ซอยอารีย์ และ อารีย์สัมพันธ์ น่าจะเป็นที่ ๆ หนึ่งที่มีร้านรวงต่าง ๆ เปิดให้บริการอยู่เป็นจำนวนมาก
มีทุกรูปแบบทั้งไทย จีน ฝรั่ง และอีกหลากหลาย
ส่วนวันนี้เราจะพาไปชิมอาหารอิตาเลียนกันค่ะ
Cantina Wine Bar & Italian Kitchen
เป็นร้านอาหารอิตาเลียนอยู่ที่ซอยอารีย์สัมพันธ์ 3
พื้นที่ร้านอาจจะไม่ได้ใหญ่โตมากนักแต่มีเพียงพอต้อนรับลูกค้าที่ชื่นชอบแน่นอน
ร้านนี้ไม่ได้มีดีเฉพาะแค่ไวน์ที่หลากหลายเท่านั้น
อาหารอิตาเลี่ยนของที่ร้านบอกได้เลยว่ารสชาติแบบอิตาเลียนจริงแท้แน่นอน
ร้านตั้งอยู่ที่ปากซอยอารีย์สัมพันธ์ 3 นะคะ
ใครที่เอารถมาสามารถเอาไปจอดได้ที่ซอยอารีย์สัมพันธ์ 2 ที่จอดมีเพียงพอ
ร้านให้บรรยากาศเหมือนในหนังฝรั่งที่เราเคยเห็นแบบที่ยามค่ำคืนในวันที่อากาศหนาว ๆ
หิมะตก เราเดินมาเจอร้านเล็ก ๆ ไฟสีส้ม ๆ แล้วเดินเข้ามาหลบในร้านผิงไฟอุ่น ๆ
จิบไวน์เพลิน ๆ เม้าท์มอยกันไปอะไรประมาณนั้นเลยค่ะ
เจ้าของร้านเป็นชาวอิตาเลียนด้วยแล้วกลิ่นอายของการจัดร้านการดีไซส์ไม่หนีไปจากอิตาลีแน่นอน
ใครเป็นคอไวน์ไม่ควรพลาด ร้านนี้มีไวน์จากหลากหลายที่ทุกมุมโลก
แถมยังมีไวน์ที่ทางครอบครัวของคุณแมทหุ้นส่วนของร้านปลูก บ่ม หมัก เองที่อิตาลีด้วย
แต่ถ้าใครไม่ถนัดไวน์ลองอาหารอิตาเลียนร้านนี้ดูนะคะ
รสชาติถูกปากเราซะด้วยโดยเฉพาะพิซซ่าถือว่าเด็ดควรค่าแก่การสั่ง
เมนูพิซซ่าของเราวันนี้เป็น
Mascapone half Diavola Pizza(520++)
แต่ถ้าไม่อยากกิน half แบบนี้ แนะนำให้สั่ง Mascapone Pizza เลยค่ะ
พิซซ่าแป้งบางกรอบ หอมชีส หอมวัตถุดิบที่นำมาทำ
Mascapone Pizza ตัวนี้ราคาอาจจะสูงกว่าพิซซ่าหน้าอื่นนิดหน่อย
ก็เพราะมีเห็ดหายากอย่าง Truffle ในเมนูมีทั้งทรัฟเฟิลขาวและดำ
Diavola Pizza ตัวนี้ใส่ซาลามีที่มีรสชาติเผ็ด ๆ นิดนึง
จานพาสต้าของที่ร้านทุกจาน เป็นโฮมเมดพาสต้าค่ะ
วันนี้ที่กินเป็นเมนูพิเศษประจำสัปดาห์คือ
Black ink seafood pasta(490++)
รสชาติเอาใจคนไทยนิดนึงด้วยความเผ็ดพอประมาณ
เส้นนุ่ม ๆ กับกลิ่นหอม ๆ และความสดของ seafood
บอกเลยอยากจะสั่งเพิ่มอีกจาน
ใครที่ชอบเมนูออกแบบครีม ๆ ชีส ๆ อยากให้ลอง
Risoto Salsicacia & funghi(330++)
จะเป็นข้าวแบบอิตาเลียนผัดข้น ๆ ด้วยชีส แล้วก็ไวน์ขาว
เมนูนี้เพื่อนที่ไปด้วยชอบเป็นพิเศษ
ส่วนใครที่ชื่นชอบจิบไวน์เพลิน ๆ แนะนำให้สั่ง
Mixed plate(490++) มาทานควบคู่ไปด้วย
จานนี้เต็มไปด้วยชีสต่าง ๆ และซาลามี่
แต่ถ้าใครไม่ชอบชีส หรือไม่เคยทานซาลามี่จานนี้อาจจะไม่เหมาะเท่าไหร่
ปิดท้ายด้วยของหวานแสนอร่อย
Ice cream cheese cake(140++)
ปกติเรามักจะได้กินแต่ที่เป็นบลูเบอรี่ชีสเค้ก
แต่ร้านนี้เป็นไอศครีม ทุกคนเอ่ยปากบอกว่าชอบมาก
เครื่องดื่มระหว่างมื้ออาหารวันนี้จะเป็นไวน์ขาวและไวน์แดงอย่างละแก้ว
ส่วนตัวแล้วไม่ค่อยสันทัดเรื่องไวน์ แต่ผู้ร่วมโต๊ะบอกว่าดีงามจ้า.....
มื้อนี้ไปกัน 3 คน เมนูที่สั่งมาถือว่าอิ่มมากเกือบจะกินไม่หมด
นี่ถ้าทาน 4 คนน่าจะอิ่มกำลังดีค่ะ
ทิ้งท้ายด้วยเล่มเมนูเก๋ ๆ ของทางร้านกันค่ะ
หน้าปกผู้ชายจะเป็นเมนูอาหาร ส่วนหน้าปกผู้หญิงจะเป็นเมนูเครื่องดื่มค่ะ
(ราคาตามเมนูยังไม่รวม vat และ service charge)
เมนูพิเศษแต่ละสัปดาห์จะขึ้นกระดานไว้ตามนี้ค่ะ
ร้านนี้เปิดทุกวัน วันจันทร์-ศุกร์จะเปิด 17.00 เป็นต้นไป เสาร์-อาทิตย์มีเปิดช่วงกลางวันเพิ่มด้วยค่ะ
ใครอยากตามรอยแต่ไม่รู้จะสั่งอะไร แนะนำว่าเมนูพิซซ่าควรมีไว้
ถ้าไปแล้วเจอเมนูพิเศษ Black ink seafood pasta อันนี้ก็น่าจัด
ส่วน ice cream cheese cake ถ้าไปแล้วยังมีแนะนำลงชื่อจองไว้ก่อนเลย
เพราะว่าทำไว้ไม่เยอะค่ะ เห็นว่าลูกค้าชอบกันค่ะ
ขอให้ดื่มด่ำกับไวน์ และอาหารอิตาเลียนกันนะคะ
[SR] จิบไวน์เบา ๆ เคล้าอาหารอิตาเลียน @ Cantina Wine Bar & Italian Kitchen
มีทุกรูปแบบทั้งไทย จีน ฝรั่ง และอีกหลากหลาย
ส่วนวันนี้เราจะพาไปชิมอาหารอิตาเลียนกันค่ะ
Cantina Wine Bar & Italian Kitchen
เป็นร้านอาหารอิตาเลียนอยู่ที่ซอยอารีย์สัมพันธ์ 3
พื้นที่ร้านอาจจะไม่ได้ใหญ่โตมากนักแต่มีเพียงพอต้อนรับลูกค้าที่ชื่นชอบแน่นอน
ร้านนี้ไม่ได้มีดีเฉพาะแค่ไวน์ที่หลากหลายเท่านั้น
อาหารอิตาเลี่ยนของที่ร้านบอกได้เลยว่ารสชาติแบบอิตาเลียนจริงแท้แน่นอน
ร้านตั้งอยู่ที่ปากซอยอารีย์สัมพันธ์ 3 นะคะ
ใครที่เอารถมาสามารถเอาไปจอดได้ที่ซอยอารีย์สัมพันธ์ 2 ที่จอดมีเพียงพอ
ร้านให้บรรยากาศเหมือนในหนังฝรั่งที่เราเคยเห็นแบบที่ยามค่ำคืนในวันที่อากาศหนาว ๆ
หิมะตก เราเดินมาเจอร้านเล็ก ๆ ไฟสีส้ม ๆ แล้วเดินเข้ามาหลบในร้านผิงไฟอุ่น ๆ
จิบไวน์เพลิน ๆ เม้าท์มอยกันไปอะไรประมาณนั้นเลยค่ะ
เจ้าของร้านเป็นชาวอิตาเลียนด้วยแล้วกลิ่นอายของการจัดร้านการดีไซส์ไม่หนีไปจากอิตาลีแน่นอน
ใครเป็นคอไวน์ไม่ควรพลาด ร้านนี้มีไวน์จากหลากหลายที่ทุกมุมโลก
แถมยังมีไวน์ที่ทางครอบครัวของคุณแมทหุ้นส่วนของร้านปลูก บ่ม หมัก เองที่อิตาลีด้วย
แต่ถ้าใครไม่ถนัดไวน์ลองอาหารอิตาเลียนร้านนี้ดูนะคะ
รสชาติถูกปากเราซะด้วยโดยเฉพาะพิซซ่าถือว่าเด็ดควรค่าแก่การสั่ง
เมนูพิซซ่าของเราวันนี้เป็น Mascapone half Diavola Pizza(520++)
แต่ถ้าไม่อยากกิน half แบบนี้ แนะนำให้สั่ง Mascapone Pizza เลยค่ะ
พิซซ่าแป้งบางกรอบ หอมชีส หอมวัตถุดิบที่นำมาทำ
Mascapone Pizza ตัวนี้ราคาอาจจะสูงกว่าพิซซ่าหน้าอื่นนิดหน่อย
ก็เพราะมีเห็ดหายากอย่าง Truffle ในเมนูมีทั้งทรัฟเฟิลขาวและดำ
Diavola Pizza ตัวนี้ใส่ซาลามีที่มีรสชาติเผ็ด ๆ นิดนึง
จานพาสต้าของที่ร้านทุกจาน เป็นโฮมเมดพาสต้าค่ะ
วันนี้ที่กินเป็นเมนูพิเศษประจำสัปดาห์คือ
Black ink seafood pasta(490++)
รสชาติเอาใจคนไทยนิดนึงด้วยความเผ็ดพอประมาณ
เส้นนุ่ม ๆ กับกลิ่นหอม ๆ และความสดของ seafood
บอกเลยอยากจะสั่งเพิ่มอีกจาน
ใครที่ชอบเมนูออกแบบครีม ๆ ชีส ๆ อยากให้ลอง
Risoto Salsicacia & funghi(330++)
จะเป็นข้าวแบบอิตาเลียนผัดข้น ๆ ด้วยชีส แล้วก็ไวน์ขาว
เมนูนี้เพื่อนที่ไปด้วยชอบเป็นพิเศษ
ส่วนใครที่ชื่นชอบจิบไวน์เพลิน ๆ แนะนำให้สั่ง
Mixed plate(490++) มาทานควบคู่ไปด้วย
จานนี้เต็มไปด้วยชีสต่าง ๆ และซาลามี่
แต่ถ้าใครไม่ชอบชีส หรือไม่เคยทานซาลามี่จานนี้อาจจะไม่เหมาะเท่าไหร่
ปิดท้ายด้วยของหวานแสนอร่อย
Ice cream cheese cake(140++)
ปกติเรามักจะได้กินแต่ที่เป็นบลูเบอรี่ชีสเค้ก
แต่ร้านนี้เป็นไอศครีม ทุกคนเอ่ยปากบอกว่าชอบมาก
เครื่องดื่มระหว่างมื้ออาหารวันนี้จะเป็นไวน์ขาวและไวน์แดงอย่างละแก้ว
ส่วนตัวแล้วไม่ค่อยสันทัดเรื่องไวน์ แต่ผู้ร่วมโต๊ะบอกว่าดีงามจ้า.....
มื้อนี้ไปกัน 3 คน เมนูที่สั่งมาถือว่าอิ่มมากเกือบจะกินไม่หมด
นี่ถ้าทาน 4 คนน่าจะอิ่มกำลังดีค่ะ
ทิ้งท้ายด้วยเล่มเมนูเก๋ ๆ ของทางร้านกันค่ะ
หน้าปกผู้ชายจะเป็นเมนูอาหาร ส่วนหน้าปกผู้หญิงจะเป็นเมนูเครื่องดื่มค่ะ
(ราคาตามเมนูยังไม่รวม vat และ service charge)
เมนูพิเศษแต่ละสัปดาห์จะขึ้นกระดานไว้ตามนี้ค่ะ
ร้านนี้เปิดทุกวัน วันจันทร์-ศุกร์จะเปิด 17.00 เป็นต้นไป เสาร์-อาทิตย์มีเปิดช่วงกลางวันเพิ่มด้วยค่ะ
ใครอยากตามรอยแต่ไม่รู้จะสั่งอะไร แนะนำว่าเมนูพิซซ่าควรมีไว้
ถ้าไปแล้วเจอเมนูพิเศษ Black ink seafood pasta อันนี้ก็น่าจัด
ส่วน ice cream cheese cake ถ้าไปแล้วยังมีแนะนำลงชื่อจองไว้ก่อนเลย
เพราะว่าทำไว้ไม่เยอะค่ะ เห็นว่าลูกค้าชอบกันค่ะ
ขอให้ดื่มด่ำกับไวน์ และอาหารอิตาเลียนกันนะคะ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น