ถ้าพอมีเวลาแนะนำให้ไปเรียนตามสถาบันภาษา หรืออย่างน้อยก็มหาลัยดีกว่า (แนะนำ เจแปนฟาวเดชั่น ถ้ามีตังหน่อยก็วาเซดะ ถ้ามหาลัยก็ รามเปิดป.ตรีอยู่ครับ)
เพราะถ้าไปเรียนในชั้นจะมีแรงกระตุ้นมากกว่าใช้ได้จริงและรู้สึกมั่นใจกว่า แถมไม่น่าเบื่อมากเท่ากับอ่านเองด้วย
ส่วนรามถ้าไม่ได้ไปนั่งรียน นั่งอ่านเอง ก็ยังมีแรงกระตุ้นเพราะมีตัวกดดันทุกๆเทอมว่าจะสอบผ่านไหม ถ้าว่างๆก็ไปนั่งเรียนได้ แถมว่าวิชาให้เลือกเยอะ

แต่ถ้ายังยืนยันว่าจะอ่านเองอยู่
ก็ขอให้ จขกท. ต้องใจเย็นครับ ช้าๆค่อยๆไปอดทนและที่สำคัญเลย  ถ้าอยากใช้ได้จริง จำเป็นต้องทำแบบฝึกให้มากๆครับ ซื้อสมุดมาเลยพอทำแบบฝึกก็เขียนลงไปเลยเขียนให้เยอะๆครับ ทำให้เราจำแพทเทิร์นประโยคได้ เวลาจะใช้ก็คล่อง ส่วนไวยากรณ์กับศัพท์จะจำได้ก็จากตรงที่เราเขียนด้วย เขียนครับเขียนให้เยอะๆ
อีกแบบฝึกก็แบบฝึกฟัง ต้องฟังซ้ำๆและออกเสียงพูดตามบ่อยๆครับ ส่วนที่ว่ากลับไปฟังแล้วไม่รู้เรื่องอย่าเพิ่งท้อไปครับอาจจะเพราะ จขกท. ไม่ค่อยได้เจอภาษาญี่ปุ่น  หรืออีกสาเหตุเพราะ ความเร็วในการพูดหนังสือมินนะเนี่ยจะเร็วเท่าคนญี่ปุ่นพูดปกติเลยตั้งแต่เล่ม 1 ไม่แปลกอะไรที่จะต้องฟังซ้ำๆหลายๆรอบครับ
คันจิผมแนะนำให้ซื้ออีกสักเล่ม เรียนรู้คันจิ ระดับต้น-กลาง เอาไว้เรียนคันจิโดยเฉพาะ วิธีก็เหมือนเดิมครับเขียนให้มากและอย่าลืมทวนบ่อยๆ

เรียนขั้นต้นต้องอดทนให้มากๆครับ เพราะจะยังอ่านอะไรไม่ค่อยได้มากแต่ถ้าทนผ่านไปได้แล้วพอขั้นกลาง จะเริ่มสนุกแล้วครับเชื่อผม สู้ๆฮะ

ท้ายสุดถ้าจขกท เบื่อมินนะจริงๆทนไม่ไหวกับมันละ(แบบผม555) ลองไปดูเล่มอื่นก็ได้ครับพวก ไดจิมีแปลไทยอยู่ ไม่ก็ genkiของjapantime ผมเคยลองอ่าน ไดจิ ดูรู้สึกสนุกดีไม่น่าเบื่อเท่ามินนะ เพราะ ภาพมีสี ออกฟ้าๆและภาพมีเยอะมากเน้นจำจากภาพมากกว่า ไม่เหมือนมินนะที่มีแต่ตัวอักษรเยอะมากผมว่ามันได้ผลดีนะสนุกกว่าด้วย แต่ถ้าชอบแบบตัวอักษรเยอะ แกรมม่าแน่นๆ ผมว่ามินนะทำได้ดีกว่า ส่วนเล่ม genki คำอธิบายคำแปลเป็นภาษาอังกฤษ เห็นฝรั่งใช้เยอะเคย ดูๆมาภาพเยอะเหมือนไดจิ แต่ไม่รู้รายละเอียดมาก ลองไปหาดูในเน็ตมีอยู่ครับ