เยอรมัน กรังด์ปรีซ์เป็นการแข่งขันสนามสุดท้ายก่อนที่จะพักครึ่งฤดูกาล ในสถานการณ์ที่อันดับในตารางนั้นเบียดกันสุดๆ ฮอนด้ามีสถิติที่ยอดเยี่ยมที่นี่ตลอด 7 ปีที่ผ่านมาโดยเฉพาะมาร์ค มาเกวซที่คว้าโพลและชนะที่นี่มา 7 ปีติดตั้งแต่รุ่น 125cc – Moto2  ต่อเนื่องมาถึงโมโตจีพีทั้ง 4 ฤดูกาล การทำผิวสนามใหม่ ทำให้มีเครื่องหมายคำถามว่ารถ RC213V ของ Honda จะยังคงไร้เทียมทานที่นี่ต่อไปหรือเปล่า?



พยากรณ์อากาศสุดสัปดาห์นี้บอกว่าจะมีฝน ซึ่งก็มีฝนลงมาตามคาด แต่เหมือนเทวดาที่นั่นยังคงชอบทำอะไรที่มีระบบระเบียบตามสไตล์ชาวเยอรมันและน่าจะชอบดูโมโตจีพีด้วย เพราะฝนนั้นตกลงมาแบบตกแล้วก็หยุดเป็นช่วงๆและตอนที่ตกก็คือตกจริงจังไม่ได้มาแบบปรอยๆพอให้สนามลื่นเฉยๆ ส่งผลให้ FP1 ผิวแทรคแห้ง FP2 เปียก FP3 และ FP4 นั้นในเช้าวันเสาร์นั้นกลับแห้ง ส่วนการ Qualify ในรอบบ่ายทั้ง Q1 และ Q2 นั้นเปียกโชค การที่สนามในรอบฝึกซ้อมนั้นมีทั้งแห้งและเปียก ทำให้นักแข่งได้มีโอกาสทดสอบยางในทั้ง 2 สภาวะ



Mika Kallio นักแข่งทดสอบของทีม KTM ได้ลงแข่งในสนามนี้ขันผ่าน Wildcard ภาพรวมในการฝึกซ้อม ทั้งมาเกวซ, วินยาเลส, โดวิซิโอโซ่และเพโดรซ่านั้นถือว่าเป็นนักแข่งที่ดูแล้วน่าจะเป็นกลุ่มที่จะมาวัดกันในวันอาทิตย์ อาเล็กซ์ เอสพากาโร่ก็ขี่ได้ค่อนข้างดี รวมไปถึงคาล ครัชโลว์ อีกคนที่มาแรงปลายก็คือนักแข่งเจ้าถิ่นอย่างโจนาส โฟลเกอร์ที่ทำเวลาใน FP3 ได้ดีต่อเนื่องมาถึง FP4 และการควอลิไฟด์



มาถึงรอบ QP ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก แต่มาร์ค มาเกวซยังคงขี่ได้อย่างยอดเยี่ยม สามารถคว้าโพลที่นี่ได้อีกครั้ง โดยมีดานิโล เพทรุคชี่และเพื่อนร่วมทีม Repsol Honda อย่างดานี่ เพโดรซ่าที่จับจองหัวหาดในการออกสตาร์ทแถวแรก แถวถัดไปเป็นคาล, โจนาสและลอเลนโซ่ ส่วน 2 นักแข่ง Yamaha นั้นเหมือนจะยังเจอปัญหาในการสลับการเซ็ตอัพจากแห้งเป็นฝนที่ไม่ราบรื่นอยู่เหมือนเดิม ทั้งคู่ควอลิไฟท์ได้ไม่ดีโดย Rossi  ได้ P9 ขณะที่วินยาเลสต้องออกสตาร์ทจาก P11 เช่นเดียวกับโดวิที่ก็ค่อนข้างผิดหวังกับอันดับ 10 ที่มาดีเกินคาดก็คือรถ KTM RC 16 ของพอล เอสพากาโร่ที่ได้ออกสตาร์ทจากอันดับ 7