หายใจลึกๆก่อนค่ะ เพราะคำถามเหล่านี้จะปรากฎขึ้นมาในหัวเรา เมื่อคิดว่าต้องซื้อแหวนเพชรสักวง
จะซื้อแหวนเมื่อไหร่ดี? แล้วจะดูจะซื้อยังไง?
credit:
www.facebook.com/onegems
TIMING…ซื้อเมื่อไหร่ดี
เตยแนะนำให้ สั่ง หรือ จอง ล่วงหน้าก่อนใช้งาน อย่างน้อย 2-3 เดือนค่ะ
เหตุผล: การทำแหวนหนึ่งวงไม่ได้ใช้เวลานานขนาดนั้นค่ะ ยิ่งถ้าเจอวงที่ถูกใจก็สามารถปรับขนาดรอรับได้เลยภายในหนึ่งวัน
…แต่ ชีวิตควรจะมีแผนสำรองค่ะ
เช่น แบบที่ต้องการ ของหมด เป็นแบบที่ทำยาก ต้องใช้เวลาในการทำอย่างแรง หรือ เพชรเสปคที่ต้องการ ไม่มีของพอดี
ถ้าเกิดสั่งจองในช่วงเวลาที่จำกัดมากๆ จะทำให้เกิดความเครียด และลุ้นเกินไปค่ะ...ซึ่งไม่น่าสนุกเอาซะเลยยย
1. Set the Budget … ตั้งงบประมาณ
Fact that “ยิ่งแพง ยิ่งสวย”
ไม่ได้หมายความว่า ถ้าไม่แพงจะไม่สวยนะคะ แต่เรื่องจริงก็คือ ในคุณภาพเท่ากัน เพชรเม็ดใหญ่กว่า ก็จะวิ้งวับมากกว่าเม็ดที่เล็กกว่าค่ะ หรือ ถ้าบอกว่าไม่ได้ชอบเพชรเม็ดใหญ่ … เพชรเม็ดเท่ากัน เม็ดที่คุณภาพดีกว่า ก็ต้องสวยกว่าเพชรเม็ดที่คุณภาพต่ำกว่าค่ะ
Then : เพราะฉะนั้น การตั้งงบประมาณจึงมีความสำคัญมากๆค่ะ
- ตั้งงบตามกำลังที่เราไหวค่ะ … อย่าให้การซื้อแหวนแต่งงานซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความสุข ทำให้เราเป็นทุกข์ค่ะ
- อย่างกเกินไปค่ะ … ข้อนี้คือ เรามีกำลังค่ะ แต่เสียดายตังค์ แต่เตยอยากให้คิดในอีกแง่นึงนะคะ คือ
1. แหวนแต่งงาน มีวงเดียวในชีวิตการแต่งงานครั้งหนึ่งค่ะ ไม่ใช่ว่าเราจะซื้อแหวนแต่งงานกันบ่อยๆสักหน่อย
2. เราเห็นมันตลอดเวลา เห็นทุกวัน อยู่กับมือเราตลอด
3. ซื้อเพชร ซื้อทอง ยังงัยก็มีมูลค่าค่ะ … ส่งต่อให้ลูกหลานก็ได้ คิดซะว่าเหมือนซื้อประกันสักฉบับก็ยังได้เลยค่ะ
(ขาดทุนน้อยกว่าซื้อโทรศัพท์แพงๆสักเครื่องแน่นอนค่ะ)
เพราะฉะนั้นอย่าให้ความเสียดายตังค์ ทำให้เราเสียดายไปทั้งชีวิต ว่าควรจะลงทุนกับแหวนแต่งงานมากกว่านี้หน่อยเลยค่ะ
2. Explore the design
“What is you?”
“Everyday used or Occasionally used?”
สไตล์ไหนที่ใช่ตัวเรา
แหวนวงนี้จะใส่ติดมือทุกวันหรือไม่
- ถ้าใส่ในชีวิตประจำวัน ความแข็งแรง คือเรื่องที่ต้องตระหนักถึงด้วยค่ะ
- ถ้าใส่แค่ออกงาน ก็เลือกได้เลยค่ะ ทุกแบบตามที่ต้องการ … แต่ก็อาจจะต้องเลือกแหวนแถว หรือ แหวนเกลี้ยงสักวง ใส่แทนในชีวิตประจำวันด้วยค่ะ
Fact that : “Classic never dies”
เป็นเรื่องที่เตยจะค่อนข้างพูดกับลูกค้าตลอดเลยค่ะ ว่าแหวนแต่งงานเป็นแหวนวงที่จะอยู่กับเราไปทั้งชีวิต เพราะฉะนั้นเตยอยากให้เลือกวงที่เราจะไม่เบื่อง่ายๆ ใส่ตอนนี้ก็ไม่ดูแก่ แต่ใส่ตอนแก่ก็ไม่แบ๊ว กรือ คิกขุเกินไปค่ะ และ บางทีความเรียบง่าย หรือ ทรงคลาสสิคนั้น จะไม่เชยง่ายๆเมื่อเวลาผ่านไป
3. Knowing Diamond
อันนี้คือหัวข้อที่จะช่วยเรื่องความสับสนว่าเราควรซื้อเพชรที่ราคาเท่าไหร่ค่ะ... ว่าทำไมเพชรแต่ละที่ถึงราคาไม่เท่ากัน เพราะฉะนั้นเมื่อเรารู้คุณภาพเพชรที่เราต้องการแล้ว เราจะสามารถเทียบราคาได้ค่ะ ว่าเราควรซื้อที่ไหนดี?
4C’s เป็นคอนเซปท์ ที่ควบคุมราคา และกล่าวถึง ความสวยของเพชรค่ะ
- carat weight
- colour
- clarity
- cutting
Fact that : ในงบประมาณที่จำกัด...ขนาด และ คุณภาพ จะสวนทางกันค่ะ
เพราะฉะนั้น หาจุดกึ่งกลางที่เข้ากับตัวเรา ที่จะทำให้เรามีความสุข และไม่เสียดายที่ตัดสินใจเลือกไป
สามารถเข้าใจ 4C's ได้ง่ายๆจากกระทู้นี้ค่ะ
https://ppantip.com/topic/32965901?
4. Try it on!!!
ค่อนข้างสำคัญมากเลยค่ะ ว่าต้องได้ลองของจริง
เพราะ สิ่งที่สายตาเรามองว่าสวยตามรูปภาพ พอได้มาลองของจริงแล้วอาจจะไม่ใช่อย่างที่คิด แต่บางชิ้นที่เราอาจจะไม่เคยชายตาแลมอง กลับใส่แล้วสวย เหมาะกับนิ้ว มือ และการใช้งานก็ได้ค่ะ
ปล. อันนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของเตยนะคะ ประสบการณ์จากการเป็นแม่ค้าขายเพชรร้านเล็กๆร้านนึงค่ะ ^^
จะซื้อแหวนแต่งงาน ควรเริ่มจากตรงไหนดี?
จะซื้อแหวนเมื่อไหร่ดี? แล้วจะดูจะซื้อยังไง?
credit: www.facebook.com/onegems
TIMING…ซื้อเมื่อไหร่ดี
เตยแนะนำให้ สั่ง หรือ จอง ล่วงหน้าก่อนใช้งาน อย่างน้อย 2-3 เดือนค่ะ
เหตุผล: การทำแหวนหนึ่งวงไม่ได้ใช้เวลานานขนาดนั้นค่ะ ยิ่งถ้าเจอวงที่ถูกใจก็สามารถปรับขนาดรอรับได้เลยภายในหนึ่งวัน
…แต่ ชีวิตควรจะมีแผนสำรองค่ะ
เช่น แบบที่ต้องการ ของหมด เป็นแบบที่ทำยาก ต้องใช้เวลาในการทำอย่างแรง หรือ เพชรเสปคที่ต้องการ ไม่มีของพอดี
ถ้าเกิดสั่งจองในช่วงเวลาที่จำกัดมากๆ จะทำให้เกิดความเครียด และลุ้นเกินไปค่ะ...ซึ่งไม่น่าสนุกเอาซะเลยยย
1. Set the Budget … ตั้งงบประมาณ
Fact that “ยิ่งแพง ยิ่งสวย”
ไม่ได้หมายความว่า ถ้าไม่แพงจะไม่สวยนะคะ แต่เรื่องจริงก็คือ ในคุณภาพเท่ากัน เพชรเม็ดใหญ่กว่า ก็จะวิ้งวับมากกว่าเม็ดที่เล็กกว่าค่ะ หรือ ถ้าบอกว่าไม่ได้ชอบเพชรเม็ดใหญ่ … เพชรเม็ดเท่ากัน เม็ดที่คุณภาพดีกว่า ก็ต้องสวยกว่าเพชรเม็ดที่คุณภาพต่ำกว่าค่ะ
Then : เพราะฉะนั้น การตั้งงบประมาณจึงมีความสำคัญมากๆค่ะ
- ตั้งงบตามกำลังที่เราไหวค่ะ … อย่าให้การซื้อแหวนแต่งงานซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความสุข ทำให้เราเป็นทุกข์ค่ะ
- อย่างกเกินไปค่ะ … ข้อนี้คือ เรามีกำลังค่ะ แต่เสียดายตังค์ แต่เตยอยากให้คิดในอีกแง่นึงนะคะ คือ
1. แหวนแต่งงาน มีวงเดียวในชีวิตการแต่งงานครั้งหนึ่งค่ะ ไม่ใช่ว่าเราจะซื้อแหวนแต่งงานกันบ่อยๆสักหน่อย
2. เราเห็นมันตลอดเวลา เห็นทุกวัน อยู่กับมือเราตลอด
3. ซื้อเพชร ซื้อทอง ยังงัยก็มีมูลค่าค่ะ … ส่งต่อให้ลูกหลานก็ได้ คิดซะว่าเหมือนซื้อประกันสักฉบับก็ยังได้เลยค่ะ
(ขาดทุนน้อยกว่าซื้อโทรศัพท์แพงๆสักเครื่องแน่นอนค่ะ)
เพราะฉะนั้นอย่าให้ความเสียดายตังค์ ทำให้เราเสียดายไปทั้งชีวิต ว่าควรจะลงทุนกับแหวนแต่งงานมากกว่านี้หน่อยเลยค่ะ
2. Explore the design
“What is you?”
“Everyday used or Occasionally used?”
สไตล์ไหนที่ใช่ตัวเรา
แหวนวงนี้จะใส่ติดมือทุกวันหรือไม่
- ถ้าใส่ในชีวิตประจำวัน ความแข็งแรง คือเรื่องที่ต้องตระหนักถึงด้วยค่ะ
- ถ้าใส่แค่ออกงาน ก็เลือกได้เลยค่ะ ทุกแบบตามที่ต้องการ … แต่ก็อาจจะต้องเลือกแหวนแถว หรือ แหวนเกลี้ยงสักวง ใส่แทนในชีวิตประจำวันด้วยค่ะ
Fact that : “Classic never dies”
เป็นเรื่องที่เตยจะค่อนข้างพูดกับลูกค้าตลอดเลยค่ะ ว่าแหวนแต่งงานเป็นแหวนวงที่จะอยู่กับเราไปทั้งชีวิต เพราะฉะนั้นเตยอยากให้เลือกวงที่เราจะไม่เบื่อง่ายๆ ใส่ตอนนี้ก็ไม่ดูแก่ แต่ใส่ตอนแก่ก็ไม่แบ๊ว กรือ คิกขุเกินไปค่ะ และ บางทีความเรียบง่าย หรือ ทรงคลาสสิคนั้น จะไม่เชยง่ายๆเมื่อเวลาผ่านไป
3. Knowing Diamond
อันนี้คือหัวข้อที่จะช่วยเรื่องความสับสนว่าเราควรซื้อเพชรที่ราคาเท่าไหร่ค่ะ... ว่าทำไมเพชรแต่ละที่ถึงราคาไม่เท่ากัน เพราะฉะนั้นเมื่อเรารู้คุณภาพเพชรที่เราต้องการแล้ว เราจะสามารถเทียบราคาได้ค่ะ ว่าเราควรซื้อที่ไหนดี?
4C’s เป็นคอนเซปท์ ที่ควบคุมราคา และกล่าวถึง ความสวยของเพชรค่ะ
- carat weight
- colour
- clarity
- cutting
Fact that : ในงบประมาณที่จำกัด...ขนาด และ คุณภาพ จะสวนทางกันค่ะ
เพราะฉะนั้น หาจุดกึ่งกลางที่เข้ากับตัวเรา ที่จะทำให้เรามีความสุข และไม่เสียดายที่ตัดสินใจเลือกไป
สามารถเข้าใจ 4C's ได้ง่ายๆจากกระทู้นี้ค่ะ https://ppantip.com/topic/32965901?
4. Try it on!!!
ค่อนข้างสำคัญมากเลยค่ะ ว่าต้องได้ลองของจริง
เพราะ สิ่งที่สายตาเรามองว่าสวยตามรูปภาพ พอได้มาลองของจริงแล้วอาจจะไม่ใช่อย่างที่คิด แต่บางชิ้นที่เราอาจจะไม่เคยชายตาแลมอง กลับใส่แล้วสวย เหมาะกับนิ้ว มือ และการใช้งานก็ได้ค่ะ
ปล. อันนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของเตยนะคะ ประสบการณ์จากการเป็นแม่ค้าขายเพชรร้านเล็กๆร้านนึงค่ะ ^^