บน บาน (ลืม) ศาล ทวง !

...ความเชื่อของคนไทยส่วนหนึ่งที่ไม่เคยเลือนหายไปเลย แม้กาลเวลาจะผ่านไปนานกี่ชั่วยาม นั่นคือ การ บนบานกับสิ่งศักสิท ตามศาลต่างๆ เพราะคิดว่าสิ่งนี้จะช่วยให้ประสบความสำเร็จได้ตามใจหวัง...

ใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็แล้วแต่ แต่สำหรับ 'มะปราง' เธอคนนี้ไม่เชื่อเลย แต่ก็ไม่ได้ลบหลู่

แต่แล้วท้ายสุดก็มีเหตุที่ทำให้เธอต้องพึ่งสิ่งๆนี้ สิ่งที่เธอไม่เคยคิดที่จะขอความช่วยเหลือ

มะปรางเรียนจบชั้นมัธยมปลาย และต้องสอบเข้ามหาลัย ด้วยคณะที่มะปรางใฝ่ฝันอยากจะเข้าเรียนนั้น คะแนนต้องสูงพอควร แต่คะแนนที่เธอมีอาจจะน้อยไปและอาจจะไม่พอ ถึงแม้ยื้นได้แต่อาจจะไม่ติด

มะปรางทุกข์ใจมาก เธอจึงนำเรื่องนี้มาบ่นกับเพื่อนในกรุ๊ปไลน์ของเย็นวันหนึ่ง เพื่อนสาวที่เชื่อและนับถือเกี่ยวกับสิ่งเร้นลับ แนะนำมะปรางให้มาที่นี้ทันที

ศาลหลักเมืองประจำจังหวัดที่เธออยู่

ตอนแรกมะปรางขัดขืนและปฏิเสธเพราะเธอไม่เชื่อเรื่องพวกนี้ แต่สุดท้ายเธอก็ยอมเพราะมองอีกด้านเธอก็แอบหวัง รวมทั้งเพื่อนในกลุ่มต่างเชียร์ให้เธอลอง

" มันได้จริงเหรอวะแก"
"เอออเชื่อเถอะ มีคนสำเร็จมานักต่อนักแล้ว"
"บรรยากาศมันดูแปลกๆนะ"
"ตอนเช้าไง คนไม่เยอะ รีบเข้าไปกันเถอะ"

มะปรางมาที่ศาลแห่งนี้กับเพื่อนสนิทที่ชื่อ 'เฟิร์น' ที่นับถือและเชื่อเกี่ยวกับสิ่งพวกนี้

"อะ ธูป 10 ดอก เดี๋ยวแกเอาไปจุดไฟตรงโน้นนะ"

เฟิร์นยื้นธูปให้เพื่อนสาวก่อนแนะนำให้ไปจุดไฟ มะปรางทำตามที่เพื่อนบอกอย่าง เก้ๆกังๆ

"แล้วทำไงต่ออ่ะแก"
"ตั้งสมาธิพร้อมอธิฐานเลยนะ บอกไปว่าจะเอาอะไรมาแก้"
"แค่นี้ช้ะ"
"อ่าาห้ะ"

มะปรางหันมาใช้สมาธิกับการบนบานเธอหลับตาและอธิฐานในใจ

'ถ้าหนูสอบได้คณะที่หวัง หนูจะนำน้ำแดงมาถวายทันทีที่ผลออก'

อธิฐานเสร็จสรรพเธอก็นำธูปไปปักไว้ตรงกระถาง
หลังจากเสร็จสิ้นการบนบาน มะปรางรู้สึกโล่งใจเพราะเหมือนเธอเริ่มมั่นใจขึ้นมานิดหน่อย แม้จะมีกังวลแต่ก็ไม่มาก

แต่มะปรางจะรู้รึเปล่าว่าการบนบานครั้งนี้ของเธอ จะมีผลกระทบทีหลัง

หลังจากนั้นไม่นานเธอก็สอบติดและรอสัมภาษ และเป็นอย่างที่คิดมะปรางสัมภาษผ่านและได้เข้าเรียนคณะที่หวังไว้ เธอดีใจมาก มากซะจนลืมว่ามีสิ่งที่เธอไปขอให้ช่วยเอาไว้

มะปรางเริ่มใช้ชีวิตเฟรชชี่ไปเรื่อยๆ จนกระทั้งกลางปี นับหลังจากวันครบรอบวันเกิดของเธอ เธอเริ่มรู้สึกแปลกๆ

คืนหนึ่งมะปรางหลับแล้วฝัน ในฝันเหมือนมีชายแก่ๆ ใส่ชุดสีขาวคล้ายๆ มีหนวดเครา มาพูดกับเธอว่า 'ทำไมไม่ทำตามที่พูด' มะปรางสัมผัสได้ถึงอารมณ์โกรธที่แฝงอยู่ในค่ำพูด เธอสะดุ้งตื่นขึ้นมา ก่อนจะกดเปิดจอโทรศัพท์ บอกเวลาตี 2

พอตอนเช้ามะปรางนึกถึงความฝัน พลางถามตัวเองว่า เธอไปพูดอะไรกับใครไว้ แต่ก็นึกไม่ออก เธอเลยเลิกสนใจ หลังจากคืนนั้นก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

แต่หลายวันต่อมา มีสิ่งหนึ่งเกิดขึ้นกับมะปรางซึ่งมันทำให้เธอต้องพบคำตอบ

เวลาหนึ่งทุ่มมะปรางเดินกลับหอพักตัวเอง ระหว่างทางที่มีแสงไฟเลือนลาง มะปรางเดินเล่นโทรศัพท์ไปเรื่อยๆ แล้วต้องเดินผ่านหอพักอีกหอที่อยู่ใกล้ๆกับที่พักของเธอ

ไม่รู้อะไรดลใจให้มะปรางมองขึ้นไปบนดาดฟ้าของหอพักนั้น เธอมองขึ้นไปเห็นผู้ชายแก่ๆ ผมเผ้ารุงรัง เสื้อผ้าขาดๆ คล้ายกับพวกขอทานที่อยู่ตรงสะพานลอย

เธอเผลอสบตาเข้ากับขอทานนั้น และไม่กี่วินาทีร่างนั้นก็ตกวูบลงมาข้างล่าง แค่พริบตาเดียว มะปรางกรี๊ดสุดเสียง ก่อนจะวิ่งไปตรงจุดที่เห็นชายคนนั้นตกลงมา

แต่เธอกลับพบแค่ความว่างเปล่า ไม่มีร่างใครอยู่ตรงนั้น เธอยืนนิ่งน้ำตาคลอด้วยตกใจ

"หนูลูกเป็นอะไรจ้ะ!!"

มะปรางสะดุ้งหลุดจากภวังค์ เมื่อมีผู้หญิงรุ่นป้ามาเรียกเธอ ด้วยท่าทางตกใจ มะปรางปาดน้ำตาก่อนจะเล่าเหตุการณ์ให้ป้าคนนั้นฟัง โดยทราบภายหลังว่าคือเจ้าของหอพัก

"หนูคงตาฝาดแหละจ้ะ แต่ป้าว่าหนูน่าจะไปทำบุญบ้างนะ หน้าตาดูหมองๆ เหมือนคนมีเคราะห์"

มะปรางตกใจนิดหน่อยที่โดนป้าทักแบบนั้น เอาเข้าจริงๆ ช่วงนี้เธอเหมือนมีอะไรในใจสักอย่าง แต่แค่ไม่รู้ว่าคืออะไร

คืนนั้นมะปรางเข้านอนตามปกติ ประมาณกลางดึก
เธอได้ยินเสียงเหมือนใครเคาะกระจกระเบียง ทำให้เธอต้องลืมตาขึ้นมาดู และเธอก็ต้องหลับตาลงอีกครั้ง เมื่อสิ่งที่อยู่ตรงระเบียงคือ ชายแก่ๆ ที่เธอเห็นตรงดาดฟ้า!!

หน้าตาดุๆ ผมเผ้ารุงรัง เสื้อผ้าขาดวิ่น ทำเอามะปรางแทบเสียสติ เธอดึงผ้าห่มมานอนคลุมโป่ง

ป๊อก ป๊อก ป๊อก เสียงเคาะกระจกประตูยังดังต่อเนื่อง และถี่ขึ้นเรื่อยๆ จนมะปรางกลัวว่ามันจะแตกออกมา
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่