รักออนไลน์ของการะเกด








รักออนไลน์ของการะเกด
 
โดย ล. วิลิศมาหรา

 
ในคืนอันเปล่าเปลี่ยว...

ทว่าหัวอกหัวใจของหญิงสาวกลับระส่ำระสาย อึงอลวุ่นวายไปด้วยเรื่องร้อยแปดพันประการ ของคนหัวเดียวกระเทียมลีบอย่างการะเกด หญิงผู้เก็บตัวเงียบอยู่แต่ภายในบ้าน จนไม่ค่อยมีเพื่อนฝูงมาคบหาพูดคุยด้วย เหมือนผู้หญิงคนอื่น 

แน่นอนว่าเธอย่อมเหงา และเพื่อนคลายเหงาเพียงอย่างเดียวของเธอ ก็คือสื่อสังคมออนไลน์ การะเกดชอบพูดคุยกับคนในโลกเสมือน มากกว่าจะออกไปพบกับผู้คนจริง ๆ นอกขอบเขตรั้วบ้านของตัวเอง 

หวังเอาไว้ลึกๆ ในใจว่า สักวัน ถ้าหากเธอโชคดี อาจมีใครบางคนเข้ามาทำให้โลกจริงอันแสนอ้างว้างโดดเดี่ยวของเธอ หายไปเสียที และลาทีกับความเงียบเหงาเปล่าเปลี่ยว ที่สิงสู่อยู่เป็นเพื่อนมาชั่วนาตาปี

หย่อนตัวลงนั่งหลังโต๊ะทำงานภายในห้องนอน กระตุกโซ่โคมไฟรูปหยดน้ำให้เกิดแสงสว่าง คืนนี้เป็นอีกคืนที่ฝืนหลับตาลงได้ยากเย็นเสียจริงเชียว และเป็นคืนอันโหดร้ายอีกคืนหนึ่งสำหรับการะเกด เธอทนนอนกระสับกระส่ายอยู่บนเตียงตั้งค่อนคืน โดยที่ไม่อาจข่มตาหลับ และในเมื่อเห็นท่าว่าจะนอนไม่หลับเสียแล้ว จึงคิดลุกขึ้นมาทำอะไรบางอย่าง เพื่อไม่ต้องทนนอนทรมานอยู่บนเตียง เมื่อแสงไฟสว่างขึ้น มองเลยไปที่นาฬิกาข้างฝาผนังห้อง ดึกป่านนี้แล้ว คนไกลที่เธอคุยด้วยมานานหลายเดือนคนนั้น คงกำลังหลับสบาย...เขาจะรู้ไหมนะว่าเธอนอนไม่หลับ และกำลังดึงลิ้นชัก หยิบเอากระดาษขาวแผ่นที่วาดรูปค้างไว้ ออกมาวาง


ก่อนอำลากันในกล่องข้อความเมื่อตอนสี่ทุ่ม เธอบอกเขาว่ากำลังวาดรูปอยู่รูปหนึ่ง เป็นรูปที่สื่อถึงตัวตนของคนวาดเป็นอย่างดี อยากวาดให้เสร็จโดยเร็ว อยากอวดให้เขาเห็น เคยเล่าให้เขาฟังหลายครั้งแล้ว เวลาพบกันทางออนไลน์ว่า ตัวเองเป็นคนค่อนข้างขี้ขลาด ชอบเก็บตัวอยู่คนเดียวภายในบ้าน เพราะความที่รู้สึกแปลกแยกแตกต่างจากคนอื่น รูปวาดอาจเผยถึงบุคลิกตัวตน ให้เขาเข้าใจได้ ถึงสิ่งที่เธอเล่า

“ทำไมว่าตัวเองแบบนั้นล่ะครับ” ตัวอักษรบอกถึงความสงสัย

“ก็มันจริงนี่คะ ฉันเหมือนติดกับดักอยู่ในกรงความคิดของตัวเอง วกวน หลงทางอยู่ในเขาวงกตแห่งความคิด หาทางออกไม่เจอ ทั้งที่ประตูทางออกก็เปิดกว้าง สว่างโร่อยู่ แต่ฉันกลับมองไม่เห็นทางนั้น ฉันหมายถึงว่า ตัวเองไม่กล้าเผชิญหน้ากับความจริง ใจฉันมันขลาด คอยแต่คิดว่าในขอบเขตรั้วบ้าน ถึงจะถูกจำกัดเนื้อที่ แต่มันก็ดูปลอดภัยกว่าจะออกไปหาอิสระข้างนอก”

พิมพ์ตอบกลับไปจากใจจริงของตัวเอง ขณะเริ่มรู้สึกถึงน้ำผุดออกมาคลอตา

“คุณอาจแค่กำลังสับสน คุณไม่ใช่คนขี้ขลาด แค่ยังเลือกไม่ถูก....” เขาเปรียบเปรยให้กำลังใจเธอ เหมือนกับทุกครั้งที่คุยกัน

“คงใช่แบบนั้นด้วย...ฉันต้องการเติมเต็มความกล้า ด้วยกำลังใจที่เข้มแข็งขึ้นค่ะ ใจขลาดของฉันมันแห้งขอด เหมือนนาขาดน้ำมาหล่อเลี้ยงต้นกล้า ข้างในนี้จึงแห้งแล้ง ห่อเหี่ยว ทั้งที่มีผู้คนอยู่รอบตัว แต่ฉันกลับรู้สึกเหมือนไม่มีใครเลย แค่ฉันมีความกล้าพอ... กล้าที่จะก้าวออกจากประตูบ้านไป เพื่อพบเจอกับผู้คนข้างนอก ที่เป็นคนจริง ๆ ไม่ใช่เฉพาะแต่ในโลกออนไลน์แบบนี้เท่านั้น”

“วาดรูปก็ดีครับ” เธออาจสื่อไปกระทบใจเขาเข้า เพราะเขาเองก็คือบุคคลในรูปแบบที่เธอว่า ปลายทางอีกด้านจึงหายเงียบไปเป็นครู่ ก่อนพิมพ์ข้อความตอบกลับมา พร้อมรูปช่อดอกกุหลาบสีแดงช่อใหญ่

“ดีแล้วที่คุณเลือกทำในสิ่งที่คุณชอบ เพราะมันจะทำให้จิตใจของคุณจดจ่ออยู่แต่กับสิ่งนั้น ไม่วอกแวกไปคิดถึงเรื่องอื่น ที่ทำให้ไม่สบายใจอีก เมื่อคุณเลือกวาดรูป คุณก็ต้องเข้าใจในสิ่งที่คุณวาด ถ้าคุณคิดว่าตัวเองเป็นคนแปลก ก็ลองปลดปล่อยความแปลกของคุณออกมา ความขลาดกลัวก็เหมือนกัน ถ้าไม่ยอมเผชิญหน้ากับมัน ที่ไหนคุณจะรู้ว่าคุณมีความกล้าอยู่ในตัว ผมจะคอยดูผลงานคุณ และจะเป็นกำลังใจให้เสมอครับ”

เขาเลือกที่จะให้กำลังใจเธอ เหมือนที่ผ่านๆ มา ไม่ใช่ให้ทางออกอย่างที่เธอต้องการ...เขาไม่ได้เลือกอยากคบเธอเป็นคู่ชีวิต เพื่อคอยอยู่เคียงข้างกันตลอดไป

(มีต่อ)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่