ความรัก ความสับสน ความจริง
จากกระทู้เดิม >>หมอจีบผู้แทนยา (แฟนผม)<<
แอคเคาท์เดิมเข้าไม่ได้นะครับ
เดิมคือ ผมกับแฟนเราอายุ28ปีเท่ากัน คู่เราเป็นคู่ ช/ช ผมเป็นพนักงานมหาวิทยาลัย แฟนผมเป็นผู้แทนยา แล้วหมอที่เป็นลูกค้า ดันมาไลน์จีบแฟนผม แต่แฟนผมก็ไม่ได้ปกป้องตัว ไม่บอกหมอว่ามีแฟนแล้ว เราเลยทะเลาะกัน สุ่มเสี่ยงว่าอาจจะเลิกกัน
หลังจากผมกับแฟนเราเคลียร์เรื่องหมอมาจีบแฟน แล้วแฟนก็ไม่ได้มีท่าทีที่จะปกป้องตัวเอง และความสัมพันธ์ของคำว่าแฟนแล้ว ผมได้ข้อสรุปเรื่องระหว่างแฟนผมกับหมอที่มาจีบแฟนผมดังนี้
-แฟนผมขอให้ผมไว้ใจเขามากขึ้น เพราะไม่มีอะไรในกอไผ่ทั้งนั้นระหว่างเขากับหมอที่มาจีบ เขาไม่ได้คิดอะไร ส่วนถ้าหมอคิดเขาก็ห้ามไม่ได้
- แฟนผมจะรักษาความสัมพันธ์กับหมอแบบนี้ไว้ เพราะทำให้เขาขายของได้ แต่ถ้าอนาคตหมอจะจีบจริงๆจังๆ ถ้าหมอถามว่ามีแฟนมั้ย เขาจะบอกว่า มี แต่ปัจจุบันหมอจีบแบบเบาๆ หยอดหน่อยๆ ยังไม่เคยบอกว่า คิดถึง อะไรแบบนี้
-ถ้าในอนาคตมีหมอหรือลูกค้าเข้ามาในลักษณะนี้ เขาก็จะรักษาความสัมพันธ์แบบนี้อีก เพราะเขาทำงานง่ายขึ้น
พอเราเคลียร์เรื่องหมอที่มาจีบเสร็จ แล้วแฟนผมเขาก็ขอเลิกกับผมอีกครั้ง เหตุผล คือ
-ตอนนี้เขายังรักผม และขอให้เราจบการเป็นแฟนด้วยกันแบบดีๆ ยังเป็นเพื่อนกันได้
-ผมไม่ไว้ใจเขา ทำให้มีปัญหาหึงหวงกันเรื่อยๆ ซึ่งเขาเหนื่อยมากที่ต้องมาคอยอธิบาย
-เวลาเขาจะทำอะไรก็ไม่ต้องคอยมาเกรงใจแฟน กลัวว่าทำแล้วแฟนจะเสียใจ ไม่อยากต้องมาคอยแคร์ความรู้สึกแฟน อยากปลดภาระความคาดหวังจากแฟน เช่น จะไปเที่ยวกับเพื่อนก็ไม่ต้องคอยรายงาน ไม่ต้องคอยมาตอบไลน์ ไม่ต้องกลัวว่าแฟนจะน้อยใจ เขาไม่เคยเปิดตัวแฟน ไม่เที่ยวกันก็ไม่เคยลงรูป ต่อให้เป็นรูปกลุ่มถ้ามีเราก็ไม่ลง ไม่รับtag เขาคิดว่าพวกนี้คือภาระที่เขาต้องรับผิดชอบความคาดหวัง ความรู้สึกจากแฟน
จริงๆถ้าเป็นคนอื่น เขาอาจจะปล่อยแฟนคนนี้ไปเลย ในเมื่อเหตุการณ์มันส่อชัดเจนขนาดนี้ว่าเขาไม่ได้รักผมมากพอที่จะชัดเจน แต่ผมอ่อนแอครับ ผมขอโอกาสเขาคบต่อ เขายังไม่ให้คำตอบ ณ ตอนนั้น เขาขอเวลา ผมรู้ทั้งรู้ว่าเขาไม่ได้รักผมเท่าเดิมแล้ว เพราะถ้าคนมันยังรัก มันมีคำตอบให้เลย โดยไม่ต้องลังเล ไม่ต้องคิด แต่ผมยอมเป็นคนตาบอด ผมยอมเป็นหมากให้เขาเดิน การพิสูจน์ความรักไม่ใช่การยอมเจ็บ เพราะความรักจริงๆมันจะไม่ต้องมีใครเจ็บ
ผ่านไป2วัน เขาให้คำตอบว่า เรากลับมาคบเป็นแฟนกันเหมือนเดิม
ถามถึงว่ากลับเป็นแฟนกันเหมือนเดิม แล้วการกระทำความรู้สึกเหมือนเดิมหรือไม่ ส่วนตัวผมยังเหมือนเดิม เพราะผมยังรัก ส่วนตัวเขาแน่นอนว่าเปลี่ยนไปแล้ว คือคนคบกันมาจะ3ปี มีอะไรเปลี่ยนไปแม้นิดหน่อยมันก็รู้ เคยมีคนบอกผมว่า คนเราคบกัน2คนต่อให้ทะเลาะกันแค่ใหน มันก็ไม่เลิกกัน แต่ถ้าวันนึงใครคนนึงดึงคนที่3เข้ามา วันนั้นแหล่ะที่ต้องมีคนไป ผมว่าคู่ผมกำลังประสบเรื่องนี้อยู่
ผมเหมือนหลอกตัวเอง มันก็เลยจะสับสนหน่อย ตอนนี้ความคิดผมแยกเป็น2ทาง
ทางแรก เป็นแบบคนที่เชื่อใจแฟนสุดๆ ไว้ใจสุดๆ คิดว่าสิ่งที่แฟนพูดเป็นเรื่องจริง เขาคุยกับหมอแบบนั้นเพราะเบเนฟิต ไม่ได้เกินเลย
ทางที่สอง เป็นแบบเชื่อชาตญาณ ตามประสบการณ์ ผมก็เคยมีแฟนมา พอเป็นแนวลักษณะนี้ แน่นอนต้องแอบคุยกับหมอแน่นอน และรอดูท่าทีหมอด้วยว่าหมอจะจริงจัง หรือจะหยอกไก่ เพราะถ้าหมอจะมาจีบ แฟนผมก็ต้องเปิดทางให้หมอจีบ ไม่งั้นหมอจะกล้าเข้ามาเหรอ
ดังนั้น ผมสับสนมากครับว่าจะเชื่อแบบใหนดี แล้วพอดีพึ่งเรื่องทำให้โอนเอียงไปทางที่สองอีก เวลาแฟนผมเข้าบริษัทประจำเดือน เขาจะมาขึ้นเครื่องที่พื้นที่บ้านผม แต่จะไม่ใช่พื้นที่เขตทำงานของเขา ทีนี้แฟนพึ่งโทรมาบอกว่า เวลาเข้าบริษัท ทางบริษัทให้ไปขึ้นเครื่องในพื้นที่เขตของตัวเอง ประจวบเหมาะว่าเป็นพื้นที่เดียวกับ รพ. ที่หมออยู่พอดี อะไรจะเหมาะทำให้ใจหวิวๆได้ขนาดนี้
ทั้งนี้ทั้งนั้น ตอนนี้ผมเริ่มทำใจไว้แล้วส่วนหนึ่งว่า คนเราถ้ารักกันมันต้องรักษาใจกันกว่านี้ 80%รักนี้ต้องจบแน่นอน นี่อาจจะเป็นการเลิกอย่างมีศิลปะของเขาก็ได้ ค่อยๆเฟดออก เฟดออก ตอนนี้ระหว่างที่เฟดออกจากผม เขาอาจจะไปเริ่มใหม่กับหมอก็ได้ แต่ถ้าทั้งหมดทั้งมวลนี้ผมคิดผิด แล้วสิ่งที่แฟนผมพูดมันจริงทั้งหมดตามที่เขาอธิบาย อย่างน้อยก็ดีไป ที่ยังไม่มีใครเข้ามา แต่ถามว่าพอมีเรื่องนี้มันเสียเวลารักดีๆมั้ย ก็เสีย แต่อย่างน้อยก็ได้คะแนนว่า ผ่าน จากบททดสอบชีวิตคู่นี้ แต่ถามว่าเสียใจมั้ยถ้าต้องเลิกกันจริงๆ ต่อให้เตรียมใจไว้ มันก็เสียใจอยู่ดี แต่ไม่เสียดายเลยแม้แต่น้อย เพราะในขณะรักผมก็รักเต็มที่เหมือนกัน เอาจริงๆ ณ ตอนนี้ถ้าเขาสองคนจะคบกันจริงๆ ผมอยากให้แฟนผมบอกผมตรงๆมากกว่าว่า ขอเลิกนะ เพราะอยากไปคบกับหมอ อย่างน้อยมันก็ไม่ได้หลอกผม ความรักของผมไม่ได้มีค่าอะไรกับเขาแล้ว ของใหม่มันดีกว่า ใหม่กว่า แต่ไม่รู้ว่ามันจะยั่งยืนหรือเปล่า เป้าหมายที่เรามีด้วยกันว่าจะคบกันไปจนแก่ก็คงไม่เกิดขึ้น อย่าดิ้นรนจนไม่เหลือใครเลยที่รัก ในวันนี้เธอมีความรักที่เธอได้โดยที่ไม่ต้องร้องขอ ที่ผ่านมาเธอเห็นทุกอย่างว่ารักจากผมคืออะไร เธอเองที่เป็นคนบอกว่าโชคดีที่เจอคนที่รักเธอจริง เธอก็อย่าต้องไปร้องขอจากที่อื่นเลย จำได้มั้ยวันที่เธออยากจะคบกัน เราบอกเธอว่าเราไม่อยากคบผู้แทนยา มันมีโอกาสเจอคนเยอะ คนจะเข้ามาเยอะ เราไม่อยากเสียใจ ไม่อยากจบในตอนที่เริ่มแล้ว แล้วเธอว่าไง จำได้มั้ย คนที่มันเจ้าชู้ ทำอาชีพอะไรก็เจ้าชู้ จริงๆผู้แทนยาอ่ะหาแฟนยากนะ จำได้รึเปล่าที่เคยพูดอะไรไว้ กลับมาเถอะครับ อย่าต้องให้ไปถึงจุดที่กลับไม่ได้จะไปก็ไม่ถึง
รักเสมอครับ
คนที่ยอมตาบอดเพราะความรักที่ไม่ได้รับการเห็นค่า
ความรัก ความสับสน ความจริง
จากกระทู้เดิม >>หมอจีบผู้แทนยา (แฟนผม)<<
แอคเคาท์เดิมเข้าไม่ได้นะครับ
เดิมคือ ผมกับแฟนเราอายุ28ปีเท่ากัน คู่เราเป็นคู่ ช/ช ผมเป็นพนักงานมหาวิทยาลัย แฟนผมเป็นผู้แทนยา แล้วหมอที่เป็นลูกค้า ดันมาไลน์จีบแฟนผม แต่แฟนผมก็ไม่ได้ปกป้องตัว ไม่บอกหมอว่ามีแฟนแล้ว เราเลยทะเลาะกัน สุ่มเสี่ยงว่าอาจจะเลิกกัน
หลังจากผมกับแฟนเราเคลียร์เรื่องหมอมาจีบแฟน แล้วแฟนก็ไม่ได้มีท่าทีที่จะปกป้องตัวเอง และความสัมพันธ์ของคำว่าแฟนแล้ว ผมได้ข้อสรุปเรื่องระหว่างแฟนผมกับหมอที่มาจีบแฟนผมดังนี้
-แฟนผมขอให้ผมไว้ใจเขามากขึ้น เพราะไม่มีอะไรในกอไผ่ทั้งนั้นระหว่างเขากับหมอที่มาจีบ เขาไม่ได้คิดอะไร ส่วนถ้าหมอคิดเขาก็ห้ามไม่ได้
- แฟนผมจะรักษาความสัมพันธ์กับหมอแบบนี้ไว้ เพราะทำให้เขาขายของได้ แต่ถ้าอนาคตหมอจะจีบจริงๆจังๆ ถ้าหมอถามว่ามีแฟนมั้ย เขาจะบอกว่า มี แต่ปัจจุบันหมอจีบแบบเบาๆ หยอดหน่อยๆ ยังไม่เคยบอกว่า คิดถึง อะไรแบบนี้
-ถ้าในอนาคตมีหมอหรือลูกค้าเข้ามาในลักษณะนี้ เขาก็จะรักษาความสัมพันธ์แบบนี้อีก เพราะเขาทำงานง่ายขึ้น
พอเราเคลียร์เรื่องหมอที่มาจีบเสร็จ แล้วแฟนผมเขาก็ขอเลิกกับผมอีกครั้ง เหตุผล คือ
-ตอนนี้เขายังรักผม และขอให้เราจบการเป็นแฟนด้วยกันแบบดีๆ ยังเป็นเพื่อนกันได้
-ผมไม่ไว้ใจเขา ทำให้มีปัญหาหึงหวงกันเรื่อยๆ ซึ่งเขาเหนื่อยมากที่ต้องมาคอยอธิบาย
-เวลาเขาจะทำอะไรก็ไม่ต้องคอยมาเกรงใจแฟน กลัวว่าทำแล้วแฟนจะเสียใจ ไม่อยากต้องมาคอยแคร์ความรู้สึกแฟน อยากปลดภาระความคาดหวังจากแฟน เช่น จะไปเที่ยวกับเพื่อนก็ไม่ต้องคอยรายงาน ไม่ต้องคอยมาตอบไลน์ ไม่ต้องกลัวว่าแฟนจะน้อยใจ เขาไม่เคยเปิดตัวแฟน ไม่เที่ยวกันก็ไม่เคยลงรูป ต่อให้เป็นรูปกลุ่มถ้ามีเราก็ไม่ลง ไม่รับtag เขาคิดว่าพวกนี้คือภาระที่เขาต้องรับผิดชอบความคาดหวัง ความรู้สึกจากแฟน
จริงๆถ้าเป็นคนอื่น เขาอาจจะปล่อยแฟนคนนี้ไปเลย ในเมื่อเหตุการณ์มันส่อชัดเจนขนาดนี้ว่าเขาไม่ได้รักผมมากพอที่จะชัดเจน แต่ผมอ่อนแอครับ ผมขอโอกาสเขาคบต่อ เขายังไม่ให้คำตอบ ณ ตอนนั้น เขาขอเวลา ผมรู้ทั้งรู้ว่าเขาไม่ได้รักผมเท่าเดิมแล้ว เพราะถ้าคนมันยังรัก มันมีคำตอบให้เลย โดยไม่ต้องลังเล ไม่ต้องคิด แต่ผมยอมเป็นคนตาบอด ผมยอมเป็นหมากให้เขาเดิน การพิสูจน์ความรักไม่ใช่การยอมเจ็บ เพราะความรักจริงๆมันจะไม่ต้องมีใครเจ็บ
ผ่านไป2วัน เขาให้คำตอบว่า เรากลับมาคบเป็นแฟนกันเหมือนเดิม
ถามถึงว่ากลับเป็นแฟนกันเหมือนเดิม แล้วการกระทำความรู้สึกเหมือนเดิมหรือไม่ ส่วนตัวผมยังเหมือนเดิม เพราะผมยังรัก ส่วนตัวเขาแน่นอนว่าเปลี่ยนไปแล้ว คือคนคบกันมาจะ3ปี มีอะไรเปลี่ยนไปแม้นิดหน่อยมันก็รู้ เคยมีคนบอกผมว่า คนเราคบกัน2คนต่อให้ทะเลาะกันแค่ใหน มันก็ไม่เลิกกัน แต่ถ้าวันนึงใครคนนึงดึงคนที่3เข้ามา วันนั้นแหล่ะที่ต้องมีคนไป ผมว่าคู่ผมกำลังประสบเรื่องนี้อยู่
ผมเหมือนหลอกตัวเอง มันก็เลยจะสับสนหน่อย ตอนนี้ความคิดผมแยกเป็น2ทาง
ทางแรก เป็นแบบคนที่เชื่อใจแฟนสุดๆ ไว้ใจสุดๆ คิดว่าสิ่งที่แฟนพูดเป็นเรื่องจริง เขาคุยกับหมอแบบนั้นเพราะเบเนฟิต ไม่ได้เกินเลย
ทางที่สอง เป็นแบบเชื่อชาตญาณ ตามประสบการณ์ ผมก็เคยมีแฟนมา พอเป็นแนวลักษณะนี้ แน่นอนต้องแอบคุยกับหมอแน่นอน และรอดูท่าทีหมอด้วยว่าหมอจะจริงจัง หรือจะหยอกไก่ เพราะถ้าหมอจะมาจีบ แฟนผมก็ต้องเปิดทางให้หมอจีบ ไม่งั้นหมอจะกล้าเข้ามาเหรอ
ดังนั้น ผมสับสนมากครับว่าจะเชื่อแบบใหนดี แล้วพอดีพึ่งเรื่องทำให้โอนเอียงไปทางที่สองอีก เวลาแฟนผมเข้าบริษัทประจำเดือน เขาจะมาขึ้นเครื่องที่พื้นที่บ้านผม แต่จะไม่ใช่พื้นที่เขตทำงานของเขา ทีนี้แฟนพึ่งโทรมาบอกว่า เวลาเข้าบริษัท ทางบริษัทให้ไปขึ้นเครื่องในพื้นที่เขตของตัวเอง ประจวบเหมาะว่าเป็นพื้นที่เดียวกับ รพ. ที่หมออยู่พอดี อะไรจะเหมาะทำให้ใจหวิวๆได้ขนาดนี้
ทั้งนี้ทั้งนั้น ตอนนี้ผมเริ่มทำใจไว้แล้วส่วนหนึ่งว่า คนเราถ้ารักกันมันต้องรักษาใจกันกว่านี้ 80%รักนี้ต้องจบแน่นอน นี่อาจจะเป็นการเลิกอย่างมีศิลปะของเขาก็ได้ ค่อยๆเฟดออก เฟดออก ตอนนี้ระหว่างที่เฟดออกจากผม เขาอาจจะไปเริ่มใหม่กับหมอก็ได้ แต่ถ้าทั้งหมดทั้งมวลนี้ผมคิดผิด แล้วสิ่งที่แฟนผมพูดมันจริงทั้งหมดตามที่เขาอธิบาย อย่างน้อยก็ดีไป ที่ยังไม่มีใครเข้ามา แต่ถามว่าพอมีเรื่องนี้มันเสียเวลารักดีๆมั้ย ก็เสีย แต่อย่างน้อยก็ได้คะแนนว่า ผ่าน จากบททดสอบชีวิตคู่นี้ แต่ถามว่าเสียใจมั้ยถ้าต้องเลิกกันจริงๆ ต่อให้เตรียมใจไว้ มันก็เสียใจอยู่ดี แต่ไม่เสียดายเลยแม้แต่น้อย เพราะในขณะรักผมก็รักเต็มที่เหมือนกัน เอาจริงๆ ณ ตอนนี้ถ้าเขาสองคนจะคบกันจริงๆ ผมอยากให้แฟนผมบอกผมตรงๆมากกว่าว่า ขอเลิกนะ เพราะอยากไปคบกับหมอ อย่างน้อยมันก็ไม่ได้หลอกผม ความรักของผมไม่ได้มีค่าอะไรกับเขาแล้ว ของใหม่มันดีกว่า ใหม่กว่า แต่ไม่รู้ว่ามันจะยั่งยืนหรือเปล่า เป้าหมายที่เรามีด้วยกันว่าจะคบกันไปจนแก่ก็คงไม่เกิดขึ้น อย่าดิ้นรนจนไม่เหลือใครเลยที่รัก ในวันนี้เธอมีความรักที่เธอได้โดยที่ไม่ต้องร้องขอ ที่ผ่านมาเธอเห็นทุกอย่างว่ารักจากผมคืออะไร เธอเองที่เป็นคนบอกว่าโชคดีที่เจอคนที่รักเธอจริง เธอก็อย่าต้องไปร้องขอจากที่อื่นเลย จำได้มั้ยวันที่เธออยากจะคบกัน เราบอกเธอว่าเราไม่อยากคบผู้แทนยา มันมีโอกาสเจอคนเยอะ คนจะเข้ามาเยอะ เราไม่อยากเสียใจ ไม่อยากจบในตอนที่เริ่มแล้ว แล้วเธอว่าไง จำได้มั้ย คนที่มันเจ้าชู้ ทำอาชีพอะไรก็เจ้าชู้ จริงๆผู้แทนยาอ่ะหาแฟนยากนะ จำได้รึเปล่าที่เคยพูดอะไรไว้ กลับมาเถอะครับ อย่าต้องให้ไปถึงจุดที่กลับไม่ได้จะไปก็ไม่ถึง
รักเสมอครับ
คนที่ยอมตาบอดเพราะความรักที่ไม่ได้รับการเห็นค่า