ถ้าวิกฤตต้มยำกุ้ง ป้องกันได้ด้วยการเข้มงวดการปล่อยกู้ แล้ววิกฤตต้มกบ จะป้องกันด้วยวิธีอะไร ?


มีคำเตือนจากนักวิชาการที่น่าสนใจว่าจะเป็น “วิกฤตกบต้ม”
เหมือนกบอยู่ในน้ำกำลังต้ม แต่กบปรับอุณหภูมิตัวเองช้าๆ ตามน้ำ
ซึ่งไม่รู้ตัวว่าตัวเองกำลังจะตาย จนน้ำเดือดกบตัวนั้นก็จะตาย

ทำนองเดียวกับเศรษฐกิจไทย เศรษฐกิจเติบโตช้าลง หลายอุตสาหกรรมปรับตัวไม่ทัน
กับการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี โดยเฉพาะสิ่งทอ อิเล็กทรอนิกส์ อย่างฮาร์ดดิสก์
และรถยนต์ จะถูกรถยนต์ไฟฟ้ามาแทนที่

หากไม่ปรับตัว ไทยก็ไม่สามารถแข่งขันได้และตายในที่สุดเหมือน “กบต้ม”

เป็นคำเตือนที่เห็นภาพชัดเจน เพราะ “ทฤษฎีกบต้ม” หรือ The Boiling Frog Theory
นั้นถูกนำมาเปรียบเทียบกับพฤติกรรมของคนหรือองค์กรที่ไม่ปรับตัวเอง อยู่ใน comfort zoneเดิม ๆ
ของตนเพราะน้ำอุ่น ๆ สบายดีโดยไม่ตระหนักว่าอุณหภูมิของน้ำนั้นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนถึงจุดเดือด

พอถึงจุดเดือดก็ช้าเกินไปเสียแล้วที่กบจะกระโดดหนีได้ทัน
ต้องตายด้วยน้ำเดือดเพราะตั้งต้วไม่ทันเมื่อสถานการณ์เข้าสู่วิกฤต หรือ the frog being boiled alive.

เครดิต ดร.สุทธิกร กิ่งแก้ว ผอ.ศูนย์ให้คำปรึษาและพัฒนาผู้บริหารทางธุรกิจ มธ.

แล้ว bojungnarak รู้มากขนาดไหน ทำไมไม่อธิบาย แต่ดันมาห้ามคนอื่นโพส
มีสิทธิอะไรมาห้าม คนแบบนี้มันจะอายมากกว่าคนที่ไม่รู้แต่ถามนะ

bojungnarak คงเหมือนนิทาน คางคกขึ้นวอ หรือ กบในกะลา

แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 10
อ่านความเห็นบางคนแล้ว
จขกท.ช่างคนอื่นๆเถอะครับ

เราต้องระวังตัวเราเป็นพอ
เดี๋ยวพอเกิดอะไร ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนเท่านั้น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่