เครดิตคลิปจาก ANNnewsCH
สื่อมวลชนญี่ปุ่นสนใจเกาะติดการส่งตัว “เณรคำ” กลับประเทศไทย โดยเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น พร้อมระบุว่าเป็นพระที่ใช้ชีวิตอย่างหรูหรา สวนทางกับวิถีปฏิบัติของผู้ที่สอนให้ประชาชนละกิเลส
สถานีโทรทัศน์ของญี่ปุ่นส่งผู้สื่อข่าวเกาะติดการส่งตัวนายวิรพล สุขผล อดีตพระฉายาวิรพล ฉัตติโก หรือเณรคำ กลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย โดยจากสหรัฐอเมริกาจะต้องมาเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินนาริตะ ก่อนที่จะเดินทางมาประเทศไทย ซึ่งในระหว่างอยู่ที่สนามบินประเทศญี่ปุ่นนั้น “เณรคำ” ห่มจีวรเหมือนเช่นพระ และยังหันมายิ้มให้กับกล้อง โดยไม่มีสีหน้าแสดงถึงความกังวลแต่อย่างใด
รายงานข่าวจากประเทศญี่ปุ่นยังระบุถึงชีวิตหรูหราของ “เณรคำ” ทั้งการเดินทางโดยเครื่องบินส่วนตัว, สวมแว่นกันแดดแบรนด์เนม, มีรถยนต์และคฤหาสถ์ส่วนตัวที่สุดหรูหรา ซึ่งเป็นพฤติกรรมแสวงหาความสุขทางโลก ทั้งๆที่พระภิกษุควรเป็นผู้ละแล้วซึ่งกิเลส
สื่อมวลชนญี่ปุ่นให้ข้อมูลว่า “เณรคำ” หลบหนีอยู่ในสหรัฐฯนานถึง 4 ปี หลังจากต้องอาบัติพ้นจากความเป็นพระ และถูกดำเนินคดีในข้อหาพรากผู้เยาว์ กระทำชำเราเด็กไม่เกิน 15 ปี , ฉ้อโกง และฟอกเงิน
นอกจากส่งผู้สื่อข่าวไปที่สนามบินาริตะที่ “เณรคำ” มาเปลี่ยนเครื่องบินแล้ว สถานีโทรทัศน์ของญี่ปุ่นยังมีผู้สื่อข่าวอีกคนหนึ่งเกาะติดการเดินทางมาถึงประเทศไทยของ “เณรคำ” ด้วย ซึ่งเป็นปรากฏการณืที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนักที่สำนักข่าวของญี่ปุ่นจะให้ความสนใจกับข่าวท้องถิ่นของประเทศไทย
ข่าวจาก : MGR Online
http://www.manager.co.th/Japan/ViewNews.aspx?NewsID=9600000074172
ญี่ปุ่นยังอึ้ง “เณรคำ” อลัชชีไฮโซ นี่หรือผู้ละกิเลส ?
เครดิตคลิปจาก ANNnewsCH
สื่อมวลชนญี่ปุ่นสนใจเกาะติดการส่งตัว “เณรคำ” กลับประเทศไทย โดยเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น พร้อมระบุว่าเป็นพระที่ใช้ชีวิตอย่างหรูหรา สวนทางกับวิถีปฏิบัติของผู้ที่สอนให้ประชาชนละกิเลส
สถานีโทรทัศน์ของญี่ปุ่นส่งผู้สื่อข่าวเกาะติดการส่งตัวนายวิรพล สุขผล อดีตพระฉายาวิรพล ฉัตติโก หรือเณรคำ กลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย โดยจากสหรัฐอเมริกาจะต้องมาเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินนาริตะ ก่อนที่จะเดินทางมาประเทศไทย ซึ่งในระหว่างอยู่ที่สนามบินประเทศญี่ปุ่นนั้น “เณรคำ” ห่มจีวรเหมือนเช่นพระ และยังหันมายิ้มให้กับกล้อง โดยไม่มีสีหน้าแสดงถึงความกังวลแต่อย่างใด
รายงานข่าวจากประเทศญี่ปุ่นยังระบุถึงชีวิตหรูหราของ “เณรคำ” ทั้งการเดินทางโดยเครื่องบินส่วนตัว, สวมแว่นกันแดดแบรนด์เนม, มีรถยนต์และคฤหาสถ์ส่วนตัวที่สุดหรูหรา ซึ่งเป็นพฤติกรรมแสวงหาความสุขทางโลก ทั้งๆที่พระภิกษุควรเป็นผู้ละแล้วซึ่งกิเลส
สื่อมวลชนญี่ปุ่นให้ข้อมูลว่า “เณรคำ” หลบหนีอยู่ในสหรัฐฯนานถึง 4 ปี หลังจากต้องอาบัติพ้นจากความเป็นพระ และถูกดำเนินคดีในข้อหาพรากผู้เยาว์ กระทำชำเราเด็กไม่เกิน 15 ปี , ฉ้อโกง และฟอกเงิน
นอกจากส่งผู้สื่อข่าวไปที่สนามบินาริตะที่ “เณรคำ” มาเปลี่ยนเครื่องบินแล้ว สถานีโทรทัศน์ของญี่ปุ่นยังมีผู้สื่อข่าวอีกคนหนึ่งเกาะติดการเดินทางมาถึงประเทศไทยของ “เณรคำ” ด้วย ซึ่งเป็นปรากฏการณืที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนักที่สำนักข่าวของญี่ปุ่นจะให้ความสนใจกับข่าวท้องถิ่นของประเทศไทย
ข่าวจาก : MGR Online
http://www.manager.co.th/Japan/ViewNews.aspx?NewsID=9600000074172