ประสบการณ์จากลูกค้าเข้าสู่เจ้าของแบรนด์

ทุกวันนี้แบรนด์ครีม แบรนด์เครื่องสำอางค์มีเยอะมากจนลูกค้าเลือกไม่ถูกจะใช้ตัวไหน แต่นิสัยของคนไทยบางคนคือชอบลองของถูกๆ ครีมไหนที่ถูกลูกค้าจะซื้อเยอะ สบู่ไหนที่ถูกลูกค้าจะซื้อใช้เยอะ เจ้าของแบรนด์ก็เลยจับจุดลูกค้าถูกว่าต้องทำสินค้าให้ราคาถูกไว้ก่อน ขายราคาแข่งกัน แบรนด์ไหนขายราคาถูก แบรนด์นั้นจะขายดีและรวยไว คุณภาพช่างมัน ทำสินค้าให้เป็นกระแสดังๆไว้ก่อนจ้างคนที่มีคนติดตามเยอะๆมาถือสินค้า ให้ผ่านหูผ่านตา ลูกค้าก็จะมาสั่งเพราะลูกค้าชอบคิดว่าของราคาถูกดีก็ใช้ต่อ ไม่ดีก็แค่หยุดใช้ ซื้อใช้แค่2-3ครั้ง ลูกค้าชอบคิดแบบนี้ของถูกใช้ไม่ดี ก็ไม่เสียดายเงินราคาแค่ไม่กี่บาท คน1ล้านคนคิดแบบนี้ เจ้าของแบรนด์เลยรวยเอา แค่ทำสินค้าให้ดังเข้าไว้ จ้างคนสวยๆมายืนถือ (แต่ไม่ได้ใช้นะค่ะคนที่ยืนถืออ่ะ) แล้วตัวแทนก็สต๊อกสินค้าแข่งกันกัน เอาเงินไปลงทุนเป็นแสนๆแรกๆเจ้าของแบรนด์จะลงทุนกับสินค้าเพื่อให้ตลาดติด ใส่ส่วนผสมแบบไม่กั๊ก ให้คนได้ลอง พอนานๆไปสินค้าติดตลาดก็จะลดต้นทุนลดสารสกัดให้ราคาวัตถุดิบถูกลง คุณภาพไม่ต้องพูดถึง คนไหนที่บอกว่าที่เขาขายถูกเพราะเขาไม่ต้องการอะไรเลย ขายไม่ได้กำไร ไม่มีคัยขายแล้วไม่เอากำไรหรอกค่ะถ้าคิดจะลงทุนแล้วก็ต้องเอากำไรทุกคนค่ะ เมื่อก่อนเราจะชอบของถูกมากเพราะเป็นคนขี้งก ซื้อมาลองเพราะคิดว่าเงินไม่กี่บาท ลองๆดูก่อน แต่ตอนนี้มารักษาสิวหมดเป็นหมื่น ครีมทาหน้าราคาถูกๆขอแนะนำอย่าซื้อเลย อะไรที่ใช้กับหน้าเรา ของถูกแบบนั้นไม่รู้เขาเอาอะไรมาผลิตให้เราใช้ ทำไมถึงกล้าขายราคาถูกได้ เหมือนเห็นอีกแบรนด์หนึ่งผ่านหูผ่านตา เปิดบิลครีมทาหน้า10กระปุ๊กขาดอีกไม่กี่บาทก็2พัน แถมแหวนให้1วง ราคาแหวนก็ตีไปเลย1กรัม1,800บาทเชื่อเห๊อะไม่มีคัยขายแล้วจะขาดทุนหรอกค่ะ ที่เหลือก็ต้นทุน100กว่าบาท ต้นทุน10กระปุ๊กตกกระปุ๊กล่ะ10กว่าบาทไหนจะค่ากล่อง ค่าสติ๊กเกอร์ค่ากระปุ๊กอีก คุณภาพครีมต่ำมาก จะใช้ดีหรอ? คิดเอาเองนะค่ะ ครีมต้นทุนกระปุ๊กล่ะ10บาท เขาเอาอะไรมาทำให้หน้าเราใช้ (อย่าใช้เพราะเขาแถมทองให้เลยมันไม่คุ้มหรอก) ทองที่เราได้ ก็เงินที่เราเอาไปเปิดบิลนั้นแหละ เขาคิดคำนวณหมดแล้วว่าเขาจะไม่ขาดทุน สังเกตไหมการตลาดทุกแบรนด์เหมือนๆกัน คือจ้างเน็ตไอดอลคนเดียวกันให้โฆษณาให้ แล้วตัวแทนบางคนยอมลงทุนเอาที่ดินไปจำนองเพื่อลงทุนขายครีมเห็นเขาถ่ายรูปรถ ถ่ายรูปเงิน ถ่ายรูปทองเป็นกองๆๆ อยากมีบ้าง ตัดสินใจเอาเงินก้อนไปลงทุน สุดท้ายขายไม่ได้ เพราะคนได้ลองแล้วไม่เห็นผลจริงตามที่โฆษณา พอขายไม่ได้ทุนก็จม พอทุนจมเอาไปขายให้ถูกกว่าราคาปลีก ก็โดนเจ้าของแบรนด์ด่า มากกว่านั้นก็โดนประจานว่าขายของปลอมทั้งที่รับมาจากแบรนด์โดยตรง สุดท้ายทำอะไรไม่ได้ก็ได้แต่นั่งมอง เอาไปแจกก็ไม่มีคนเอา เลยกลัวการลงทุนตลอดไป จะลงทุนสินค้าตัวไหนก็โดนแฟนและครอบครัวซ้ำเติม  เราก็เป็นเจ้าของแบรนด์ที่ลูกค้ามาพูดแบบนี้หลายคน อยากขายสินค้าเราแต่กลัวทุนจมเพราะเคยมีบทเรียน เราจะบอกเค้าเสมอว่าไม่ต้องลงทุนเยอะ ถ้าอยากขายจิงให้ลงทุนซื้อใช้เองดูก่อน ก่อนขายต้องใช้เองก่อน ขอบอกเลยนะค่ะว่าแบรนด์เราไม่จ้างเน็ตไอดอล ไม่จ้างคนดัง ไม่จ้างคนสวย หลายๆๆคนเลยกลัวที่จะลงทุน ขนาดแบรนด์ที่ผ่านมาจ้างคนดังทุนยังจมของยังอยู่ ของยังอยู่เต็มขายไม่ออก แล้วแบรนด์เล็กๆแบบเราล่ะ ไม่จ้างใครเลยจะขายได้หรอ แบรนด์เราเป็นแบรนด์เล็ก ไม่ใหญ่ แต่การตลาดเราคือใจแลกใจกับลูกค้า เอาคุณภาพดีไว้ก่อน เราถึงได้ใจลูกค้าหลายๆคนมาถึงทุกวันนี้ ก่อนที่เราจะขายสินค้า เราเคยโดนคนอื่นด่า เคยโดนคนอื่นว่าไปไม่รอด เพราะเราเป็นเจ้าของแบรนด์ที่ขี้เหร่ ไม่สวย ไม่รวย และไม่มีคนรู้จักเลยเหตุผลที่เรามาเลือกทำแบรนด์เพราะว่าก่อนหน้านี้เราเคยหมดเงินมากับสินค้ากระแสมาเยอะแล้วใช้อะไรก็ไม่เห็นผล ของถูกก็แล้ว ของแพงก็แล้ว ทำไมไม่เห็นผลสักที ทุกแบรนด์จะให้คำตอบแบบเดิมๆเหมือนกันคือให้ใช้ไปเรื่อยๆเดี่ยวก็เห็นผลจะยี่ห้อไหนก็คำตอบนี้เหมือนเดิม ตอนนั้นเลยตัดสินใจอยากทำแบรนด์คือถ้าใช้ไม่เห็นผลงั้นเราทำเองเลย เราก็ไปสรรหา ในเพจ ในกูเกิ้ลว่าโรงงานรับทำแบรนด์สบู่ที่ได้มาตรฐานผ่าน GMP ขึ้นมาเยอะมาก เราก็ไปสอบถาม โรงงานที่เราเลือกที่ว่าโอเคมี4โรงงานเราก็ไปถามโรงงานแรกพี่ค่ะเราต้องลงทุนอะไรยังไงหนูไม่เคยใช้ หนูอยากใช้สินค้าที่เห็นผลจริง เราก็เข้าไปถามโรงงานทางโรงงานก็บอกเราว่าลงทุน2,000บาท อันนี้คือสบู่นะค่ะ ให้ราคิดชื่อสินค้า คิดราคาอยากขายเท่าไหร่เลือกได้เลย คิดแพคแกจมาอยากได้แบบไหน เราคิดในใจเห้ยมันดีอ่ะลงทุนแค่2,000บาท ได้เป็นเจ้าของแบรนด์แล้ว เราก็ไปถามโรงงานที่2ว่าต้องทำไงค่ะ โรงงานที่2ก็บอกว่าลงทุน1,800บาท ได้เป็นเจ้าของแบรนด์เหมือนโรงงานที่1เลยถูกกว่าแค่200บาท ได้สบู่ไป100ก้อนก็ได้เป็นเจ้าของแบรนด์แล้ว เราก็ไปถามโรงงานที่3 ที่4แล้วตัดสินใจ คือมีเงินเดินไปจ่ายตังค์เขาก็เป็นเจ้าของแบรนด์ได้แล้วแถมลงทุนน้อยด้วย แต่แฟนไม่โอเคทั้ง4โรงงาน เพราะแฟนบอกว่าถ้าทำแบบนี้ก็เหมือนกับสบู่ทั่วไปที่ขายเกลื่อนตามท้องตลาด เปลื่อนคือชื่อ ราคา แพคแกต แค่นี้เองแล้วก็ขาย ลูกค้าก็ต้องเลือกแบรนด์ที่ใหญ่กว่าเรา เจ้าของแบรนด์ที่สวย รวย ดัง เราก็จะขายไม่ได้ เราจะทำแบรนด์ เราควรทำเฉพาะแบบของเราที่ไม่เหมือนใคร นี้ถึงเรียกว่าแบรนด์ เราก็กลับไปถามทั้ง4โรงงานว่ารับทำเฉพาะสูตรของแบรนด์เราไหม คือเราไม่อยากเอาให้เหมือนใคร โรงงานตอบกลับมาว่าน้องค่ะ ทางเราไม่สามารถทำสูตรของลูกค้าได้ เราทำให้เฉพาะสูตรของเราเท่านั้น เหตุผลถ้าพี่ทำสูตรของน้องขึ้นมาแล้วน้องขายไม่ออกขายไม่ได้ คัยจะเอาต่อจากน้อง
นอกจากเททิ้งไปแต่ถ้าเอาสูตรของโรงงานคือถ้าแบรนด์น้องเจ๋งสูตรเราก็สามารถให้คนอื่นได้ สูตรนี้ใช้กันทุกคน ที่มาทำแบรนด์ก็เป็นสูตรเดียวกันทั้งหมดอยู่ที่น้องจะไปทำตลาดได้ไหม แค่นี้เองตอนนั้นก็ถอดใจแล้วเพราะคิดว่ามันง่าย ซื้อเขาใช้ดีกว่า แต่ความพยายามแฟนก็ไม่ลดลง ยังสรรหา จากคนที่ติดเกม กลับมาหาข้อมูลวิธิทำสบู่ หาสูตรที่ต้องการและไปดูกล่องสบู่ ที่เราเคยซื้อมาใช้ หลายยี่ห้อว่ามีส่วนผสมอะไรที่ตรงกันบ้าง เพราะเราเป็นคนชอบสะสมกล่องไว้ แฟนนั่งจด และนั่งหาข้อมูลเป็นเดือน ส่วนเราก็ไปสรรหาโรงงานที่รับทำสูตรเฉพาะของเรา จนเจอโรงงานที่5 เราก็ไปถามว่ารับทำสบู่สูตรของเราไหม โรงงานก็ปฏิเสธทันทีว่าไม่รับ เราเลยพูดว่าโรงงานที่5แล้วหรอ จากนั้นโรงงานเมตตา เลยตัดสินใจมาพูดมาคุย และอธิบาย และโรงงานก็เปิดโอกาศให้เราได้ทำ แต่โรงงานจะให้เราซื้อวัตถุดิบเอง โรงงานแค่รับผลิตเฉยๆ โรงงานถามเราก่อนเลยว่า จะทำใช้เองหรือทำขาย แฟนเลยพูดว่าแฟนผมเป็นคนที่ดำมากแล้วอยากขาวไปหามาสารพัดวิธี ทำอย่างไรก็ไม่ขาวสักที จนอยากมาทำเองใช้เอง โรงงานบอกเราว่าถ้าจะทำใช้เองให้ซื้อสารสกัดที่ดีๆซึ่งโรงงานจะมีพื้นฐานในด้านนี้อยู่แล้วเค้าก็แนะนำว่าอันไหนควรใส่ ไม่ควรใส่ อันไหนมีผลเสีย หรือไม่มีผลเสียแต่ด้วยความขี้งกของเรา เราเลยบอกว่าอยากได้ต้นทุนที่ถูกแล้วดีไว้ก่อน โรงงานก็บอกเราว่าของดีราคาถูกไม่มีหรอก แฟนเราเป็นคนที่ชอบของดีมีคุณภาพดี เห็นผลจิง แฟนเลยบอกว่าผมเอาดีไว้ก่อนคับเพราะผมต้องใช้เอง โรงงานก็แนะนำสารสกัดที่ดี และเราเอาเงินทั้งชีวิตก้อนสุดท้ายไปลงทุนทองก็เอาไปขาย ลงทุนเป็นแสน เพราะวัตถุดิบที่ซื้อมา ต้นทุนสูงทั้งนั้น จากนั้นก็ขึ้นไปโรงงาน ไปคุยกันทางโรงงานยิ่งเอ็นดูพวกเรา ตอนนั้นคิดจะเดินหน้าให้เต็มที่ พอได้สูตรเสร็จก็ไปยื่นขอ อย. 3รอบ กว่าจะผ่าน เพราะสูตรใหม่ต้องยื่นขอ อย. พอผ่านแล้วก็ทำการผลิตสบู่มาขายก่อน ตอนนั้นทั้งดีใจและตื่นเต้น ความคิดฉันต้องแบบว่าฉันจะซื้อบ้านหลังโต ซื้อรถยนต์มาจอดเล่นๆ ฉันจะรวยพอทีนี้เอามาขาย เราไม่มีคนรู้จักแถวนี้ เพราะเราไม่ใช่คนที่นี้เราเช่าห้องเล็กๆอยู่2ผัวเมีย เราก็ทำการโพสเฟสขายของ โพสทุกวัน ไม่คนซื้อเขาบอกไม่รู้จัก และเราขี้เหร่ มีคนด่าตามหลังเราว่าขี้เหร่แบบนี้ขายเครื่องสำอางค์ จะขายได้หรอ พอเราโพสของที่เอามาก็ขายไม่ได้ เงินที่ลงทุนไปก็อยู่กับกองสบู่ตอนนั้นเครียดท้อมาก เลยตัดสินใจไปเสนอร้านเครื่องสำอางค์โดนร้านเครื่องสำอางค์ด่ากลับมาว่าสบู่เอาไปล้างตีนจะสะอาดไหม ทำไมเจ้าของแบรนด์ขี้เหร่จัง เจ็บใจมาก ตอนนั้นหมดหนทางเลย เออลืมบอกว่าสบู่เราขายก้อนล่ะ150บาท บางคนอาจจะว่าแพงแต่สารสกัดเราใส่ไม่กั๊ก เพราะเป็นสูตรของเราเอง ใช้แล้วเห็นผลจะมีอยู่2ประเภท ประเภทที่1สินค้าที่เจ้าของแบรนด์ไม่มีจรรยาบันคือใส่สารอันตราย เวลาฟอกผิวจะแห้ง ประเภทที่2คือเจ้าของแบรนด์มีจรรณยาบรรณคือไม่ห่วงวัตถุดิบที่จะใส่ลงไปเพื่อให้สินค้าออกมาดี เพราะถ้าเป็นสูตรของโรงงานโรงงานจะห่วงใส่ให้ทีล่ะนิดให้มันค่อยๆขาว แล้วข้อดีก็คือลูกค้าจะใช้ของเราไปเรื่อยๆ เราก็จะเอาคำพูดแบบว่าใช้เรื่อยๆเดี๋ยวก็ขาว ไม่มีสินค้าตัวไหนที่ใช้แล้วเห็นผลเลยหรอก คำหากินของแบรนด์ต่างๆมักจะพูดแบบนี้ เพื่อให้ลูกค้ามาซื้อสินค้าไปเรื่อยๆ แล้วคนที่ได้คือเจ้าของแบรนด์ ถามว่าใช้เห็นผลไหม เห็นค่ะ แต่กว่าจะเห็นผลคุณหมดไปกี่บาทแล้วค่ะ สินค้าเราไม่ใช้ฟอกปุ๊บขาวจั๊วเลยนะค่ะ มันแค่ใสขึ้น เพราะเราใส่สารสกัดไม่มีกั๊ก ต่อเลยเน๊อะเราเอาไปขายก็ขายไม่ออกขายไม่ได้ เพราะคนบอกไม่รู้จัก 2เดือนเรายอมแพ้ แล้วตัดสินใจเดินแจกให้คนทั้งตลาดใช้ สินค้าต่อให้ดีแค่ไหน ถ้าการตลาดไม่ดีก็ดับ แต่สินค้าไม่ดีแค่จ้างคนดังถือสินค้าก็จะขายดีคนในตลาดเห็นความเปลี่ยนแปลงของเราเลยทัก เราก็แจกให้ใช้ พอเอาไปใช้แล้วสิวหาย ฝ้าหาย กระหาย รูขุมขนเริ่มกระชับคนในตลาดมาเคาะประตูสั่งอีก แต่ขอราคาถูก เราเลยบอกให้เอา10ก้อนเดี่ยวขายให้ก้อนล่ะ90บาท จากนั้นคนในตลาดก็เริ่มมาใช้เยอะ ดีใจมาก วันหนึ่งขายได้10ก้อนดีใจสุดๆ ก็เริ่มมีคนรู้จัก แล้วบอกต่อๆกันแต่ไม่ได้ขายแบบวื้อหวา ขายได้ทีล่ะนิด จากนั้นมีคนเอาไปใช้แล้วใช้ดีเลยตัดสินใจมาขอเป็นสปอนเซอร์สนับสนุนเงินให้ เพราะอยากให้สินค้าบ้านตัวเองมีคนรู้จัก ตอนนี้คือล้มแล้วอ่ะ เหมือนมีคนมาพยุงให้ลุกขึ้นดีใจมาก สปอนเซอร์ก็เรียกไปคุยรายละเอียด คนที่สนับสนุนสินค้าเรารู้จักเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ที่หลายๆคนที่มีคนเคารพมาก และจากนั้นสปอนเซอร์ก็แนะนำบอกต่อ คนก็เริ่มมาดีใจสุดๆ ตอนนี้เราขายที่คุณภาพจากแบรนด์เล็ก ตอนนี้มีคนติดต่อเอาลงร้านเครื่องสำอางค์ใหญ่ๆ ร้านที่ด่าเราวันนั้นก็มาติดต่อเอาลง ทุกวันนี้รับสินค้าไปเดือนล่ะ10,000ชิ้นดีใจมากๆ และเราก็พัฒนาสูตรมาโดยตลอด เค้าสนับสนุนแบบว่าคนไหนซื้อแล้วได้ลุ้นรางวัล ลุ้นโทรศัพท์ เงินสด ทอง กล้องฟรุ้งฟริ้ง ฟูจิ และรางวัลอื่นๆๆอีกมากมาย ซึ่งเขาจะเป็นคนจ่าย ให้และเขาก็ได้ไปแนะนำให้คนที่รู้จักมาช่วยสนับสนุนซึ่งมีหลายท่านที่สนับสนุน ดีใจมากเลยแบรนด์เราอยู่ได้1ปีกว่าแล้วตอนนี้ อยู่ด้วยคุณภาพมั่นใจจนลูกค้าเรียกร้องให้ทำครีมทาผิว ทำครีมทาหน้า และกันแดด เพราะเขาไม่อยากเปลี่ยนใจใช้สินค้าตัวอื่น คือบางคนไปซื้อสินค้าตัวอื่นใช้ไม่เคยได้อะไรกลับมาเต็มที่ก็แค่ราคาถูก แต่สินค้าเราเพิ่มเงินอีกนิดแล้วได้ลุ้นรางวัล เผลอๆดวงดีแกะไปเจอไอโฟน จ่ายแค่150บาทได้ขนาดนี้ ส่วนกล่องที่ไม่ได้รางวัลเราก็ให้ส่งมาชิงโชคเอาทองได้ทุกเดือน แจกให้ทุกคนที่ส่งมา ส่งมาเท่าไหร่ได้กลับไปตามจำนวนที่ส่ง ถ้าเดือนนี้เราจับไม่ได้เดือนต่อไปก็เอาไว้จับอีก คือส่งมาเท่าไหร่ได้กลับไปตามที่ส่งอ่ะพูดแบบง่ายๆ เพราะเราคิดว่าเอาเงินที่จ้างเน็ตไอดอล เอามาแจกลูกค้าดีกว่า เราทำแบบนี้มาปีกว่า ยอดขายเพิ่มขึ้น เรายอมรับว่าเราไม่ใช่คนดัง ไม่ใช่คนสวย แต่เราจะไลฟ์สดทุกวันให้ลูกค้าดู แต่คนดูเราเยอะสุดก็10คน คือเยอะมากของเรา ทุกครั้งเราจะไลฟ์สดใช้สินค้าเราให้เขาดู ต่อให้ไม่มีคนดูเราก็จะไลฟ์เพราะมันเป็นช่องทางเดียวของเรา การไลฟ์สดเราจะไม่เมค ไม่ตัดต่อ อะไรทั้งสิ้น และไม่มีแบรนด์ไหนที่ทำแบบเราหรอก ลูกค้าสั่งให้ทำอะไรเราก็ทำ เหมือนฟอกสบู่เราก็จะฟอกแขนด้านหนึ่ง อีกด้านไม่ฟอกแล้วเทียบให้ดู ลูกค้าก็จะให้เราเอาผ้าเช็ด ยืนตรงนั้น ทำแบบนี้ เราก็จะทำตามหมดถึงแม้คนที่สั่งไม่ซื้อ เราก็จะทำ เราทำแบบนี้ทุกวัน จนเราโดนคนอื่นด่าว่าเราบ้าไม่มีคนดูก็มาฟอกมาถูให้ดูเพื่ออะไร แต่เราก็ยังทำทุกวันนะ เพราะมันเป็นช่องทางเดียว ทุกวันนี้เรามีตัวแทน500กว่าคน เราก็ยังโพสสินค้า เราก้ยังทำเหมือนเดิม
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่