับมองไม่เห็น ฉันหมายถึงว่า ตัวเองไม่กล้าเผชิญหน้ากับความจริง ใจฉันยังขลาดเกินกว่าที่จะเดินออกไปหาอิสระข้างนอกนั่น”
พิมพ์ตอบกลับไปกับความคิดในหัวตัวเอง ขณะที่เริ่มรู้สึกถึงน้ำผุดออกมาคลอตา
“คุณอาจแค่กำลังสับสน....”
“ก็คงใช่แบบนั้นด้วย...ฉันต้องการเติมเต็มความกล้านั้นค่ะ ใจขลาดของฉันมันแห้งเหมือนขาดน้ำหล่อเลี้ยง ข้างในนี้ก็โดดเดี่ยว ถ้าหากฉันกล้าพอ ฉันคงได้ออกไปพบเจอผู้คนที่เป็นคนจริงๆ ไม่ใช่เฉพาะแต่ในโลกออนไลน์แบบนี้”
“วาดรูปก็ดีครับ”
เข้าใจว่าเธออาจสื่อไปกระทบใจเขาเข้าก็ได้ เพราะเขาเองก็คือบุคคลในรูปแบบที่เธอว่า ปลายทางอีกด้านหนึ่งจึงหายเงียบไปเป็นครู่ ก่อนพิมพ์ข้อความกลับมา เขาเปลี่ยนมาคุยเรื่องงานผ่อนคลายอารมณ์ของเธอ พร้อมส่งรูปช่อดอกกุหลาบสีแดงช่อใหญ่
“ดีแล้วที่คุณเลือกทำสิ่งที่คุณชอบ เพราะมันจะทำให้ใจคุณจดจ่ออยู่กับสิ่งนั้น ไม่วอกแวกไปคิดถึงเรื่องไม่สบายใจอีก เมื่อคุณเลือกวาดรูป คุณก็ต้องเข้าใจในสิ่งที่คุณวาด ถ้าคุณคิดว่าตัวเองเป็นคนแปลก ก็ลองปลดปล่อยความแปลกนั้นออกมา ความขลาดกลัวก็เหมือนกัน ถ้าไม่ยอมเผชิญหน้ากับมัน ที่ไหนคุณจะรู้ว่าคุณมีความกล้า ผมจะคอยเป็นกำลังใจให้ครับ”
คนที่เธอแอบมีความหวังเลือกที่จะให้กำลังใจเหมือนที่ผ่านๆ มา ไม่ใช่ให้ทางออกอย่างที่เธอต้องการ...
เธอค่อยๆ ลากลายเส้นดินสอสีไปเบาๆ ปรากฏเป็นเรือนร่างของหญิงสาวที่มีลำตัวท่อนล่างเป็นปลา ลวดลายตามเกล็ดและครีบหางเป็นลายไทย เธอเลียนแบบเส้นสายมาจากศิลปินที่ตัวเองชื่นชอบ ซึ่งศิลปินผู้นั้นช่างมีฝีมือวาดลายเส้นอันแสนวิจิตร ราวกับไม่ใช่ฝีมือมนุษย์จนเธอต้องนึกประหลาดใจ
แต่ท่อนบนนางเงือกของเธอคือหญิงสาวชาวตะวันตก...มันเป็นงานที่ท้าทาย แปลกแยกแตกต่าง ราวกับอารมณ์ของคนวาดในขณะนี้ ที่ไม่ปะติปะต่อเป็นเนื้อเดียวกันเอาเสียเลย มันแหว่งวิ่นขาดออกคล้ายแผ่นกระดาษถูกฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย แล้วโปรยปรายให้ตกลงเกลื่อนพื้น
ทว่าการไล่ดินสอสีอย่างบรรจงก็ช่วยสงบจิตใจอลหม่านอึงอลเหมือนคลื่นในทะเลยามถูกลมพายุโหมกระหน่ำลง กล้ามเนื้อตึงเขม็งค่อยๆ ผ่อนคลาย ลายเส้นเริ่มชัดเจนขึ้นทีละน้อย กระทั่งเกิดเป็นสีสันตามจินตนาการที่อยากสื่อ เธอเพลิดเพลินอยู่กับการวาดรูป จนในที่สุดภาพนางเงือกหน้าตาท่าทางเป็นหญิงตะวันตกแต่ลำตัวเป็นเงือกไทยก็เสร็จสมบูรณ์ เธอยกแผ่นกระดาษขึ้นดู รอยยิ้มปริ่มเปรมเผยออก...
ตี๊ด...ตี๊ด...
เสียงสัญญาณส่งข้อความในไลน์ดังขึ้น ปลุกหญิงสาวให้สะดุ้งตื่นจากความฝัน เอื้อมมือไปคว้ามันมากดดู เวลาในมือถือบอกว่าเช้านี้เธอตื่นเอาเมื่อตะวันสายโด่ง
“ไลน์มาปลุก...ตื่นแล้วลงมาหานะ ฉันรออยู่โถงคอนโดข้างล่างนี่เอง”
ข้อความมาจากวิทยาเพื่อนชายคนสนิท พร้อมภาพชายหนุ่มหน้าตี๋กำลังยืนยิ้มตาหยีชูช่อดอกไม้ยื่นมาที่หน้าจอ ช่อดอกไม้ในมือเขาล้วนเป็นดอกกุหลาบสีแดงทั้งช่อ
“สุขสันต์วันวาเลนไทน์นะเกด ฉันเอาดอกกุหลาบกับช็อคโกแลตมาให้ แล้วจะพาไปเลี้ยงไอติมด้วย”
ไม่ว่ากุหลาบช่อนั้นจะสื่อความหมายอะไรหรือไม่ แต่เธอก็รู้สึกจุกแน่นในอกอย่างประหลาด หัวตาร้อนรื้นขึ้นมาเสียอย่างนั้น
“รอฉันอาบน้ำแต่งตัวแป๊บหนึ่งนะ เดี๋ยวฉันลงไป”
พิมพ์ตอบเพื่อนชายคนที่ไม่เคยแสดงออกว่าคิดอะไรกับเธอเกินเพื่อนกลับไป สะบัดตัวลุกจากที่นอน เหลียวมองหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่ดำมืดสนิท ไม่มี “เขา” คนในโลกออนไลน์ที่เฝ้าปลอบประโลมเธอหรอก ดอกกุหลาบสีแดงของเขาก็เหมือนกัน แท้จริงมันเป็นเพียงแค่ความฝัน ดอกกุหลาบ 'จริง' ที่จับต้องได้รออยู่ข้างล่างโน่นแล้ว...ฉุกใจคิดถึงคำพูดของคนในฝันขึ้นมาอีกครั้ง
... ความขลาดกลัวก็เหมือนกัน ถ้าไม่ยอมเผชิญหน้ากับมัน ที่ไหนคุณจะรู้ว่าคุณมีความกล้า...
มันคงมาจากจิตใต้สำนึกของตัวเธอเองกระมัง เกิดคำถามขึ้นในใจอย่างปัจจุบันทันด่วนยามเมื่อยังตื่นอยู่
ถ้าวิทยาสารภาพรัก เธอกล้าพอจะรับรักเพื่อนสนิทของตัวเองไหมล่ะ การะเกด