เราเป็นคนนึงที่ชอบดูฉลากก่อนซื้อเพราะปัจจุบันสบู่และครีมอาบน้ำมีมากมายหลายแบรนด์ตามท้องตลาดและยังแบ่งเป็นสบู่สำหรับผู้ชายสบู่สำหรับผู้หญิงและสบู่สำหรับเด็ก ซึ่งเวลาหลายๆคน ช็อปปิ้งเลือกซื้อสบู่-ครีมอาบน้ำคนส่วนใหญ่อาจดูเพียงโปรโมชั่นที่ถูกใจ หรือกลิ่นหอมๆ ของสินค้าเพียงเท่านั้นจริงไหมคะ น้อยคนมากที่จะอ่านฉลากกำกับ ซึ่งถ้าอ่านดีๆ จะพบข้อมูลที่ผู้ผลิตระบุไว้ให้ทราบถึงส่วนประกอบ และข้อมูลที่เราจำเป็นต้องทราบค่ะ
จริงๆ แล้วสบู่และครีมอาบน้ำที่เราใช้อยู่ มีสารเคมีหลายๆ ตัวที่อาจตกค้างในร่างกายจะมีซักกี่คนที่อ่านฉลากบรรจุภัณฑ์ ว่ามีส่วนประกอบอะไรบ้าง และมีซักกี่คนที่รู้ว่าสารเคมีตัวไหนที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของคนในบ้านบ้าง แต่จากประสบการณ์ที่ได้เคยอ่านมา วันนี้เลยอยากมาแชร์เกี่ยวสารเคมีตัวนึงที่ชื่อว่า ไตรโคลซาน (Triclosan) ให้ทราบกัน
ไตรโคลซานคืออะไร?
ไตรโคลซานคือสารเคมีชนิดหนึ่งที่มักใช้ในการผลิตสบู่ประเภทต้านเชื้อแบคทีเรีย และบางครั้งถูกใช้ผสมในยาสีฟัน น้ำยาบ้วนปาก เครื่องสำอาง น้ำยาซักผ้า กระดาษทิชชู่ เสื้อผ้า รวมทั้งผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพอีกมากมายหลายชนิด
อะไรคือผลกระทบของไตรโคลซานต่อร่างกาย?
ไตรโคลซานที่ถูกดูดซึมผ่านผิวหนังหรือเข้าไปทางปากจะเข้าไปสะสมอยู่ในร่างกายเป็นระยะเวลายาวนาน โดยมีรายงานหลายชิ้นที่ชี้ว่า สารไตรโคลซานอาจทำให้เกิดอาการแพ้ตามผิวหนัง ทำให้ต่อมฮอร์โมนทำงานผิดปกติ ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ระบบการเจริญพันธุ์มีปัญหา ตลอดจนอาจก่อให้เกิดโรคมะเร็งได้
นอกจากนี้รายงานการวิจัยของคณะนักวิทยาศาสตร์ที่ University of California วิทยาเขต Davis ว่า สารไตรโคลซาน อาจส่งผลให้กล้ามเนื้ออ่อนแอ หรือกล้ามเนื้อผิดปกติได้ด้วย
และเมื่อหลายปีก่อน ก็มีรายงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Oxford Journal of Toxicology Sciences พบว่า หนูทดลองที่ได้รับสารไตรโคลซานเข้าสู่ร่างกาย มีระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนลดลง และเนื่องจากหนูมีโครงสร้างภายในที่คล้ายกับคน นักวิจัยจึงเชื่อว่า สารไตรโคลซานนี้ อาจมีผลต่อมนุษย์เช่นกัน หมายความว่าคุณผู้ชายที่ได้รับสารเคมีที่ว่านี้ในปริมาณมาก อาจทำให้เกิดปัญหาไร้สมรรถภาพทางเพศ ขาดแรงกระตุ้นทางเพศ เหนื่อยง่าย จำนวนอสุจิลดลง และอาจถึงขั้นเป็นโรคซึมเศร้าได้
ฟังดูน่ากลัวใช่มั้ยคะ แต่จริงๆ แล้ว คณะกรรมการอาหารและยา อนุญาตให้ใช้สารไตรโคลซานเป็นวัตถุกันเสียได้ แต่ควบคุมให้มีความเข้มข้นไม่เกิน 0.3% ซึ่งถือว่ามีความปลอดภัยต่อผู้บริโภคตามมาตรฐานสากล
นอกจากนี้ยังมีสารเคมีอื่นๆ ที่อาจะเป็นสารตกค้างในร่างกาย เช่น
• โซเดียมลอริลซัลเฟต (Sodium Lauryl Sulfate หรือ SLS) เป็นสารก่อให้เกิดฟอง และทำให้เกิดการระคายเคืองต่อเยื่อบุตา อีกทั้งยังเป็นสารก่อมะเร็งอีกด้วยค่ะ
• สารกลุ่มพาราเบน (Parabens) เป็นสารกันเสียที่นิยมใช้ในผลิตภัณฑ์อาบน้ำ และมีรายงานการตรวจพบพาราเบนในเซลล์มะเร็งด้วย
• เมทิลไอโซไทอะโซลิโนน (Methylisothiazolinone หรือ MIT) เป็นสารกันเสีย ซึ่งเป็นสารที่อาจทำให้เกิดการระคายเคืองและแพ้ได้ง่าย หากได้รับสารมากเกินปริมาณที่กำหนด
การเลือกซื้อผลิตภัณฑ์สบู่ สบู่เหลว ครีมอาบน้ำต้องทำอย่างไรบ้าง
• ให้อ่านฉลากผลิตภัณฑ์อย่างละเอียด และพยายามหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของไตรโคลซาน
• หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ประเภทต่อต้านหรือฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ใช้สารไตรโคลซาล ซึ่งไม่ใช่แต่ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดร่างกายเท่านั้น แต่ยังรวมถึงที่นอนและผ้าปูที่นอน เสื้อผ้า รองเท้า และสินค้าอื่นๆ ที่ติดป้ายต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย เนื่องจากมักใช้สารไตรโคลซานในกระบวนการผลิต
• เลือกผลิตภัณฑ์ที่จำกัดการใช้สารเคมี และ มีส่วนผสมจากสารสกัดจากธรรมชาติ
เพราะฉะนั้นแล้ว เพื่อนๆ อย่าลืมไปดูของที่มีอยู่ในบ้านนะคะ ว่ามีสารเคมีเหล่านี้เป็นส่วนประกอบรึเปล่า และอย่าลืมเลือกของที่ปลอดภัยกับสุขภาพของเราและครอบครัวมาใช้นะคะ
ข้อมูลอ้างอิง :
• Voice of America Thailand :
http://bit.ly/2uqxlIa
• สำนักงานอาหารและยา :
http://bit.ly/2snBZtE
ใครเป็นเหมือนกันบ้าง เวลาเลือกสบู่ ครีมอาบน้ำ หรืออะไรก็ตามจะชอบดูฉลากก่อน
จริงๆ แล้วสบู่และครีมอาบน้ำที่เราใช้อยู่ มีสารเคมีหลายๆ ตัวที่อาจตกค้างในร่างกายจะมีซักกี่คนที่อ่านฉลากบรรจุภัณฑ์ ว่ามีส่วนประกอบอะไรบ้าง และมีซักกี่คนที่รู้ว่าสารเคมีตัวไหนที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของคนในบ้านบ้าง แต่จากประสบการณ์ที่ได้เคยอ่านมา วันนี้เลยอยากมาแชร์เกี่ยวสารเคมีตัวนึงที่ชื่อว่า ไตรโคลซาน (Triclosan) ให้ทราบกัน
ไตรโคลซานคืออะไร?
ไตรโคลซานคือสารเคมีชนิดหนึ่งที่มักใช้ในการผลิตสบู่ประเภทต้านเชื้อแบคทีเรีย และบางครั้งถูกใช้ผสมในยาสีฟัน น้ำยาบ้วนปาก เครื่องสำอาง น้ำยาซักผ้า กระดาษทิชชู่ เสื้อผ้า รวมทั้งผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพอีกมากมายหลายชนิด
อะไรคือผลกระทบของไตรโคลซานต่อร่างกาย?
ไตรโคลซานที่ถูกดูดซึมผ่านผิวหนังหรือเข้าไปทางปากจะเข้าไปสะสมอยู่ในร่างกายเป็นระยะเวลายาวนาน โดยมีรายงานหลายชิ้นที่ชี้ว่า สารไตรโคลซานอาจทำให้เกิดอาการแพ้ตามผิวหนัง ทำให้ต่อมฮอร์โมนทำงานผิดปกติ ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ระบบการเจริญพันธุ์มีปัญหา ตลอดจนอาจก่อให้เกิดโรคมะเร็งได้
นอกจากนี้รายงานการวิจัยของคณะนักวิทยาศาสตร์ที่ University of California วิทยาเขต Davis ว่า สารไตรโคลซาน อาจส่งผลให้กล้ามเนื้ออ่อนแอ หรือกล้ามเนื้อผิดปกติได้ด้วย
และเมื่อหลายปีก่อน ก็มีรายงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Oxford Journal of Toxicology Sciences พบว่า หนูทดลองที่ได้รับสารไตรโคลซานเข้าสู่ร่างกาย มีระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนลดลง และเนื่องจากหนูมีโครงสร้างภายในที่คล้ายกับคน นักวิจัยจึงเชื่อว่า สารไตรโคลซานนี้ อาจมีผลต่อมนุษย์เช่นกัน หมายความว่าคุณผู้ชายที่ได้รับสารเคมีที่ว่านี้ในปริมาณมาก อาจทำให้เกิดปัญหาไร้สมรรถภาพทางเพศ ขาดแรงกระตุ้นทางเพศ เหนื่อยง่าย จำนวนอสุจิลดลง และอาจถึงขั้นเป็นโรคซึมเศร้าได้
ฟังดูน่ากลัวใช่มั้ยคะ แต่จริงๆ แล้ว คณะกรรมการอาหารและยา อนุญาตให้ใช้สารไตรโคลซานเป็นวัตถุกันเสียได้ แต่ควบคุมให้มีความเข้มข้นไม่เกิน 0.3% ซึ่งถือว่ามีความปลอดภัยต่อผู้บริโภคตามมาตรฐานสากล
นอกจากนี้ยังมีสารเคมีอื่นๆ ที่อาจะเป็นสารตกค้างในร่างกาย เช่น
• โซเดียมลอริลซัลเฟต (Sodium Lauryl Sulfate หรือ SLS) เป็นสารก่อให้เกิดฟอง และทำให้เกิดการระคายเคืองต่อเยื่อบุตา อีกทั้งยังเป็นสารก่อมะเร็งอีกด้วยค่ะ
• สารกลุ่มพาราเบน (Parabens) เป็นสารกันเสียที่นิยมใช้ในผลิตภัณฑ์อาบน้ำ และมีรายงานการตรวจพบพาราเบนในเซลล์มะเร็งด้วย
• เมทิลไอโซไทอะโซลิโนน (Methylisothiazolinone หรือ MIT) เป็นสารกันเสีย ซึ่งเป็นสารที่อาจทำให้เกิดการระคายเคืองและแพ้ได้ง่าย หากได้รับสารมากเกินปริมาณที่กำหนด
การเลือกซื้อผลิตภัณฑ์สบู่ สบู่เหลว ครีมอาบน้ำต้องทำอย่างไรบ้าง
• ให้อ่านฉลากผลิตภัณฑ์อย่างละเอียด และพยายามหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของไตรโคลซาน
• หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ประเภทต่อต้านหรือฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ใช้สารไตรโคลซาล ซึ่งไม่ใช่แต่ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดร่างกายเท่านั้น แต่ยังรวมถึงที่นอนและผ้าปูที่นอน เสื้อผ้า รองเท้า และสินค้าอื่นๆ ที่ติดป้ายต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย เนื่องจากมักใช้สารไตรโคลซานในกระบวนการผลิต
• เลือกผลิตภัณฑ์ที่จำกัดการใช้สารเคมี และ มีส่วนผสมจากสารสกัดจากธรรมชาติ
เพราะฉะนั้นแล้ว เพื่อนๆ อย่าลืมไปดูของที่มีอยู่ในบ้านนะคะ ว่ามีสารเคมีเหล่านี้เป็นส่วนประกอบรึเปล่า และอย่าลืมเลือกของที่ปลอดภัยกับสุขภาพของเราและครอบครัวมาใช้นะคะ
ข้อมูลอ้างอิง :
• Voice of America Thailand : http://bit.ly/2uqxlIa
• สำนักงานอาหารและยา : http://bit.ly/2snBZtE