ประสบการณ์ "เล่น(ลิฟท์)จนเจอดี" ที่โรงพยาบาล

กระทู้สนทนา
อมยิ้ม09สวัสดีผู้อ่านทุกท่าน...วันนี้จขกท.อยากจะมาแชร์ประสบการณ์การที่เรียกได้ว่า "จำได้ไม่เคยลืม" ให้ทุกคนได้อ่านกัน
ต้องขอบอกก่อนว่านี่เป็นการเขียนครั้งแรกของจขกท. ถ้ามีอะไรผิดพลาดไปต้องขออภัยผู้อ่านทุกท่านมา ณ ที่นี้

(มีคนที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมด 3 คน ไล่ตามอายุของแต่ละคนในตอนนั้นดังนี้ จขกท. 11 ขวบ น้องชาย(ลูกเพื่อนแม่) 10 ขวบ และ น้องสาว(ญาติของจขกท.) 7 ขวบ)

สถานที่เกิดเหตุ - โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในภาคอีสาน (เมืองดอกบัวงาม แม่น้ำสองสี...) ซึ่งทีแรกมีโครงการจะทำโรงแรมแต่ติดปัญหาบางอย่างเลยเปลี่ยนมาทำเป็นโรงพยาบาลแทน ตึกนี้มีประมาณ 10-11 ชั้นแต่เปิดใช้แค่ถึงชั้น 4 นอกนั้นปิดตาย ลิฟท์จะมี 2 ส่วนซึ่งอยู่ขนานกัน อยู่ตรงกลางของตึกพอดี ด้านหน้าจะเอาไว้ใช้สำหรับคนทั่วไป ด้านหลังเอาไว้สำหรับขนส่งผู้ป่วยและ... โดยระหว่างลิฟท์สองตัวจะมีบันไดอยู่ตรงกลาง คือแล้วแต่เลยว่าอยากขึ้นลงทางไหน มันเชื่อมกันหมด

...เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อประมาณ 10 กว่าปีก่อน...

ประมาณ 5-6 โมงเย็นๆ

         ตอนนั้นแม่ของจขกท.จะไปเยี่ยมเพื่อนที่โรงพยาบาล ซึ่งวันนั้นเป็นวันหยุดเลยชวนจขกท.กับน้องสาว(ญาติ)ไปด้วย พอไปถึงโรงพยาบาล จขกท. เหลือบไปเห็นบันไดหนีไฟที่อยู่ด้านข้างของตึกพอดี โรงพยาบาลนี้มีตึกเดียวเดี่ยวๆซึ่งมีบันไดหนีไฟขนาบสองข้างตึก พอเห็นปุ๊ปก็เกิดไอเดียนึกสนุกขึ้นมา(ไม่น่าเลย 55555) ช่วงนั้นติดละครบู๊อยู่เรื่องนึง มันจะมีฉากที่พระเอกไล่ตามผู้ร้ายลงมาทางบันไดหนีไฟ อินสุดๆบอกเลยยย...

         พอมาถึงห้องพักผู้ป่วย เราก็เจอเพื่อนแม่อีกคนกับลูกชายแกมามาถึงก่อนแล้ว แม่ๆเราก็คุยกันตามประสาผู้ใหญ่(ซึ่งนานมากๆ) พวกเราไม่มีอะไรทำ ตอนนั้นยังไม่มีสมาร์ทโฟนเลยได้แค่นั่งรอเซ็งๆ จขกท.ก็นึกถึงบันไดหนีไฟขึ้นมา เลยแอบชวนน้องๆไปเล่นโจรจับผู้ร้ายกัน น้องมันก็โอเคอยากเล่น เราเลยบอกแม่ไปว่าจะลงไปเล่นที่ห้องเด็กเล่นข้างล่าง แม่ก็โอเคบอกว่าให้ดูน้องๆด้วย เราก็รับปาก..

         พอออกมาจากห้องปุ๊ป น้องชายมันก็ถามเราว่า จะไปเล่นที่ไหน เราเลยบอกว่า เล่นแบบละคร(จำชื่อเรื่องไม่ได้แล้ว) เอาแบบฉากที่พระเอกวิ่งไล่จับโจร บลาๆๆ มันก็ถามต่อว่า จะขึ้นไปยังไง เราก็บอกว่า ขึ้นลิฟท์ไปแล้วค่อยวิ่งลงมาทางบันไดหนีไฟ พอโอเคปุ๊ปก็เข้าลิฟท์ปั๊ป..

         น้องมันก็ถามว่าจะเอาชั้นไหน ไอ้เราก็คิดว่าอยากจะขึ้นไปสูงแล้ววิ่งลงมางี้จะได้เล่นนาน เลยกดไปชั้น 9 บอกเลยว่าตอนที่กดไปเราไม่กลัวเลยสักนิดคิดแต่สนุกอย่างเดียว ระหว่างลิฟท์ขึ้นไปก็เฉยๆ พอลิฟท์เปิดออกเท่านั้นแหละ...คุณพระ!!!!!
         เคยดูหนังแนวสยองขวัญป่ะ บรรยากาศยิ้ม มันได้เลยแหละ มีใยแมงมุมเส้นใหญ่ๆระโยงระยางเต็มไปหมด ฝุ่นนี่เขรอะจนพื้นเป็นสีดำไปทั่ว คือรู้เลยว่าไม่ได้ใช้แน่ๆ คงไม่ผ่านการทำความสะอาดมานานมากแล้ว
      ...ตอนนั้นคือใจมันตุ้มๆต่อมๆล่ะ  แต่ด้วยความที่เราอายุเยอะสุดเลยต้องฟอร์มทำเป็นไม่กลัว  เลยพูดกับน้องไปว่า "เฮ้ย..พี่ว่ามันสูงไปลองลงไปอีกสักชั้นสองชั้นดูไหม๊" น้องยิ้มรีบพยักหน้ากันเลย 5555555

      ...เรากดลิฟท์มาที่ชั้น 7 ด้วยความหวังว่า บรรยากาศมันน่าจะดีกว่า ระหว่างลิฟท์ลงมาเราก็ภาวนาไปด้วยนิดๆ พอประตูเปิดออกเท่านั้นแหละ แม่เจ้าาา!!!...  มันแทบไม่ต่างกันเลยสักนิด เราหันไปมองหน้าน้องๆ มันก็ถามเราด้วยสายตาว่าจะเอาไง เราเลยติดสินใจว่า เอาว่ะ! ไหนๆก็ได้ขึ้นมาแล้วลองเดินสำรวจดูสักหน่อยจะเป็นไรไป(อยากรู้อยากเห็นจริงๆเลยกรูเนี่ยยย..) เราเลยเดินนำน้องไป ..
         บรรยากาศไม่ต้องพูดถึง วังเวงสุดๆ นี่ถ้าไม่รู้ว่าโรงบาลยังเปิดอยู่นะ นี่คือตึกร้างชัดๆ เราก็ค่อยๆเดิน ก้าวทีนี่เสียงรองเท้าดังก้องไปทั้งชั้น ระหว่างเดินสำรวจ มันก็จะมีประตูบางห้องที่แง้มๆอยู่ มองเข้าไปก็จะเห็นเตียงเก่าๆ บางเตียงก็โล่ง บางเตียงก็มีผ้าปูวางพาดเอาไว้(คิดแล้วก็ขนลุกกก..)
         เดินจนจะสุดทางเราเลยจะลองเดินไปอีกฝั่งหนึ่งดู น้องชายมันถามออกมาอีกว่า "จะไปรึเปล่า" เราตอบอย่างชัดเจนและหนักแน่นว่า " ไม่ไปก็ได้มั้ง คงจะเหมือนๆกัน" (เก๊กสุดๆบอกเลย..ใจจริงนี่อยากลงไปเต็มทน) " พี่ว่าลงไปเล่นตรงลานข้างล่างดีกว่า กลัวมันเสียงดัง เดี๋ยวเขาว่า"

      ...พอเดินกลับมาที่ลิฟท์ เราก็กดชั้น 1 พอตอนลิฟท์จะใกล้ปิดสนิทเท่านั้นแหละ ติกๆๆๆ ตึ้งงง!!!!! ลิฟท์เปิดออกเหมือนเดิม คือออ...????? ใจยิ้มตกอยู่ตาตุ่ม จขกท.ไม่พูดไม่จา ใส่เกียร์หมาวิ่งออกไปที่บันไดหนีไฟอย่างไม่คิดชีวิต มีน้องชายวิ่งตามมาติดๆ แต่!!... มันล๊อคคคคค จขกท.ดึงประตูแบบบ้าคลั่งงง (ยังกะในหนัง)
         พอรู้ว่ามันเปิดไม่ออกเลยตะโกนบอกน้องชายไปว่า " เฮ้ย!..มันล๊อค" น้องไม่เชื่อวิ่งเข้ามาเขย่าประตูอย่างบ้าคลั่งไม่ต่างกัน เราเลยคิดได้ว่ามันมีบันไดหนีไฟอีกทางเลยบอกน้องว่า " เฮ้ย!..มันมีอีกทาง" เราทั้งคู่วิ่งไปที่ประตูทางออกอีกฝั่งด้วยความหวัง ระหว่างที่เราวิ่งไปมันก็ผ่านลิฟท์ตัวเดิม ซึ่งน้องสาวเราที่มาด้วยยังอยู่ในนั้น คุณพระ!!!..ลิฟท์ยังคงเปิดค้างอยู่เหมือนเดิม(ทั้งๆที่ ถ้ามันขัดข้อง คือเราเคยขึ้นแล้วพอจะปิดประตูมันกลับเด้งออกเนี่ย สักพักมันก็จะปิดเอง แต่อันนี้มันนานไปเพราะกว่าจะวิ่งสุดทางฝั่งใดฝั่งหนึ่งเนี่ยมันใช้เวลาเหมือนกัน กว่าจะเขย่าประตูจนได้ข้อสรุปว่ามันล๊อคเนี่ยก็กินเวลาเข้าไปอีก) มันมาเล่าทีหลังว่ากลัวจนวิ่งไม่ออก พี่ๆก็ไม่รอเลย 5555555 (กูไม่รู้..กูกลัวนี่ เดี๋ยวตามคนมาช่วยนะ 55555555)
         พอวิ่งถึงประตูอีกฝั่งด้วยความหวังเต็มเปี่ยม...ไม่นะแม่จ๋า!!! มันล๊อคคคคค เราบอกน้องชายว่า " บันได!!!" แล้วก็วิ่งแบบ 100 เมตร(ถ้าคัดเลือกโอลิมปิกนะ ติดแน่ๆบอกเลย) แต่มันต้องผ่านลิฟท์อีกทีนึงเพราะบันไดอยู่หลังลิฟท์ ซึ่งตอนวิ่งผ่าน...น้องสาวเรายังคงอยู่ในนั้น!!! และลิฟท์ก็ยังคงเปิดอยู่!!!!! เราเลยตะโกนบอกน้องว่า "บันไดๆ"
         พอมาถึงบันไดกี่ขั้นไม่รู้ จขกท.นี่กระโดดข้ามทีเดียวเลย คิดแต่ว่าจะต้องออกไปจากตรงนี้ให้ได้โดยเร็วที่สุด ส่วนน้องชายวิธีน้องมันคือเอาตูดไถลราวบันไดลงมา 55555555 คิดย้อนกลับไปยิ้มก็ตลกดี...
         พอเรากับน้องชายมาถึงชั้น 3 จากชั้น 7 ด้วยความเร็วแสง ตอนนั้นและโล่งมาก คิดว่ารอดแล้ว เลยคิดถึงน้องสาวขึ้นมา ได้ยินเสียงมันร้องไห้ระงมพร้อมกับพูดว่า "รอด้วยๆ" เราก็เลยตะโกนขึ้นไปว่า "เร็วๆดิว่ะ" (ด้วยความเป็นห่วง) พอมันลงมาถึงก็พากันมาสงบสติอารมณ์ จขกท.เลยบอกน้องๆไปว่าห้ามบอกเรื่องนี้กับใคร ไม่งั้นจะไม่เล่นด้วย ทุกคนรับปาก แล้วก็กลับบ้านกันตามปกติและไม่มีใครกล้าพูดถึงเรื่องนี้อีก...

      ...จนกระทั่งผ่านไปประมาณ 1-2 พวกเราถึงกลับมาคุยกัน เราพูดไปขำไปกับน้องชายแต่น้องสาวเราไม่ขำ เพราะมันบอกว่า มันกลัวมากและพี่ๆทิ้งมัน ไอ้เราก็เลยบอกว่า "เฮ้ย..พี่มาคิดๆดูแล้วมันไม่มีอะไรหรอก ลิฟท์มันคงค้างเฉยๆ เราน่ะกลัวกันไปเองมากกว่า"
น้องสาวเราตอบกลับมาว่า "พี่รู้ได้ไงว่าไม่มี.."
เรา : มันจะมีอะไร รึแกเห็น?
น้องสาว : ลิฟท์มันไม่ได้ค้าง แต่!!! มันมีผู้ชายยืนดันลิฟท์อยู่.....
เรากับน้องชาย : เชี่ยยยยยยยยยยยยยยยย!!!!!!!!!!!!!!!   เม่าตกใจ

สรุปคือ ใช่..ใช่ป่ะว่ะ??????
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่