======================================
Basic Information
เราใช้บริการของ Rize Travel (search ที่ FB เลยค่ะ) โดยเค้าจะติดต่อกับ agency ที่อินเดียให้อีกทีนึง
สมาชิกทั้งหมด 4 คน ซึ่งกำลังดีเลยกับรถ van เพราะทุกคนสามารถถ่ายรูปข้างทางได้ และไม่เบียดกันเกินไป
การเดินทางเริ่มต้นคืนวันที่ 1 กค 2560 และเดินทางกลับคืนวันที่ 9 กค 2560 (ใครจะไปเลห์ กรุณาเตรียมอาหารไทยไปให้เกินอย่าได้ขาด)
ซึ่งถือว่าเป็นช่วง high season ของการท่องเที่ยว Leh เลยทีเดียว
เราไป Pangong วันที่ 7 กค 2560 โดยไปค้าง 1 คืน
กระทู้สำหรับ Nubra Valley
https://ppantip.com/topic/36666223
สภาพอากาศ กลางวันแดดร้อนจัด. กลางคืนก็หนาวจัดเช่นกัน ให้เตรียมเสื้อผ้าไป 2 แบบเลย
การไปเป็นหมู่คณะ ถือว่าดีเลิศ ที่สุดค่ะ 5555
======================================
เค้าบอกถนนดีกว่าไป Nubra (จริงหรา!!! มองบนอย่างแรง) จริงๆแล้วระยะทางไม่ไกลมากก็ประมาณ 150 กม แต่ก็ขับกันครึ่งวัน
เส้นทางนี้เป็นถนนของทหารเช่นเดิม (ก่อนถึง pangong มีค่ายทหารใหญ่มากเลยด้วย) แต่ทำไมทหารต้องปล่อยรถออกตอนเช้าพร้อมพวกเราด้วย ปล่อยที กี่สิบคันก็ไม่รู้ (น่าจะประมาณ 50 ) กว่าจะแซงได้แต่ละคัน ต้องเสียกระจกมองข้างไปบานนึง 5555
เส้นทางเหมือนจะดีกว่าทางไป nubra แต่หินเยอะกว่าและโค้งมากกว่า เราแอบหลับหัวกระแทกรถไปหลายรอบ หัวโนกันเลยทีเดียว ฮือๆๆ
วันนี้เมฆเยอะพอๆกับรถทหารเลย วิวข้างทาง แพ้ทางไป nubra อย่างราบคาบ แต่ก็ยังมีหิมะอยู่ แถมยังมีหิมะแบบเป็นลาน ให้คนลงไปเล่นด้วย
แต่เส้นทางนี้มีสัตว์เยอะกว่ามากๆ ทั้ง วัว แพะ จามรี ม้า แกะ และตัว มา(กิน)ละมุด ด้วย. 5555 (แต่การถ่ายสัตว์จากรถที่ขับอยู่นั้น มันมีแต่ความเบลอ และเบลอ และสุดท้ายก็ลบทิ้ง นะเออ v_v )
กว่าจะเห็นทะเลสาบน้ำเค็มสีน้ำเงินเข้ม ของปันกอง ก็บ่ายแล้ว พวกเราถึงกับร้องวี๊ดว๊ายด้วยความดีใจ (ดีใจที่เห็นทะเลสาบ หรือ ดีใจที่ถึงปลายทางแล้ว ก็ไม่รู้สินะ 555)
มุมศาลายอดฮิต เราก็มีนะเออ ^_^
ลมที่แรง แดดที่จัดเป็นครั้งคราว เพราะมีเมฆที่มากมาบดบังแสง และอากาศหนาวกว่าทุกวัน เพราะปันกองสูงกว่า 4000 เมตรจากระดับน้ำทะเล แต่ก็ไม่ได้ลดทอนความงดงามของบรรยากาศที่นี่เลย
ทะเลสาบนี้กว้างใหญ่มาก เมื่อแดดกระทบกับน้ำ เราก็จะเห็นเป็นสีน้ำเงินเข้ม เราคิดว่าตอนนั่งเครื่องมาทะเลสาบที่เห็นด้านขวาก็คือปันกองนั่นเอง มันใหญ่มากจริงๆ และสวยมากๆอีกด้วย
(การเลือกที่นั่งมาเลห์ คุณอย่าลืมเลือกให้ติดหน้าต่างนะคะ ขาไป ด้านขวาจะย้อนแสง ด้านซ้ายจะตามแสง ให้เลือกนั่งท้ายๆที่เลยปีกเครื่องบินไปแล้วค่ะ โดยส่วนใหญ่ของสายการบินที่นั่งหน้าปีกจะเป็น premium คุณจะเลือกเก้าอี้ premium ก็ได้ค่ะ)
ที่ Pangong นี้เราพักที่ Leh Summer Camp ไม่มี Internet ไม่มีแม้กระทั่งคลื่นโทรศัพท์ เพราะตอนกิน welcome drink อยู่ เรามองไปทางขวาก็เห็นพนักงานเค๊าเอาโทรศัพท์รุ่น Hero หรือ อาม่า นี่แหละ ออกมาตากแดดตรงขอบหน้าต่างอยู่ จริงๆแล้วเค๊าเอามาตากหาสัญญาณ 555 และเมื่อมองมาทางซ้าย ก็เห็นถังออกซิเจน วางอยู่ คงจะเตรียมไว้ให้พวกเราเป็นแน่แท้ ดีนะเนี่ยที่ไม่มีโอกาสได้ใช้ 5555
นอกจากไม่มี wifi แล้ว ก็ไม่มีน้ำอุ่นเช่นเดิม 5555 อย่าได้ถามว่าจะอาบน้ำเย็นมั๊ย No Way!
เค๊าบอกว่าเป็นทะเลสาบน้ำเค็ม เราก็ไม่ลืมที่จะลองชิม อิอิ ไม่บอกหรอกว่ารดชาดเป็นไง คนอื่นๆที่มาอ่านจะได้อยากชิมบ้าง ^__^
พระอาทิตย์ลาลับยอดเขา ความหนาวเย็นก็เข้ามาแทรกซึม และลึกลงสู่ก้นบึ้ง ลมที่พัดแรงเหมือนใครมาเขย่าเต็นท์ตลอดคืน ไอเย็นเข้าแทรกลมปราณของเราจนเริ่มติดขัด และได้ไข้หวัดกลับมาเป็นของฝากในที่สุด V__V
ป่วยจนได้นะเออ แต่ก็ยังเที่ยวต่อได้อีก2วัน 555
------------------------
ภาพทั้งหมดถ่ายด้วยกล้อง FujiX-T1 , lens 10-24mm, lens 50-140mm
คิม อัน ยอง
[CR] หนทางแสนลำบาก จากมาแสนคิดถึง Pangong Lake
Basic Information
เราใช้บริการของ Rize Travel (search ที่ FB เลยค่ะ) โดยเค้าจะติดต่อกับ agency ที่อินเดียให้อีกทีนึง
สมาชิกทั้งหมด 4 คน ซึ่งกำลังดีเลยกับรถ van เพราะทุกคนสามารถถ่ายรูปข้างทางได้ และไม่เบียดกันเกินไป
การเดินทางเริ่มต้นคืนวันที่ 1 กค 2560 และเดินทางกลับคืนวันที่ 9 กค 2560 (ใครจะไปเลห์ กรุณาเตรียมอาหารไทยไปให้เกินอย่าได้ขาด)
ซึ่งถือว่าเป็นช่วง high season ของการท่องเที่ยว Leh เลยทีเดียว
เราไป Pangong วันที่ 7 กค 2560 โดยไปค้าง 1 คืน
กระทู้สำหรับ Nubra Valley https://ppantip.com/topic/36666223
สภาพอากาศ กลางวันแดดร้อนจัด. กลางคืนก็หนาวจัดเช่นกัน ให้เตรียมเสื้อผ้าไป 2 แบบเลย
การไปเป็นหมู่คณะ ถือว่าดีเลิศ ที่สุดค่ะ 5555
======================================
เค้าบอกถนนดีกว่าไป Nubra (จริงหรา!!! มองบนอย่างแรง) จริงๆแล้วระยะทางไม่ไกลมากก็ประมาณ 150 กม แต่ก็ขับกันครึ่งวัน
เส้นทางนี้เป็นถนนของทหารเช่นเดิม (ก่อนถึง pangong มีค่ายทหารใหญ่มากเลยด้วย) แต่ทำไมทหารต้องปล่อยรถออกตอนเช้าพร้อมพวกเราด้วย ปล่อยที กี่สิบคันก็ไม่รู้ (น่าจะประมาณ 50 ) กว่าจะแซงได้แต่ละคัน ต้องเสียกระจกมองข้างไปบานนึง 5555
เส้นทางเหมือนจะดีกว่าทางไป nubra แต่หินเยอะกว่าและโค้งมากกว่า เราแอบหลับหัวกระแทกรถไปหลายรอบ หัวโนกันเลยทีเดียว ฮือๆๆ
วันนี้เมฆเยอะพอๆกับรถทหารเลย วิวข้างทาง แพ้ทางไป nubra อย่างราบคาบ แต่ก็ยังมีหิมะอยู่ แถมยังมีหิมะแบบเป็นลาน ให้คนลงไปเล่นด้วย
แต่เส้นทางนี้มีสัตว์เยอะกว่ามากๆ ทั้ง วัว แพะ จามรี ม้า แกะ และตัว มา(กิน)ละมุด ด้วย. 5555 (แต่การถ่ายสัตว์จากรถที่ขับอยู่นั้น มันมีแต่ความเบลอ และเบลอ และสุดท้ายก็ลบทิ้ง นะเออ v_v )
กว่าจะเห็นทะเลสาบน้ำเค็มสีน้ำเงินเข้ม ของปันกอง ก็บ่ายแล้ว พวกเราถึงกับร้องวี๊ดว๊ายด้วยความดีใจ (ดีใจที่เห็นทะเลสาบ หรือ ดีใจที่ถึงปลายทางแล้ว ก็ไม่รู้สินะ 555)
มุมศาลายอดฮิต เราก็มีนะเออ ^_^
ลมที่แรง แดดที่จัดเป็นครั้งคราว เพราะมีเมฆที่มากมาบดบังแสง และอากาศหนาวกว่าทุกวัน เพราะปันกองสูงกว่า 4000 เมตรจากระดับน้ำทะเล แต่ก็ไม่ได้ลดทอนความงดงามของบรรยากาศที่นี่เลย
ทะเลสาบนี้กว้างใหญ่มาก เมื่อแดดกระทบกับน้ำ เราก็จะเห็นเป็นสีน้ำเงินเข้ม เราคิดว่าตอนนั่งเครื่องมาทะเลสาบที่เห็นด้านขวาก็คือปันกองนั่นเอง มันใหญ่มากจริงๆ และสวยมากๆอีกด้วย
(การเลือกที่นั่งมาเลห์ คุณอย่าลืมเลือกให้ติดหน้าต่างนะคะ ขาไป ด้านขวาจะย้อนแสง ด้านซ้ายจะตามแสง ให้เลือกนั่งท้ายๆที่เลยปีกเครื่องบินไปแล้วค่ะ โดยส่วนใหญ่ของสายการบินที่นั่งหน้าปีกจะเป็น premium คุณจะเลือกเก้าอี้ premium ก็ได้ค่ะ)
ที่ Pangong นี้เราพักที่ Leh Summer Camp ไม่มี Internet ไม่มีแม้กระทั่งคลื่นโทรศัพท์ เพราะตอนกิน welcome drink อยู่ เรามองไปทางขวาก็เห็นพนักงานเค๊าเอาโทรศัพท์รุ่น Hero หรือ อาม่า นี่แหละ ออกมาตากแดดตรงขอบหน้าต่างอยู่ จริงๆแล้วเค๊าเอามาตากหาสัญญาณ 555 และเมื่อมองมาทางซ้าย ก็เห็นถังออกซิเจน วางอยู่ คงจะเตรียมไว้ให้พวกเราเป็นแน่แท้ ดีนะเนี่ยที่ไม่มีโอกาสได้ใช้ 5555
นอกจากไม่มี wifi แล้ว ก็ไม่มีน้ำอุ่นเช่นเดิม 5555 อย่าได้ถามว่าจะอาบน้ำเย็นมั๊ย No Way!
เค๊าบอกว่าเป็นทะเลสาบน้ำเค็ม เราก็ไม่ลืมที่จะลองชิม อิอิ ไม่บอกหรอกว่ารดชาดเป็นไง คนอื่นๆที่มาอ่านจะได้อยากชิมบ้าง ^__^
พระอาทิตย์ลาลับยอดเขา ความหนาวเย็นก็เข้ามาแทรกซึม และลึกลงสู่ก้นบึ้ง ลมที่พัดแรงเหมือนใครมาเขย่าเต็นท์ตลอดคืน ไอเย็นเข้าแทรกลมปราณของเราจนเริ่มติดขัด และได้ไข้หวัดกลับมาเป็นของฝากในที่สุด V__V
ป่วยจนได้นะเออ แต่ก็ยังเที่ยวต่อได้อีก2วัน 555
------------------------
ภาพทั้งหมดถ่ายด้วยกล้อง FujiX-T1 , lens 10-24mm, lens 50-140mm
คิม อัน ยอง
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น