คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 98
ความคุ้นเคยทำให้รู้สึกอร่อย
หรือความแปลกใหม่ นานๆครั้ง
ถ้ารสมันไม่แหกคอกรสนิยมส่วนตัวจนเกินไป ก็ทำให้รู้สึกอร่อยได้
มีช่วงหนึ่งผมกินอาหารอินเดียนานหลายเดือน ตอนแรกรสจืดสุดๆ
พอลิ้นปรับตัวได้แยกแยะรสได้ละเอียดขึ้นมาก กินอะไรก็อร่อยพอดีนุ่มหอมละมุนไปหมด
พอกลับมากินอาหารไทย ทุกสิ่งมันจัดจ้านเกินพอดีไปหมดอีกเช่นกัน
โดนส้มตำเข้าไปนิดเดียว รสธรรมดามากๆ เผ็ดน้ำตาตกไปเป็นชั่วโมงทั้งที่ก่อนนั้นทานได้สบายๆ
--------------------------------------------------------------
อีกอย่างคือ วัฒนธรรมการกินของคนแถบนี้และฝรั่งต่างกันมากมาย
คนไทยกินอาหารแบบออกเป็นชุดคาว หวาน และกินเล่น
แทบทุกเมนูมีรสจืด รสพอดีๆ หรือรสจัดจ้านไปทางใดทางหนึ่ง
เว้นแต่ของกินเล่นจะมีส่วนผสมหลายรสหน่อย เพื่อใช้รสตัดกันเอง
ไม่ใช่รสพอดีลงตัวให้สามารถทานแยกเป็นเซ็ทๆ ทานเรียงไปทีละเมนูได้แบบอาหารฝรั่ง
ดังนั้น อาหารชุดคาว หรือหวานส่วนใหญ่ต้องออกเกือบพร้อมกัน
เพราะบางเมนูรสเด่นจัดทั้งไม่มีเครื่องเคียง
แต่ใช้อาหารเมนูอื่นที่วางแผนใว้แล้วให้รสตัดกัน เอื้อกันให้เกิดความกลมกล่อมแทน
น้ำพริกอ่องมีรสเค็มนำ ก็ต้องมีรสจากเมนูอื่นตัด อย่างน้อยก็ต้องคลุกข้าวสวยและมีผักสดหละ
น้ำพริกผักลวก หรือแกงปลาผัดเผ็ดผริกไทยสดใบรา
ไม่ใช่ของกินเดี่ยวๆได้แบบเมนูฝรั่งส่วนใหญ่
ถ้าไม่มีข้าวสวยร้อนๆนี่ ทานเข้าไปแสบท้องตายเลยครับ มันไม่ใช่อาหารอย่างฝรั่งเสียหน่อย
และเมนูคู่กันคือต้องได้ความกลมกล่อมของน้ำแกงจืด หรือแกงเลียง มาช่วยนะครับ
ข้าวสวยร้อนๆนี่มีความสำคัญมากสุดๆ
เพราะกลิ่นไอข้าวจะพากลิ่นแกงกลิ่นน้ำพริกขึ้นมาด้วย ถ้าข้าวชืดรสอาหารเสียไปครึ่งเลยนะครับ
วิธีทานก็เป็นปัญหาเพราะฝรั่งไม่รู้จักอาหารของเรา เลยไม่รู้ว่าเมนูไหนต้องสั่งคู่กับอะไร และกินแบบไหน
อันนี้ต้องแนะนำนะ ถ้าบอกให้เขากินแบบเราได้ อาหารเราไม่ต้องลดความเข้มข้นของรสชาติเลย
เขาใช้เวลาอีกนิดหน่อย ทานซ้ำสามสี่รอบก็สามารถกินแบบเราได้แน่นอน
และมันจะกลายเป็นเอกลักษณ์ของอาหารไทยที่ชัดเจนไปกว่านี้อีก
เพราะเมนูแกงเผ็ดข้าวสวย ก็ต้องจับคู่แกงเลียง และไม่ใช่กินสลับไปมาเดี่ยวๆ
แต่ใช้วิธีตักแกงเผ็ดคลุกข้าวสวยก่อน เผ็ดมากก็ตักแกงแต่น้อย
คลุกข้าวเยอะๆพอให้มีกลิ่นแกงหอมๆ แล้วมีผักลวกและแกงเลียงใว้ตัดรสเผ็ด
คือขายวัฒนธรรมการกินไปด้วย อย่าขายแต่อาหาร
พวกของหวานของว่างหรือผลไม้บางอย่างก็มีคู่ของมันอยู่นะ
อย่างทุเรียน(ร้อน)ก็ทานคู่มังคุด(เย็น)
กระยาสารทนี่หวานแสบใส้ ใช้ทานคู่กะกล้วยไข่
หรือพวกอาหารชายทะเลสมัยก่อน
หอยนางรมสด ทานกะยอดกระถิน หรือทำเป็นยำหอยไปเลยก็ได้
ทุกวันนี้อย่าว่าแต่ฝรั่งจะกินแบบทื่อๆ จนต้องลดรสจัดลงกลายเป็นเมนูไทยรสห่วยๆ
แม้เด็กไทยเองหลายๆคนก็สั่งอาหารแบบจับคู่อาหารไม่เป็นนะ
ผลคือพอร้านอาหารไทย ลดรสจัดจ้านลงก็ไม่ใช่แค่อาหารเสียเอกลักษณ์ แต่มันยังทำให้วัฒนธรรมการกินเสียไปอีกด้วย
คนไทยเน้นขายอาหารไทยมาหลายสิบปี ทำไมไม่มีเมนูเรียงเข้าเซ็ทให้ลงตัวบ้าง คนกินจะได้ไม่ต้องชี้สั่งมั่วๆ
เพราะฝรั่งมาเมืองไทยก็ไม่ต่างจากคนไทยทานอาหารฝรั่งครั้งแรกๆ
คือไม่รู้ว่าอะไรควรกินกับอะไร และวัฒนธรรมการกินเป็นอย่างไร บางครั้งก็อาศัยชี้มั่วๆไป
(ผมก็มั่วไปกะเขาบ่อย นี่ขนาดทำงานในวงการท่องเที่ยว
มีให้ทดลองกินสบายๆยังไม่ค่อยได้ความเลย ร้านอาหารไทยก็ควรจะคิดต่อยอดตรงนี้
เพื่อกลับไปใช้รสดั้งเดิมเป็นมาตรฐานอาหารไทยแท้ให้ได้)
ดังนั้น ร้านอาหารไทยยุคใหม่ๆ ควรจะออกเมนูที่เลือกเข้าคู่เข้ากลุ่มขายเป็นเซ็ทด้วยนะ
แล้วลูกค้าจะปรับอะไรแทนอะไรเพิ่มอะไรในเซ็ทก็ค่อยว่ากัน ถ้าขายแบบนั้นไปบ่อยๆ
ลูกค้าเกิดการเรียนรู้เรื่องเซ็ทอาหารก็เท่ากับรักษาวัฒนธรรมการกินของเราใว้ด้วย
(คือถ้าอ้างอิงวิถีสังคมเรื่องการกิน สมัยก่อนคนไทยครอบครัวใหญ่เก้าคนสิบคนนะ
อาหารสำรับเดียวตักเพิ่มสองสามรอบ นั่งกินกันได้ทั้งครอบครัว เขาทำให้รสลงตัวอิ่มอร่อยกันครบทุกคนได้อย่างไรหละ)
(เมนูฝรั่งบางอย่างก็ต้องมีซอสหรือเครื่องเคียงช่วยตัดรสเหมือนกัน
แต่ความที่ส่วนใหญ่จบได้เดี่ยวๆ เขาจึงมีลำดับการออกอาหาร ให้ลงตัวพอดีกันด้วย)
อีกอย่างคือสภาพภูมิอากาศก็สำคัญ ถ้าคุณไปตั้งกะทะผัดไทยหน้าหนาว 17 องศากลางสนามหญ้าสวยๆ บรรยากาศก็ดูดี
แต่ผัดไปร่วมไลน์บุฟเฟต์ใหญ่ อาจมีคนตักก่อนใครเพื่อนแค่สองสามคนได้อร่อย
ที่เหลือมันจะเย็นชืดเม็ดข้าวแข็งโป๊ก ดังนั้นถ้าไม่มีอุปกรณ์ไม่มีคนลงกะทะแบบอาหารจานเดียว ก็อย่าทำดีกว่า
เมนูพวกยำกรอบๆ ก็แพ้สภาพภูมิอากาศมากเช่นกัน ที่เห็นส่วนใหญ่ใช้วิธีทำอย่างน้อยสองขั้นตอน
คือทำน้ำยำแยกกับพวกเนื้ออะไรต่างๆใว้ก่อนแล้วค่อยคลุก มันไม่พอนะ
เพราะถ้าลวกหรือทอดใว้ก่อนนานๆก็เสียความสดความกรอบไม่ดีหรอก
อาจแยกเซ็ทออกมาเข้าคู่อาหารหลัก แล้วรอลูกค้าสั่งทอดหรือลวกกันสดๆ ดีกว่าเยอะเลย
การออกเมนูจึงต้องคำนึงถึงสภาพภูมิอากาศให้มากๆ
ส่วนกรณีอาหารชุปพวกต้มยำเอาตัวรอดสบาย เพราะทำกะให้รสจืดหน่อยแยกใว้สองส่วน
แล้วอุ่นไปเรื่อยๆร้อนๆ ค่อยๆเติมอีกส่วนไปเจือจางเมื่อซุปเข้มข้นมากเกิน ก็จะลงตัวได้
ความอร่อยมันจึงไม่ได้อยู่ที่รสอาหารอย่างเดียว
หากคนกินสุขภาพดีลิ้นไม่เพี้ยน ความคุ้นลิ้นก็ช่วยให้อร่อยได้ส่วนหนึ่ง
นอกจากนั้นมันยังแฝงอยู่ในรูปแบบวิธีเสริฟ วิธีกิน
สภาพภูมิอากาศ วัฒนธรรมการกินที่ถูกจังหวะเวลา ลงตัวพอดีกันทั้งหมดด้วย
หรือความแปลกใหม่ นานๆครั้ง
ถ้ารสมันไม่แหกคอกรสนิยมส่วนตัวจนเกินไป ก็ทำให้รู้สึกอร่อยได้
มีช่วงหนึ่งผมกินอาหารอินเดียนานหลายเดือน ตอนแรกรสจืดสุดๆ
พอลิ้นปรับตัวได้แยกแยะรสได้ละเอียดขึ้นมาก กินอะไรก็อร่อยพอดีนุ่มหอมละมุนไปหมด
พอกลับมากินอาหารไทย ทุกสิ่งมันจัดจ้านเกินพอดีไปหมดอีกเช่นกัน
โดนส้มตำเข้าไปนิดเดียว รสธรรมดามากๆ เผ็ดน้ำตาตกไปเป็นชั่วโมงทั้งที่ก่อนนั้นทานได้สบายๆ
--------------------------------------------------------------
อีกอย่างคือ วัฒนธรรมการกินของคนแถบนี้และฝรั่งต่างกันมากมาย
คนไทยกินอาหารแบบออกเป็นชุดคาว หวาน และกินเล่น
แทบทุกเมนูมีรสจืด รสพอดีๆ หรือรสจัดจ้านไปทางใดทางหนึ่ง
เว้นแต่ของกินเล่นจะมีส่วนผสมหลายรสหน่อย เพื่อใช้รสตัดกันเอง
ไม่ใช่รสพอดีลงตัวให้สามารถทานแยกเป็นเซ็ทๆ ทานเรียงไปทีละเมนูได้แบบอาหารฝรั่ง
ดังนั้น อาหารชุดคาว หรือหวานส่วนใหญ่ต้องออกเกือบพร้อมกัน
เพราะบางเมนูรสเด่นจัดทั้งไม่มีเครื่องเคียง
แต่ใช้อาหารเมนูอื่นที่วางแผนใว้แล้วให้รสตัดกัน เอื้อกันให้เกิดความกลมกล่อมแทน
น้ำพริกอ่องมีรสเค็มนำ ก็ต้องมีรสจากเมนูอื่นตัด อย่างน้อยก็ต้องคลุกข้าวสวยและมีผักสดหละ
น้ำพริกผักลวก หรือแกงปลาผัดเผ็ดผริกไทยสดใบรา
ไม่ใช่ของกินเดี่ยวๆได้แบบเมนูฝรั่งส่วนใหญ่
ถ้าไม่มีข้าวสวยร้อนๆนี่ ทานเข้าไปแสบท้องตายเลยครับ มันไม่ใช่อาหารอย่างฝรั่งเสียหน่อย
และเมนูคู่กันคือต้องได้ความกลมกล่อมของน้ำแกงจืด หรือแกงเลียง มาช่วยนะครับ
ข้าวสวยร้อนๆนี่มีความสำคัญมากสุดๆ
เพราะกลิ่นไอข้าวจะพากลิ่นแกงกลิ่นน้ำพริกขึ้นมาด้วย ถ้าข้าวชืดรสอาหารเสียไปครึ่งเลยนะครับ
วิธีทานก็เป็นปัญหาเพราะฝรั่งไม่รู้จักอาหารของเรา เลยไม่รู้ว่าเมนูไหนต้องสั่งคู่กับอะไร และกินแบบไหน
อันนี้ต้องแนะนำนะ ถ้าบอกให้เขากินแบบเราได้ อาหารเราไม่ต้องลดความเข้มข้นของรสชาติเลย
เขาใช้เวลาอีกนิดหน่อย ทานซ้ำสามสี่รอบก็สามารถกินแบบเราได้แน่นอน
และมันจะกลายเป็นเอกลักษณ์ของอาหารไทยที่ชัดเจนไปกว่านี้อีก
เพราะเมนูแกงเผ็ดข้าวสวย ก็ต้องจับคู่แกงเลียง และไม่ใช่กินสลับไปมาเดี่ยวๆ
แต่ใช้วิธีตักแกงเผ็ดคลุกข้าวสวยก่อน เผ็ดมากก็ตักแกงแต่น้อย
คลุกข้าวเยอะๆพอให้มีกลิ่นแกงหอมๆ แล้วมีผักลวกและแกงเลียงใว้ตัดรสเผ็ด
คือขายวัฒนธรรมการกินไปด้วย อย่าขายแต่อาหาร
พวกของหวานของว่างหรือผลไม้บางอย่างก็มีคู่ของมันอยู่นะ
อย่างทุเรียน(ร้อน)ก็ทานคู่มังคุด(เย็น)
กระยาสารทนี่หวานแสบใส้ ใช้ทานคู่กะกล้วยไข่
หรือพวกอาหารชายทะเลสมัยก่อน
หอยนางรมสด ทานกะยอดกระถิน หรือทำเป็นยำหอยไปเลยก็ได้
ทุกวันนี้อย่าว่าแต่ฝรั่งจะกินแบบทื่อๆ จนต้องลดรสจัดลงกลายเป็นเมนูไทยรสห่วยๆ
แม้เด็กไทยเองหลายๆคนก็สั่งอาหารแบบจับคู่อาหารไม่เป็นนะ
ผลคือพอร้านอาหารไทย ลดรสจัดจ้านลงก็ไม่ใช่แค่อาหารเสียเอกลักษณ์ แต่มันยังทำให้วัฒนธรรมการกินเสียไปอีกด้วย
คนไทยเน้นขายอาหารไทยมาหลายสิบปี ทำไมไม่มีเมนูเรียงเข้าเซ็ทให้ลงตัวบ้าง คนกินจะได้ไม่ต้องชี้สั่งมั่วๆ
เพราะฝรั่งมาเมืองไทยก็ไม่ต่างจากคนไทยทานอาหารฝรั่งครั้งแรกๆ
คือไม่รู้ว่าอะไรควรกินกับอะไร และวัฒนธรรมการกินเป็นอย่างไร บางครั้งก็อาศัยชี้มั่วๆไป
(ผมก็มั่วไปกะเขาบ่อย นี่ขนาดทำงานในวงการท่องเที่ยว
มีให้ทดลองกินสบายๆยังไม่ค่อยได้ความเลย ร้านอาหารไทยก็ควรจะคิดต่อยอดตรงนี้
เพื่อกลับไปใช้รสดั้งเดิมเป็นมาตรฐานอาหารไทยแท้ให้ได้)
ดังนั้น ร้านอาหารไทยยุคใหม่ๆ ควรจะออกเมนูที่เลือกเข้าคู่เข้ากลุ่มขายเป็นเซ็ทด้วยนะ
แล้วลูกค้าจะปรับอะไรแทนอะไรเพิ่มอะไรในเซ็ทก็ค่อยว่ากัน ถ้าขายแบบนั้นไปบ่อยๆ
ลูกค้าเกิดการเรียนรู้เรื่องเซ็ทอาหารก็เท่ากับรักษาวัฒนธรรมการกินของเราใว้ด้วย
(คือถ้าอ้างอิงวิถีสังคมเรื่องการกิน สมัยก่อนคนไทยครอบครัวใหญ่เก้าคนสิบคนนะ
อาหารสำรับเดียวตักเพิ่มสองสามรอบ นั่งกินกันได้ทั้งครอบครัว เขาทำให้รสลงตัวอิ่มอร่อยกันครบทุกคนได้อย่างไรหละ)
(เมนูฝรั่งบางอย่างก็ต้องมีซอสหรือเครื่องเคียงช่วยตัดรสเหมือนกัน
แต่ความที่ส่วนใหญ่จบได้เดี่ยวๆ เขาจึงมีลำดับการออกอาหาร ให้ลงตัวพอดีกันด้วย)
อีกอย่างคือสภาพภูมิอากาศก็สำคัญ ถ้าคุณไปตั้งกะทะผัดไทยหน้าหนาว 17 องศากลางสนามหญ้าสวยๆ บรรยากาศก็ดูดี
แต่ผัดไปร่วมไลน์บุฟเฟต์ใหญ่ อาจมีคนตักก่อนใครเพื่อนแค่สองสามคนได้อร่อย
ที่เหลือมันจะเย็นชืดเม็ดข้าวแข็งโป๊ก ดังนั้นถ้าไม่มีอุปกรณ์ไม่มีคนลงกะทะแบบอาหารจานเดียว ก็อย่าทำดีกว่า
เมนูพวกยำกรอบๆ ก็แพ้สภาพภูมิอากาศมากเช่นกัน ที่เห็นส่วนใหญ่ใช้วิธีทำอย่างน้อยสองขั้นตอน
คือทำน้ำยำแยกกับพวกเนื้ออะไรต่างๆใว้ก่อนแล้วค่อยคลุก มันไม่พอนะ
เพราะถ้าลวกหรือทอดใว้ก่อนนานๆก็เสียความสดความกรอบไม่ดีหรอก
อาจแยกเซ็ทออกมาเข้าคู่อาหารหลัก แล้วรอลูกค้าสั่งทอดหรือลวกกันสดๆ ดีกว่าเยอะเลย
การออกเมนูจึงต้องคำนึงถึงสภาพภูมิอากาศให้มากๆ
ส่วนกรณีอาหารชุปพวกต้มยำเอาตัวรอดสบาย เพราะทำกะให้รสจืดหน่อยแยกใว้สองส่วน
แล้วอุ่นไปเรื่อยๆร้อนๆ ค่อยๆเติมอีกส่วนไปเจือจางเมื่อซุปเข้มข้นมากเกิน ก็จะลงตัวได้
ความอร่อยมันจึงไม่ได้อยู่ที่รสอาหารอย่างเดียว
หากคนกินสุขภาพดีลิ้นไม่เพี้ยน ความคุ้นลิ้นก็ช่วยให้อร่อยได้ส่วนหนึ่ง
นอกจากนั้นมันยังแฝงอยู่ในรูปแบบวิธีเสริฟ วิธีกิน
สภาพภูมิอากาศ วัฒนธรรมการกินที่ถูกจังหวะเวลา ลงตัวพอดีกันทั้งหมดด้วย
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 9
มันแล้วแต่ความชอบ บางคนเค้าตระเวนกินมาแล้ว 7 คาบสมุทร แล้วบอก ชอบอาหารไทยที่สุด ก็อย่าไปแร้งลงว่าเค้าเป็นกบในกะลา คิดว่าตัวเองรู้มากแตใจแคบชะมัด
ส่วนความนิยม มันเปรียบเทียบได้ไมยาก วัดเป็นตัวเลขได้ไม่ยาก เช่น คนไทยใน ออส และ อเมริกามีน้อย เมื่อเทียบกับเอเชียนอื่นๆ
แต่จำนวนร้านไทยในอเมกาทั่วประเทศ ติด top5
จำนวนร้านไทยใน ออก ติด top 3
ร้านจีน ลาว เวียด หม่อง มากมาย ที่เอาอาหารไทย มาแทรกในเมนู
หรืเอาง่ายๆ ชาวฟิลิปิโนมีเกือบ 2 ล้านคนในอเมริกา ชาวไทย มี 3 แสน แต่แทบไม่เห็นเงาร้านฟิลิปิโน
เทศกาลอาหารแต่ละชาติ ในโตเกียว ถ้าเป็นเทศกาลไทย คนล้นทะลัก เป็ร้านไทย 99% แล้วถ้าเป็นเทศกาลชาติอื่นเช่น เวียด เนปาล ดันมีบูทร้านไทยมาเปิดด้วยซะเกือบครึ่ง
by taiwanese american ฟังเค้าพูดดิ
ส่วนความนิยม มันเปรียบเทียบได้ไมยาก วัดเป็นตัวเลขได้ไม่ยาก เช่น คนไทยใน ออส และ อเมริกามีน้อย เมื่อเทียบกับเอเชียนอื่นๆ
แต่จำนวนร้านไทยในอเมกาทั่วประเทศ ติด top5
จำนวนร้านไทยใน ออก ติด top 3
ร้านจีน ลาว เวียด หม่อง มากมาย ที่เอาอาหารไทย มาแทรกในเมนู
หรืเอาง่ายๆ ชาวฟิลิปิโนมีเกือบ 2 ล้านคนในอเมริกา ชาวไทย มี 3 แสน แต่แทบไม่เห็นเงาร้านฟิลิปิโน
เทศกาลอาหารแต่ละชาติ ในโตเกียว ถ้าเป็นเทศกาลไทย คนล้นทะลัก เป็ร้านไทย 99% แล้วถ้าเป็นเทศกาลชาติอื่นเช่น เวียด เนปาล ดันมีบูทร้านไทยมาเปิดด้วยซะเกือบครึ่ง
by taiwanese american ฟังเค้าพูดดิ
ความคิดเห็นที่ 16
ดูรายการของเชฟต่างประเทศทางพวกชาวยุโรป
ไม่ว่าอังกฤษ นายเจมส์มี่ ( ไม่ได้ตามท่านนี้ ) นายกอร์ดอน
ทางฝั่งอเมริกาที่ผมตามดู มีอีกสอง นางลอร่า นายโดแนล แม้แต่ รายการอาหารแห่งความหวัง ( แปลเอาเองนะครับจากชื่อเขา )
ผมก็เห็นหลายเมนูที่เค้าทำใช้อาหารไทย แต่ก็ทำไม่ใช่นัก คืออุปกรณ์อาจไม่ครบ หรือถ่ายทอดผิด หรือคิดไปเอาเองเพิ่มเข้ามา
สิ่งที่เห็นชัดที่สุดในอาหารไทย คือรสชาติที่มักจะใส่มาครบ และหลากมิติ หากเป็นพื้นผิวก็เรียก texture เยอะ สัมผัสเยอะ
เปรี้ยว หวาน มัน เค็ม กลิ่น อาหารไทยตีโจทย์แต่ละอันออกมาได้ลึกมากนะครับ
เปรี้ยวเราใช้ความเปรี้ยวจากหลายๆอย่างแตกต่างกัน ตามแต่ชนิดของอาหาร
หวาน เราก็มีน้ำตาลหลายแบบใช้ ในแต่ละอย่างเช่นกัน
เค็ม เราก็มีความเค็มจากหลายรูปแบบ
มัน เราใช้หลากหลาย แตกต่างกันออกไป เพื่อให้เกิดความมัน
กลิ่น สมัยนี้หาอาหารที่ตั้งใจทำและออกมาได้กลิ่นสัมผัสแบบสมัยโบราณ ก็หายากอยู่
แม้แต่ของหวานไทยๆ ดูกรรมวิธีการทำสิครับ ผมเองยังขอยอมแพ้เลย กว่าจะทำออกมาได้ เสียเวลาไปมากโข
ทั้งพัก ทั้งจี่ ทั้งอบ ทั้งคั่ว ทั้งเผา ทั้งตำ ทั้งการบด การทุบ และอีกหลายๆวิธี เพื่อดึงกลิ่นออกมาให้ได้
เห็นราคาขายของขนมไทยๆแล้ว ผมยอมแพ้เลย มันถูกมากเกินกับเวลาที่เสียไป ( อันนี้ขอหมายถึงที่ทำแบบประณีต และตามตำรับจริงๆ )
อันนึงที่ทำให้เห็นว่าทำใมการทำขนมไทยเริ่มสูญหาย อย่างแรกคือค่าแรงรายวันที่เข้ามากำหนดครับ
ทั้งอาหาร และขนมไทย หลายๆอย่างไม่ใช่เสร็จได้ใน 1 วัน ต้องมีการพัก เพื่อการปรุงก่อนบางอย่าง
ทำรีบๆแบบโรงงานผลิต ทำได้แต่ไม่ดีจริงนักครับ เราจึงหาอาหารไทย รสชาติไทยจริงๆจังๆกันไม่เจอ
เดี๋ยวนี้หลายๆอย่าง รสชาติผิดเพี้ยน เปลี่ยนไปตามกาล และยุคสมัย
การสืบทอดแบบเดิมๆน้อยลง เพราะเนื่องจากเวลาที่ไม่มีมาก ( การว่างงาน ไม่รีบเร่ง ) จึงทำๆกันแบบรวบรัด
หากลองหาดู คนที่ตั้งใจทำ ตั้งใจสืบทอดการปรุงอาหารแบบไทยๆ ( ซึ่งยังคงมีอยู่หลายท่าน ) แต่ก็มาในราคาที่แพงมากกว่าอาหารยุโรปเลยครับตอนนี้
ผมเองก็เดินทางหลายหลายที่ ไปไหนก็หาทานของบ้านเมืองเขาทุกครั้ง ไม่เคยวิ่งหาอาหารไทย เพราะอยากเรียนรู้
แต่พอไปๆมาๆหลายๆที่ ก็มาตายที่อาหารไทยพื้นๆบ้านนี่แหละครับ รสชาติ และอะไรหลายๆอย่างที่ลงตัว และดูมีเอกลักษณ์ และวัฒนธรรมที่ชัดเจนมากประเทศหนึ่ง ไม่น้อยหน้าชาติใหญ่ๆเลยนะครับ
ไม่ว่าอังกฤษ นายเจมส์มี่ ( ไม่ได้ตามท่านนี้ ) นายกอร์ดอน
ทางฝั่งอเมริกาที่ผมตามดู มีอีกสอง นางลอร่า นายโดแนล แม้แต่ รายการอาหารแห่งความหวัง ( แปลเอาเองนะครับจากชื่อเขา )
ผมก็เห็นหลายเมนูที่เค้าทำใช้อาหารไทย แต่ก็ทำไม่ใช่นัก คืออุปกรณ์อาจไม่ครบ หรือถ่ายทอดผิด หรือคิดไปเอาเองเพิ่มเข้ามา
สิ่งที่เห็นชัดที่สุดในอาหารไทย คือรสชาติที่มักจะใส่มาครบ และหลากมิติ หากเป็นพื้นผิวก็เรียก texture เยอะ สัมผัสเยอะ
เปรี้ยว หวาน มัน เค็ม กลิ่น อาหารไทยตีโจทย์แต่ละอันออกมาได้ลึกมากนะครับ
เปรี้ยวเราใช้ความเปรี้ยวจากหลายๆอย่างแตกต่างกัน ตามแต่ชนิดของอาหาร
หวาน เราก็มีน้ำตาลหลายแบบใช้ ในแต่ละอย่างเช่นกัน
เค็ม เราก็มีความเค็มจากหลายรูปแบบ
มัน เราใช้หลากหลาย แตกต่างกันออกไป เพื่อให้เกิดความมัน
กลิ่น สมัยนี้หาอาหารที่ตั้งใจทำและออกมาได้กลิ่นสัมผัสแบบสมัยโบราณ ก็หายากอยู่
แม้แต่ของหวานไทยๆ ดูกรรมวิธีการทำสิครับ ผมเองยังขอยอมแพ้เลย กว่าจะทำออกมาได้ เสียเวลาไปมากโข
ทั้งพัก ทั้งจี่ ทั้งอบ ทั้งคั่ว ทั้งเผา ทั้งตำ ทั้งการบด การทุบ และอีกหลายๆวิธี เพื่อดึงกลิ่นออกมาให้ได้
เห็นราคาขายของขนมไทยๆแล้ว ผมยอมแพ้เลย มันถูกมากเกินกับเวลาที่เสียไป ( อันนี้ขอหมายถึงที่ทำแบบประณีต และตามตำรับจริงๆ )
อันนึงที่ทำให้เห็นว่าทำใมการทำขนมไทยเริ่มสูญหาย อย่างแรกคือค่าแรงรายวันที่เข้ามากำหนดครับ
ทั้งอาหาร และขนมไทย หลายๆอย่างไม่ใช่เสร็จได้ใน 1 วัน ต้องมีการพัก เพื่อการปรุงก่อนบางอย่าง
ทำรีบๆแบบโรงงานผลิต ทำได้แต่ไม่ดีจริงนักครับ เราจึงหาอาหารไทย รสชาติไทยจริงๆจังๆกันไม่เจอ
เดี๋ยวนี้หลายๆอย่าง รสชาติผิดเพี้ยน เปลี่ยนไปตามกาล และยุคสมัย
การสืบทอดแบบเดิมๆน้อยลง เพราะเนื่องจากเวลาที่ไม่มีมาก ( การว่างงาน ไม่รีบเร่ง ) จึงทำๆกันแบบรวบรัด
หากลองหาดู คนที่ตั้งใจทำ ตั้งใจสืบทอดการปรุงอาหารแบบไทยๆ ( ซึ่งยังคงมีอยู่หลายท่าน ) แต่ก็มาในราคาที่แพงมากกว่าอาหารยุโรปเลยครับตอนนี้
ผมเองก็เดินทางหลายหลายที่ ไปไหนก็หาทานของบ้านเมืองเขาทุกครั้ง ไม่เคยวิ่งหาอาหารไทย เพราะอยากเรียนรู้
แต่พอไปๆมาๆหลายๆที่ ก็มาตายที่อาหารไทยพื้นๆบ้านนี่แหละครับ รสชาติ และอะไรหลายๆอย่างที่ลงตัว และดูมีเอกลักษณ์ และวัฒนธรรมที่ชัดเจนมากประเทศหนึ่ง ไม่น้อยหน้าชาติใหญ่ๆเลยนะครับ
ความคิดเห็นที่ 8
เพราะคนต่างชาติบอก อร่อย ครับ
ผมคลุกคลีกับคนต่างชาติมาหลากหลายทวีป
80% บอกชอบอาหารไทย เหตุผลคือ อร่อย บ้านเขาไม่มี
ถ้ามีต้องตามร้านอาหารไทยเท่านั้น แต่ราคาโคตรสูง
อาหารไทย ในสายตาต่างชาตินี่อยู่ระดับเวิร์ลคลาสเลยนะครับ
ดูแค่ราคาก็น่าจะรู้ ว่าทำไมมันถึงแพงเมื่ออาหารไทยอยู่ในต่างประเทศ
คือถ้าราคาแพง แล้วไม่มีคนเข้า อันนี้ถือเป็นเรื่องปกติ เพราะมนุษย์ทุกคนล้วนไม่ชอบของแพง
แต่นี่ ราคาอาหารไทยแพงแล้ว มีคนเยอะทุกวันครับ ในเมืองใหญ่ๆหลายประเทศร้านอาหารไทยคนเยอะจริง
ทั้งที่แพงกว่าอาหารในบ้านเขาอีก แต่ก็พากันมานั่งกินเป็นครอบครัวบ้าง เป็นคู่บ้าง
หลายคนก็ไม่ใช่คนรวยเลยครับที่เข้าร้านอาหารไทย ก็ พนง.บริษัทธรรมดาๆนี่ล่ะครับ เลิกงานเท่านั้นล่ะ มุ่งหน้ายังร้านอาหารไทยเป็นกลุ่มใหญ่
(หากคิดเทียบราคาอาหารเขาแล้ว อาหารไทยเราแพงกว่ามาก บางเมนูนี่ยิ่งแพง)
คนไทยเราอาจคิดว่าอาหารบ้านเรามันธรรมดา
ก็จริง ผมเคยคิดแบบนี้ ,, แต่หากเราลองไปอยู่ ตปท นานๆดูครับ
เท่านั่นล่ะ อยากกินอาหารไทยขึ้นมาทันที (ส่วนตัวผม แค่ 3 วันก็อยากกินข้าวไทย กับข้าวไทยข้างทางแล้ว)
ผมคลุกคลีกับคนต่างชาติมาหลากหลายทวีป
80% บอกชอบอาหารไทย เหตุผลคือ อร่อย บ้านเขาไม่มี
ถ้ามีต้องตามร้านอาหารไทยเท่านั้น แต่ราคาโคตรสูง
อาหารไทย ในสายตาต่างชาตินี่อยู่ระดับเวิร์ลคลาสเลยนะครับ
ดูแค่ราคาก็น่าจะรู้ ว่าทำไมมันถึงแพงเมื่ออาหารไทยอยู่ในต่างประเทศ
คือถ้าราคาแพง แล้วไม่มีคนเข้า อันนี้ถือเป็นเรื่องปกติ เพราะมนุษย์ทุกคนล้วนไม่ชอบของแพง
แต่นี่ ราคาอาหารไทยแพงแล้ว มีคนเยอะทุกวันครับ ในเมืองใหญ่ๆหลายประเทศร้านอาหารไทยคนเยอะจริง
ทั้งที่แพงกว่าอาหารในบ้านเขาอีก แต่ก็พากันมานั่งกินเป็นครอบครัวบ้าง เป็นคู่บ้าง
หลายคนก็ไม่ใช่คนรวยเลยครับที่เข้าร้านอาหารไทย ก็ พนง.บริษัทธรรมดาๆนี่ล่ะครับ เลิกงานเท่านั้นล่ะ มุ่งหน้ายังร้านอาหารไทยเป็นกลุ่มใหญ่
(หากคิดเทียบราคาอาหารเขาแล้ว อาหารไทยเราแพงกว่ามาก บางเมนูนี่ยิ่งแพง)
คนไทยเราอาจคิดว่าอาหารบ้านเรามันธรรมดา
ก็จริง ผมเคยคิดแบบนี้ ,, แต่หากเราลองไปอยู่ ตปท นานๆดูครับ
เท่านั่นล่ะ อยากกินอาหารไทยขึ้นมาทันที (ส่วนตัวผม แค่ 3 วันก็อยากกินข้าวไทย กับข้าวไทยข้างทางแล้ว)
ความคิดเห็นที่ 3
ถามว่าอาหารไทยอร่อยมั้ย ต้องบอกว่าก็เหมือนกับอาหารชาติอื่นๆที่มีทั้งอร่อยและไม่อร่อย ขึ้นกับรสนิยมผู้กิน
และเพราะว่าอาหารขึ้นตามรสนิยมผู้กิน ดังนั้นมันจึงไม่มีเกณฑ์วัดว่าใครดีกว่าใครร้อยเปอร์เซ็นต์ และไม่ควรมีใครเคลมว่าอาหารชาติของตนอร่อยหรือดีที่สุดในโลก ไม่นับว่าจริงๆแล้วอาหารที่บอกว่าเป็นของชาติตัวเองนั้นเป็นของที่ชาติตัวเองคิดขึ้นมาจริงๆหรือเปล่า หรือเพียงแค่ได้รับอิทธิพลจากชาติอื่นมา แล้วคนรุ่นหลังไม่รู้รากเหง้า มีแนวคิดชาตินิยมแบบไม่รู้จริง ...
และเพราะว่าอาหารขึ้นตามรสนิยมผู้กิน ดังนั้นมันจึงไม่มีเกณฑ์วัดว่าใครดีกว่าใครร้อยเปอร์เซ็นต์ และไม่ควรมีใครเคลมว่าอาหารชาติของตนอร่อยหรือดีที่สุดในโลก ไม่นับว่าจริงๆแล้วอาหารที่บอกว่าเป็นของชาติตัวเองนั้นเป็นของที่ชาติตัวเองคิดขึ้นมาจริงๆหรือเปล่า หรือเพียงแค่ได้รับอิทธิพลจากชาติอื่นมา แล้วคนรุ่นหลังไม่รู้รากเหง้า มีแนวคิดชาตินิยมแบบไม่รู้จริง ...
แสดงความคิดเห็น
ที่เราพูดกันว่าอาหารไทยอร่อย เป็นเพราะอร่อยจริงๆ หรือความเคยชินครับ
จริงๆแล้วเป็นเพราะรสชาติดีจริงๆ หรือว่าพวกเราเคยชินกับรสชาติเลยคิดว่าอร่อยครับ