สามวันพักที่อิสตันบูล เราไปดูโชว์บนเรือผ่านช่องแคบบอสฟอรัสพอจะกลับที่พักจะเรียกรถแท็กซี่ แต่มีชายคนนึงเข้ามาคุยเรียกเราขึ้นรถมีคนขับรอแล้วทำท่าคุยให้เราจ่ายเงินสดก่อน พอเอาเงินให้บอกเงินคุณเก่าขอที่นำหน้าอักษรG พอเราไม่มีก็เข้าเกมเขา ขอบัตรเอาไปแตะ เครื่องแรกทำท่าไม่ผ่านจึงขอบัตรใหม่ (เราปฏิเสธเพราะมีบัตรเดียว) นางเอาเครื่องใหม่ออกมาแตะอีก ทำท่าไม่ผ่านไล่เราลงรถแล้วบลื้นขับอย่างว่องไออกไปเลย  แต่โทรศัพท์เราแจ้งเตือนว่ากำลังรอดำเนินการจ่ายตัง3500กว่ากับหมื่นหนึ่งพันกว่า รีบข้ามไปอีกฝั่งหารถแท็กซี่ เจอคนขับ(ภายหลังคิดว่าเป็นมิจอีกเช่นกัน)ทำท่ามาช่วยเราทุกอย่างพาไปสถานีตำรวจใกล้บ้านแต่เขาไล่มาแจ้งสถานีตำรวจใกล้ที่เกิดเหตุ ระหว่างทางทางธนาคารบอกว่าในเมื่อแตะบัตรกับเครื่องต้องให้ฝั่งนั้นเขายกเลิกเองถือว่าเงินออกจากบัตรแล้ว กว่าจะได้เงินคืนโอกาสต่ำมาก30%ค่ะ...

กระบวนการตำรวจของตุรกีไม่เหมือนไทย 
ธนาคารไทยไม่สามารถให้เอกสารที่ทางตำรวจตุรกีขอได้(ไฟล์ที่ธนาคารยืนยันว่าเงินออกไปเท่าไรเวลาใด ธนาคารบอกง่ายๆว่าแคปจากแอพกดเงินสดเป็นใช้ได้)ทางตุรกีก็ทำอะไรให้ไม่ได้แต่สอบถามข้อมูลทั้งหมดเพื่อเก็บข้อมูลและให้เรามาจัดการในหกเเดือนในคำสั่งศาล
ความพีกคือเราจะเดินทางอีกสี่ชั่วโมงข้างหน้า ถือว่าอิโจรนี่โชคดีมากกกก(เพราะไม่คิดจะมาตุรกีอีก)

ตำรวจที่นี้ตรวจตราเก่งมา ตม ผ่านง่ายคิดว่าถ้าทำตามเงื่อนไขที่ตำรวจขอเรามีโอกาสได้เงินคืน โชคร้ายประเทศไทยเป็นเมืองมิจฉาชีพ เงินหายแล้วหายเลย ต้องทำใจ(โดนโกงออนไลน์กี่ครั้งทำใจทุกครั้งรอบนี้เลยไม่ได้ซีเรียสร้อนรนอะไรแค่หนาวสะบั้นช่วงไปให้การตำรวจ อากาศเย็นมากก
)
วกกลับมาที่อิแท็กซี่ทำตัวเป็นพ่อพระนู่นนี่พยายามช่วย(แต่พาไปผิดสถานี)ขอวอทแอพเราแต่ยึกยักนะไม่แอดเพื่อน   (มีตำรวจที่ขอแอดเราเพราะต้องส่งเรื่องเมื่อมีอะไรคืบหน้า)อิแท็กซี่ไม่ทักอะไรมาเลยทั้งที่พูดตลอดทางว่าจะช่วยติดต่อความคืบหน้าจากตำรวจให้ช่วงที่เราออกตุรกี เราสังเกตเวลาเราให้การตำรวจนางจะลนขอดูทรานสเลทที่เราพิมพ์บอกตำรวจตลอด แต่เราก็ให้ทิปที่ช่วยเราด้วยนะเพราะไม่คิดจะกลับมาเหยียบที่นี้อีก

ปล.ธนาคารไม่มีความหวังอะไรให้เลยและไม่อยากขอเอ่ยถึงด้วยแต่กลับไทยเมื่อไหร่ย้ายธนาคารแน่ไม่ใช่อะไรนะกดบัตรเงินสดหักค่าส่วนต่างเยอะมาก เพื่อนเราหักน้อยกว่าสองเท่า 🥹