แชร์ประสบการณ์ขายของออนไลน์+เคล็ดลับการทำธุรกิจให้ยั่งยืน

สวัสดีครับ จุดประสงค์ที่ตั้งกระทู้นี้เพราะต้องการแชร์ประสบการณ์ที่ตัวเองเจอตลอดเวลา 1 ปีที่ผ่านมาครับ
ขอออกตัวก่อนนะครับว่าเป็นคนที่เขียนบทความไม่เก่ง อาจจะเรียบเรียงได้ไม่สละสลวย ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ

แนะนำตัว
ผมเป็นพนักงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง เป็นพนักงานกินเงินเดือนธรรมดาคนนึง ผมมีพี่น้องสามคน พี่ชายไม่ได้ทำงาน น้องชายยังเรียนไม่จบ พ่อเปิดร้านฮาร์ดแวร์ครับ เพิ่งปิดร้านไปเนื่องจากขายไม่ดี สู้รายใหญ่ๆไม่ได้ ส่วนแม่ผมไม่ได้ทำงาน ผมจึงกลายเป็นเสาหลักของครอบครัว เงินเดือนผมสองหมื่นต้นๆ แต่ผมให้ที่บ้านทุกเดือนๆละ 7,000 บาท เพื่อเอาไปจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอาหาร

จุดเริ่มต้น
ย้อนความไปตอนก่อนที่ร้านของพ่อจะปิดตัวลง พ่อผมเป็นคนที่อยู่แต่บ้าน พ่อไม่ออกไปข้างนอกเป็นเวลาเกือบ 30 ปีแล้วเพราะพ่อต้องเฝ้าร้านและเป็นคนไม่ชอบออกไปไหน ด้วยความที่พ่อไม่มีความคิดจะจ้างลูกจ้างพ่อจึงต้องเป็นคนเฝ้าร้านเอง พ่อผมไม่มีวันหยุดครับ เปิดร้านทุกวัน ทุกวันอาทิตย์ผมกับแม่และน้องจะออกไปจ่ายตลาดกัน ส่วนพ่อเฝ้าร้าน ผมรู้สึกว่าผมไม่ได้ใช้เวลาร่วมกับพ่อเลย เพราะผมทำงานจันทร์ - เสาร์ เจอหน้าพ่อแค่ตอนเช้ากับตอนก่อนนอนเพราะกว่าผมจะกลับมาถึงบ้านก็ดึกแล้ว ผมจึงหาโปรเจคเตอร์มาจากเว็บไซต์เว็บนึง ราคาหลักพัน เพื่อที่จะนำมาดูหนังกับครอบครัวในคืนวันเสาร์-อาทิตย์ ปรากฎว่าโปรเจคเตอร์ที่ซื้อมาคุณภาพเกินราคา ผมคิดว่าถ้าคนอื่นได้ใช้โปรเจคเตอร์เครื่องนี้บ้างก็คงจะดี ผมจึงติดต่อร้านค้าไปว่าผมต้องการเป็นตัวแทนจำหน่ายผมต้องทำยังไงบ้าง ทางร้านค้าก็บอกผมมาเป็นข้อๆซึ่งผมขอไม่อธิบายละกัน ผมก็ทำตามที่ร้านค้าแจ้งมาและผมก็ได้เป็นตัวแทนจำหน่าย

ลงเว็บประกาศ
หลังจากนั้นผมก็เริ่มไปโพสกระทู้ในเว็บประกาศฟรีต่างๆ เพื่อให้สินค้าเป็นที่รู้จัก โดยผมใช้เว็บ www.alexa.com ในการตรวจสอบดูว่าเว็บประกาศไหนที่คนเข้ามาดูเยอะๆ ผมคัดเลือกจนได้เว็บประกาศฟรีมาทั้งหมดสามเว็บ หลังจากที่ผมโพสกระทู้ กระทู้ผมก็ล่วงลงไปเรื่อยๆเนื่องจากมีกระทู้ใหม่ๆขึ้นมา ทำให้ผมต้องคอยเข้าไปดันกระทู้ทุกวันๆเพื่อให้กระทู้ขึ้นหน้าแรกๆ ทำไปได้สัปดาห์นึงมีคนติดต่อเข้ามา สอบถามข้อมูลสินค้า ดีใจมากคิดว่ายังไงลูกค้าก็ต้องซื้อแน่ๆเพราะมั่นใจว่าสินค้าเราดีจริงๆ แต่ปรากฎว่าคุยไปคุยมาลูกค้าก็ไม่ได้ซื้อครับ คงเป็นเพราะเราดูไม่น่าเชือถือด้วยส่วนนึงเพราะตอนนั้นยังไม่มีทั้งเว็บไซต์และแฟนเพจ  เม่าเหม่อ

เพิ่มช่องทางการขาย
ผมเริ่มทำเว็บไซต์และเปิดแฟนเพจใน Facebook เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือและเพิ่มช่องทางให้คนรู้จักมากขึ้น หลังจากเปิดแฟนเพจขึ้นมาก็ Invite เพื่อนในเฟสเข้ามาหมดเลย แต่มารู้ทีหลังว่าการทำแบบนี้มันคือการฆ่าตัวตาย เพราะเพื่อนที่คุณชวนเข้ามานั้นไม่ใช่กลุ่มลูกค้าเป้าหมายของคุณ ไลค์เพจอาจจะเพิ่มขึ้นก็จริงแต่ก็ไม่ใช่ไลค์ที่มีคุณภาพ เพราะคุณไม่สามารถร่ำรวยได้จากการขายของให้เพื่อนอย่างแน่นอน

โฆษณา
ผมเริ่มลงโฆษณาใน Facebook โดยการใส่ Interest ของสินค้าลงไปเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งก่อนหน้านี้ผมไม่ได้เรียนมา ก็ลงโฆษณาไปมั่วๆ ผลที่ได้ก็คือโพสที่ผมโฆษณามีแต่คนเข้ามาไลค์แต่ไม่มีคนแชร์หรือคอมเม้นเลย ผมเลยไปไล่ดูคนที่เข้ามาไลค์ ปรากฎว่าส่วนใหญ่เป็นเด็กๆทั้งนั้น ซึ่งไม่มีกำลังซื้อแน่นอน และมารู้ทีหลังว่าสาเหตุที่ไม่มีคนคอมเม้นหรือแชร์เลยเพราะว่าเนื้อหาและรูปภาพของโพสที่ยังไม่ตอบโจทย์ลูกค้านั่นเอง ผมเลยหยุดเรื่องโฆษณาใน Facebook ไปก่อนแล้วหันไปทำเว็บไซต์

สินค้าตัวที่สอง
ผมเริ่มเอาสินค้าลงเว็บไซต์ รู้สึกว่าเว็บไซต์โล่งมากๆคงเป็นเพราะสินค้าที่เอามาลงมีน้อยเกินไป ผมจึงไปหาสินค้ามาเพิ่มอีกหนึ่งตัว ผมใช้แนวคิดเดิมคือผมต้องทดลองใช้สินค้าดูก่อน ถ้าสินค้าดีจริงผมถึงจะนำมาขาย ผมลองสั่งมาใช้ดู ระหว่างที่รอสินค้าผมก็ใช้เวลาศึกษาเรื่องการลงโฆษณาใน Facebook เพิ่มเติม ซึ่งมันทำให้ผมรู้ว่าการลงโฆษณา Facebook นั้นไม่ควรลงผ่านมือถือ เนื่องจากมันจะตั้งค่าได้น้อยกว่าการลงโฆษณาในคอมพิวเตอร์มากๆ Facepalm

สินค้ามีปัญหา
สินค้าที่สั่งมาถึงแล้ว ก็ทดลองใช้งานดูทันที ปรากฎว่าสินค้าที่ได้มาไม่สามารถใช้งานได้เหมือนอย่างที่แสดงในภาพในเว็บไซต์ เลยกลับไปดูรายละเอียดสินค้านี้อีกครั้งปรากฎว่าผมพลาดเองที่ไม่อ่าน Description ของสินค้าดีๆ จึงทำให้สินค้าล็อตนี้ตกไปไม่สามารถขายให้ลูกค้าได้ จึงเริ่มหาสินค้าตัวใหม่ โดยมีความคิดว่าจะต้องเป็นสินค้าที่ไม่มีขายในไทย ไม่สามารถหาได้ตามห้างสรรพสินค้า ร้านค้าทั่วไป เพราะจะทำให้เราขายสินค้าตัวนี้ได้ในโลกออนไลน์ ซึ่งในที่สุดผมก็หาเจอ

สินค้าตัวที่สาม
สินค้าตัวนี้ใช้งานได้ดีเลย ผมเริ่มโพสสินค้าลงในเว็บประกาศฟรี แฟนเพจ เว็บไซต์ Line@ อินสตราแกรม ผ่านไป 7 วันมีออเดอร์แรกเข้ามาดีใจมากๆซึ่งมาจากเว็บประกาศฟรี ส่วนโปรเจคเตอร์ยังขายไม่ได้สักเครื่อง สาเหตุหนึ่งอาจเป็นเพราะคู่แข่งค่อนข้างเยอะและคู่แข่งให้ราคาที่ถูกกว่าร้านที่ผมไปรับมาจึงทำให้ผมลดการโฟกัสเรื่องโปรเจคเตอร์ลงและมาโฟกัสที่สินค้าผมแทน

สงครามตัดราคา
หลังจากนั้นแฟนเพจผมก็เป็นที่รู้จักมากขึ้น มีออเดอร์เข้ามาเรื่อยๆ แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นคือมีเจ้าอื่นเข้ามาตัดราคา จากที่มีออเดอร์เข้ามาเรื่อยๆ ออเดอร์ก็เริ่มลดลง บางวันก็ไม่มีออเดอร์เลย อย่างที่บอกไปว่าสิ่งที่ผมเน้นย้ำคือสินค้าที่ขายให้ลูกค้าต้องเป็นสินค้าที่ดีจริงๆไม่ใช่อะไรต้นทุนต่ำก็เอามาขายหมด ผมรู้ว่าถ้าจะสู้รบในสงครามนี้สุดท้ายก็จะไม่มีใครอยู่รอด ผมจึงเลือกที่จะไม่แข่งตัดราคาและใช้จุดเด่นของตัวเองเพื่อสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง นั่นก็คือเรื่องของการ Service ผมโชคดีที่ที่ทำงานอยู่ใกล้ไปรษณีย์มากจึงทำให้เมื่อผมได้รับออเดอร์มาสามารถส่งให้ลูกค้าได้ทันที และเรื่องการให้คำแนะนำลูกค้าผมสามารถให้คำแนะนำได้ดี เนื่องจากผมคลุกคลีกับสินค้าตัวนี้มาก่อน ทำให้ลูกค้าเกิดความมั่นใจและตัดสินใจเลือกร้านผม

SEO
แต่แค่เรื่อง Service อย่างเดียวมันไม่สามารถทำให้ธุรกิจอยู่รอดได้ ผมจึงเริ่มมองหาความยั่งยืนในการทำธุรกิจและก็มาเจอวิธีการทำ SEO ซึ่งการทำ SEO นั้นจะทำให้คุณติดหน้าแรก Google ได้โดยไม่ต้องเสียเงินสักบาท และเป็นการทำให้ธุรกิจของคุณยั่งยืนเนื่องจากคนไทยส่วนใหญ่ใช้ Google ในการค้นหาข้อมูล ถ้าเว็บไซต์ของคุณไปอยู่หน้าแรกใน Google ได้เมื่อไหร่คุณสบายเมื่อนั้น แต่การทำ SEO ก็ไม่ได้มีแต่ข้อดี ข้อเสียของการทำ SEO ก็คือต้องใช้เวลาในการทำค่อนข้างนาน มันเหมือนการปลูกต้นไม้ที่ช่วงแรกๆคุณต้องรดน้ำใส่ปุ๋ยอยู่เสมอแต่พอต้นไม้เติบโตขึ้นคุณก็สามารถเก็บกินผลผลิตได้เรื่อยๆ ซึ่งผมจะยังไม่ขออธิบายเรื่อง SEO ในกระทู้นี้แล้วกันเพราะเนื้อหาเรื่องนี้มีเยอะมาก

สรุป
จริงๆแล้วยังมีสินค้าอีกหลายตัวที่ผมไม่ได้กล่าวในกระทู้นี้เพราะกลัวว่ากระทู้จะยาวเกินไป ขอสรุปเป็นข้อๆดังนีครับ
1) ธุรกิจจะอยู่รอดได้คุณจะต้องแตกต่างครับ คุณอาจเลือกที่จะสร้างแบรนด์ก็ได้ครับ
2) การเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุดครับ คุณจะต้องพัฒนาตัวเองอยู่เรื่อยๆ ไม่อย่างนั้นคุณจะตามคนอื่นไม่ทันครับ
3) คุณต้องมีวินัย ต้องทำอย่างสม่ำเสมอ ถ้าทำๆหยุดๆรับรองว่าไม่ประสบความสำเร็จแน่นอนครับ
4) คุณจะต้องใส่ใจลูกค้าเหมือนที่คุณใส่ใจตัวเอง
5) Facebook ไม่ทำให้ธุรกิจคุณยั่งยืน SEO ต่างหากที่ทำให้ธุรกิจคุณยั่งยืน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่