ขอตั้งกระทู้ซ้ำ กระทู้ก่อนหน้าตั้งไว้ดึกไปหน่อย เผื่อมีผู้ลงทุนเข้ามาแสดงความเห็น
https://ppantip.com/topic/36662460

หลังจากศาลชั้นต้นได้พิพากษาให้กองทุนชนะคดีแล้ว ผู้เช่าจะสู้คดีต่อแต่ก็ขอไกล่เกลี่ยให้ยุติคดีความด้วยข้อเสนอที่เอาเปรียบกองทุน(ผู้ลงทุน)อย่างมาก
หนี้ค่าเช่ารวมค่าปรับค้างจ่ายถึงตอนนี้ 348 ล้าน เสนอจ่ายแค่ 97 ล้านแล้วจะเช่าต่อในราคาถูกด้วย

ไม่ควรรับข้อเสนอการยุติความเพราะจะทำให้ผู้ลงทุนเสียหายอย่างมาก ถ้าสู้กันต่อผู้เช่าก็ต้องแพ้อยู่ดี ต้องจ่ายค่าเช่ารวมค่าปรับอีก 7.5% เพิ่มขึ้นไปตามระยะเวลา ไม่ต้องไปหาผู้เช่าใหม่ด้วย ถ้าแบกรับไหวก็ปล่อยให้สู้คดีต่อ

บริษัทต้น เติ้ง โซลาร์ ที่ถือหน่วยลงทุนมากถึง 31% นั้นเป็นกลุ่มเดียวกับผู้เช่าหรือเปล่า ริเริ่มจัดประชุมแล้วผลักดันให้ยอมรับเงื่อนไขที่ผู้เช่าจะกลับมาได้เปรียบใช่หรือไม่

บลจ. CIMB เองก็คล้ายจะเห็นด้วยหรือไม่ แล้วการที่ไปประเมินใส่ค่าดำเนินการทางกฎหมายค่าทนายแพงๆในอีกหลายๆปีในกรณีสู้คดีต่อ ทำให้เหลือเงินที่ชนะน้อยลงนั้นอาจทำให้ผู้ถือหน่วยอยากจะยอมความยุติเรื่องหรือเปล่า ค่าทนายต่างๆโดยทั่วไปผู้แพ้ต้องเป็นผู้จ่ายใช่หรือไม่

ไม่แน่ใจว่าเป็นความเห็นที่ถูกต้องหรือเปล่า ผู้ลงทุนคิดอย่างไรกันบ้าง

เทียบกับ 3 กองที่เสี่ยเจริญซื้อคืน ถึงแม้เสี่ยจะให้ราคาดี แต่ผจก.กองทุนยังชี้แนะว่าไม่ควรขายเพราะจะเสียเปรียบขาดทุนกำไรจากราคาตลาด

สำหรับ TNPF เงื่อนไขที่เอาเปรียบขูดรีดผู้ถือหน่วยขนาดนี้ ผจก.ยังแสร้งบอกว่าต้องทำตัวเป็นกลาง แล้วแต่ความเห็นของผู้ถือหน่วย แถมทำข้อมูลให้ดูเหมือนว่าถ้าสู้ต่อไปจะเสียเวลาและได้ผลตอบแทนไม่คุ้มค่า

อย่างที่บอกไว้ข้างบน ผู้เช่าที่ไม่ยอมจ่ายค่าเช่ายังไงก็ต้องแพ้ ไหนๆก็สู้มาจนจะชนะขาดอยู่แล้ว ควรจะรวมตัวกันไม่รับข้อเสนอของผู้เช่า อีกทั้งผู้เช่าใหม่ที่ผจก.กองทุนหาเตรียมไว้ก็กดราคาค่าเช่าจนต่ำติดดินจึงไม่ควรรับรองผลการประชุมครั้งที่ผ่านมาด้วย

บริษัทจัดการกองทุน CIMB ยังไงก็ได้รับค่าธรรมเนียมแต่ผู้จัดการกองทุนกลับไม่ชี้แนะรายย่อยจึงดูไม่โปร่งใส

ถ้ารายย่อยและรายใหญ่ที่เหลือไม่ยอมรับ ผู้เช่าก็ไม่สามารถเอาเปรียบผู้ลงทุนได้