ผมกำลังเริ่มหัดเขียนบลอก ลงบทความสอนการใช้ภาษาอังกฤษ อยากขอความเห็น คำติชมครับ ว่าอ่านเข้าใจไหม เป็นประโยชน์หรือไม่ มีจุดที่ควรเสริมหรือปรับปรุงแก้ไขอย่างไรบ้าง ขอบคุณครับ
Past vs Present vs Perfect
ฉันกินมื้อเช้า ภาษาอังกฤษพูดว่ายังไงดี?
อันนี้ต้องถามก่อนว่า พูดในสถานการณ์ไหน จะได้เลือกใช้ให้ถูก tense ครับ เช่น
1.เล่าว่าเมื่อเช้าทำนั่นทำนี่ ฯลฯ จากนั้นก็เล่าว่า ฉันกินมื้อเช้า กรณีนี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต เราจึงใช้ past tense ว่า I ate breakfast.
2. โดยปกติเราคงไม่ค่อยพูดว่า ฉันกินมื้อเช้า ขึ้นมาเฉยๆ โดดๆ เพราะอาจทำให้ผู้ฟังสับสนว่าหมายถึงอะไร โดยมากจะมีคำอื่นอธิบายเสริมด้วย เช่น พูดว่า ฉันกินมื้อเช้าทุกวัน อย่างนี้เป็นลักษณะนิสัยที่ทำเป็นประจำ เป็นความจริงที่เกิดซ้ำๆ จึงใช้ present tense ว่า I eat breakfast everyday.
3. นอกเสียจากจะถูกถามขึ้นมาก่อนว่า ปกติกินมื้อเช้าไหม เราพยักหน้าตอบว่า “ฉันกินมื้อเช้า” อะแบบนี้ใช้ present tense ว่า I eat breakfast. ครับ
4. คำที่เรามักพูดบ่อยๆ น่าจะเป็น “ฉันกินมื้อเช้าแล้ว” เหตุการณ์เกิดขึ้นในอดีตเหมือนข้อ 1. ต่างกันตรงที่สิ่งที่เราจะสื่อนั้น ไม่ได้เป็นการเล่าว่าเรากิน แต่ต้องการบอกว่า ฉันได้กินมื้อเช้าเรียบร้อยแล้ว ไม่ต้องสนใจว่ากินตอนไหน เอาเป็นว่า ฉันกินมื้อเช้าแล้วก็แล้วกัน อย่างนี้ ใช้ perfect tense ครับ ถ้าเราบอกเพื่อนในปัจจุบัน ณ. จุดๆ นี้ ขณะนี้ เวลานี้ ถ้าถามว่าฉันกินมื้อเช้าหรือยัง ขอตอบว่ากินแล้ว จึงใช้ present perfect tense has/have + V.3 ว่า I have eaten breakfast.
5. ขณะที่ภาษาไทยใช้ง่ายกว่ามีรูปแบบเดียว กินก็คือกิน การมี tense ต่างๆ ในภาษาอังกฤษ ข้อดีคือช่วยทำให้มันกระจ่างขึ้น ถ้าเราเดินผ่านฝรั่งกำลังคุยกันแล้วได้ยินเขาพูดว่า
I eat breakfast. เราจะไม่งงครับ เข้าใจว่าเขาคงบอกให้อีกฝ่ายฟัง ว่าปกติเป็นคนที่ทานมื้อเช้านะ
I ate breakfast. ก็เดาได้ว่าคงกำลังเล่าเรื่องอะไรให้อีกฝ่ายฟัง ในเรื่องเล่านั้นมีช่วงจังหวะที่กินมื้อเช้ารวมอยู่ด้วย
I have eaten breakfast. ฉันกินมื้อเช้ามาแล้ว
6. เวลาพูดเรื่องรับประทานอาหารฝรั่งมักใช้คำว่า have ไม่ใช้ eat ครับ เช่น
I usually have breakfast at 8:00. ปกติแล้วฉันทานมื้อเช้าตอนแปดโมง
They had breakfast this morning. พวกเขาทานมื้อเช้าเมื่อเช้านี้
She hasn't had breakfast. เธอยังไม่ได้ทานมื้อเช้า
7. อีกกรณีนึงที่ใช้ prefect tense ได้ดีคือ สื่อว่า เคยทำเรื่องนั้นๆ มาก่อนหน้านี้บ้างไหม เช่น
Have you had breakfast at this restaurant before? คุณเคยทานมื้อเช้าที่ร้านอาหารนี้มาก่อนมั้ย
I have never had breakfast with her. ผมไม่เคยทานมื้อเช้ากับเธอมาก่อนเลย
มาดูตัวอย่าง เพิ่มเติม สมมติสถานการณ์หัวหน้าคุยกับลูกน้องในที่ทำงาน
send | sent | has/have/had sent
หัวหน้า Jane always sends the weekly report on Monday. เจนส่งรายงานประจำสัปดาห์ในวันจันทร์เสมอ (ประธานเป็นเอกพจน์ หลังเวิร์บ send ต้องเติม s นะครับ)
ลูกน้อง What time does she usually send it? ปกติแล้วเธอส่งมันตอนกี่โมง (does ใช้ร่วมกับ V.1 จึงเป็น send ไม่ต้องเติม s ครับ)
หัวหน้า I sent the data to you on Friday. ฉันส่งข้อมูลให้คุณในวันศุกร์
หัวหน้า Have you sent the weekly report? คุณส่งรายงานประจำสัปดาห์หรือยัง
(ส่งเมื่อไหร่ไม่รู้ไม่สนล่ะ ประเด็นคือ ส่งไปเรียบร้อยแล้วหรือยัง? หลายๆ คนมักใช้ตรงนี้ผิด ไปถามว่า Did you send the report? <-- แปลว่า คุณส่งรายงานไปไหม)
ต่อครับ...
ลูกน้อง Yes, I have sent the weekly report. อื้ม ฉันได้ส่งรายงานประจำสัปดาห์ไปแล้ว (ตอบสั้นๆ ว่า Yes, I have. ก็ได้ครับ)
หัวหน้า When did you send the report? คุณส่งรายงานไปเมื่อไหร่ (did ใช้ร่วมกับ V.1 จึงเป็น send ไม่ใช้ sent ครับ)
ลูกน้อง Has Jane sent it? เจนส่งมันแล้วหรือยัง
หัวหน้า Yes, she has. อื้ม เธอส่งแล้ว
ลูกน้อง Did Jane send it on Monday? เจนส่งวันจันทร์หรือเปล่า
หัวหน้า No, she did not send it on Monday. But at least she has sent it. เปล่า เธอไม่ได้ส่งในวันจันทร์ แต่อย่างน้อยเธอได้ส่งแล้ว
ลูกน้อง While I was sending it on Monday I learned that Jane
had not sent it. So I did not send on Monday. ตอนที่ฉันกำลังส่งมันในวันจันทร์ ฉันได้ทราบว่าเจนยังไม่ได้ส่ง ฉันเลยไม่ส่งในวันจันทร์
อีกเช่นกัน หลายๆ คนตรงนี้จะใช้ว่า Jane did not send it ซึ่งแปลว่าเจนไม่ได้ส่ง ยังไม่ตรงเสียทีเดียว การใช้ had not sent จะถูกต้องกว่า แปลว่าในอดีตตอนวันจันทร์ ณ. เวลานั้น เจน
ยังไม่ได้ส่ง
ต่อครับ...
ลูกน้อง When did Jane send it? เจนส่งเมื่อไหร่
หัวหน้า She sent the report on Wednesday. เธอส่งรายงานตอนวันพุธ
หัวหน้า When did you send
your report? ถึงตรงนี้หัวหน้าเน้นๆ คำว่า your พอสมควร ถามซ้ำแล้วครับ
ลูกน้อง I sent it on Tuesday. When do you normally send the summary report to the management? ฉันส่งวันอังคาร ปกติคุณส่งสรุปรายงานให้ผู้บริหารเมื่อไหร่
หัวหน้า The supervisors send it on Tuesday. This is serious. พวกหัวหน้างานเขาส่งกันวันอังคาร นี่ซีเรียสนะ
ลูกน้อง When do you normally send
your summary report? ลูกน้องเน้นคำว่า your บ้างแล้ว ถามซ้ำเหมือนกันครับ
หัวหน้า Friday. ตอบสั้นๆ แล้วรีบเดินจากไปเลยครับ พอดีปวดเข้าห้องน้ำ
ใครมีคำถามข้อสงสัยเพิ่มเติม ถามมาได้เลยนะครับ เพื่อผมจะได้ทราบว่าบทความยังต้องปรับแก้ตรงไหนบ้าง
ขอบคุณทุกท่านที่สละเวลาครับ
ฉันกินมื้อเช้า ภาษาอังกฤษพูดว่ายังไงดี?
Past vs Present vs Perfect
ฉันกินมื้อเช้า ภาษาอังกฤษพูดว่ายังไงดี?
อันนี้ต้องถามก่อนว่า พูดในสถานการณ์ไหน จะได้เลือกใช้ให้ถูก tense ครับ เช่น
1.เล่าว่าเมื่อเช้าทำนั่นทำนี่ ฯลฯ จากนั้นก็เล่าว่า ฉันกินมื้อเช้า กรณีนี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต เราจึงใช้ past tense ว่า I ate breakfast.
2. โดยปกติเราคงไม่ค่อยพูดว่า ฉันกินมื้อเช้า ขึ้นมาเฉยๆ โดดๆ เพราะอาจทำให้ผู้ฟังสับสนว่าหมายถึงอะไร โดยมากจะมีคำอื่นอธิบายเสริมด้วย เช่น พูดว่า ฉันกินมื้อเช้าทุกวัน อย่างนี้เป็นลักษณะนิสัยที่ทำเป็นประจำ เป็นความจริงที่เกิดซ้ำๆ จึงใช้ present tense ว่า I eat breakfast everyday.
3. นอกเสียจากจะถูกถามขึ้นมาก่อนว่า ปกติกินมื้อเช้าไหม เราพยักหน้าตอบว่า “ฉันกินมื้อเช้า” อะแบบนี้ใช้ present tense ว่า I eat breakfast. ครับ
4. คำที่เรามักพูดบ่อยๆ น่าจะเป็น “ฉันกินมื้อเช้าแล้ว” เหตุการณ์เกิดขึ้นในอดีตเหมือนข้อ 1. ต่างกันตรงที่สิ่งที่เราจะสื่อนั้น ไม่ได้เป็นการเล่าว่าเรากิน แต่ต้องการบอกว่า ฉันได้กินมื้อเช้าเรียบร้อยแล้ว ไม่ต้องสนใจว่ากินตอนไหน เอาเป็นว่า ฉันกินมื้อเช้าแล้วก็แล้วกัน อย่างนี้ ใช้ perfect tense ครับ ถ้าเราบอกเพื่อนในปัจจุบัน ณ. จุดๆ นี้ ขณะนี้ เวลานี้ ถ้าถามว่าฉันกินมื้อเช้าหรือยัง ขอตอบว่ากินแล้ว จึงใช้ present perfect tense has/have + V.3 ว่า I have eaten breakfast.
5. ขณะที่ภาษาไทยใช้ง่ายกว่ามีรูปแบบเดียว กินก็คือกิน การมี tense ต่างๆ ในภาษาอังกฤษ ข้อดีคือช่วยทำให้มันกระจ่างขึ้น ถ้าเราเดินผ่านฝรั่งกำลังคุยกันแล้วได้ยินเขาพูดว่า
I eat breakfast. เราจะไม่งงครับ เข้าใจว่าเขาคงบอกให้อีกฝ่ายฟัง ว่าปกติเป็นคนที่ทานมื้อเช้านะ
I ate breakfast. ก็เดาได้ว่าคงกำลังเล่าเรื่องอะไรให้อีกฝ่ายฟัง ในเรื่องเล่านั้นมีช่วงจังหวะที่กินมื้อเช้ารวมอยู่ด้วย
I have eaten breakfast. ฉันกินมื้อเช้ามาแล้ว
6. เวลาพูดเรื่องรับประทานอาหารฝรั่งมักใช้คำว่า have ไม่ใช้ eat ครับ เช่น
I usually have breakfast at 8:00. ปกติแล้วฉันทานมื้อเช้าตอนแปดโมง
They had breakfast this morning. พวกเขาทานมื้อเช้าเมื่อเช้านี้
She hasn't had breakfast. เธอยังไม่ได้ทานมื้อเช้า
7. อีกกรณีนึงที่ใช้ prefect tense ได้ดีคือ สื่อว่า เคยทำเรื่องนั้นๆ มาก่อนหน้านี้บ้างไหม เช่น
Have you had breakfast at this restaurant before? คุณเคยทานมื้อเช้าที่ร้านอาหารนี้มาก่อนมั้ย
I have never had breakfast with her. ผมไม่เคยทานมื้อเช้ากับเธอมาก่อนเลย
มาดูตัวอย่าง เพิ่มเติม สมมติสถานการณ์หัวหน้าคุยกับลูกน้องในที่ทำงาน
send | sent | has/have/had sent
หัวหน้า Jane always sends the weekly report on Monday. เจนส่งรายงานประจำสัปดาห์ในวันจันทร์เสมอ (ประธานเป็นเอกพจน์ หลังเวิร์บ send ต้องเติม s นะครับ)
ลูกน้อง What time does she usually send it? ปกติแล้วเธอส่งมันตอนกี่โมง (does ใช้ร่วมกับ V.1 จึงเป็น send ไม่ต้องเติม s ครับ)
หัวหน้า I sent the data to you on Friday. ฉันส่งข้อมูลให้คุณในวันศุกร์
หัวหน้า Have you sent the weekly report? คุณส่งรายงานประจำสัปดาห์หรือยัง
(ส่งเมื่อไหร่ไม่รู้ไม่สนล่ะ ประเด็นคือ ส่งไปเรียบร้อยแล้วหรือยัง? หลายๆ คนมักใช้ตรงนี้ผิด ไปถามว่า Did you send the report? <-- แปลว่า คุณส่งรายงานไปไหม)
ต่อครับ...
ลูกน้อง Yes, I have sent the weekly report. อื้ม ฉันได้ส่งรายงานประจำสัปดาห์ไปแล้ว (ตอบสั้นๆ ว่า Yes, I have. ก็ได้ครับ)
หัวหน้า When did you send the report? คุณส่งรายงานไปเมื่อไหร่ (did ใช้ร่วมกับ V.1 จึงเป็น send ไม่ใช้ sent ครับ)
ลูกน้อง Has Jane sent it? เจนส่งมันแล้วหรือยัง
หัวหน้า Yes, she has. อื้ม เธอส่งแล้ว
ลูกน้อง Did Jane send it on Monday? เจนส่งวันจันทร์หรือเปล่า
หัวหน้า No, she did not send it on Monday. But at least she has sent it. เปล่า เธอไม่ได้ส่งในวันจันทร์ แต่อย่างน้อยเธอได้ส่งแล้ว
ลูกน้อง While I was sending it on Monday I learned that Jane had not sent it. So I did not send on Monday. ตอนที่ฉันกำลังส่งมันในวันจันทร์ ฉันได้ทราบว่าเจนยังไม่ได้ส่ง ฉันเลยไม่ส่งในวันจันทร์
อีกเช่นกัน หลายๆ คนตรงนี้จะใช้ว่า Jane did not send it ซึ่งแปลว่าเจนไม่ได้ส่ง ยังไม่ตรงเสียทีเดียว การใช้ had not sent จะถูกต้องกว่า แปลว่าในอดีตตอนวันจันทร์ ณ. เวลานั้น เจนยังไม่ได้ส่ง
ต่อครับ...
ลูกน้อง When did Jane send it? เจนส่งเมื่อไหร่
หัวหน้า She sent the report on Wednesday. เธอส่งรายงานตอนวันพุธ
หัวหน้า When did you send your report? ถึงตรงนี้หัวหน้าเน้นๆ คำว่า your พอสมควร ถามซ้ำแล้วครับ
ลูกน้อง I sent it on Tuesday. When do you normally send the summary report to the management? ฉันส่งวันอังคาร ปกติคุณส่งสรุปรายงานให้ผู้บริหารเมื่อไหร่
หัวหน้า The supervisors send it on Tuesday. This is serious. พวกหัวหน้างานเขาส่งกันวันอังคาร นี่ซีเรียสนะ
ลูกน้อง When do you normally send your summary report? ลูกน้องเน้นคำว่า your บ้างแล้ว ถามซ้ำเหมือนกันครับ
หัวหน้า Friday. ตอบสั้นๆ แล้วรีบเดินจากไปเลยครับ พอดีปวดเข้าห้องน้ำ
ใครมีคำถามข้อสงสัยเพิ่มเติม ถามมาได้เลยนะครับ เพื่อผมจะได้ทราบว่าบทความยังต้องปรับแก้ตรงไหนบ้าง
ขอบคุณทุกท่านที่สละเวลาครับ