“ดร.โกร่ง” ชี้รัฐบาลชุดนี้จะพังก็เพราะโครงการ “จำนำข้าว” ย้ำอันตรายที่สุด
“วีรพงษ์” ยอมรับ รบ.ชุดนี้อาจพังได้ หากดันทุรังโครงการ “จำนำข้าว” เผยตนเองเคยเขียนบทความเตือนให้เลิกโครงการไปแล้ว เมื่อเดือน ส.ค. เพราะอันตรายที่สุด ไม่สามารถป้องกันทุจริตได้
นายวีรพงษ์ รามางกูร ประธานที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงปัญหาความวุ่นวายโครงการจำนำข้าวที่กำลังบานปลายเป็นปัญหาใหญ่ โดยยอมรับว่าตนเองไม่เห็นด้วยกับโครงการจำนำข้าวมาตั้งแต่แรกเริ่มโครงการแล้ว โดยตนเองได้เคยเขียนบทความเรื่องดังกล่าวเมื่อเดือนสิงหาคม 2555 ที่ผ่านมา โดยเตือนว่าโครงการดังกล่าวอันตรายที่สุด และได้ถ่ายเอกสารให้นายกรัฐมนตรี พร้อมเสนอแนะไปว่าไม่ควรทำ
นายวีรพงษ์ยืนยันว่า ถ้ารัฐบาลชุดนี้จะพังก็คงเป็นเรื่องโครงการรับจำนำข้าว เพราะแค่ชื่อโครงการจำนำก็ผิดแล้ว ซึ่งราคาจำนำต้องต่ำกว่าราคาจริง แต่การให้ราคาจำนำสูงกว่า คงไม่มีใครมาไถ่ถอน ข้าวที่มาจำนำก็มีทั้งของจริง และสต็อกลม ไม่สามารถป้องกันการทุจริตได้ ซึ่งถ้ารัฐยังขายข้าวไม่ได้ ก็จะมีต้นทุนค่าใช้จ่ายสูงมาก เรื่องนี้ตนเองได้บอกให้นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังไปแล้ว
คนมันตั้งใจจะโกง ใครเตือนก็คงไม่ฟัง
โดนยึดทรัพย์ติดคุก ก็จงอย่าได้โอดครวญ
ดร โกร่ง เคยเตือนแล้วว่าจะพังเพราะนโยบายจํานําข้าว แต่ยิ่งลักษณ์ทําดื้อตาใส ไม่สนใจคําทักท้วง
“วีรพงษ์” ยอมรับ รบ.ชุดนี้อาจพังได้ หากดันทุรังโครงการ “จำนำข้าว” เผยตนเองเคยเขียนบทความเตือนให้เลิกโครงการไปแล้ว เมื่อเดือน ส.ค. เพราะอันตรายที่สุด ไม่สามารถป้องกันทุจริตได้
นายวีรพงษ์ รามางกูร ประธานที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงปัญหาความวุ่นวายโครงการจำนำข้าวที่กำลังบานปลายเป็นปัญหาใหญ่ โดยยอมรับว่าตนเองไม่เห็นด้วยกับโครงการจำนำข้าวมาตั้งแต่แรกเริ่มโครงการแล้ว โดยตนเองได้เคยเขียนบทความเรื่องดังกล่าวเมื่อเดือนสิงหาคม 2555 ที่ผ่านมา โดยเตือนว่าโครงการดังกล่าวอันตรายที่สุด และได้ถ่ายเอกสารให้นายกรัฐมนตรี พร้อมเสนอแนะไปว่าไม่ควรทำ
นายวีรพงษ์ยืนยันว่า ถ้ารัฐบาลชุดนี้จะพังก็คงเป็นเรื่องโครงการรับจำนำข้าว เพราะแค่ชื่อโครงการจำนำก็ผิดแล้ว ซึ่งราคาจำนำต้องต่ำกว่าราคาจริง แต่การให้ราคาจำนำสูงกว่า คงไม่มีใครมาไถ่ถอน ข้าวที่มาจำนำก็มีทั้งของจริง และสต็อกลม ไม่สามารถป้องกันการทุจริตได้ ซึ่งถ้ารัฐยังขายข้าวไม่ได้ ก็จะมีต้นทุนค่าใช้จ่ายสูงมาก เรื่องนี้ตนเองได้บอกให้นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังไปแล้ว
โดนยึดทรัพย์ติดคุก ก็จงอย่าได้โอดครวญ