สวัสดีครับ ก่อนอื่นผมขอแนะนำตัวก่อนนะคับ ผมเป็นเกย์ (รุก) เข้าเรื่องเลยนะครับ
เมื่อไม่นานมานี้ผมได้ใช้บริการสายการบินชื่อดังของไทยที่สุวรรณภูมิเพื่อบินไปเที่ยวที่จังหวัดเชียงใหม่ ผมก็เช็คอินเพื่อขึ้นเครื่องตามปกติ พอผมขึ้นถึงห้องโดยสารบนเครื่องบิน สายตาผมก็ไปเห็น สจ๊วต ผิวขาวหน้าตาดีมาก (ผมมั่นใจว่าเค้าเป็นเกย์รับ เพราะอาการออกชัดมาก 5555) กำลังต้อนรับผู้โดยสารอยู่ แต่นั้นก็ไม่ใช่เหตุที่ทำให้ผมใจสั่นได้เท่า สจ๊วตคนนั้นมองมาที่ผมแล้วยิ้ม (อ้าวก็เป็นหน้าที่ของพนักงานต้อนรับบนเครื่องเปล่าว่ะ) โอเคบางคนอาจจะคิดว่าผมคิดไปเอง แต่ยิ้มมันมีหลายแบบนะครับ ยิ้มแบบสวัสดี/ยินดีต้อนรับ และยิ้มแบบที่มีใจให้มันต่างกันนะ 55555555 ต่อคับต่อ พอสจ๊วตยิ้มให้ผม ผมก็เดินตรงเข้าไปที่นั่ง ซึ่งต้องเดินผ่านตัวสจ๊วตคนนั้นไปยังที่นั่ง ผมหันไปมองหน้าเค้า เค้าก็มองหน้าผมและยิ้มหวานมากกกกกกกกก ( ใจจะขาด ) ตอนนั้นยอมรับว่าชอบสจ๊วตคนนี้มาก แต่ไม่กล้าทำอะไรกลัวหน้าแตกเพราะคิดไปเอง จากนั้นผมเอากระเป๋าเป้เก็บไว้ที่เก็บของด้านบน สจ๊วตคนนี้ก็เดินมาเปิดที่เก็บของให้แล้วยิ้มหวานมากกกกกให้ผมอีกแล้ว ในใจผมก็พูดว่า (โอ้ยยยยย.....จะยิ้มอะไรนักหนา ไม่ไหวแล้วนะ)
จากนั้นก็มีเหตุการณ์ที่เค้าทำให้ผมคิดว่าเค้าหว่านเสน่ห์ใส่ผมแน่นอน เช่น เดินเสริฟอาหารก็ยิ้มหวานใส่ เดินผ่านก็พยายามมองหน้าผมแล้วยิ้มให้ผมตลอดเลย จนมาถึงตอนที่ผมมั่นใจแล้วว่าเค้าชอบผมแน่นอนตรงที่ผมปวดฉี่มาก ผมเลยเดินไปเข้าห้องน้ำด้านท้ายเครื่อง ซึ่งตอนนั้นมีสจ๊วตคนนี้ได้ยืนอยู่ตรงหน้าห้องน้ำพอดี พอผมเห็นเค้าเค้าก็ยิ้มให้ผมทันที แล้วผมก็ยิ้มให้เค้า จากนั้นผมเข้าไปในห้องน้ำ สจ๊วตก็ปิดประตูห้องน้ำให้ผมแล้วพูดให้ผมผ่านประตูเข้ามาว่า "ไม่ให้ออกนะ จะขังเอาไว้กลับไปด้วยกัน" เท่านั้นละคับ ผมก็รู้เลยว่าเค้าชอบผมแน่ ๆ พอผมฉี่เสร็จเปิดประตูออกมาเจอเค้ายืนยิ้มอยู่หน้าประตูห้องน้ำ 55555 ผมทำตัวไม่ถูก เลยรีบเดินกลับไปยังที่นั่ง และก็นั่งยิ้มคนเดียว 555555 ผมนั่งยิ้มไปคิดไปว่าที่เค้าพยายามหว่านยิ้มหวานให้ผมตลอดเส้นทางบินมันคือยิ้มที่เค้าต้องการบอกว่าเค้าชอบผม มันไม่ใช่แค่ยิ้มที่พนักงานต้อนรับยิ้มให้กับผู้โดยสารปกติ ผมรู้สึกแบบนั้น เพราะผมไม่ได้เคยขึ้นเครื่องบินเป็นครั่งแรก แต่ครั่งนี้มันไม่ปกติเหมือนครั่งอื่น ๆ ผมเลยรู้ว่าเค้าต้องการจะบอกผมว่าเค้าชอบผมแน่นอน
จนเดินทางมาถึงสนามบินเชียงใหม่ จากนั้นทุกคนก็กำลังวุ่นวายเพื่อลงจากเครื่อง ผมก็หันหน้าไปที่สจ๊วตคนนี้ ซึ่งยืนรอส่งผู้โดยสารอยู่ท้ายเครื่อง สิ่งที่ผมเห็นคือเค้ามองมาที่ผมแล้วยิ้มให้ และก็เหมือนเค้าพยายามจะพูดอะไรกับผมสักอย่าง แต่ผมมองไม่ชัด เพราะตอนนั้นมันวุ่นวายมากครับ ผู้โดยสารคนอื่นก็พยายามจะเดินออกจากเครื่องกัน บวกกับตัวผมเองก็ไม่กล้าพอที่จะเดินไปหาสจ๊วตคนนั้นเพื่อขอไลน์ เสียดายคับ อยากเจอเค้าอีกสักครั่ง แล้วผมจะรวบรวมความกล้าเข้าไปหาเค้าแล้วขอไลน์เค้า
ผมต้องขอโทษด้วยนะครับที่ผมไม่บอกชื่อสายการบิน เพราะถ้าผมบอกไปมันจะไม่เป็นผลดีต่อสายการบินนั้น และสจ๊วตคนนั้น เพราะสิ่งที่สจ๊วตคนนั้นทำกับผม มันถือว่าผิดกฎระเบียบของสายการบินในการให้บริการลูกค้า แต่มันทำให้ผมรู้สึกดี และมีความสุขที่ได้เจอเรื่องราวแบบนี้ ถ้าเราเป็นคู่กันจริง ๆ เราคงได้เจอกันอีกสักครั่งนะครับ
ที่ผมมาเล่าไม่ใช่ว่าผมประกาศหาคู่นะคับ แต่ผมต้องการจะแชร์ประสบการณ์ให้ทุกคนได้รู้ว่า "ถ้าวันนึงได้มีโอกาส อย่าปล่อยให้มันหลุดมือไป เพราะโอกาส บางทีมันอาจมาแค่ครั่งเดียว แล้วก็หายไปเลยก้ได้ อย่ารอเพราะถ้าพลาดไปแล้วจะมานั่งคิดเสียดายทีหลังแบบผม"
พบรักบนเครื่องบินของสายการบินชื่อดังของประเทศไทย (ช-ช.)
เมื่อไม่นานมานี้ผมได้ใช้บริการสายการบินชื่อดังของไทยที่สุวรรณภูมิเพื่อบินไปเที่ยวที่จังหวัดเชียงใหม่ ผมก็เช็คอินเพื่อขึ้นเครื่องตามปกติ พอผมขึ้นถึงห้องโดยสารบนเครื่องบิน สายตาผมก็ไปเห็น สจ๊วต ผิวขาวหน้าตาดีมาก (ผมมั่นใจว่าเค้าเป็นเกย์รับ เพราะอาการออกชัดมาก 5555) กำลังต้อนรับผู้โดยสารอยู่ แต่นั้นก็ไม่ใช่เหตุที่ทำให้ผมใจสั่นได้เท่า สจ๊วตคนนั้นมองมาที่ผมแล้วยิ้ม (อ้าวก็เป็นหน้าที่ของพนักงานต้อนรับบนเครื่องเปล่าว่ะ) โอเคบางคนอาจจะคิดว่าผมคิดไปเอง แต่ยิ้มมันมีหลายแบบนะครับ ยิ้มแบบสวัสดี/ยินดีต้อนรับ และยิ้มแบบที่มีใจให้มันต่างกันนะ 55555555 ต่อคับต่อ พอสจ๊วตยิ้มให้ผม ผมก็เดินตรงเข้าไปที่นั่ง ซึ่งต้องเดินผ่านตัวสจ๊วตคนนั้นไปยังที่นั่ง ผมหันไปมองหน้าเค้า เค้าก็มองหน้าผมและยิ้มหวานมากกกกกกกกก ( ใจจะขาด ) ตอนนั้นยอมรับว่าชอบสจ๊วตคนนี้มาก แต่ไม่กล้าทำอะไรกลัวหน้าแตกเพราะคิดไปเอง จากนั้นผมเอากระเป๋าเป้เก็บไว้ที่เก็บของด้านบน สจ๊วตคนนี้ก็เดินมาเปิดที่เก็บของให้แล้วยิ้มหวานมากกกกกให้ผมอีกแล้ว ในใจผมก็พูดว่า (โอ้ยยยยย.....จะยิ้มอะไรนักหนา ไม่ไหวแล้วนะ)
จากนั้นก็มีเหตุการณ์ที่เค้าทำให้ผมคิดว่าเค้าหว่านเสน่ห์ใส่ผมแน่นอน เช่น เดินเสริฟอาหารก็ยิ้มหวานใส่ เดินผ่านก็พยายามมองหน้าผมแล้วยิ้มให้ผมตลอดเลย จนมาถึงตอนที่ผมมั่นใจแล้วว่าเค้าชอบผมแน่นอนตรงที่ผมปวดฉี่มาก ผมเลยเดินไปเข้าห้องน้ำด้านท้ายเครื่อง ซึ่งตอนนั้นมีสจ๊วตคนนี้ได้ยืนอยู่ตรงหน้าห้องน้ำพอดี พอผมเห็นเค้าเค้าก็ยิ้มให้ผมทันที แล้วผมก็ยิ้มให้เค้า จากนั้นผมเข้าไปในห้องน้ำ สจ๊วตก็ปิดประตูห้องน้ำให้ผมแล้วพูดให้ผมผ่านประตูเข้ามาว่า "ไม่ให้ออกนะ จะขังเอาไว้กลับไปด้วยกัน" เท่านั้นละคับ ผมก็รู้เลยว่าเค้าชอบผมแน่ ๆ พอผมฉี่เสร็จเปิดประตูออกมาเจอเค้ายืนยิ้มอยู่หน้าประตูห้องน้ำ 55555 ผมทำตัวไม่ถูก เลยรีบเดินกลับไปยังที่นั่ง และก็นั่งยิ้มคนเดียว 555555 ผมนั่งยิ้มไปคิดไปว่าที่เค้าพยายามหว่านยิ้มหวานให้ผมตลอดเส้นทางบินมันคือยิ้มที่เค้าต้องการบอกว่าเค้าชอบผม มันไม่ใช่แค่ยิ้มที่พนักงานต้อนรับยิ้มให้กับผู้โดยสารปกติ ผมรู้สึกแบบนั้น เพราะผมไม่ได้เคยขึ้นเครื่องบินเป็นครั่งแรก แต่ครั่งนี้มันไม่ปกติเหมือนครั่งอื่น ๆ ผมเลยรู้ว่าเค้าต้องการจะบอกผมว่าเค้าชอบผมแน่นอน
จนเดินทางมาถึงสนามบินเชียงใหม่ จากนั้นทุกคนก็กำลังวุ่นวายเพื่อลงจากเครื่อง ผมก็หันหน้าไปที่สจ๊วตคนนี้ ซึ่งยืนรอส่งผู้โดยสารอยู่ท้ายเครื่อง สิ่งที่ผมเห็นคือเค้ามองมาที่ผมแล้วยิ้มให้ และก็เหมือนเค้าพยายามจะพูดอะไรกับผมสักอย่าง แต่ผมมองไม่ชัด เพราะตอนนั้นมันวุ่นวายมากครับ ผู้โดยสารคนอื่นก็พยายามจะเดินออกจากเครื่องกัน บวกกับตัวผมเองก็ไม่กล้าพอที่จะเดินไปหาสจ๊วตคนนั้นเพื่อขอไลน์ เสียดายคับ อยากเจอเค้าอีกสักครั่ง แล้วผมจะรวบรวมความกล้าเข้าไปหาเค้าแล้วขอไลน์เค้า
ผมต้องขอโทษด้วยนะครับที่ผมไม่บอกชื่อสายการบิน เพราะถ้าผมบอกไปมันจะไม่เป็นผลดีต่อสายการบินนั้น และสจ๊วตคนนั้น เพราะสิ่งที่สจ๊วตคนนั้นทำกับผม มันถือว่าผิดกฎระเบียบของสายการบินในการให้บริการลูกค้า แต่มันทำให้ผมรู้สึกดี และมีความสุขที่ได้เจอเรื่องราวแบบนี้ ถ้าเราเป็นคู่กันจริง ๆ เราคงได้เจอกันอีกสักครั่งนะครับ
ที่ผมมาเล่าไม่ใช่ว่าผมประกาศหาคู่นะคับ แต่ผมต้องการจะแชร์ประสบการณ์ให้ทุกคนได้รู้ว่า "ถ้าวันนึงได้มีโอกาส อย่าปล่อยให้มันหลุดมือไป เพราะโอกาส บางทีมันอาจมาแค่ครั่งเดียว แล้วก็หายไปเลยก้ได้ อย่ารอเพราะถ้าพลาดไปแล้วจะมานั่งคิดเสียดายทีหลังแบบผม"