(บทความ) ไทยแลนด์ 4.0 เรื่องอาดูรของบ้านนา เรื่องเฮฮาของเจ้าสัว

.
       ประเทศไทย 4.0 หรือ Thailand 4.0 คืออะไร..? หากท่าใดเคยฟังหรือติดตามข่าวสารมาบ้างก็คงพอจะทราบได้ ว่า คือ  วิสัยทัศน์เชิงนโยบายเปลี่ยนเศรษฐกิจแบบเดิมไปสู่เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนไปด้วยนวัตกรรมและนำพาประชาชนทั้งประเทศไปสู่โมเดลประเทศไทย 4.0 ภายใต้การบริหารประเทศของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พลเอก ประยุทธ จันทร์โอชา ที่เข้ามาบริหารประเทศในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี บนวิสัยทัศน์ที่กล่าวอ้างว่า “มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน”

โดยโมเดลนี้แบ่งการพัฒนาประเทศออกเป็น 4 ช่วง คือ
       ยุคไทยแลนด์ 1.0 ยุคของเกษตรกรรมของคนไทยที่เป็นหลักในการสร้างรายได้ จากการทำกสิกรรม ปลูกข้าว เลี้ยงเป็ด เลี้ยงไก่ เลี้ยงหมู ปลูกพืชสวน พืชไร่ แล้วนำผลผลิตเพื่อส่งไปขายสร้างรายได้ในการดำรงชีวิต และรายได้หลักของช่วงนี้ มีข้าวเป็นสินค้าหลัก จนชาวนาถูกเรียกขานว่าเป็นกระดูกสันหลังของชาติกันเลยทีเดียว

       ยุคประเทศไทย 2.0 ยุคของอุตสาหกรรมเบา ในยุคนี้ใช้แรงงานที่มีราคาถูก แต่เริ่มจะมีเครื่องไม้เครื่องมือเข้ามาช่วยผลิต เช่น เสื้อผ้า กระเป๋า เครื่องดื่ม เครื่องเขียน เครื่องประดับ อาหาร เป็นต้น ซึ่งในยุคนี้ประเทศเริ่มมีศักยภาพมากขึ้น ด้วยผลผลิตที่เก็บเกี่ยวได้จากภาคอุตสาหกรรม

       ยุคประเทศไทย 3.0 ยุคที่เราอยู่ในขณะนี้ เป็นยุคอุตสาหกรรมหนัก เป็นฐานการผลิตและส่งออกรถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้าเทคโนโลยี เป็นต้น โดยพึ่งพาเทคโนโลยีของบริษัทแม่จากต่างประเทศ เพื่อเน้นการส่งออกเป็นหลัก

       แต่ไทยแลนด์ 3.0 กำลังเกิดปัญหา เนื่องจากว่าประเทศคู่ค้าต่างไม่อยากจะคบหาสมาคมกับเราเหมือนดังเดิม ซึ่งเกิดจากหลายสาเหตุรวมๆกัน ทั้งปัญหาทางการเมือง ปัญหาค่าแรง ปัญหาสิทธิมนุษยชน จนหลายๆอุตสาหกรรมโยกย้ายฐานการผลิตไปที่ประเทศอื่นในภูมิภาคเดียวกับเรา และทำให้เกิดปัญหาทางเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศ

       โมเดลไทยแลนด์ 4.0 จึงถูกหยิบยกขึ้นมาเพื่อหวังจะหาทางออกให้กับประเทศ หรือแค่หาทางได้เปรียบของคนบางกลุ่ม เพราะโมเดลนี้ตั้งแต่ตอนแถลงการณ์ก็ยกตัวอย่าง การเกษตรที่ต้องปรับเปลี่ยนจากการเกษตรแบบดั้งเดิมไปสู่การเกษตรแบบสมัยใหม่ ที่มีการเน้นเรื่องการบริหารจัดการ โดยการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ หรือที่เรียกว่า Smart Farming โดยเกษตรกรต้องเริ่มรวยขึ้นและเป็นเกษตรกรที่ผู้ประกอบการเปลี่ยนจาก SME แบบเดิมไปสู่ Smart Enterprises และ Startup ที่มีศักยภาพสูง และเปลี่ยนจากแรงงานทักษะต่ำไปสู่แรงงานที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญและทักษะสูงขึ้น

       ซึ่งการเกษตรแบบนี้ มีเพียงกลุ่มเดียวในประเทศเท่านั้นที่สามารถทำได้ คือกลุ่มเครือ...ของเจ้าสัวผู้ออกมาสนับสนุนแนวคิด ไทยแลนด์ 4.0 อย่างออกหน้าออกตา

ประกอบกับการออกกฎหมาย (ร่าง) พระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง http://library2.parliament.go.th/giventake/nlalaw2557.html
ซึ่งมีเนื้อหาใจความหลัก คือเก็บภาษีกับเกษตรกรทุกระดับโดยไม่สนใจรายได้พื้นฐานใดๆ เพราะเก็บจากราคาประเมินที่ดิน นั้นยิ่งทำให้สภาพการแข่งขันทางการเกษตรของรายย่อยกับกลุ่มทุนยิ่งยากต่อการแข่งขันกันเข้าไปอีก

       และคงทำให้เกษตรกรส่วนใหญ่ของประเทศนี้ ที่ยังคงวิถีชีวิตอยู่แบบไทยแลนด์ 1.0 ต้องสูญสิ้นการทำมาหากินของตัวเองไป จนท้ายที่สุด ยุคไทยแลนด์ 4.0 คงต้องเรียกขานว่า เป็นยุคของเจ้าสัวที่เป็นกระดูกสันหลังของชาติ

ใยต้องมา  ร่ำไห้......................อาดูร
ใยต้องหมด สิ้นสูญ.................ถิ่นท้อง
หรือเป็นแค่ เพียงบุญ.............หนุนเนื่อง น้อยเอย
จึงหมดสิทธิ์ ร่ำร้อง.................แต่ต้อง ยอมทน

ป.ล.เขียนกะทู้นี้เพราะได้อ่านร่างกฏหมาย พระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง จากกะทู้ของคุณจก https://ppantip.com/topic/36400816 แต่ไม่ได้แสดงความเห็นในกะทู้นั้น เลือกที่จะจับประเด็นออกมาตั้งเป็นกะทู้เองแทน

ขอบคุณครับที่เข้ามารับฟัง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่