สวัสดีค่ะ
เราเป็นคนหนึ่งที่มีแฟนเป็นทหารเกณฑ์ เราเริ่มคบกันตอนเขาติดทหารพอดี ช่วงแรกที่เขาฝึกเขาจะติดเรามาก แต่ช่วงนั้นเป็นช่วงที่เรายังไม่จริงจังกับใคร จะมีคนเข้ามาคุยๆบ้าง แต่เราดูเหมือนเขาจะรักเรา กลัวเสียเราไป ตามง้อ ตามใจ จนเราคิดว่าเราจะหยุดที่เขาเราก็หยุด คบเขาแค่คนเดียว หนักแน่นแค่คนเดียวมาตลอด คิดว่าช่วงเวลานี้คือช่วงที่ผู้ชายต้องการกำลังใจมากที่สุดและใครที่สามารถผ่านช่วงเวลานี้ไปด้วยกันได้ก็น่าจะพิสูจน์ได้ว่าเรารักเขาจริงๆ
เวลาผ่านไปเขาเข้ากองร้อยก็เริ่มไม่มีเวลาให้แต่ก็ยังติดต่อกัน คุยกันเหมือนเดิม เวลาผ่านไปอีกประมาณ1ปีกว่า เขาเปลี่ยนไป ติดเพื่อน ติดสังสรรค์ เวลาให้กลับบ้านก็จะเที่ยวตามผับตามบาร์กับเพื่อน โดยที่ไม่บอกเราแม้แต่คำเดียว เริ่มไม่แคร์กัน ไม่สนใจกัน เขาขาดการติดต่อไป เราเครียดจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ บวกกับโรคกระเพาะที่เป็นอยู่ก็ทำให้เข้าโรงพยาบาล วันนั้นเขาติดต่อมาหลังจากที่หายไปเป็นเดือน แต่คำพูดแรกที่ได้ยินไม่ได้ถามเลยว่าเราทำอะไร อยู่ที่ไหน หรือสบายดีมั๊ย กลับขอยืมเงิน!! เราก็ให้แม้เราแทบจะไม่มีติดตัวเลยก็ตาม หลังจากได้แล้วเขาก็หายไปอีก จนถึงเวลาให้กลับบ้านเขาก็ไปสังสรรค์กับเพื่อนอีกตามเคย นอนกับเพื่อน ก่อนที่จะมาหาเรา เราก็รอ รอ รอ หลังๆเงินเดือนเขาไม่ค่อยพอใช้เราก็คอยซัพพอร์ตตลอด อยากกินอะไรก็ซื้อไปให้ที่ค่าย พออยู่ด้วยกันเราก็เป็นคนจ่ายค่ากับข้าว อาหารการกินทุกอย่าง เวลาเงินเขาออกเขาไม่เคยพาเราไปกินข้าวนอกบ้าน ไปเที่ยว หรือให้เราใช้สักบาท มีแต่เลี้ยงเหล้าเพื่อน หน่ำซ้ำยังติดพนันบอลกับเพื่อนอีกต่างหาก ช่วงนั้นเป็นช่วงที่เราทรมานมากต้องนอนร้องไห้ทุกวัน รอเขาติดต่อมา เพราะทักไปโทรไปเหมือนเขาไม่อยากคุย เราก็อดทน อดทน
จนต่อมาความสัมพันธ์เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ มาพีคสุดก็ 4 5 วันมานี้ ทะเลาะกันเรื่องเฟสบุ๊ค(ปัญหาระดับโลก) เราพูดนอยด์ๆประมาณว่ากดไลค์ให้เราบ้างดิ สนใจเฟสเราหน่อยสิ เป็นปีแล้วนะที่เธอไม่เคยกดให้เราเลย เวลาเราคอมเมนท์เฟสเขาเขาจะชอบข้ามเม้นท์เราไปไม่ตอบแต่คนอื่นตอบหมด รูปคู่ไม่เคยลงเฟสสักครั้ง ล่าสุดไปเที่ยวเกาะล้านเขาเอาแต่รูปร้านอาหารลง เราเลยเอารูปคู่ไปลงเฟสเขาจนเพื่อนเขาแซวว่ากล้าลงรูปแฟนด้วยเหรอ ทะเลาะกันด้วยเรื่องแค่นี้แหละ จากนั้นเขาก็มากดไลค์ให้เรารัวๆ หลังจากกดแล้วเขาก็ไม่คุยไม่ทักไม่โทรหาเรา เราก็เลยโทรถามว่าเป็นอะไร เขาบอกไม่มีอะไรจะคุย ว่าเรางี่เง่าแค่เรื่องกดไลค์ ก็กดให้แล้วพอใจยัง หลายครั้งแม้คุยกันแค่1นาทียังลำบาก หน่ำซ้ำน้ำเสียงยังตะคอก เราก็อึ้งด้วยเรื่องแค่นี้ทำให้เขาเปลี่ยนไปขนาดนี้เลย แล้วเราก็ถามต่อว่า อยากเลิกกับเรามั๊ย เขาบอกว่าไม่รู้ แล้วก็รีบวางสายไปเลย เรารู้เลยนั่นคือคำตอบ เพราะเค้าไม่เคยบอกเลิกใคร นอกจากพูดว่าไม่รู้ และบีบให้คนๆหนึ่งเสียใจกับความเย็นชาจนทนไม่ไหลแล้วเป็นฝ่ายจากไปเอง(เราเคยคบๆเลิกๆกับเค้ามาก่อนหน้านี้ รวมๆกันก็ปี8 และเราต้องเป็นฝ่ายจากไปเองตลอด) เหลืออีกแค่ 7 วันเขาก็จะปลดแล้ว เราสู้อดทนเพื่อรอวันนี้ เพื่อที่เราจะมาเริ่มต้นใหม่ด้วยกัน แต่เขากลับทิ้งเราไว้กลางทาง ทิ้งเราก่อนที่เขาจะปลด เป็นอิสระ โดยไม่แยแสความรู้สึกเราเลยสักนิด เขาทิ้งคนที่ช่วยเหลือเขา ปลอบใจเขา
อยู่เคียงข้างเขา ทำหน้าที่แฟนยิ่งกว่าทาสเสียอีกโดยไม่ขาดตกบกพร่อง ตลอดระยะเวลา2ปีแห่งความลำบากของเขาได้ยังไง? มันมีจริงๆใช่ไหมคนแบบนี้?
#แฟนทหาร ถ้าไม่เป็นฝ่ายทิ้งก่อน ก็ต้อง เป็นฝ่ายถูกทิ้ง
เราเป็นคนหนึ่งที่มีแฟนเป็นทหารเกณฑ์ เราเริ่มคบกันตอนเขาติดทหารพอดี ช่วงแรกที่เขาฝึกเขาจะติดเรามาก แต่ช่วงนั้นเป็นช่วงที่เรายังไม่จริงจังกับใคร จะมีคนเข้ามาคุยๆบ้าง แต่เราดูเหมือนเขาจะรักเรา กลัวเสียเราไป ตามง้อ ตามใจ จนเราคิดว่าเราจะหยุดที่เขาเราก็หยุด คบเขาแค่คนเดียว หนักแน่นแค่คนเดียวมาตลอด คิดว่าช่วงเวลานี้คือช่วงที่ผู้ชายต้องการกำลังใจมากที่สุดและใครที่สามารถผ่านช่วงเวลานี้ไปด้วยกันได้ก็น่าจะพิสูจน์ได้ว่าเรารักเขาจริงๆ
เวลาผ่านไปเขาเข้ากองร้อยก็เริ่มไม่มีเวลาให้แต่ก็ยังติดต่อกัน คุยกันเหมือนเดิม เวลาผ่านไปอีกประมาณ1ปีกว่า เขาเปลี่ยนไป ติดเพื่อน ติดสังสรรค์ เวลาให้กลับบ้านก็จะเที่ยวตามผับตามบาร์กับเพื่อน โดยที่ไม่บอกเราแม้แต่คำเดียว เริ่มไม่แคร์กัน ไม่สนใจกัน เขาขาดการติดต่อไป เราเครียดจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ บวกกับโรคกระเพาะที่เป็นอยู่ก็ทำให้เข้าโรงพยาบาล วันนั้นเขาติดต่อมาหลังจากที่หายไปเป็นเดือน แต่คำพูดแรกที่ได้ยินไม่ได้ถามเลยว่าเราทำอะไร อยู่ที่ไหน หรือสบายดีมั๊ย กลับขอยืมเงิน!! เราก็ให้แม้เราแทบจะไม่มีติดตัวเลยก็ตาม หลังจากได้แล้วเขาก็หายไปอีก จนถึงเวลาให้กลับบ้านเขาก็ไปสังสรรค์กับเพื่อนอีกตามเคย นอนกับเพื่อน ก่อนที่จะมาหาเรา เราก็รอ รอ รอ หลังๆเงินเดือนเขาไม่ค่อยพอใช้เราก็คอยซัพพอร์ตตลอด อยากกินอะไรก็ซื้อไปให้ที่ค่าย พออยู่ด้วยกันเราก็เป็นคนจ่ายค่ากับข้าว อาหารการกินทุกอย่าง เวลาเงินเขาออกเขาไม่เคยพาเราไปกินข้าวนอกบ้าน ไปเที่ยว หรือให้เราใช้สักบาท มีแต่เลี้ยงเหล้าเพื่อน หน่ำซ้ำยังติดพนันบอลกับเพื่อนอีกต่างหาก ช่วงนั้นเป็นช่วงที่เราทรมานมากต้องนอนร้องไห้ทุกวัน รอเขาติดต่อมา เพราะทักไปโทรไปเหมือนเขาไม่อยากคุย เราก็อดทน อดทน
จนต่อมาความสัมพันธ์เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ มาพีคสุดก็ 4 5 วันมานี้ ทะเลาะกันเรื่องเฟสบุ๊ค(ปัญหาระดับโลก) เราพูดนอยด์ๆประมาณว่ากดไลค์ให้เราบ้างดิ สนใจเฟสเราหน่อยสิ เป็นปีแล้วนะที่เธอไม่เคยกดให้เราเลย เวลาเราคอมเมนท์เฟสเขาเขาจะชอบข้ามเม้นท์เราไปไม่ตอบแต่คนอื่นตอบหมด รูปคู่ไม่เคยลงเฟสสักครั้ง ล่าสุดไปเที่ยวเกาะล้านเขาเอาแต่รูปร้านอาหารลง เราเลยเอารูปคู่ไปลงเฟสเขาจนเพื่อนเขาแซวว่ากล้าลงรูปแฟนด้วยเหรอ ทะเลาะกันด้วยเรื่องแค่นี้แหละ จากนั้นเขาก็มากดไลค์ให้เรารัวๆ หลังจากกดแล้วเขาก็ไม่คุยไม่ทักไม่โทรหาเรา เราก็เลยโทรถามว่าเป็นอะไร เขาบอกไม่มีอะไรจะคุย ว่าเรางี่เง่าแค่เรื่องกดไลค์ ก็กดให้แล้วพอใจยัง หลายครั้งแม้คุยกันแค่1นาทียังลำบาก หน่ำซ้ำน้ำเสียงยังตะคอก เราก็อึ้งด้วยเรื่องแค่นี้ทำให้เขาเปลี่ยนไปขนาดนี้เลย แล้วเราก็ถามต่อว่า อยากเลิกกับเรามั๊ย เขาบอกว่าไม่รู้ แล้วก็รีบวางสายไปเลย เรารู้เลยนั่นคือคำตอบ เพราะเค้าไม่เคยบอกเลิกใคร นอกจากพูดว่าไม่รู้ และบีบให้คนๆหนึ่งเสียใจกับความเย็นชาจนทนไม่ไหลแล้วเป็นฝ่ายจากไปเอง(เราเคยคบๆเลิกๆกับเค้ามาก่อนหน้านี้ รวมๆกันก็ปี8 และเราต้องเป็นฝ่ายจากไปเองตลอด) เหลืออีกแค่ 7 วันเขาก็จะปลดแล้ว เราสู้อดทนเพื่อรอวันนี้ เพื่อที่เราจะมาเริ่มต้นใหม่ด้วยกัน แต่เขากลับทิ้งเราไว้กลางทาง ทิ้งเราก่อนที่เขาจะปลด เป็นอิสระ โดยไม่แยแสความรู้สึกเราเลยสักนิด เขาทิ้งคนที่ช่วยเหลือเขา ปลอบใจเขา
อยู่เคียงข้างเขา ทำหน้าที่แฟนยิ่งกว่าทาสเสียอีกโดยไม่ขาดตกบกพร่อง ตลอดระยะเวลา2ปีแห่งความลำบากของเขาได้ยังไง? มันมีจริงๆใช่ไหมคนแบบนี้?