[CR] ปากน้ำประแส มนต์เสน่ห์แห่งระยอง

กระทู้รีวิว
สวัสดีครับเพื่อนๆชาวพันทิป วันหยุดสุดสัปดาห์เชื่อว่าหลายคนมองหาที่ท่องเที่ยวเพื่อที่จะพักผ่อนร่างกายและจิตใจที่เหน็ดเหนื่อยจากการทำงาน ส่วนเรื่องสถานที่นั้น จะใกล้จะไกลก็แล้วแต่ความสะดวกของแต่ละคนครับ ส่วนรีวิวนี้ผมได้มีโอกาสมาเที่ยวระยองอีกครั้งเพราะเป็นจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวเยอะมากครับและอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯด้วย และครั้งนี้ผมก็เลือกมาที่ปากน้ำประแสครับ เป็นทริป 2 วัน 1 คืน ผมคิดว่าเป็นสถานที่ที่ครบเครื่องเรื่องเที่ยวอีกที่หนึ่งของจังหวัดระยองเลยก็ว่าได้ มันจะครบเครื่องยังไงไปชมรีวิวกันเลยครับ

การเดินทาง : จากกรุงเทพฯ – ปากน้ำประแส ระยะทางประมาณ 200 กิโลเมตร ผมขับรถส่วนตัวไปครับ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมงครับ โดยเริ่มจากขึ้นมอเตอร์เวย์ กรุงเทพฯ-ชลบุรีสายใหม่ ขับไปเรื่อยๆจนถึงด่านเก็บเงิน พานทอง แล้วเตรียมแยกซ้าย จะมีป้าย บ้านบึง-แกลง ขับไปตามเส้น 344 เพื่อมุ่งหน้าไปอำเภอแกลง จนถึงทางหลวงหมายเลข 3 เลี้ยวซ้ายไปทางจันทบุรี ขับตรงไปประมาณ 15 นาที จะถึงไฟแดงสามแยกประแสร์ เลี้ยวขวาไปตามถนนหมายเลข 3162 พอถึงสี่แยกไฟแดงขับตรงไปอีก ตอนนี้เราจะอยู่บนถนนหมายเลข 4036 หรือถนนเฉลิมบูรพาชลทิต ขับไปประมาณ 5 นาที จะเห็นป้ายกุ๊กกิ๊กโฮมสเตย์ เลี้ยวขวาเข้าซอยเทศบาล2 ไปเลยครับ ตรงเข้าไปนิดเดียวก็จะถึงที่พักของเราครับ

ที่พัก : กุ๊กกิ๊ก โฮมสเตย์ ต้อนรับเราเป็นอย่างดีครับ ที่นี่ตั้งอยู่ในชุมชนปากน้ำประแส ใกล้แหล่งท่องเที่ยว จึงสะดวกในการเดินทางไปยังที่ต่างๆ และพึ่งปรับปรุงใหม่ สภาพห้องสวยและสะอาดมากครับ
ตัวอาคารนี้ชั้นบนจะแบ่งเป็นห้องพักและชั้นล่างจะเป็นโซนที่นั่งพักผ่อน มีเพลงเพราะๆเปิดให้ฟังทั้งวันครับ
โซนที่นั่งพักผ่อนด้านล่างอากาศถ่ายเทสะดวกดีครับ ลมพัดเย็นสบาย พร้อมกับเสียงเพลงคลอเบาๆ มีชา กาแฟและโอวัลตินไว้บริการฟรีด้วยครับ และทางเจ้าของบอกกับเราว่าโซนนี้พึ่งเปิดให้บริการจึงดูโล่งๆเพราะยังอยู่ในช่วงปรับปรุงครับ
ที่นี่มีสามล้อไว้บริการนักท่องเที่ยวด้วยนะครับ

สถานที่ท่องเที่ยว : ถนนบ้านเก่าริมน้ำ เป็นถนนที่มีวิถีชีวิต และเรือนไม้เก่าๆให้เราได้สัมผัสกับบรรยากาศที่เรียบง่าย ไม่มีความวุ่นวายใดๆมากวนใจ (ถนนนี้อยู่ติดกับที่พักของเราเลยครับ)
ร้านขายยาที่หาดูได้ยากในปัจจุบัน
ร้านตัดผมที่เรียบง่าย
เดินมาสักพักก็ถึงพิพิธภัณฑ์ปากน้ำประแส ในนี้มีประวัติและรูปภาพเก่าๆของชุมชนปากน้ำประแสให้เราได้ศึกษากัน
หลังจากเดินชมถนนบ้านเก่าริมน้ำ ต่อด้วยการนั่งสามล้อพาไปสถานที่ต่างๆ นั่งกินลมชมวิว สะดวกสบายมากครับ เพราะสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆอยู่ไม่ไกลกันครับ

วัดตะเคียนงาม : ที่วัดนี้มีต้นตะเคียนสูงตระหง่าน อายุกว่า500ปี เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านในชุมชนและคนภายนอกต่างให้ความเคารพศรัทธา และมีศาลเจ้าแม่ตะเคียนให้ผู้คนที่มาเยือนได้สักการะกันอีกด้วย

คลองแสมผู้ : สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองปากน้ำประแสเสร็จแล้ว ก็มานั่งเรือชมความสวยงามของคลองแสมผู้ที่เต็มไปด้วยต้นโกงกาง ลัดเลาะไปตามป่าชายเลนขนาดใหญ่
ล่องเรือมาจนถึงบริเวณปากอ่าว จะเห็นกำแพงกันคลื่นที่ทำจากไม้ไผ่ยาวไปจนสุดสายตา และได้ดื่มด่ำบรรยากาศยามเย็นที่สวยงาม
วิถีชาวประมงระหว่างล่องเรือกลับ

ตลาดถนนคนเดิน : ตลาดนี้มีช่วงเวลาประมาณ 5 โมงเย็นจนถึงประมาณ 2 ทุ่ม บนถนนบ้านเก่าริมน้ำ จะมีทุกเสาร์-อาทิตย์ต้นเดือนครับ มีร้านค้าและร้านอาหารให้เลือกมากมายเลยครับ
จบทริปสำหรับวันแรกของผมด้วยอาหารเย็นที่ร้านเจ๊หน่องแซ่บเวอร์ ติดริมน้ำ อร่อยและราคาไม่แพงครับ
ตื่นเช้ามาพบกับอาหารเช้าที่ดูเรียบง่ายแต่อร่อย ข้าวต้มทะเลเนื้อแน่นเต็มคำ เสริฟพร้อมกับปาท่องโก๋และโอวัลติน โดยทางที่พักได้เตรียมไว้ให้บริการอย่างเต็มที่
น้ำซุปกระดูกหมู สีทอง กลิ่นหอมน่ากิน (ไม่มีอยู่ในเซ็ตอาหารนะครับ) ทางเจ้าของดูแลเราอย่างดีครับ เข้ามาพูดคุยอย่างเป็นกันเองครับ เลยยกถ้วยนี้มาให้เรา และได้สอบถามจากทางเจ้าของถ้าใครที่ชอบสามารถขอได้ครับ  

สะพานประแสสิน : หลังจากเติมพลังด้วยอาหารเช้าแสนอร่อยไปแล้ว ก็เดินทางกันต่อครับ ชมวิวจากสะพานประแสสินที่เป็นสะพานข้ามปากน้ำประแสที่มีความยาวประมาณ 2 กิโลเมตร
ท่าเรือประมงเรียงรายสองฝั่งน้ำ

วัดสมมติเทพฐาปนาราม : แวะสักการะพระบรมรูปหล่อรัชกาลที่ 5 วัดซึ่งได้รับพระบรมราชโองการจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) โปรดเกล้าให้สร้างวัดนี้ขึ้นเมื่อครั้งเสด็จประพาสเมืองชายทะเลฝั่งตะวันออก และขึ้นประทับฝั่งแหลมสนใกล้เจดียสถาน

จุดชมวิวแหลมสน : เป็นจุดชมวิวและเป็นสถานที่พักผ่อน อยู่บริเวณปากน้ำประแส และอยู่ตรงกันข้ามกับวัดสมมติเทพฐาปนารามครับ
นั่งพักผ่อนในร่มของต้นสนที่เรียงราย ลงเดินเล่นตามชายหาดสวยๆ มองดูผู้คนทำกิจกรรมเพลินตา

อนุสรณ์เรือหลวงประแส : เป็นความภาคภูมิใจของชาวปากน้ำประแส ที่ได้มีส่วนร่วมในการก่อตั้งอนุสรณ์เรือหลวงประแส ถือได้ว่าเป็นเรือหลวงที่เคยมีความสำคัญในประวัติศาสตร์ สามารถเดินขึ้นชมภายในเรือได้อย่างใกล้ชิด บนดาดฟ้าเรือเป็นจุดชมวิวมุมสูงที่มองเห็นปากน้ำประแสได้อย่างชัดเจน เปิดให้บริการฟรีทุกวันครับ

สะพานเดินชมป่าชายเลน : เป็นสะพานไม้ทอดยาวลัดเลาะไปตามแนวต้นโกงกาง พาดผ่านไปยังทุ่งโปรงทอง ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร ทางเข้าตั้งอยู่บริเวณอนุสรณ์เรือหลวงประแสครับ
เดินชมธรรมชาติและยังได้เรียนรู้ระบบนิเวศขนาดใหญ่กันอย่างเต็มอิ่ม
ระหว่างการเดินยังสามารถเห็นกำแพงกันคลื่นที่ทอดยาว

ทุ่งโปรงทอง : เดินมาจนถึงไฮไลท์ของเราครับ เมื่อพ้นซุ้มเงาจากต้นโกงกาง ก็ได้พบกับภาพทุ่งสีทองเหลืองอร่าม เต็มไปด้วยต้นโปรงกระทบกับแสงอาทิตย์ยามเย็น เห็นแล้วหายเหนื่อยไปเลยครับ
ทุ่งโปรงทองสามารถเข้าได้ 2 เส้นทางครับ คือ เดินตามสะพานไม้จากอนุสรณ์เรือหลวงประแส แต่ถ้าใครไม่อยากเดินหรือเดินไม่ไหวก็จะมีสามล้อไว้บริการมาส่งตรงทางเข้าที่อยู่ใกล้กับจุดลงเรือชมคลองแสมผู้ครับ จากจุดนี้เดินตามสะพานไม้เข้าไปประมาณ 300 เมตรก็จะถึงทุ่งโปรงทองแล้วครับ

ศาลกรมหลวงชุมพรฯ : ก่อนกลับแวะไปสักการะศาลกรมหลวงชุมพรฯ ที่ตั้งอยู่ใกล้ๆกับที่พักของเราครับ ภายในศาลประดิษฐานรูปหล่อเท่าองค์จริงของพลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ พระบิดาแห่งกองทัพเรือไทย

จบทริปการท่องเที่ยวของผม 2 วัน 1 คืน ครั้งนี้ก็มีโอกาสได้รีวิวเป็นครั้งแรกครับ ผิดถูกอย่างไรก็ขออภัยด้วยครับ ผมแค่อยากแบ่งปันสิ่งดีๆที่ได้พบจากการท่องเที่ยว ผมคิดว่าสถานที่ท่องเที่ยวแต่ละที่มีเสน่ห์ในตัวมันเองครับ และผมก็หวังว่ารีวิวจะเป็นทางเลือกในการท่องเที่ยวครั้งต่อไปของเพื่อนๆ ได้มาสัมผัสกับวิถีชีวิตพื้นถิ่นเชิงอนุรักษ์ และยังเป็นเมืองที่มีสภาพอากาศดีที่สุดในระยองอีกด้วยครับ....ประแส ต้องลอง!!!

ส่วนครั้งหน้าถ้ามีโอกาสผมจะมาแบ่งปันให้เพื่อนๆได้ชมกันอีกครับ สวัสดีครับ
ชื่อสินค้า:   ปากน้ำประแส สถานที่ที่ต้องบอกต่อ
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่