ผม...
ร้านอาหารที่คุ้นเคยกับโต๊ะตัวเดิม และคนที่เป็นมากกว่าคนเคยรู้จัก ไม่คิดเลยว่าวันนี้ฉันจะได้เจอกับสิ่งเหล่านี้อีกครั้ง
“ไม่เป็นไรค่ะคุณธีระ ฉันคุยกับคุณสุนีย์ตามลำพังได้” ถ้อยคำขอความเป็นส่วนตัว ถูก...เธอเอ่ยกับ...แฟนหนุ่ม ที่นั่งคู่กันเบื้องหน้าฉันอย่างอ่อนโยน หากเป็นเมื่อสิบสองปีก่อน มันคงเสียดแทงใจฉันอย่างสาหัสที่สุด
“มีอะไรก็เรียกผมนะ ผมจะรออยู่หน้าร้าน” เขากุมมือเธอเบาๆ ก่อนจะหันมาสบตาฉันด้วยแววตาเป็นมิตร และลุกออกไปอย่างสุภาพ เจ็บอย่างนั้นหรือ...สำหรับฉันก็ยังมีบ้าง
“ไม่ได้เจอกันนานนะคะคุณ...”
“พิชชี่...คุณธีระเรียกฉันแบบนี้ค่ะ” ประโยคแรกฉันก็ถูกตัดบททันที แม้อีกฝ่ายจะไม่ได้ตั้งใจบอกว่ามีแค่ฉันคนเดียว ที่ยังจมอยู่กับอดีต แต่มันก็อดคิดอย่างนั้นไม่ได้จริงๆ
“คุณเป็นยังไงบ้าง สบายดีไหม”
“พิชชี่ คุณพูดในสิ่งที่คุณต้องการมาเลยดีกว่าค่ะ เรื่องอื่นมันไม่สำคัญพอที่คุณจะอยากรู้หรอกค่ะ” ทำไมเราทั้งสองต้องมาเจอกัน...ฉันรู้ดี
“...หนูดีเป็นยังไงบ้าง” เธอนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยคำถาม
แม้เตรียมใจไว้แล้วว่า...พิชชี่จะต้องถามอะไรทำนองนี้ แต่หัวใจฉันก็ยังเต้นระทึกราวกับลุ้นให้เธอไม่เอ่ยมันออกมา
“ค่ะ...แกสบายดี เทอมหน้าก็เข้า ม. 1 แล้วค่ะ”
“แกถามถึง...ฉันบ้างหรือเปล่าคะ” แววตาวูบไหวกับน้ำตาคลอเบ้านิดๆ คือความอาทรถึงเลือดเนื้อเชื้อไขของเธออย่างไม่ต้องสงสัย แต่สิบสองปีที่ไม่เคยส่งข่าวมาเลย มันก็ยากนักที่ฉันจะเห็นใจ
“ไม่ค่ะ...หนูดีมีฉันเป็นแม่เพียงคนเดียว เราอยู่ด้วยกันลำพังโดยไม่ต้องพึ่งพาใคร คุณคิดว่าแกต้องคิดถึงคนอื่นด้วยเหรอคะ” ไม่มีความจำเป็นใดที่ฉันต้องไว้หน้าคนที่ทิ้งลูกสาว ไว้ให้ฉันเลี้ยงเพียงลำพังถึงสิบสองปีเต็ม
“ฉันขอโทษที่ทุกอย่างมันเป็นแบบนั้น ฉันจะชดเชยให้ทุกอย่าง แต่ขอแค่ฉันได้เจอหนูดีบ้าง ฉันไปอยู่ที่ไหนก็ไม่เคยมีความสุข ฉันมีลูกอีกไม่ได้คุณก็รู้ คุณอยากได้อะไรฉันจะหามากองให้ ฉันขอแค่ได้อยู่กับลูกบ้างเท่านั้น” จากน้ำตาคลอเบ้าเมื่อครู่ บัดนี้มันกลายเป็นสายน้ำนองใบหน้าสวยนั้น ให้ดูเศร้าหมองลงอย่างเห็นได้ชัด
“ได้สิคะ...ถ้าคุณอยากเจอลูกขนาดนั้น แต่คุณต้องตอบคำถามฉันให้ได้ก่อนข้อหนึ่ง ตอนเจอลูกคุณจะบอกแกว่า คุณเป็นพ่อหรือเป็นแม่แกล่ะคะ คุณพิชญพล”
********************
วิชชากาญจน์ วิรุฬห์อักษรากร
หายหน้าหายตาจากถนนไปหลายวันเลยครับผม พอดีต้องไปดูงานทำป้ายสูงแทนเพื่อนที่เป็นวิศกรโยธา(ยังงงอยู่ว่ามันเกี่ยวอะไรกับวิศกรเครื่องกลอย่างผม) พอดีเขาติดธุระด่วนผมเลยต้องไปคุมหน้างานแทน แล้วหน้างานก็ดันไม่มีเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่ผมใช้ ก็เลยเข้าพันทิปไม่ได้ครับ แต่ช่วงที่คุมงานก็มีปลีกเวลาเขียนเรื่องสั้นมาฝากกันด้วยครับ ไม่พูดอะไรมากแล้วขอตัวนอนก่อนครับผมเหนื่อยมากมาย
ผม...(เรื่องสั้นห้าร้อยคำ)
ร้านอาหารที่คุ้นเคยกับโต๊ะตัวเดิม และคนที่เป็นมากกว่าคนเคยรู้จัก ไม่คิดเลยว่าวันนี้ฉันจะได้เจอกับสิ่งเหล่านี้อีกครั้ง
“ไม่เป็นไรค่ะคุณธีระ ฉันคุยกับคุณสุนีย์ตามลำพังได้” ถ้อยคำขอความเป็นส่วนตัว ถูก...เธอเอ่ยกับ...แฟนหนุ่ม ที่นั่งคู่กันเบื้องหน้าฉันอย่างอ่อนโยน หากเป็นเมื่อสิบสองปีก่อน มันคงเสียดแทงใจฉันอย่างสาหัสที่สุด
“มีอะไรก็เรียกผมนะ ผมจะรออยู่หน้าร้าน” เขากุมมือเธอเบาๆ ก่อนจะหันมาสบตาฉันด้วยแววตาเป็นมิตร และลุกออกไปอย่างสุภาพ เจ็บอย่างนั้นหรือ...สำหรับฉันก็ยังมีบ้าง
“ไม่ได้เจอกันนานนะคะคุณ...”
“พิชชี่...คุณธีระเรียกฉันแบบนี้ค่ะ” ประโยคแรกฉันก็ถูกตัดบททันที แม้อีกฝ่ายจะไม่ได้ตั้งใจบอกว่ามีแค่ฉันคนเดียว ที่ยังจมอยู่กับอดีต แต่มันก็อดคิดอย่างนั้นไม่ได้จริงๆ
“คุณเป็นยังไงบ้าง สบายดีไหม”
“พิชชี่ คุณพูดในสิ่งที่คุณต้องการมาเลยดีกว่าค่ะ เรื่องอื่นมันไม่สำคัญพอที่คุณจะอยากรู้หรอกค่ะ” ทำไมเราทั้งสองต้องมาเจอกัน...ฉันรู้ดี
“...หนูดีเป็นยังไงบ้าง” เธอนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยคำถาม
แม้เตรียมใจไว้แล้วว่า...พิชชี่จะต้องถามอะไรทำนองนี้ แต่หัวใจฉันก็ยังเต้นระทึกราวกับลุ้นให้เธอไม่เอ่ยมันออกมา
“ค่ะ...แกสบายดี เทอมหน้าก็เข้า ม. 1 แล้วค่ะ”
“แกถามถึง...ฉันบ้างหรือเปล่าคะ” แววตาวูบไหวกับน้ำตาคลอเบ้านิดๆ คือความอาทรถึงเลือดเนื้อเชื้อไขของเธออย่างไม่ต้องสงสัย แต่สิบสองปีที่ไม่เคยส่งข่าวมาเลย มันก็ยากนักที่ฉันจะเห็นใจ
“ไม่ค่ะ...หนูดีมีฉันเป็นแม่เพียงคนเดียว เราอยู่ด้วยกันลำพังโดยไม่ต้องพึ่งพาใคร คุณคิดว่าแกต้องคิดถึงคนอื่นด้วยเหรอคะ” ไม่มีความจำเป็นใดที่ฉันต้องไว้หน้าคนที่ทิ้งลูกสาว ไว้ให้ฉันเลี้ยงเพียงลำพังถึงสิบสองปีเต็ม
“ฉันขอโทษที่ทุกอย่างมันเป็นแบบนั้น ฉันจะชดเชยให้ทุกอย่าง แต่ขอแค่ฉันได้เจอหนูดีบ้าง ฉันไปอยู่ที่ไหนก็ไม่เคยมีความสุข ฉันมีลูกอีกไม่ได้คุณก็รู้ คุณอยากได้อะไรฉันจะหามากองให้ ฉันขอแค่ได้อยู่กับลูกบ้างเท่านั้น” จากน้ำตาคลอเบ้าเมื่อครู่ บัดนี้มันกลายเป็นสายน้ำนองใบหน้าสวยนั้น ให้ดูเศร้าหมองลงอย่างเห็นได้ชัด
“ได้สิคะ...ถ้าคุณอยากเจอลูกขนาดนั้น แต่คุณต้องตอบคำถามฉันให้ได้ก่อนข้อหนึ่ง ตอนเจอลูกคุณจะบอกแกว่า คุณเป็นพ่อหรือเป็นแม่แกล่ะคะ คุณพิชญพล”
วิชชากาญจน์ วิรุฬห์อักษรากร
หายหน้าหายตาจากถนนไปหลายวันเลยครับผม พอดีต้องไปดูงานทำป้ายสูงแทนเพื่อนที่เป็นวิศกรโยธา(ยังงงอยู่ว่ามันเกี่ยวอะไรกับวิศกรเครื่องกลอย่างผม) พอดีเขาติดธุระด่วนผมเลยต้องไปคุมหน้างานแทน แล้วหน้างานก็ดันไม่มีเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่ผมใช้ ก็เลยเข้าพันทิปไม่ได้ครับ แต่ช่วงที่คุมงานก็มีปลีกเวลาเขียนเรื่องสั้นมาฝากกันด้วยครับ ไม่พูดอะไรมากแล้วขอตัวนอนก่อนครับผมเหนื่อยมากมาย