"รบกวนขอคำปรึกษาหน่อยคะ เราอยากรู้ว่าในกรณีแบบนี้
เราจะเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับครอบครัวเราอย่างไรได้บ้าง"

              น้องชายเราประสบอุบัติเหตุมอไซค์ชนกับสิบล้อตั้งวันที่ 9 มีนาคม 60 แต่น้องไปเสียที่ รพ.ในวันถัดมา (ตอนนี้คดียังไม่จบ) มีปัญหากับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตำรวจไม่ฟัง ไม่สอบสวนพยานที่เห็นเหตุการณ์ ไม่เรียกคู่กรณีมาคุยกับญาติ จะปิดคดีโดยการให้ผู้ตายเป็นฝ่ายผิดแต่เพียงผู้เดียว โดยไม่มีการช่วยเหลือ ไม่มีคำขอโทษ หรือเยียวยาใดๆ ทั้งสิ้น เมื่อเราไม่ยอมจะขอนัดเจอสิบล้อ ตำรวจก็นัดแล้วเลื่อน เบี้ยวไม่มาตามนัดอยู่หลายครั้งบอกว่าไม่ว่าง เดี๋ยวเช้านี้อยู่ทางภาคอิสาน ตอนบ่ายบอกอยู่ใต้ และแสดงท่าทีไม่พอใจที่เราไปตามเรื่องบ่อยๆ จนเราทนไม่ไหว เลยว่าจ้างทนายมา ต่อมาเจ้าหน้าที่จึงนัดสิบล้อมาได้
               แต่เมื่อเจอกันครั้งแรกสิบล้อไม่มีอาการเสียใจ ขอโทษหรือเข้ามาพูดคุยกับทางเรา แต่กับพูดคุยสนิทสนมกับตำรวจต่อหน้าเราและครอบครัว มีการพูดแซวที่เราจ้างทนายมา เมื่อถึงเวลาเจรจาสิบล้อไม่ได้พูอะไรนอกจากคำว่า "ครับ" ตามที่ตำรวจพูดนำมาให้ก่อน และบอกจะช่วยค่ามนุษยธรรม เป็นจำนวนเงิน 20,000 บาท เพื่อทางตำรวจจะได้สรุปปิดคดีและให้ทางน้องเรา(ผู้ตายเป็นฝ่ายผิด)  แต่ทางเราไม่ยอม เมื่อเจรจากันไม่รู้เรื่องเราขอให้ตำรวจช่วยรักษาความเป็นกลางในการทำคดี ตำรวจก็ขึ้นเสียงใส่และยกข้อกฎหมายมาข่มขู่  หลังจากนั้นเราจึงให้ทนายฝ่ายเรายื่นฟ้องสิบล้อและดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
               ผลสืบเนื่องจากการสรุปคดีของตำรวจข้างบน ทำให้ประกัน พ.ร.บ ของทั้ง 2 ฝ่ายยังสรุปไม่ได้ ตอนนี้เราได้เพียงประกันเบื้องต้น (พ.ร.บ) มา 35,000 บาทเท่านั้น

               ปกติน้องชาย(ผู้ตาย)เราเป็นเจ้าของกิจการอู่ซ่อมจักยานยนต์และเป็นนักแข่งรถจักยานยนต์ของบริษัท ฮ เคยไปแข่งระดับประเทศ และน้องก็จะเป็นเสาหลักของครอบครัวดูแลคุณพ่อคุณแม่  ตอนที่ประสบอุบัติเหตุน้องได้หมดสัญญากับบริษัท ฮ ไปแล้วประมาณ 3 เดือน และกำลังจะไปเซ็นสัญญากับบริษัท ย  ในวันถัดไป แต่มาเกิดอุบัติเหตุเสียก่อน
               ก่อนหน้านี้น้องชาย(ผู้ตาย)ทำประกันอุบัติเหตุและประกันงวดรถกระบะไว้ ซึ่งผู้ตายเป็นเจ้าของและผ่อนค่างวดรถเอง ทางครอบครัวก็ได้ดำเนินเรื่องตามขั้นตอน ยื่นเรื่องไปเพื่อขอรับค่าสินไหมทดแทนตามกรมธรรมที่น้องเราทำเอาไว้ตั้งแต่เสร็จสิ้นงานฌาปนกิจของน้อง เซลล์ที่ขายประกันก็ดำเนินเรื่องให้อย่างดีและบอกให้บ้านเราทำการจัดตั้ง ผจก. มรดก และบอกว่าในกรณีนี้เราได้ประกันแน่นอน ร่วมทั้งจัดการแนะนำทนายมาให้ โดยทางเราเสียค่าใช้จ่าไป 10,000 บาท และค่าเอกสารดำเนินเรื่องอีก...
                หลังจากผ่านมาหลายเดือนทางประกันสีส้มดำที่น้องเราได้ทำไว้ก็ติดต่อมาขอเอกสารเดิมๆ ซ้ำๆ เพิ่มถึง 4 ครั้ง รวมทั้งขอเอกสารตัวจริงไปด้วย แล้วก็เงียบหายไม่ติดต่อมา ทางครอบครัวก็ยังต้องหาเงินผ่อนค่างวดรถไปก่อนทุกเดือน  จนเราพยายามติดต่อไปที่ธนาคารสีส้มดำเอง ก็มาขอเอกสารเราเพิ่มอีก ทั้งที่เราให้ไปหลายครั้งแล้วรวมทั้งตัวจริงด้วย
                ผ่านมาประมาณ 2 เดือน (หลังจากส่งเอกสารครั้งล่าสุด) ทางครอบครัวได้ไปติดต่อเซลล์ที่ขายรถและประกันให้ช่วยติดตามผลการดำเนินเรื่องว่าไปถึงไหนแล้ว ทางเซลล์ก็ดำเนินโทรติดต่อให้ ใช้เวลาไม่นานทางธนาคารสีส้มก็ติดต่อกลับมาหาเซลล์ ให้แจ้งทางญาติว่าธนาคารไม่สามารถจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้ได้ เนื่องจากน้องชาย(ผู้เสียชีวิต)เราเป็นนักแข่งรถ ซึ่งทางธนาคารไม่รับทำประกันกับบุคคลที่ทำอาชีพนี้อยู่แล้ว แต่จะขอจ่ายค่าเบี้ยประกันคืนให้เท่านั้น  
                 ซึ่งก่อนทำประกันทางเราได้บอกอาชีพกับเซลล์ขายประกันและได้มีการบอกตำแหน่งกิจการที่บ้านชัดเจน แต่ทางนั้นก็คะยั้นคะยอให้ทางน้องเราทำ พอถึงเวลาเกิดเรื่องน้องเสียไปแล้วทางธนาคารสีส้มดำกับไม่จ่าย บอกว่าอาชีพนี้ไม่รับทำและขอคืนเบี้ยประกันแทน แต่ก็ยังมีการโทรและส่งใบมาชวนให้ต่อประกันกับทางธนาคารต่อ แบบนี้ก็ได้เหร่อคะ? ตอนคุณจะขายคุณพูดดิบดี ทางบ้านเราไว้ใจทำประกันกับธนาคารคุณทั้งครอบครัว พอถึงเวลาเราเครมประกันขอใช้สิทธิของเรา คุณกับให้คำตอบเราแบบนี้ทั้งที่เราสูญเสียบุคคลที่รักไปก็แย่อยู่แล้ว ถ้าคุณจะยกเลิกทำไมไม่ยกเลิกก่อนหน้านี้คะ ให้เราส่งเบี้ยมาจะครบปีอยู่แล้ว

            สรุปตอนนี้ปัญหาที่ครอบครัวเราเจอและอยากขอความคิดเห็นจากเพื่อนๆ พันทิปว่าเราควรดำเนินการอย่างไรต่อดี เพราะนี่ก็ผ่านมาแล้ว 4 เดือนจากวันที่น้องเราเสียชีวิต คือ
                1.ปัญหากับรถสิบล้อ(คู่กรณี) อัพเดท ยื่นฟ้องแล้ว (รอดำเนินการตามขั้นตอน)
                2.ปัญหากับเจ้าหน้าที่เจ้าของคดี (เรื่องการดำเนินเรื่องและความเป็นกลาง)
                3.ปัญหากับประกันอุบัติเหตุและประกันค่างวดรถ