สวัสดีค่ะ สมัครสมาชิกมาใหม่เพราะตัองการคำแนะนำเลย ปกติเคยแต่อ่าน
เริ่มเรื่องเลยนะคะ เราอายุ 30 ปีแล้วค่ะ ปัจจุบันมีครอบครัวของตัวเอง มีงานที่ดี การเงินพอกินพอใช้
แต่เรารู้สึกมีบางอย่างดูดพลังชีวิตเรามาตลอด เราเกิดมาในครอบครัวฐานะปานกลางที่มีปัญหาเรื่องการใช้เงินเกินตัว
ขาดการวางแผน และมีลูกหลายคน เกินจำนวนที่เลี้ยงได้อย่างเห็นได้ชัด แม่มักทำโทษด้วยวิธีรุนแรง
เช่นตีจนเนื้อแตก ตบหน้า พ่อเราถึงรักเรามากแต่ก็ไม่มีอำนาจใดๆในบ้าน พ่อมีหน้าที่หาเงินเป็นหลัก ออกจากบ้านเช้ายันเย็น
ไม่ว่าจะเหตุการณ์อะไร พ่อเพียงบอกให้เราอดทนๆๆ ตั้งแต่เด็กๆพ่อดูดวงว่าเราจะแต่งงานกับคนมีฐานะ เค้าเลยไม่ได้ใส่ใจเรามาก
คิดว่าเดี๋ยวเราก็สบายแล้ว เล็กจนโต เราควบคุมตัวเองได้ดี(กลัวถูกทำโทษ) เพราะพี่น้องคนอื่นทำผิด แม่จะแค่ร้องไห้แล้วบ่นให้เราฟัง
ไม่เหมือนตอนเราทำผิด เราเรียนอยู่แถวหน้าของห้อง ไม่เคยเที่ยว ไม่เคยมีชีวิตวัยรุ่น ไม่เคยดูหนังฟังเพลงกับเพื่อน
เข้ามหลัยในคณะที่พ่อต้องการ มหาลัยรัฐชื่อค่อนข้างดัง สอนพิเศษและขายของออนไลน์ไปด้วย หาเงินเรียนเอง(โชคดีได้เพื่อนดีด้วย)
เพราะถึงตอนนี้พ่อเราเริ่มแก่ทำงานไม่ได้เหมือนก่อน พี่ๆเราเรียนจบแล้วไม่มีใครส่งหรอก
เรารู้จักกับแฟนตอนเรียนมหาลัย(สามีคนปัจจุบัน) เค้าถูกเลี้ยงมาต่างจากเรามาก พ่อแม่ไม่ได้ร่ำรวยล้นฟ้า
แต่มีลูกจำนวนน้อย เลยส่งเรียนสูงๆได้สบายๆ พ่อแม่เค้ามีเงินเก็บทำให้จวบจนบัดนี้สามีเราไม่ได้ส่งเงินให้พ่อแม่เค้าเลย
สามีเราทำงานได้ก่อนเราเพราะเป็นรุ่นพี่ ช่วงเราเรียนปี 3-4 ได้เค้าช่วยเรื่องเงินทองตลอด ถึงไม่ทั้งหมด แต่ก็ช่วยได้เยอะ
ช่วงนี้แม่เราเกิดเห็นธุรกิจใหม่น่าลงทุน เราด้วยความคิดว่าความจริงที่บ้านน่าจะรวยกว่านี้ เพราะพ่อแม่มีความรู้หลายอย่าง
แต่ที่ต้องลำบากเพราะไม่มีทุน ก็เลยหมุนเอาเงินที่แฟนให้ไปลงทุนให้แม่ 2 หมื่นเศษ แล้วก็ไปเครดิตของร้านเพื่อนให้แม่อีก 2 หมื่นกว่า
เอารถที่แฟนซื้อให้ไปจำนำ เอาเงินมาให้แม่ลงทุน ธุรกิจไปได้ไม่ถึงไหนหรอก เพราะแม่กับพี่เราไม่ได้จริงจัง
เรื่องมันมีอยู่ว่าพอเซ้งกิจการ ได้เงินคืนมา ราวๆ 80,000 บาท ก็ไม่ได้ทุนหรอก แต่แม่เราไม่คืนเราเลยเอาไปตกแต่งบ้าน
ที่อยู่ด้วยกันทุกคนเกือบ 10 ชีวิต แฟนเราหัวแนวฝรั่งหน่อยให้เป็นให้ ยืมเป็นยืม เค้าไม่พอใจแต่ไม่พูดมาก ปกติเป็นคนไม่พูดมากอยู่แล้ว
เราเลือกสามีคนนี้มาเพราะว่าเค้าพอมีฐานะ คิดว่าชีวิตเราและทางบ้าน น่าจะดีขึ้น แต่มันไม่ใช่เลย ยิ่งเวลาผ่านไปๆ
พ่อแม่ พี่น้องเรายิ่งคิดว่าแฟนเราดื้นรนได้ ก็มีเรื่องเล็กๆน้อยๆผ่านมาเป็นระยะ เช่น
พี่เราไปเที่ยวไหนมา เจอของสวย ซื้อมาแล้วมาเก็บตังเรา(เราไม่ได้สั่ง) เวลาเราไปกินอะไรจะมีคนสั่งซื้อของ
สั่งของแพงๆ แล้วไม่ให้เงินเรา ถ้าลืมซื้อจะถูกว่าแรงๆเช่น เห็นแก่ตัว ต่อมาเรามีลูกชายกับสามีคนนี้ เราก็ไม่ได้ทำงานบริษัทแล้ว
ตั้งใจลาออกเพราะตกลงกันตั้งแต่ตอนคบกันใหม่ๆ ว่าสามีเราต้องเราให้ดูแลครอบครัวเต็มที่ ทีนี้เงินเราทุกบาททุกสตางต้องอาศัยสามี
เค้าส่งให้ใช้เดือนละ 30,000 บาท(เมื่อ 7 ปีก่อน) เราจะไม่มีให้เหลือใช้ เพราะสามหมื่นนี่คือใช้กันแม่ลูก เราก็ใช้เวลาว่าง
ช่วงลูกหลับขายของออนไลน์ที่ขายมาตั้งแต่ตอนเรียนมหาลัยแล้ว ก็พอมีรายได้บ้าง ในระหว่างนี้พี่น้องๆก็วนเวียนชีวิตเดิมๆ
กินบุฟเฟต์ เที่ยวห้าง ออกรถแพงๆป้ายแดง เราออกไปไหนไม่ได้มากเพราะลูกเล็ก สามีทำงานกว่าจะกลับก็มืด เลยเป็นโชคดีว่า
เรามีเวลาทำงานมาก รายได้และธุรกิจตรงนี้ไปได้ดี เราโชคดีเจอผู้ใหญ่ในสายงานให้การอุปถัมภ์มากมาย เจอคู่ค้าที่ดี
เราเก็บเงินจากการขายของออนไลน์ไปลงทุนธุรกิจอื่น ซึ่งมันก็ไม่พอ เราต้องยืมเงินเพื่อน สามีกู้ธนาคารเสียดอก
เรา สามีและลูก กินไข่เจียว มาม่าอยู่หลายเดือน เพื่อหมุนเงินทุกบาทไปลงธุรกิจตัวนี่ พอตอนนี้ธุรกิจตอนนี้ก็ไปได้ดี
แม่ และพี่ก็มองอีกว่าเราคงไม่เดือดร้อน ทำไมไม่เพิ่มเงินที่จุนเจือครอบครัว ทั้งๆที่เราเองยังใช้หนี้ไม่หมด
เราไม่ได้ซื้อเสื้อผ้าใหม่ๆ ของแบรนเนมเราขายทั้งหมดเผื่อเอาเงินมาลงธุรกิจ รถขับเก่าๆอายุ 20 ปี
แต่เค้ากลับมองว่าเรามีธุรกิจหลายอย่าง พี่เราอีกคนเป็นลูกคนกลางไปซื้อบ้านอยู่ใกล้ๆมีฐานะมากกว่าเรา
แต่ส่งที่บ้านเงินละหมื่นเดียว เราส่งมากกว่านี้ 1.5 เท่า ไม่รวมจิปาถะ พี่เราไม่ต้องรีบผิดชอบอะไรเลย แม่ได้แต่บ่นน้อยใจ
แต่ไม่ว่าอะไร แฟนเราเห็นแบบนั้นก็เลยซื้อบ้านข้างๆบ้าง ย้ายออกไป แต่เรามีเรื่องที่ต้องกลับมาบ้านเกือบทุกวัน
ก็มีเรื่องปัญหาเข้ามาตลอด เช่นเงินที่เราส่งไม่พอนะ เพราะเรากินข้าวด้วย เราเองรู้ทั้งรู้ว่าอาหารพ่อเรารับผิดชอบซท้ิ
เนื่องจากตอนไหนเงินพ่อไม่พอก็เรานี่แหละ เครื่องใช้ไฟฟ้าเสียเราถูกบอกให้ช่วยจ่ายค่าซ่อมทั้งๆที่ตอนเราซื้อมาไม่มีใครช่วย
เราย้ายออกไปตอนนี้ไม่ได้ใช้ด้วยซ้ำ เร่องมันมาถึงจุดแย่จัดที่ว่า เงินเราหายค่ะ ทีละ 2 พัน 3 พัน หมื่นนึง สามหมื่น
หายหลายครั้ง สามีเป็นคนถือเงิน เราด่าหนักมากกกกกก นี่ชั้นประหยัดแถบตายให้แกทำหายหรอ
ด่าแรงทุกครั้ง สามีต้องการตัดปัญหาจึงให้เราถือเงินทุกอย่าง เพราะมีคนงานด้วย สามีเราบอกผู้หญิงน่าจะระวัง
เรื่องคนงานขโมยได้มากกว่า แต่สามีเราติดกล้องวงจรปิดในบ้าน หลังจากเราถือเงินได้ไม่ถึงสัปดาห์
เงินหายจากกระเป๋าเราเกือบหมื่น เเบงค์พันมั้งหมด หายหมดกระเป๋า เรามั่นใจมากว่าไม่ได้ไปใช้ที่ไหน
ทั้งๆที่ปกติความจำไม่ดี วันนั้นเป็นวันหยุด เรานอนอยุ่บ้านทั้งวัน คนงานไม่มาทำงาน สามีจึงย้อนวงจรปิดไปดํ
ถึงเห็นพี่เราเองขโมยไป หลังจากเค้าขโมยไปเค้าออกไปเที่ยวกับแฟนเค้า แล้วเค้าโทรมาถามเราว่าจะกินไรมั้ย
จะซื้อมาให้(เก็บตัง) เราบอกไม่เอาเงินหายไม่อยากกิน ดูวงจรปิดก่อน(ตอนนี้คิดว่าคนงานย้อนมาขโมยแน่ๆ)
พอพี่เรากลับมาบ้านอาการไม่ค่อยปกติ แม่เราดูcctv กับเรา บอกสงสารพี่ออกพี่ไม่เคยทำผิด ดูอาการสิน่าสงสาร
จุดนี้คือแย่มากสำหรับเรา เพราะสามีเราเกลียดมากกเรื่องขโมย โดยเฉพาะวาทำให้เราด่าเค้าตีเค้าบ่านแตก
สามีเพิ่งมาเล่าตอนหลังผ่านมาหลายเดือนว่า สามีจุดธูปบอกพระว่าใครเอาไปขอให้ครอบครัว
เหมือนที่เราเกือบได้บ้านแตก ตอนนี้เห็นผลค่ะ ครอบครัวพี่เราต้องเลิกรา ปัจจุบันเราจ่ายค่าเรียนพืเศษหลาน
เดือนละ 3,000 ซึ่งก็อีกค่ะ ทุกคนมองว่าน้อย แฟนเราบอกให้บอกพี่ไปไหว้พระองค์ที่แฟนเราแช่งไว้
เราไม่กล้าพูดเพราะแม่เราต้องด่าแน่ว่าแฟนเราปากไม่ดี(เค้านึกว่าคนงานขโมย) แฟนเราก็รู้สึกผิด
ที่ครอบครัวนั้นต้องแยกทางไม่เป็นท่า เราเองมีภาระเยอะขึ้น เงินยิ่งมาก งานก็ยิ่งมาก เวลายิ่งน้อย ความเครียดเรายิ่งมาก
เรื่องเล็กๆน้อยๆที่เราเคยจัดการทางอารมณ์ได้ ทุกวันนี้รู้สึกแย่ง่ายมาก เมื่อไม่นานมานี้ เราโดนแม่ด่าว่า
เห็นแก่ตัวอีกแล้ว เพราะเราลืมซื้อกับข้าวเข้าบ้าน 1 อย่าง คือกินอย่างอื่นก็ได้มั้ย คนอื่นก็มีให้สั่งซื้อมั้ย
เราทำใจไม่ได้เลย เรารับผิดชอบรายจ่ายเยอะ ทำไมต้องว่าเราขนาดนี้ด้วย เราทำธุรกิจของตัวเอง
แต่กลับถูกมองเป็นคนว่างงาน ใครจะเอาอะไรให้ช่วยอะไรเราต้องว่างตลอด ใครอยากได้ของในร้าน
เราต้องคิดราคาทุนหรือให้ฟรี แต่เราอยากได้อะไรของใคร แม่จะบอกเค้ากำไรน้อยจ่ายๆเค้าไป
เรารู้สึกแย่ของการเกิดเป็นลูกคนกลางตลอด เราตั้งใจมีลูกคนเดียว แต่ปีที่แล้วพลาดท้อง เราเองทำใจไม่ได้เลย
ไปซื้อยามาทำแท้ง โชคดีสามีเห็นก่อน สามีโกรธมาก ห้ามเราไว้ ตอนนี้ลูกคนนี้ก็กำลังน่ารัก
แต่เรารักเค้าไม่เหมือนคนแรกสักที ทำให้เรายิ่งรู้สึกผิดหนักมาก กลัวว่าเราจะรักลูกไใ่เท่ากันเหมือนที่ตัวเอง
โดนมา ตอนนี้รู้สึกผิดกลับสามีด้วย เมื่อไรที่สมองว่างๆจะกลับไปคิดเรื่องที่บ้านเราทุกครั้ง
เราไม่เรี่ยวแรงจะเดินต่อ จะดูแลลูกก็ไม่เต็มร้อย สามีนี่ไม่ต้องถูกถึง กลัวปัญหาครอบครัวเราจะตามมาด้วย
ล่าสุดสามีอยากให้.ซื้อบ้านใหม่แยกมาไกลๆเลย เผื่อจะดีขึ้น แต่ทางบ้านเราคงมองว่าเราม่เงินขึ้นมา
ก็ทิ้งเค้าไปอีก เราควาจะทำยังไงใครแนะนำทีค่ะ
ขอคำแนะนำของการเกิดเป็นลูกคนกลางค่ะ เครียดมาก
เริ่มเรื่องเลยนะคะ เราอายุ 30 ปีแล้วค่ะ ปัจจุบันมีครอบครัวของตัวเอง มีงานที่ดี การเงินพอกินพอใช้
แต่เรารู้สึกมีบางอย่างดูดพลังชีวิตเรามาตลอด เราเกิดมาในครอบครัวฐานะปานกลางที่มีปัญหาเรื่องการใช้เงินเกินตัว
ขาดการวางแผน และมีลูกหลายคน เกินจำนวนที่เลี้ยงได้อย่างเห็นได้ชัด แม่มักทำโทษด้วยวิธีรุนแรง
เช่นตีจนเนื้อแตก ตบหน้า พ่อเราถึงรักเรามากแต่ก็ไม่มีอำนาจใดๆในบ้าน พ่อมีหน้าที่หาเงินเป็นหลัก ออกจากบ้านเช้ายันเย็น
ไม่ว่าจะเหตุการณ์อะไร พ่อเพียงบอกให้เราอดทนๆๆ ตั้งแต่เด็กๆพ่อดูดวงว่าเราจะแต่งงานกับคนมีฐานะ เค้าเลยไม่ได้ใส่ใจเรามาก
คิดว่าเดี๋ยวเราก็สบายแล้ว เล็กจนโต เราควบคุมตัวเองได้ดี(กลัวถูกทำโทษ) เพราะพี่น้องคนอื่นทำผิด แม่จะแค่ร้องไห้แล้วบ่นให้เราฟัง
ไม่เหมือนตอนเราทำผิด เราเรียนอยู่แถวหน้าของห้อง ไม่เคยเที่ยว ไม่เคยมีชีวิตวัยรุ่น ไม่เคยดูหนังฟังเพลงกับเพื่อน
เข้ามหลัยในคณะที่พ่อต้องการ มหาลัยรัฐชื่อค่อนข้างดัง สอนพิเศษและขายของออนไลน์ไปด้วย หาเงินเรียนเอง(โชคดีได้เพื่อนดีด้วย)
เพราะถึงตอนนี้พ่อเราเริ่มแก่ทำงานไม่ได้เหมือนก่อน พี่ๆเราเรียนจบแล้วไม่มีใครส่งหรอก
เรารู้จักกับแฟนตอนเรียนมหาลัย(สามีคนปัจจุบัน) เค้าถูกเลี้ยงมาต่างจากเรามาก พ่อแม่ไม่ได้ร่ำรวยล้นฟ้า
แต่มีลูกจำนวนน้อย เลยส่งเรียนสูงๆได้สบายๆ พ่อแม่เค้ามีเงินเก็บทำให้จวบจนบัดนี้สามีเราไม่ได้ส่งเงินให้พ่อแม่เค้าเลย
สามีเราทำงานได้ก่อนเราเพราะเป็นรุ่นพี่ ช่วงเราเรียนปี 3-4 ได้เค้าช่วยเรื่องเงินทองตลอด ถึงไม่ทั้งหมด แต่ก็ช่วยได้เยอะ
ช่วงนี้แม่เราเกิดเห็นธุรกิจใหม่น่าลงทุน เราด้วยความคิดว่าความจริงที่บ้านน่าจะรวยกว่านี้ เพราะพ่อแม่มีความรู้หลายอย่าง
แต่ที่ต้องลำบากเพราะไม่มีทุน ก็เลยหมุนเอาเงินที่แฟนให้ไปลงทุนให้แม่ 2 หมื่นเศษ แล้วก็ไปเครดิตของร้านเพื่อนให้แม่อีก 2 หมื่นกว่า
เอารถที่แฟนซื้อให้ไปจำนำ เอาเงินมาให้แม่ลงทุน ธุรกิจไปได้ไม่ถึงไหนหรอก เพราะแม่กับพี่เราไม่ได้จริงจัง
เรื่องมันมีอยู่ว่าพอเซ้งกิจการ ได้เงินคืนมา ราวๆ 80,000 บาท ก็ไม่ได้ทุนหรอก แต่แม่เราไม่คืนเราเลยเอาไปตกแต่งบ้าน
ที่อยู่ด้วยกันทุกคนเกือบ 10 ชีวิต แฟนเราหัวแนวฝรั่งหน่อยให้เป็นให้ ยืมเป็นยืม เค้าไม่พอใจแต่ไม่พูดมาก ปกติเป็นคนไม่พูดมากอยู่แล้ว
เราเลือกสามีคนนี้มาเพราะว่าเค้าพอมีฐานะ คิดว่าชีวิตเราและทางบ้าน น่าจะดีขึ้น แต่มันไม่ใช่เลย ยิ่งเวลาผ่านไปๆ
พ่อแม่ พี่น้องเรายิ่งคิดว่าแฟนเราดื้นรนได้ ก็มีเรื่องเล็กๆน้อยๆผ่านมาเป็นระยะ เช่น
พี่เราไปเที่ยวไหนมา เจอของสวย ซื้อมาแล้วมาเก็บตังเรา(เราไม่ได้สั่ง) เวลาเราไปกินอะไรจะมีคนสั่งซื้อของ
สั่งของแพงๆ แล้วไม่ให้เงินเรา ถ้าลืมซื้อจะถูกว่าแรงๆเช่น เห็นแก่ตัว ต่อมาเรามีลูกชายกับสามีคนนี้ เราก็ไม่ได้ทำงานบริษัทแล้ว
ตั้งใจลาออกเพราะตกลงกันตั้งแต่ตอนคบกันใหม่ๆ ว่าสามีเราต้องเราให้ดูแลครอบครัวเต็มที่ ทีนี้เงินเราทุกบาททุกสตางต้องอาศัยสามี
เค้าส่งให้ใช้เดือนละ 30,000 บาท(เมื่อ 7 ปีก่อน) เราจะไม่มีให้เหลือใช้ เพราะสามหมื่นนี่คือใช้กันแม่ลูก เราก็ใช้เวลาว่าง
ช่วงลูกหลับขายของออนไลน์ที่ขายมาตั้งแต่ตอนเรียนมหาลัยแล้ว ก็พอมีรายได้บ้าง ในระหว่างนี้พี่น้องๆก็วนเวียนชีวิตเดิมๆ
กินบุฟเฟต์ เที่ยวห้าง ออกรถแพงๆป้ายแดง เราออกไปไหนไม่ได้มากเพราะลูกเล็ก สามีทำงานกว่าจะกลับก็มืด เลยเป็นโชคดีว่า
เรามีเวลาทำงานมาก รายได้และธุรกิจตรงนี้ไปได้ดี เราโชคดีเจอผู้ใหญ่ในสายงานให้การอุปถัมภ์มากมาย เจอคู่ค้าที่ดี
เราเก็บเงินจากการขายของออนไลน์ไปลงทุนธุรกิจอื่น ซึ่งมันก็ไม่พอ เราต้องยืมเงินเพื่อน สามีกู้ธนาคารเสียดอก
เรา สามีและลูก กินไข่เจียว มาม่าอยู่หลายเดือน เพื่อหมุนเงินทุกบาทไปลงธุรกิจตัวนี่ พอตอนนี้ธุรกิจตอนนี้ก็ไปได้ดี
แม่ และพี่ก็มองอีกว่าเราคงไม่เดือดร้อน ทำไมไม่เพิ่มเงินที่จุนเจือครอบครัว ทั้งๆที่เราเองยังใช้หนี้ไม่หมด
เราไม่ได้ซื้อเสื้อผ้าใหม่ๆ ของแบรนเนมเราขายทั้งหมดเผื่อเอาเงินมาลงธุรกิจ รถขับเก่าๆอายุ 20 ปี
แต่เค้ากลับมองว่าเรามีธุรกิจหลายอย่าง พี่เราอีกคนเป็นลูกคนกลางไปซื้อบ้านอยู่ใกล้ๆมีฐานะมากกว่าเรา
แต่ส่งที่บ้านเงินละหมื่นเดียว เราส่งมากกว่านี้ 1.5 เท่า ไม่รวมจิปาถะ พี่เราไม่ต้องรีบผิดชอบอะไรเลย แม่ได้แต่บ่นน้อยใจ
แต่ไม่ว่าอะไร แฟนเราเห็นแบบนั้นก็เลยซื้อบ้านข้างๆบ้าง ย้ายออกไป แต่เรามีเรื่องที่ต้องกลับมาบ้านเกือบทุกวัน
ก็มีเรื่องปัญหาเข้ามาตลอด เช่นเงินที่เราส่งไม่พอนะ เพราะเรากินข้าวด้วย เราเองรู้ทั้งรู้ว่าอาหารพ่อเรารับผิดชอบซท้ิ
เนื่องจากตอนไหนเงินพ่อไม่พอก็เรานี่แหละ เครื่องใช้ไฟฟ้าเสียเราถูกบอกให้ช่วยจ่ายค่าซ่อมทั้งๆที่ตอนเราซื้อมาไม่มีใครช่วย
เราย้ายออกไปตอนนี้ไม่ได้ใช้ด้วยซ้ำ เร่องมันมาถึงจุดแย่จัดที่ว่า เงินเราหายค่ะ ทีละ 2 พัน 3 พัน หมื่นนึง สามหมื่น
หายหลายครั้ง สามีเป็นคนถือเงิน เราด่าหนักมากกกกกก นี่ชั้นประหยัดแถบตายให้แกทำหายหรอ
ด่าแรงทุกครั้ง สามีต้องการตัดปัญหาจึงให้เราถือเงินทุกอย่าง เพราะมีคนงานด้วย สามีเราบอกผู้หญิงน่าจะระวัง
เรื่องคนงานขโมยได้มากกว่า แต่สามีเราติดกล้องวงจรปิดในบ้าน หลังจากเราถือเงินได้ไม่ถึงสัปดาห์
เงินหายจากกระเป๋าเราเกือบหมื่น เเบงค์พันมั้งหมด หายหมดกระเป๋า เรามั่นใจมากว่าไม่ได้ไปใช้ที่ไหน
ทั้งๆที่ปกติความจำไม่ดี วันนั้นเป็นวันหยุด เรานอนอยุ่บ้านทั้งวัน คนงานไม่มาทำงาน สามีจึงย้อนวงจรปิดไปดํ
ถึงเห็นพี่เราเองขโมยไป หลังจากเค้าขโมยไปเค้าออกไปเที่ยวกับแฟนเค้า แล้วเค้าโทรมาถามเราว่าจะกินไรมั้ย
จะซื้อมาให้(เก็บตัง) เราบอกไม่เอาเงินหายไม่อยากกิน ดูวงจรปิดก่อน(ตอนนี้คิดว่าคนงานย้อนมาขโมยแน่ๆ)
พอพี่เรากลับมาบ้านอาการไม่ค่อยปกติ แม่เราดูcctv กับเรา บอกสงสารพี่ออกพี่ไม่เคยทำผิด ดูอาการสิน่าสงสาร
จุดนี้คือแย่มากสำหรับเรา เพราะสามีเราเกลียดมากกเรื่องขโมย โดยเฉพาะวาทำให้เราด่าเค้าตีเค้าบ่านแตก
สามีเพิ่งมาเล่าตอนหลังผ่านมาหลายเดือนว่า สามีจุดธูปบอกพระว่าใครเอาไปขอให้ครอบครัว
เหมือนที่เราเกือบได้บ้านแตก ตอนนี้เห็นผลค่ะ ครอบครัวพี่เราต้องเลิกรา ปัจจุบันเราจ่ายค่าเรียนพืเศษหลาน
เดือนละ 3,000 ซึ่งก็อีกค่ะ ทุกคนมองว่าน้อย แฟนเราบอกให้บอกพี่ไปไหว้พระองค์ที่แฟนเราแช่งไว้
เราไม่กล้าพูดเพราะแม่เราต้องด่าแน่ว่าแฟนเราปากไม่ดี(เค้านึกว่าคนงานขโมย) แฟนเราก็รู้สึกผิด
ที่ครอบครัวนั้นต้องแยกทางไม่เป็นท่า เราเองมีภาระเยอะขึ้น เงินยิ่งมาก งานก็ยิ่งมาก เวลายิ่งน้อย ความเครียดเรายิ่งมาก
เรื่องเล็กๆน้อยๆที่เราเคยจัดการทางอารมณ์ได้ ทุกวันนี้รู้สึกแย่ง่ายมาก เมื่อไม่นานมานี้ เราโดนแม่ด่าว่า
เห็นแก่ตัวอีกแล้ว เพราะเราลืมซื้อกับข้าวเข้าบ้าน 1 อย่าง คือกินอย่างอื่นก็ได้มั้ย คนอื่นก็มีให้สั่งซื้อมั้ย
เราทำใจไม่ได้เลย เรารับผิดชอบรายจ่ายเยอะ ทำไมต้องว่าเราขนาดนี้ด้วย เราทำธุรกิจของตัวเอง
แต่กลับถูกมองเป็นคนว่างงาน ใครจะเอาอะไรให้ช่วยอะไรเราต้องว่างตลอด ใครอยากได้ของในร้าน
เราต้องคิดราคาทุนหรือให้ฟรี แต่เราอยากได้อะไรของใคร แม่จะบอกเค้ากำไรน้อยจ่ายๆเค้าไป
เรารู้สึกแย่ของการเกิดเป็นลูกคนกลางตลอด เราตั้งใจมีลูกคนเดียว แต่ปีที่แล้วพลาดท้อง เราเองทำใจไม่ได้เลย
ไปซื้อยามาทำแท้ง โชคดีสามีเห็นก่อน สามีโกรธมาก ห้ามเราไว้ ตอนนี้ลูกคนนี้ก็กำลังน่ารัก
แต่เรารักเค้าไม่เหมือนคนแรกสักที ทำให้เรายิ่งรู้สึกผิดหนักมาก กลัวว่าเราจะรักลูกไใ่เท่ากันเหมือนที่ตัวเอง
โดนมา ตอนนี้รู้สึกผิดกลับสามีด้วย เมื่อไรที่สมองว่างๆจะกลับไปคิดเรื่องที่บ้านเราทุกครั้ง
เราไม่เรี่ยวแรงจะเดินต่อ จะดูแลลูกก็ไม่เต็มร้อย สามีนี่ไม่ต้องถูกถึง กลัวปัญหาครอบครัวเราจะตามมาด้วย
ล่าสุดสามีอยากให้.ซื้อบ้านใหม่แยกมาไกลๆเลย เผื่อจะดีขึ้น แต่ทางบ้านเราคงมองว่าเราม่เงินขึ้นมา
ก็ทิ้งเค้าไปอีก เราควาจะทำยังไงใครแนะนำทีค่ะ