วันนี้ อยากขอคำแลกเปลี่ยน เรื่องที่ทำงาน และสังคม “คน” ที่ทำงาน เขาเปนอย่างไรกัน
เรื่องของเรื่อง เราทำงานไปเรีนนไป ตั้งแต จบปวส. ช่วงเรียน มหาลัย ได้มาทำงานอยู่ ที่หนึ่ง จนจบ แล้วก็ยังคงทำงานอยุ่ ทำมา 9 ปี หน้าที่ ที่ ก็จัดซื้อ /บัญชี /และก็เงินเดือน หยุดก วันเสาร์ทำงาน คึงวัน (ทุกตำแหน่งทำคนเดียว และไม่มีใครทำแทน)
ข้อดีก็มีดีอยุ่พอสมควร (หลังจากที่ออกจากงานที่ทำงานถึงรู้วาที่นี่ดี T^T)
สาเหตุที่ออกมา เพื่อนไปชวนทำงานด้วย แต่ทำงานตำแหน่งที่ดีกว่าเดิม แต่ก่อนไป ก็ตัดสินใจอยุ่นาน
หลัก ๆที่จะออก
1ทำจัดซื้อต่างปรระเทศ ทำเกี่ยวกับการนำเข้า ไม่ต้องทำจัดซื้อ ภายใน
2.หยุดเสาร์ทิตย์ (ที่เก่าทำเสาร์ 1/2วัน)
3.ไม่ต้องท่ำเงินเดือน (ซึ่งถ้าที่เก่า ทำงานเก่า ทำเงินเดือน จะไม่สามารถหยุดได้ เนื่อง เงินเดือนออก 2 ครั้ง/เดือน
3.งานใกล้บ้าน 10 นาทีถึง มีข้าวกลางวันฟรี และที่สำคัญ คิดว่าได้ทำงานกับเพื่อน ก็พอมีเรื่องอะไรก็คงฝากงานกันได้
แต่สุดท้ายก็ออก เพราะข้อตกลงผิดไป ก็เลยคิดว่าไม่อยากเสียเพื่อน เลยออกมา จนสมัคร มา และทำงาน จนมาถึงที่ปัจจุบัน ทำมาเกือบ 4 ปีได้
ข้อดีที่เลือกที่นี่ (ในตอนนั้นมได้งานที่อื่นแล้วแต่ ก็บอกอีกที่ตรงๆไปว) เพราะตอนนั้นคนสัมภาษณ์งานเรา เป็นเจ้าของบริษัทฯและเป็น
หัวหน้าเรา (ซึ่งเราชอบ เพราะถ้าทำงาน จะถูกหรือผิด ก็ว่า กันตรงๆไม่ต้องโดยใสร้าย เพราะที่เก่า ทำงานขึ้นกับเจ้านาย ผชโดยตรง ๆ วันหยุดเยอะ
หยุดเสาร์ทิตย์ เลิกงาน 5 โมง
(อย่างที่เก่าที่เพื่อนหยุดเสาร์ แต่ ต้องทำงาน 8-18.00น) ก็อยู่มาเรื่อย จน สังคมมันเริ่มเยอะขึ้น ๆ มีเด็กใหม่ เพิ่งจบ มาทำงาน ปัญหาก็เริ่มเยอะขึ้น
จากเจ้านายที่เปนหัวหน้า ก็เริ่มแต่งตั้งให้ คนที่เก่าแก่ เป็นหัวหน้า ด้วยความที่เขาเคยโดยกด ดัน จากที่ทำงานมากกว่า 20ปี แล้วไม่เคยเปนหัวหน้ามาก่อน อำนาจ ก็เลยอยู่ที่เขา พยายามจะกดดันเรา เรื่องการซื้อของ ขอคอยว่าทำใม ไม่ซื้อร้าน ทำไม ไม่ต่อรอง
พอพูดด้วยเหตุ ก็ไม่เข้าใจ แต่อย่างเราเปนเด็กกว่า และเพิ่งมาทำงาน ก็กลายเปนเด้กก้าวร้าว ทำให้เราไม่ค่อยอยากจะคุยหรือเล่นมา
ปัญหา ก็คือวา ตอนนี้ที่ออฟฟิศ ก็แบ่งออกเปนหลายกลุ่ม จากบุคคล คนหนึ่ง เพราะเนื่องจาก เปนพวกวัยรุ่น ก็เริ่มจาก A เปน แฟน B แล้ว A เปนถึงผู้ช่วยเจ้าของ ซึ่งเขาเลี้ยงเวลา ไม่อยู่ออฟฟิศ เอาเปนหู เปนตา แต่A มัก จะเหลือพูดให้ตัวเองดูดี และคนอื่นว่าทำไรบ้าง ก็แล้วแต่นางจะพูด นางมีฝีปากดี ซึ่งเจ้านายก็เชื่อนาง (เพราะนางก็น่าตาดี น้ำเสียงแบบ สองเสียง) ง่าย ๆ มีอีกบุคคลิกอยู่ในตัว
จนวันหนึ่ง A B เลิกกัน แล้วก็เกิดดราม่าในออฟฟิศ ทำให้เกิดการแบ่งข้าง ส่วนตัวเรานั้น ตอนนั้น ก็สนิทกับทั้ง A B ยิ่งกับA เราสนิททมาก รู้รื่องราวเยอะ เพราะแรกที่ A มาทำงาน คนยังน้อยอยู่ มีแต่คนมีอายุ (คือน้องมาทีหลังเรา) ก็กินข้าวอะไรด้วยกันตลอด
จนมี B มาตามหลัง ก็เขาสองคน ก็คบ กัน แต่ A มักจะหึง เ B เพราะมาสนิทกับเรา อันนั้นก็ไม่สำคัญมาก ปัญหาที่เลิกกัน ก็คือ A ไปมีคนใหม่ จนไปคบกันสัก 3-4 เดือน ปรากฎว่า A ก็เลิกกับคนใหม่
แล้วกลับมาคนเก่า คือ B แล้วก็ก่อนให้เกิด การดับสูญ เมื่อตอนเลิกกัน เกิดการแบ่งข้างกัน ก็กลายเปนหมาหัวเน่าหมด จากคนที่คอยสนับสนุนให้เลิกกัน ที่เคยด่ากันต่างๆนาๆ ก็ใส่หน้ากากเข้าหากัน รับเข้ากลุ่มกัน และก็แยกออกเปน สองกลุ่่ม เพราะ A คนเดียว
ปัญหาก็คือ มีการเหน็บแนบ พูดจาไม่ดีกัน สุดท้าย ที่ร้ายสุดคือ A ซึ่งเราไม่เคยเลย ที่จะไปยุ่งเรื่องของนาง แต่บังเอิญ ช่วงหนึ่ง นางเข้ามใหม่ นางคิดว่านางหล่อมากกกก
(นางเป็นทอม) ต้องจีบใครก็ติด และไปก้ไปรู้ความลับที่นางเอาเราไปนินทา ซึ่งพอรู้ก็เสียความรุ้สึก (ไม่ใช่ว่าเราหูเบานะ แต่เราจับเรื่องชนปลายจนรู้)
จากนั้น เราก็เริ่มไม่คุยกับนาง ยิ่งนางคิดว่านางเปนลูกรักของเจ้านาย และก็ เปนลูกรักของหัวหน้าเรา เราคิดว่าทำไรก้รู้ และนางก็ไปคืนดีกับแฟนนางคือ B ซึ่งเปน นักเลงขาใหญ่ใน ออฟฟิศ
สิ่งที่จะสื่อก็คือ ทำไมเราโตมาขนาดนี้ เราเพิ่งมาเจอสังคมแบบนี้ สังคมที่คอยใส่ร้าย กล่าวหาคนอื่น ซึ่งเปนเรื่องไม่จริงเลย สักข้อ โยนความดีให้กับตัวเอง เรื่องไม่ดีให้คนอื่น แถมบอกว่า ตัวเองไม่เคยพูด หน้ากากที่แบบว่านั่งกินข้าวกัน พอลุกขึ้นก็แทงยับ นินทายับ
อยากรู้ สังคมในทำงานที่อื่น ๆจะเปเหมือนกันไหม เคยคิดจะออกจากที่นี่เพราะสังคมแบบนี้ แต่มีคนบอกว่า ที่อื่นก็มี (แต่เราก็มักจเถียงว่า ท่ำทำงานเก่าเราไม่เป็นนะ ไม่มีแกร่งแย่ง แบบนี้) เราพลาดมากเลยนะที่ออกมา จะกลับไปก็ไม่ได้ ได้แต่รอปาฎิหาริย์
อยากคำเล่าจากออฟฟิศอื่น ๆที่รุนแรง ไหม (จริง ๆ เรื่องที่เรา ถ้าเราปล่อยวางมันก็จบ ) แต่เราแค่อยากรุ้ว่า ที่อื่นเปนไง ขอบคุณมากคะ
สังคมทำงานที่เลวร้าย ที่อื่นเป็นกันไหม ?
เรื่องของเรื่อง เราทำงานไปเรีนนไป ตั้งแต จบปวส. ช่วงเรียน มหาลัย ได้มาทำงานอยู่ ที่หนึ่ง จนจบ แล้วก็ยังคงทำงานอยุ่ ทำมา 9 ปี หน้าที่ ที่ ก็จัดซื้อ /บัญชี /และก็เงินเดือน หยุดก วันเสาร์ทำงาน คึงวัน (ทุกตำแหน่งทำคนเดียว และไม่มีใครทำแทน)
ข้อดีก็มีดีอยุ่พอสมควร (หลังจากที่ออกจากงานที่ทำงานถึงรู้วาที่นี่ดี T^T)
สาเหตุที่ออกมา เพื่อนไปชวนทำงานด้วย แต่ทำงานตำแหน่งที่ดีกว่าเดิม แต่ก่อนไป ก็ตัดสินใจอยุ่นาน
หลัก ๆที่จะออก
1ทำจัดซื้อต่างปรระเทศ ทำเกี่ยวกับการนำเข้า ไม่ต้องทำจัดซื้อ ภายใน
2.หยุดเสาร์ทิตย์ (ที่เก่าทำเสาร์ 1/2วัน)
3.ไม่ต้องท่ำเงินเดือน (ซึ่งถ้าที่เก่า ทำงานเก่า ทำเงินเดือน จะไม่สามารถหยุดได้ เนื่อง เงินเดือนออก 2 ครั้ง/เดือน
3.งานใกล้บ้าน 10 นาทีถึง มีข้าวกลางวันฟรี และที่สำคัญ คิดว่าได้ทำงานกับเพื่อน ก็พอมีเรื่องอะไรก็คงฝากงานกันได้
แต่สุดท้ายก็ออก เพราะข้อตกลงผิดไป ก็เลยคิดว่าไม่อยากเสียเพื่อน เลยออกมา จนสมัคร มา และทำงาน จนมาถึงที่ปัจจุบัน ทำมาเกือบ 4 ปีได้
ข้อดีที่เลือกที่นี่ (ในตอนนั้นมได้งานที่อื่นแล้วแต่ ก็บอกอีกที่ตรงๆไปว) เพราะตอนนั้นคนสัมภาษณ์งานเรา เป็นเจ้าของบริษัทฯและเป็น
หัวหน้าเรา (ซึ่งเราชอบ เพราะถ้าทำงาน จะถูกหรือผิด ก็ว่า กันตรงๆไม่ต้องโดยใสร้าย เพราะที่เก่า ทำงานขึ้นกับเจ้านาย ผชโดยตรง ๆ วันหยุดเยอะ
หยุดเสาร์ทิตย์ เลิกงาน 5 โมง
(อย่างที่เก่าที่เพื่อนหยุดเสาร์ แต่ ต้องทำงาน 8-18.00น) ก็อยู่มาเรื่อย จน สังคมมันเริ่มเยอะขึ้น ๆ มีเด็กใหม่ เพิ่งจบ มาทำงาน ปัญหาก็เริ่มเยอะขึ้น
จากเจ้านายที่เปนหัวหน้า ก็เริ่มแต่งตั้งให้ คนที่เก่าแก่ เป็นหัวหน้า ด้วยความที่เขาเคยโดยกด ดัน จากที่ทำงานมากกว่า 20ปี แล้วไม่เคยเปนหัวหน้ามาก่อน อำนาจ ก็เลยอยู่ที่เขา พยายามจะกดดันเรา เรื่องการซื้อของ ขอคอยว่าทำใม ไม่ซื้อร้าน ทำไม ไม่ต่อรอง
พอพูดด้วยเหตุ ก็ไม่เข้าใจ แต่อย่างเราเปนเด็กกว่า และเพิ่งมาทำงาน ก็กลายเปนเด้กก้าวร้าว ทำให้เราไม่ค่อยอยากจะคุยหรือเล่นมา
ปัญหา ก็คือวา ตอนนี้ที่ออฟฟิศ ก็แบ่งออกเปนหลายกลุ่ม จากบุคคล คนหนึ่ง เพราะเนื่องจาก เปนพวกวัยรุ่น ก็เริ่มจาก A เปน แฟน B แล้ว A เปนถึงผู้ช่วยเจ้าของ ซึ่งเขาเลี้ยงเวลา ไม่อยู่ออฟฟิศ เอาเปนหู เปนตา แต่A มัก จะเหลือพูดให้ตัวเองดูดี และคนอื่นว่าทำไรบ้าง ก็แล้วแต่นางจะพูด นางมีฝีปากดี ซึ่งเจ้านายก็เชื่อนาง (เพราะนางก็น่าตาดี น้ำเสียงแบบ สองเสียง) ง่าย ๆ มีอีกบุคคลิกอยู่ในตัว
จนวันหนึ่ง A B เลิกกัน แล้วก็เกิดดราม่าในออฟฟิศ ทำให้เกิดการแบ่งข้าง ส่วนตัวเรานั้น ตอนนั้น ก็สนิทกับทั้ง A B ยิ่งกับA เราสนิททมาก รู้รื่องราวเยอะ เพราะแรกที่ A มาทำงาน คนยังน้อยอยู่ มีแต่คนมีอายุ (คือน้องมาทีหลังเรา) ก็กินข้าวอะไรด้วยกันตลอด
จนมี B มาตามหลัง ก็เขาสองคน ก็คบ กัน แต่ A มักจะหึง เ B เพราะมาสนิทกับเรา อันนั้นก็ไม่สำคัญมาก ปัญหาที่เลิกกัน ก็คือ A ไปมีคนใหม่ จนไปคบกันสัก 3-4 เดือน ปรากฎว่า A ก็เลิกกับคนใหม่
แล้วกลับมาคนเก่า คือ B แล้วก็ก่อนให้เกิด การดับสูญ เมื่อตอนเลิกกัน เกิดการแบ่งข้างกัน ก็กลายเปนหมาหัวเน่าหมด จากคนที่คอยสนับสนุนให้เลิกกัน ที่เคยด่ากันต่างๆนาๆ ก็ใส่หน้ากากเข้าหากัน รับเข้ากลุ่มกัน และก็แยกออกเปน สองกลุ่่ม เพราะ A คนเดียว
ปัญหาก็คือ มีการเหน็บแนบ พูดจาไม่ดีกัน สุดท้าย ที่ร้ายสุดคือ A ซึ่งเราไม่เคยเลย ที่จะไปยุ่งเรื่องของนาง แต่บังเอิญ ช่วงหนึ่ง นางเข้ามใหม่ นางคิดว่านางหล่อมากกกก
(นางเป็นทอม) ต้องจีบใครก็ติด และไปก้ไปรู้ความลับที่นางเอาเราไปนินทา ซึ่งพอรู้ก็เสียความรุ้สึก (ไม่ใช่ว่าเราหูเบานะ แต่เราจับเรื่องชนปลายจนรู้)
จากนั้น เราก็เริ่มไม่คุยกับนาง ยิ่งนางคิดว่านางเปนลูกรักของเจ้านาย และก็ เปนลูกรักของหัวหน้าเรา เราคิดว่าทำไรก้รู้ และนางก็ไปคืนดีกับแฟนนางคือ B ซึ่งเปน นักเลงขาใหญ่ใน ออฟฟิศ
สิ่งที่จะสื่อก็คือ ทำไมเราโตมาขนาดนี้ เราเพิ่งมาเจอสังคมแบบนี้ สังคมที่คอยใส่ร้าย กล่าวหาคนอื่น ซึ่งเปนเรื่องไม่จริงเลย สักข้อ โยนความดีให้กับตัวเอง เรื่องไม่ดีให้คนอื่น แถมบอกว่า ตัวเองไม่เคยพูด หน้ากากที่แบบว่านั่งกินข้าวกัน พอลุกขึ้นก็แทงยับ นินทายับ
อยากรู้ สังคมในทำงานที่อื่น ๆจะเปเหมือนกันไหม เคยคิดจะออกจากที่นี่เพราะสังคมแบบนี้ แต่มีคนบอกว่า ที่อื่นก็มี (แต่เราก็มักจเถียงว่า ท่ำทำงานเก่าเราไม่เป็นนะ ไม่มีแกร่งแย่ง แบบนี้) เราพลาดมากเลยนะที่ออกมา จะกลับไปก็ไม่ได้ ได้แต่รอปาฎิหาริย์
อยากคำเล่าจากออฟฟิศอื่น ๆที่รุนแรง ไหม (จริง ๆ เรื่องที่เรา ถ้าเราปล่อยวางมันก็จบ ) แต่เราแค่อยากรุ้ว่า ที่อื่นเปนไง ขอบคุณมากคะ