ขอปรึกษาเรื่องที่ดินหน่อยค่ะ...
พอดีที่ดินที่ปลูกบ้านอยู่ปัจจุบัน คุณแม่ซื้อไว้เมื่อปี 2547 โดยการซื้อขายกันในหมู่บ้านและมีพยานเซ็นในสัญญาซื้อขายแต่ไม่มีการโอนกรรมสิทธิ์ใดๆ ก่อนอื่นต้องขอเรียงลำดับไทม์ไลน์ดังนี้นะคะ
#ที่ดินเป็นของนายเอ แล้วมีการแบ่งให้ลูกหลานแต่ไม่มีการโอนกรรมสิทธิ์ใดๆ และที่ดินผืนนั้นยังไม่เป็นโฉนดเป็นแค่ใบ น.ส.3.ก
#ต่อมา พ.ศ.2547 คุณแม่ได้ซื้อที่ดินต่อจากนางบี(ลูกของนายเอ)ซึ่งได้รับที่ดินมาจากการแบ่งมรดก โดยทำสัญญาซื้อขายกันและมีคนในหมู่บ้านเซ็นต์เป็นพยานแต่ไม่มีการโอนกรรมสิทธิ์ใดๆ นั่นหมายความว่าในใบน.ส.3.ก ยังคงเป็นชื่อนายเอ
#ต่อมาทราบว่านายเอได้โอนกรรมสิทธิ์ให้นายซีผู้ซึ่งเป็นลูกอีกคน เพื่อให้นายซีนำไปใช้ผลประโยชน์ทางการเงิน พอทางคุณแม่ทราบเรื่องจึงชวนคนอื่นที่เจอชะตากรรมเดียวกันจะไปหาทนายมาฟ้องเนื่องจากที่ดินผืนนี้มีประมาณ6ไร่กว่าก็จะมีเคสเดียวกับคุณแม่อยู่หลายรายเหมือนกันแต่ละรายสภาพตอนนี้ก็ปลูกบ้านสร้างรั้วกั้นกันอยู่ตามปกติประสาชาวบ้านทั่วไปแต่เท่าที่ได้ไปคุยมาก็มีความร้อนใจกันอยู่แต่ทำอะไรมากไม่ได้เพราะไม่รู้กฎหมายเป็นแค่ชาวบ้านธรรมดาทั่วไปเหมือนกัน และพอนายซีทราบเรื่องเลยขอไม่ให้ไปฟ้องและบอกว่าจะทำเรื่องให้ ปล.ปัจจุบันนายเอเสียชีวิตไปแล้ว
#หลังจากเหตุการณ์ก่อนหน้านายซีจึงทำเรื่องให้ที่ดินพ้นจากภาระผูกพันทางการเงิน และได้ทำการโอนกรรมสิทธิ์ให้นายดีซึ่งเป็นลูกของนายซี จึงทำให้นายซีรับช่วงเป็นผู้ประสานเรื่องกับคุณแม่และคนอื่นๆต่อ โดยพากันไปที่กรมที่ดินแต่ผลที่ได้ในวันนั้นคือโอนไม่ได้ แต่ใบน.ส.3.กใบนั้นกลายเป็นกรรมสิทธิ์รวมไม่มีค่าตอบแทน และมีชื่อของทุกคนอยู่หากจะนำไปหาผลประโยชน์ใดๆจะต้องผ่านบุคคลทั้งหมดก่อน โดยทางที่ดินให้เหตุผลว่ายังโอนไม่ได้ต้องรอกฎหมายใหม่ออกมาก่อน *ซึ่งตรงนี้ดิฉันก็ไม่เข้าใจคุณแม่เองก็เช่นกันเพราะท่านก็เป็นชาวบ้านธรรมดาไม่ได้มีความรู้ทางกฎหมายอะไรมากส่วนตัวดิฉันเองก็ไม่มีความรู้ด้านนี้เลยรู้เพียงแต่ว่าแม่จะยอมไม่ได้ เราต้องดิ้นรนเพื่อสิทธิของเรา
จึงอยากปรึกษาผู้รู้ว่าหากต้องการแบ่งแยกให้เป็นที่ดินเฉพาะของคุณแม่เพียงผู้เดียวไม่ว่าจะเป็นใบน.ส.3.ก ก็ดีหรือแม้แต่โฉนดก็ตามจะสามารถทำได้หรือไม่ รบกวนหน่อยนะคะหากผิดพลาดตรงไหนต้องขออภัยจริงๆค่ะเพราะไม่มีความรู้ด้านนี้เลยและเพิ่งจะได้มาจับเข่าคุยเรื่องนี้กับคุณแม่อย่างจริงจังจึงรีบเรียบเรียงละมาปรึกษาทุกคนเลยค่ะ ยังไงก็ขอบคุณล่วงหน้านะคะ ^^
ปรึกษาเรื่องที่ดินโอนไม่ได้ค่ะ TT
พอดีที่ดินที่ปลูกบ้านอยู่ปัจจุบัน คุณแม่ซื้อไว้เมื่อปี 2547 โดยการซื้อขายกันในหมู่บ้านและมีพยานเซ็นในสัญญาซื้อขายแต่ไม่มีการโอนกรรมสิทธิ์ใดๆ ก่อนอื่นต้องขอเรียงลำดับไทม์ไลน์ดังนี้นะคะ
#ที่ดินเป็นของนายเอ แล้วมีการแบ่งให้ลูกหลานแต่ไม่มีการโอนกรรมสิทธิ์ใดๆ และที่ดินผืนนั้นยังไม่เป็นโฉนดเป็นแค่ใบ น.ส.3.ก
#ต่อมา พ.ศ.2547 คุณแม่ได้ซื้อที่ดินต่อจากนางบี(ลูกของนายเอ)ซึ่งได้รับที่ดินมาจากการแบ่งมรดก โดยทำสัญญาซื้อขายกันและมีคนในหมู่บ้านเซ็นต์เป็นพยานแต่ไม่มีการโอนกรรมสิทธิ์ใดๆ นั่นหมายความว่าในใบน.ส.3.ก ยังคงเป็นชื่อนายเอ
#ต่อมาทราบว่านายเอได้โอนกรรมสิทธิ์ให้นายซีผู้ซึ่งเป็นลูกอีกคน เพื่อให้นายซีนำไปใช้ผลประโยชน์ทางการเงิน พอทางคุณแม่ทราบเรื่องจึงชวนคนอื่นที่เจอชะตากรรมเดียวกันจะไปหาทนายมาฟ้องเนื่องจากที่ดินผืนนี้มีประมาณ6ไร่กว่าก็จะมีเคสเดียวกับคุณแม่อยู่หลายรายเหมือนกันแต่ละรายสภาพตอนนี้ก็ปลูกบ้านสร้างรั้วกั้นกันอยู่ตามปกติประสาชาวบ้านทั่วไปแต่เท่าที่ได้ไปคุยมาก็มีความร้อนใจกันอยู่แต่ทำอะไรมากไม่ได้เพราะไม่รู้กฎหมายเป็นแค่ชาวบ้านธรรมดาทั่วไปเหมือนกัน และพอนายซีทราบเรื่องเลยขอไม่ให้ไปฟ้องและบอกว่าจะทำเรื่องให้ ปล.ปัจจุบันนายเอเสียชีวิตไปแล้ว
#หลังจากเหตุการณ์ก่อนหน้านายซีจึงทำเรื่องให้ที่ดินพ้นจากภาระผูกพันทางการเงิน และได้ทำการโอนกรรมสิทธิ์ให้นายดีซึ่งเป็นลูกของนายซี จึงทำให้นายซีรับช่วงเป็นผู้ประสานเรื่องกับคุณแม่และคนอื่นๆต่อ โดยพากันไปที่กรมที่ดินแต่ผลที่ได้ในวันนั้นคือโอนไม่ได้ แต่ใบน.ส.3.กใบนั้นกลายเป็นกรรมสิทธิ์รวมไม่มีค่าตอบแทน และมีชื่อของทุกคนอยู่หากจะนำไปหาผลประโยชน์ใดๆจะต้องผ่านบุคคลทั้งหมดก่อน โดยทางที่ดินให้เหตุผลว่ายังโอนไม่ได้ต้องรอกฎหมายใหม่ออกมาก่อน *ซึ่งตรงนี้ดิฉันก็ไม่เข้าใจคุณแม่เองก็เช่นกันเพราะท่านก็เป็นชาวบ้านธรรมดาไม่ได้มีความรู้ทางกฎหมายอะไรมากส่วนตัวดิฉันเองก็ไม่มีความรู้ด้านนี้เลยรู้เพียงแต่ว่าแม่จะยอมไม่ได้ เราต้องดิ้นรนเพื่อสิทธิของเรา
จึงอยากปรึกษาผู้รู้ว่าหากต้องการแบ่งแยกให้เป็นที่ดินเฉพาะของคุณแม่เพียงผู้เดียวไม่ว่าจะเป็นใบน.ส.3.ก ก็ดีหรือแม้แต่โฉนดก็ตามจะสามารถทำได้หรือไม่ รบกวนหน่อยนะคะหากผิดพลาดตรงไหนต้องขออภัยจริงๆค่ะเพราะไม่มีความรู้ด้านนี้เลยและเพิ่งจะได้มาจับเข่าคุยเรื่องนี้กับคุณแม่อย่างจริงจังจึงรีบเรียบเรียงละมาปรึกษาทุกคนเลยค่ะ ยังไงก็ขอบคุณล่วงหน้านะคะ ^^