สวัสดีค่ะ
เรามีเรื่องอยากมาระบาย ขอเกริ่นนิดหนึ่งว่า
เราเป็นหลานของพ่อลูกคู่นี้ มีศักดิ์เป็นผู้น้อง
อายุ 20+++ แต่งานมีครอบครัวแล้ว และมีลูกวัยทารก 1 คน
เมื่อเดือนเมษา 60 โรงเรียนใกล้จะเปิด ลูกของลุงคนนี้และยายของเรา
มาอาศัยกับเราที่ห้องพัก (ห้องชุดเอื้ออาทร) แค่ชั่วคราว
ในระหว่างที่โรงเรียนใกล้จะเปิด จนเปิดไปแล้ว 1 อาทิตย์ ก็ยังไม่มีที่จะลงเรียน
ก็ยังไม่มีที่จะลงเรียนเราเลยเสนอแม่ว่า เอางี้ไหม ไปคุยกับลุง ให้อยู่โรงเรียนประจำ ราชประชานุเคราะห์ เพราะว่า
1.แม่เรามีครอบครัวใหม่ไกลจากที่เราพักมากและต้องทำงานเลิกดึกคงไม่มีเวลามาดูแลลูกลุงหรอก
2.เรามีครอบครัวแล้ว มีน้องตัวเล็กด้วย คงไม่ว่างหอบลูกตระเวนตากแดดตากลมตากฝนเพื่อเป็นคนรับใช้ให้พ่อลูกคู่นี้หรอก
3.ลุง เดิมทีไม่มีความรับผิดชอบอยู่แล้ว ลูกไม่เคยเลี้ยงเอง โบนให้คนโน่นนี้นั้นรับผิดชอบตลอด
ทั้งนี้เพราะเราเห็นแก่ความสะดวกแก่ทุกฝ่าย และประโยชน์ของลูกของลุงเป็นสำคัญ ได้ไม่ต้องมีปัญหาเรื่องที่พัก การเดินทางไปโรงเรียน และค่าใช้จ่ายต่างๆ และลุงและลูกของลุงตกลง
ระหว่างนั้นต้องพาไปสมัครเรียน มอบตัวทำเรื่องเอกสาร ถ่ายรูป ซื้อเสื้อผ้า พาไปปักซื้อ ซื้อโน่นนี้จิปะทะ เราต้องหอบลูกตั้งแต่น้องอายุ2-3เดือน และแม่ ไปทำธุระให้ลูกของลุง ลุงเราแค่อ้างคำเดียวไม่ว่าง ต้องทำงาน แต่ลุงไม่เคยคิดถึงเรา ลูกเรา และแม่เราเลย ว่า ลูกเราต้องการจะหลับจะนอนจะกินนม เหมือนกัน แม่เราก็ทำงาน ช่วงนั้นเราสงสารลูกเรามาก งอแงตลอด แต่ก็ไม่เคยมีใครเห็นใจเรา ขนาดลูกเราร้อง เรายังต้องขับรถจับพวงมาลัย แล้วให้ลูกดูดนมไปด้วย ให้คิดว่าอันตรายขนาดไหน
เราเสียใจมากที่พวกเขานึกถึงแต่ประโยชน์ของตัวเองแต่ไม่เคยนึกถึงความลำบากเราเลย
*** เรื่องยังไม่จบเท่านี้ เดี่ยวมาเล่าความเห็นแก่ตัวของเขาสองคนต่อค่ะ ปัจจุบันเรื่องนี้ยังไม่จบ แต่ขอตัวไปให้นมน้องก่อนน่ะค่ะ
*** ถ้าพิมตกหล่นต้องขออภัย จะกลับมาแก้ไขน่ะค่ะ
พ่อลูกเห็นแก่ตัว นึกถึงแต่ประโยชน์ของตัวเอง ไม่เห็นถึงความลำบากคนอื่น
เรามีเรื่องอยากมาระบาย ขอเกริ่นนิดหนึ่งว่า
เราเป็นหลานของพ่อลูกคู่นี้ มีศักดิ์เป็นผู้น้อง
อายุ 20+++ แต่งานมีครอบครัวแล้ว และมีลูกวัยทารก 1 คน
เมื่อเดือนเมษา 60 โรงเรียนใกล้จะเปิด ลูกของลุงคนนี้และยายของเรา
มาอาศัยกับเราที่ห้องพัก (ห้องชุดเอื้ออาทร) แค่ชั่วคราว
ในระหว่างที่โรงเรียนใกล้จะเปิด จนเปิดไปแล้ว 1 อาทิตย์ ก็ยังไม่มีที่จะลงเรียน
ก็ยังไม่มีที่จะลงเรียนเราเลยเสนอแม่ว่า เอางี้ไหม ไปคุยกับลุง ให้อยู่โรงเรียนประจำ ราชประชานุเคราะห์ เพราะว่า
1.แม่เรามีครอบครัวใหม่ไกลจากที่เราพักมากและต้องทำงานเลิกดึกคงไม่มีเวลามาดูแลลูกลุงหรอก
2.เรามีครอบครัวแล้ว มีน้องตัวเล็กด้วย คงไม่ว่างหอบลูกตระเวนตากแดดตากลมตากฝนเพื่อเป็นคนรับใช้ให้พ่อลูกคู่นี้หรอก
3.ลุง เดิมทีไม่มีความรับผิดชอบอยู่แล้ว ลูกไม่เคยเลี้ยงเอง โบนให้คนโน่นนี้นั้นรับผิดชอบตลอด
ทั้งนี้เพราะเราเห็นแก่ความสะดวกแก่ทุกฝ่าย และประโยชน์ของลูกของลุงเป็นสำคัญ ได้ไม่ต้องมีปัญหาเรื่องที่พัก การเดินทางไปโรงเรียน และค่าใช้จ่ายต่างๆ และลุงและลูกของลุงตกลง
ระหว่างนั้นต้องพาไปสมัครเรียน มอบตัวทำเรื่องเอกสาร ถ่ายรูป ซื้อเสื้อผ้า พาไปปักซื้อ ซื้อโน่นนี้จิปะทะ เราต้องหอบลูกตั้งแต่น้องอายุ2-3เดือน และแม่ ไปทำธุระให้ลูกของลุง ลุงเราแค่อ้างคำเดียวไม่ว่าง ต้องทำงาน แต่ลุงไม่เคยคิดถึงเรา ลูกเรา และแม่เราเลย ว่า ลูกเราต้องการจะหลับจะนอนจะกินนม เหมือนกัน แม่เราก็ทำงาน ช่วงนั้นเราสงสารลูกเรามาก งอแงตลอด แต่ก็ไม่เคยมีใครเห็นใจเรา ขนาดลูกเราร้อง เรายังต้องขับรถจับพวงมาลัย แล้วให้ลูกดูดนมไปด้วย ให้คิดว่าอันตรายขนาดไหน
เราเสียใจมากที่พวกเขานึกถึงแต่ประโยชน์ของตัวเองแต่ไม่เคยนึกถึงความลำบากเราเลย
*** เรื่องยังไม่จบเท่านี้ เดี่ยวมาเล่าความเห็นแก่ตัวของเขาสองคนต่อค่ะ ปัจจุบันเรื่องนี้ยังไม่จบ แต่ขอตัวไปให้นมน้องก่อนน่ะค่ะ
*** ถ้าพิมตกหล่นต้องขออภัย จะกลับมาแก้ไขน่ะค่ะ