วันนี้ขอมาแชร์ประสบการณ์การเปลี่ยนแปลงรูปร่างตัวเองค่ะ
ภาพบน หนัก52 ภาพล่างหนัก46-47 หยกสูง156ซม อายุ30 ปี ค่ะ ใช้ระยะเวลาประมาณ 3 -4เดือน หยกใช้วิธีการคือ ออกกำลังกาย และเปลี่ยนพฤติกรรมการทาน ขอเล่ายาวหน่อยนะคะ เผื่อมีใครสนใจทำตาม
..... หยกเป็นคนชอบทานขนมหวาน ขนมปัง เค้ก ไอติม น้ำหวาน หรือเรียกได้ว่าทุกอย่างที่ทานละอ้วนค่ะ ชอบมากกกกกกกกกกก แต่พอเริ่มถึงจุดที่ เสื้อผ้าที่เคยใส่ได้ เริ่มใส่ไม่ได้ พีคกว่านั้นคือ วันนั้นถ่ายรูปออกมา เห้ย นี่กุอ้วนขนาดนี้เลยหรอวะ ใครเจอก็ทักทำไมอ้วนจัง ไปทำไรมา (ในใจก็คิด ก็แด๊กสิคะจะอะไร) เริ่มจิตตก ทำอะไรก็ขี้เกียจ จะลุก จะเดิน จะนั่ง ลำบากมาก วันนึงเลยไม่ไหวละ คิดเลยว่า...ไม่ได้ละฉันต้องลดความอ้วน และคืนนั้นได้ฟังรายการอะไรสักอย่าง เขาพูดว่า "" ทำไมคนเราเสียเงินซื้อความสุขต่างๆให้ตัวเองได้ แต่ไม่ค่อยซื้อความสุขด้านสุขภาพให้ตัวเองบ้างเลย"" วันต่อมาหยกตัดสินใจสมัครเป็นสมาชิกฟิตเนสรายปี ไม่รู้หรอกจะมีเวลาไปมั้ย แต่ฉันจะหุ่นดี และฉันจะหันมารักสุขภาพ ฉันจะต้องดูเด็กตลอดเวลาและก็เริ่มหาข้อมูลด้านโภชนาการ ประกอบกับคำแนะนำต่างๆจากเทรนเนอร์ที่ฟิตเนส (ขอบคุณครูข้าวมากๆนะคะ) หยกเริ่มวันแรกคือ 15 มีนาคม 2560 (ในใจมีความคิดหลายครั้งมากค่ะ ว่าจะใช้วิธีการทานยาลดความอ้วน เพราะขี้เกียจ อยากใช้เวลาน้อย อยากตื่นขึ้นมาก็ผอมเลย บ่อยครั้งที่ขับรถไปถึงร้านขายยาลดความอ้วนละ ต้องดึงสติตัวเองกลับมานึกถึงความเป็นจริง คิดได้ว่าฉันต้องเสียเงินเดือนละ2000 เพื่อซื้อยาลดความอ้วนมาทาน เพื่อไม่ให้ฉันหิวหรอ งั้นถ้าฉันทานน้อยลง ก็คงไม่ต้องเปลืองตังค์ซื้อยาสินะ สติกลับมาก็เลี้ยวรถกลับไปฟิตเนสค่ะ)
มาฟังวิธีของหยกกันค่ะว่าหยกทำยังไงบ้าง
1. หยกเริ่มจัดตารางเวลาการเข้าฟิตเนสค่ะ อย่าใช้ข้ออ้างว่าไม่มีเวลา หยกทำงาน9.00-14.00น และอีกช่วง 16.30-22.00น. ค่ะ หยกใช้เวลาที่ว่างคือช่วง 6.30-8.30น และ 14.30-16.00น ในการไปฟิตเนตค่ะ วันไหนสะดวกช่วงไหนก็ไปช่วงนั้น วันไหนติดงานก็ไม่ได้ไป เป็นคนที่ออกกำลังกายที่บ้านไม่ได้ เพราะพอเหนื่อยก็กระโดดขึ้นเตียงนอน เลยต้องเข้าฟิตเนสบังคับตัวเองค่ะ
2. การออกกำลังกายของหยก หยกทำตามที่เทรนเนอร์สอน และแนะนำคือ เล่นเวทประมาณ 1 ชม. (ท่าการเล่นเวทต่างๆดูในยูทูปเลยค่ะ) ต่อด้วยการคาดิโอต่อไม่เกิน45 นาที แต่ไม่ต่ำกว่า15 นาที(เทรนเนอร์บอกว่าเกิน45 นาทีเดี๋ยวกล้ามเนื้อจะถูกดึงออกไปใช้ เพราะหยกเป็นคนที่กล้ามเนื้อน้อยอยู่แล้ว หยกเคยทานยาลดความอ้วนมาค่ะ กล้ามเนื้อถูกยาลดความอ้วนทำลายไปเยอะ )
3. หลังจากออกำลังกายเสร็จ หาโปรตีนทานค่ะ หยกทานง่ายๆก็ไข่ต้ม สเต็กอกไก่ ปลา เพื่อสร้างกล้ามเนื้อใหม่ ให้มาทดแทนกล้ามเนื้อที่ถูกทำลายไปจากการเล่นเวท (จะให้ดีควรทานหลังออกกำลังกายภายใน30นาทีค่ะ) การสร้างกล้ามเนื้อเพื่อช่วยให้ระบบเผาผลานเราทำงานได้มากขึ้นค่ะ
4.หยกเปลี่ยนพฤติกรรมการทานค่ะ ทานให้ครบ3 มื้อ เน้นทานเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ผักต้ม ลวก เอาง่ายๆคือ ทานอะไรที่ไม่ทอด ไม่มัน ไม่เน้นข้าว ไม่เน้นแป้ง แต่อยากทานก็ทานได้ แต่แค่พอหายอยาก ถ้าไม่ทานเลยเดี๋ยวโหยหา ถ้าเปลี่ยนจากข้าวขาวเป็นข้าวกล้องได้จะดีมากค่ะ (เซเว่นมีขายค่ะ) หยกไม่ทานคลีนค่ะ เพราะขี้เกียจมานั่งฟิคตัวเอง แค่ทานสิ่งที่ดีต่อสุขภาพ เราศึกษาเราจะรู้ว่าอะไรที่ไม่ดีต่อร่างกายเราก็ควรลด ละ เลี่ยงของพวกนั้นนะคะ
.........หยกก็ทำประมาณนี้ค่ะ ศึกษา ปรับเปลี่ยนไปเรื่อย ลองผิดลองถูกไป ไม่ใช่แค่รูปร่างอย่างเดียวค่ะ แต่เพื่อสุขภาพที่ดีด้วยค่ะ ท้อบ่อยมากช่วงแรกๆที่น้ำหนักไม่ลงเลย ต้องสู้กับคำดูถูกของคนรอบข้าง ใครๆก็บอกลดไม่ได้หรอกอีอ้วน สมัครทำไมฟิสเนส สมัครไว้ก็ไม่ไป (เป็นไงละ กูทำได้นะคะ)
🤘🏻🤘🏻ส่วนใครที่กำลังลังเล ว่าจะจ้างเทรนเนอร์ดีมั้ย หยกแนะนำให้จ้างค่ะ เทรนเนอร์จะช่วยแนะนำเรา ให้ออกกำลังกายถูกวิธี โฟกัสถูกจุดค่ะ
❤❤❤❤❤หัวใจหลักคือเรื่องโภชนาการนะคะ ถ้าเปลี่ยนพฤติกรรมการทานไม่ได้ทำไปก็เหนื่อยป่าวค่ะ
👉🏻👉🏻เราทำได้ทุกคนค่ะ แต่ขึ้นอยู่ที่ว่าจะทำรึป่าว🤗
สู้ๆนะคะ หยกเป็นกำลังใจให้ทุกคนค่ะ
3 เดือน กับการเปลี่ยนEอ้วน ให้เป็นน้องหุ่นดี
ภาพบน หนัก52 ภาพล่างหนัก46-47 หยกสูง156ซม อายุ30 ปี ค่ะ ใช้ระยะเวลาประมาณ 3 -4เดือน หยกใช้วิธีการคือ ออกกำลังกาย และเปลี่ยนพฤติกรรมการทาน ขอเล่ายาวหน่อยนะคะ เผื่อมีใครสนใจทำตาม
..... หยกเป็นคนชอบทานขนมหวาน ขนมปัง เค้ก ไอติม น้ำหวาน หรือเรียกได้ว่าทุกอย่างที่ทานละอ้วนค่ะ ชอบมากกกกกกกกกกก แต่พอเริ่มถึงจุดที่ เสื้อผ้าที่เคยใส่ได้ เริ่มใส่ไม่ได้ พีคกว่านั้นคือ วันนั้นถ่ายรูปออกมา เห้ย นี่กุอ้วนขนาดนี้เลยหรอวะ ใครเจอก็ทักทำไมอ้วนจัง ไปทำไรมา (ในใจก็คิด ก็แด๊กสิคะจะอะไร) เริ่มจิตตก ทำอะไรก็ขี้เกียจ จะลุก จะเดิน จะนั่ง ลำบากมาก วันนึงเลยไม่ไหวละ คิดเลยว่า...ไม่ได้ละฉันต้องลดความอ้วน และคืนนั้นได้ฟังรายการอะไรสักอย่าง เขาพูดว่า "" ทำไมคนเราเสียเงินซื้อความสุขต่างๆให้ตัวเองได้ แต่ไม่ค่อยซื้อความสุขด้านสุขภาพให้ตัวเองบ้างเลย"" วันต่อมาหยกตัดสินใจสมัครเป็นสมาชิกฟิตเนสรายปี ไม่รู้หรอกจะมีเวลาไปมั้ย แต่ฉันจะหุ่นดี และฉันจะหันมารักสุขภาพ ฉันจะต้องดูเด็กตลอดเวลาและก็เริ่มหาข้อมูลด้านโภชนาการ ประกอบกับคำแนะนำต่างๆจากเทรนเนอร์ที่ฟิตเนส (ขอบคุณครูข้าวมากๆนะคะ) หยกเริ่มวันแรกคือ 15 มีนาคม 2560 (ในใจมีความคิดหลายครั้งมากค่ะ ว่าจะใช้วิธีการทานยาลดความอ้วน เพราะขี้เกียจ อยากใช้เวลาน้อย อยากตื่นขึ้นมาก็ผอมเลย บ่อยครั้งที่ขับรถไปถึงร้านขายยาลดความอ้วนละ ต้องดึงสติตัวเองกลับมานึกถึงความเป็นจริง คิดได้ว่าฉันต้องเสียเงินเดือนละ2000 เพื่อซื้อยาลดความอ้วนมาทาน เพื่อไม่ให้ฉันหิวหรอ งั้นถ้าฉันทานน้อยลง ก็คงไม่ต้องเปลืองตังค์ซื้อยาสินะ สติกลับมาก็เลี้ยวรถกลับไปฟิตเนสค่ะ)
มาฟังวิธีของหยกกันค่ะว่าหยกทำยังไงบ้าง
1. หยกเริ่มจัดตารางเวลาการเข้าฟิตเนสค่ะ อย่าใช้ข้ออ้างว่าไม่มีเวลา หยกทำงาน9.00-14.00น และอีกช่วง 16.30-22.00น. ค่ะ หยกใช้เวลาที่ว่างคือช่วง 6.30-8.30น และ 14.30-16.00น ในการไปฟิตเนตค่ะ วันไหนสะดวกช่วงไหนก็ไปช่วงนั้น วันไหนติดงานก็ไม่ได้ไป เป็นคนที่ออกกำลังกายที่บ้านไม่ได้ เพราะพอเหนื่อยก็กระโดดขึ้นเตียงนอน เลยต้องเข้าฟิตเนสบังคับตัวเองค่ะ
2. การออกกำลังกายของหยก หยกทำตามที่เทรนเนอร์สอน และแนะนำคือ เล่นเวทประมาณ 1 ชม. (ท่าการเล่นเวทต่างๆดูในยูทูปเลยค่ะ) ต่อด้วยการคาดิโอต่อไม่เกิน45 นาที แต่ไม่ต่ำกว่า15 นาที(เทรนเนอร์บอกว่าเกิน45 นาทีเดี๋ยวกล้ามเนื้อจะถูกดึงออกไปใช้ เพราะหยกเป็นคนที่กล้ามเนื้อน้อยอยู่แล้ว หยกเคยทานยาลดความอ้วนมาค่ะ กล้ามเนื้อถูกยาลดความอ้วนทำลายไปเยอะ )
3. หลังจากออกำลังกายเสร็จ หาโปรตีนทานค่ะ หยกทานง่ายๆก็ไข่ต้ม สเต็กอกไก่ ปลา เพื่อสร้างกล้ามเนื้อใหม่ ให้มาทดแทนกล้ามเนื้อที่ถูกทำลายไปจากการเล่นเวท (จะให้ดีควรทานหลังออกกำลังกายภายใน30นาทีค่ะ) การสร้างกล้ามเนื้อเพื่อช่วยให้ระบบเผาผลานเราทำงานได้มากขึ้นค่ะ
4.หยกเปลี่ยนพฤติกรรมการทานค่ะ ทานให้ครบ3 มื้อ เน้นทานเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ผักต้ม ลวก เอาง่ายๆคือ ทานอะไรที่ไม่ทอด ไม่มัน ไม่เน้นข้าว ไม่เน้นแป้ง แต่อยากทานก็ทานได้ แต่แค่พอหายอยาก ถ้าไม่ทานเลยเดี๋ยวโหยหา ถ้าเปลี่ยนจากข้าวขาวเป็นข้าวกล้องได้จะดีมากค่ะ (เซเว่นมีขายค่ะ) หยกไม่ทานคลีนค่ะ เพราะขี้เกียจมานั่งฟิคตัวเอง แค่ทานสิ่งที่ดีต่อสุขภาพ เราศึกษาเราจะรู้ว่าอะไรที่ไม่ดีต่อร่างกายเราก็ควรลด ละ เลี่ยงของพวกนั้นนะคะ
.........หยกก็ทำประมาณนี้ค่ะ ศึกษา ปรับเปลี่ยนไปเรื่อย ลองผิดลองถูกไป ไม่ใช่แค่รูปร่างอย่างเดียวค่ะ แต่เพื่อสุขภาพที่ดีด้วยค่ะ ท้อบ่อยมากช่วงแรกๆที่น้ำหนักไม่ลงเลย ต้องสู้กับคำดูถูกของคนรอบข้าง ใครๆก็บอกลดไม่ได้หรอกอีอ้วน สมัครทำไมฟิสเนส สมัครไว้ก็ไม่ไป (เป็นไงละ กูทำได้นะคะ)
🤘🏻🤘🏻ส่วนใครที่กำลังลังเล ว่าจะจ้างเทรนเนอร์ดีมั้ย หยกแนะนำให้จ้างค่ะ เทรนเนอร์จะช่วยแนะนำเรา ให้ออกกำลังกายถูกวิธี โฟกัสถูกจุดค่ะ
❤❤❤❤❤หัวใจหลักคือเรื่องโภชนาการนะคะ ถ้าเปลี่ยนพฤติกรรมการทานไม่ได้ทำไปก็เหนื่อยป่าวค่ะ
👉🏻👉🏻เราทำได้ทุกคนค่ะ แต่ขึ้นอยู่ที่ว่าจะทำรึป่าว🤗
สู้ๆนะคะ หยกเป็นกำลังใจให้ทุกคนค่ะ