หลักธรรมาภิบาล
หมายถึง แนวทางในการจัดระเบียบเพื่อให้สังคมของประเทศทั้งภาครัฐ ภาคธุรกิจเอกชน
และภาคประชาชน สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข และตั้งอยู่ในความถูกต้องเป็นธรรม
ตามหลักพื้นฐาน
การบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี ดังนี้
1. หลักนิติธรรม (The Rule of Law)
2. หลักคุณธรรม (Morality)
3. หลักความโปร่งใส (Accountability)
4. หลักการมีส่วนร่วม (Participation)
5. หลักความรับผิดชอบ (Responsibility)
6. หลักความคุ้มค่า (Cost)
...........................................................................
ระบบอุปถัมภ์
เป็นระบบการคัดเลือกบุคคลเข้าทำงานโดยใช้เหตุผลทางการเมือง
หรือความสัมพันธ์เป็นหลักสำคัญ โดยไม่คำนึงถึงความรู้ ความสามารถ
.............................................................................
การเปรียบเทียบหลักปฏิบัติระหว่างระบบธรรมาภิบาลกับระบบอุปถัมภ์
ระบบธรรมาภิบาล ระบบอุปถัมภ์
1. ยึดหลักความสามารถ 1. ยึดความพึงพอใจ
2. เปิดโอกาสให้ทุกคนเท่าเทียมกัน 2. ให้โอกาสแก่พรรคพวกหรือญาติพี่น้อง
3. มีความมั่นคงในการทำงาน 3. ขาดความมั่นคงในการทำงาน
4. ไม่มีอิทธิพลทางการเมืองเข้าแทรก 4. มีอิทธิพลการเมืองเข้าแทรกแซงการทำงาน
...............................................................................................
ดังนั้นระบบอุปถัมภ์จึงมีลักษณะตรงกันข้ามกับระบบธรรมาภิบาลอย่างเห็นได้ชัดเจนมาก
ระบบอุปถัมภ์เป็นตัวฉุดรั้งความเจริญและการพัฒนาของชาติ
คนที่เค้าเก่ง ๆ เค้าก็ไปทำงานที่อื่นหมด จึงที่มาของคำว่า "สมองไหล"
"ต่อให้เรียนเก่งและทำงานเก่งยังไงก็ตกงานอยู่ดี ถ้าไม่มีผู้อุปถัมภ์"
.............................................................................
เนื่องจาก "Thailand 4.0"...เป็นไฟต์บังคับ ที่ไม่ว่าช่วงนี้ใครขึ้นมาเป็นรัฐบาลก็ต้องทำเรื่องนี้เป็น
วาระแห่งชาติอยู่ดีเพราะว่าเราติดอยู่ที่ Thailand 3.0 นานเกินไปแล้ว หากช้ากว่านี้ ประเทศไทย
จะอยู่ในสภาวะสุญญากาศคนรวยก็รวยเกิน มนุษย์เงินดือนจะซื้อผัดกระเพราไข่ดาวก็ซื้อทานไม่ได้
เพราะมันแพงมาก ส่วนผู้ยากไร้ก็จะตกอยู่ในภาวะลำบากมาก ๆ ปัญหาสังคมทุกด้านก็จะเกิดขี้นมากมาย
อันนี้ไม่ใช่คำทำนาย แต่เกิดขึ้นจริงแล้ว
และนี้คือที่มาของยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2560 – 2579) ...
ได้ยิ่งหลายคนพูดว่า "ทำไมนานจังตั้ง 20 ปี","เร็วกว่านี้ไม่ได้เหรอ".. อืม..ผมว่าใจเย็น ๆ นิดหนึ่งนะ
...............................................................................................
ลองมาสำรวจดูสิครับว่า ตัวเราเกิดอยู่ที่ยุค Thailand ?.0 เท่าไร
Thailand 1.0 คือยุคของเกษตรกรรม คนไทยปลูกข้าว พืชสวน พืชไร่ เลี้ยงหมู เป็ด ไก่
นำผลผลิตไปขาย สร้างรายได้และยังชีพ
Thailand 2.0 คือยุคอุตสาหกรรมเบา ในยุคนี้เรามีเครื่องมือเข้ามาช่วย เราผลิตเสื้อผ้า กระเป๋า เครื่องดื่ม
เครื่องเขียน เครื่องประดับเป็นต้น ประเทศเริ่มมีศักยภาพมากขึ้น
Thailand 3.0 (ยุคปัจจุบัน ) เป็นยุคอุตสาหกรรมหนัก เราผลิตและขายส่งออกเหล็กกล้า รถยนต์
ก๊าซธรรมชาติ ปูนซีเมน เป็นต้น โดยใช้เทคโนโลยีจากต่างประเทศ เพื่อเน้นการส่งออก
Thailand 4.0 เป็นวิสัยทัศน์เชิงนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทย “มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน”
ปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจ ไปสู่ “Value–Based Economy”
หรือ “เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม”
.....................................................................
ปัจจุบันนี้ ประเทศไทยยังมีคนยุค Thailand 1.0 และ 2.0 อยู่เป็นจำนวนมาก ส่วนคนยุคThailand 3.0
มีเป็นส่วนน้อย เห็นแบบนี้แล้วถ้าเราจะถามหาความเท่าเทียบในสังคมนั้นยากถึงยากมากครับ
หากคนยุคThailand 3.0 (ปัจจุบัน) ไม่ยื่นมือเข้าช่วยกันร่วมแรงร่วมใจ ผลักดันคนยุค Thailand 1.0และ2.0
ให้ขึ้นมาเท่ากับหรือใกล้ใกล้เคียง ยุคThailand 3.0 ได้เมื่อไร คำว่า "Thailand 4.0" ก็อยู่ไม่ใกลครับ
.........................................................................
ถ้าร่วมชู "ระบบอุปถัมภ์" ไม่สน "ระบบธรรมาภิบาล"
Thailand 4.0 ก็เป็นแค่ความฝัน
แล้วเราจะก้าวสู่ “ประเทศที่พัฒนาแล้ว” ได้อย่างไร
...........................................................................
ร่วมชู "ระบบธรรมาภิบาล" ร่วมล้าง "ระบบอุปถัมภ์" เดินหน้าสู่ Thailand 4.0 กันเถอะ
หมายถึง แนวทางในการจัดระเบียบเพื่อให้สังคมของประเทศทั้งภาครัฐ ภาคธุรกิจเอกชน
และภาคประชาชน สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข และตั้งอยู่ในความถูกต้องเป็นธรรม
ตามหลักพื้นฐาน
การบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี ดังนี้
1. หลักนิติธรรม (The Rule of Law)
2. หลักคุณธรรม (Morality)
3. หลักความโปร่งใส (Accountability)
4. หลักการมีส่วนร่วม (Participation)
5. หลักความรับผิดชอบ (Responsibility)
6. หลักความคุ้มค่า (Cost)
...........................................................................
ระบบอุปถัมภ์
เป็นระบบการคัดเลือกบุคคลเข้าทำงานโดยใช้เหตุผลทางการเมือง
หรือความสัมพันธ์เป็นหลักสำคัญ โดยไม่คำนึงถึงความรู้ ความสามารถ
.............................................................................
การเปรียบเทียบหลักปฏิบัติระหว่างระบบธรรมาภิบาลกับระบบอุปถัมภ์
ระบบธรรมาภิบาล ระบบอุปถัมภ์
1. ยึดหลักความสามารถ 1. ยึดความพึงพอใจ
2. เปิดโอกาสให้ทุกคนเท่าเทียมกัน 2. ให้โอกาสแก่พรรคพวกหรือญาติพี่น้อง
3. มีความมั่นคงในการทำงาน 3. ขาดความมั่นคงในการทำงาน
4. ไม่มีอิทธิพลทางการเมืองเข้าแทรก 4. มีอิทธิพลการเมืองเข้าแทรกแซงการทำงาน
...............................................................................................
ดังนั้นระบบอุปถัมภ์จึงมีลักษณะตรงกันข้ามกับระบบธรรมาภิบาลอย่างเห็นได้ชัดเจนมาก
ระบบอุปถัมภ์เป็นตัวฉุดรั้งความเจริญและการพัฒนาของชาติ
คนที่เค้าเก่ง ๆ เค้าก็ไปทำงานที่อื่นหมด จึงที่มาของคำว่า "สมองไหล"
"ต่อให้เรียนเก่งและทำงานเก่งยังไงก็ตกงานอยู่ดี ถ้าไม่มีผู้อุปถัมภ์"
.............................................................................
เนื่องจาก "Thailand 4.0"...เป็นไฟต์บังคับ ที่ไม่ว่าช่วงนี้ใครขึ้นมาเป็นรัฐบาลก็ต้องทำเรื่องนี้เป็น
วาระแห่งชาติอยู่ดีเพราะว่าเราติดอยู่ที่ Thailand 3.0 นานเกินไปแล้ว หากช้ากว่านี้ ประเทศไทย
จะอยู่ในสภาวะสุญญากาศคนรวยก็รวยเกิน มนุษย์เงินดือนจะซื้อผัดกระเพราไข่ดาวก็ซื้อทานไม่ได้
เพราะมันแพงมาก ส่วนผู้ยากไร้ก็จะตกอยู่ในภาวะลำบากมาก ๆ ปัญหาสังคมทุกด้านก็จะเกิดขี้นมากมาย
อันนี้ไม่ใช่คำทำนาย แต่เกิดขึ้นจริงแล้ว
และนี้คือที่มาของยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2560 – 2579) ...
ได้ยิ่งหลายคนพูดว่า "ทำไมนานจังตั้ง 20 ปี","เร็วกว่านี้ไม่ได้เหรอ".. อืม..ผมว่าใจเย็น ๆ นิดหนึ่งนะ
...............................................................................................
ลองมาสำรวจดูสิครับว่า ตัวเราเกิดอยู่ที่ยุค Thailand ?.0 เท่าไร
Thailand 1.0 คือยุคของเกษตรกรรม คนไทยปลูกข้าว พืชสวน พืชไร่ เลี้ยงหมู เป็ด ไก่
นำผลผลิตไปขาย สร้างรายได้และยังชีพ
Thailand 2.0 คือยุคอุตสาหกรรมเบา ในยุคนี้เรามีเครื่องมือเข้ามาช่วย เราผลิตเสื้อผ้า กระเป๋า เครื่องดื่ม
เครื่องเขียน เครื่องประดับเป็นต้น ประเทศเริ่มมีศักยภาพมากขึ้น
Thailand 3.0 (ยุคปัจจุบัน ) เป็นยุคอุตสาหกรรมหนัก เราผลิตและขายส่งออกเหล็กกล้า รถยนต์
ก๊าซธรรมชาติ ปูนซีเมน เป็นต้น โดยใช้เทคโนโลยีจากต่างประเทศ เพื่อเน้นการส่งออก
Thailand 4.0 เป็นวิสัยทัศน์เชิงนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทย “มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน”
ปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจ ไปสู่ “Value–Based Economy”
หรือ “เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม”
.....................................................................
ปัจจุบันนี้ ประเทศไทยยังมีคนยุค Thailand 1.0 และ 2.0 อยู่เป็นจำนวนมาก ส่วนคนยุคThailand 3.0
มีเป็นส่วนน้อย เห็นแบบนี้แล้วถ้าเราจะถามหาความเท่าเทียบในสังคมนั้นยากถึงยากมากครับ
หากคนยุคThailand 3.0 (ปัจจุบัน) ไม่ยื่นมือเข้าช่วยกันร่วมแรงร่วมใจ ผลักดันคนยุค Thailand 1.0และ2.0
ให้ขึ้นมาเท่ากับหรือใกล้ใกล้เคียง ยุคThailand 3.0 ได้เมื่อไร คำว่า "Thailand 4.0" ก็อยู่ไม่ใกลครับ
.........................................................................
ถ้าร่วมชู "ระบบอุปถัมภ์" ไม่สน "ระบบธรรมาภิบาล"
Thailand 4.0 ก็เป็นแค่ความฝัน
แล้วเราจะก้าวสู่ “ประเทศที่พัฒนาแล้ว” ได้อย่างไร
...........................................................................