อัคราเป็นเมืองที่อยู่ในรัฐอุตตรประเทศ
(Uttar Pradesh)
หรือที่คนท้องถิ่นย่อกันสั้นๆ ว่า UP (ยูพี)
เป็นรัฐที่อยู่ทางโซนเหนือของอินเดีย
สภาพภูมิอากาศในโซนนี้ดีอย่าง
ตรงที่ฤดูมรสุมจะไม่ค่อยได้รับผลกระทบมาก
แต่ฤดูร้อนกับฤดูหนาวนี่ก็สุดขั้ว
ใครจะไปหน้าหนาวต้องเตรียมชุดหนาๆ
เพราะอุณหภูมิต่ำได้ถึงเลขตัวเดียวเชียว

สำหรับใครที่ไม่ได้รู้จักมักจี่อินเดียมากนัก
พูดชื่อเมืองขึ้นมาโดดๆ ก็คงไม่รู้จัก
ว่าเมืองนี้มันมีของดีของเด็ดอะไรกัน
แต่ถ้าพูดถึงแลนด์มาร์กสำคัญของเมือง
รับรองได้ว่าคงไม่มีใครไม่รู้จักแน่ๆ
นั่นคือ Taj Mahal อนุสรณ์สถานแห่งรัก
หนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก

แค่ชื่อเมืองและชื่อสถานที่ก็ทำเราปวดหัวได้แล้ว
เราชอบอวดเพื่อนฝูงชาวอินเดียทั้งหลาย
ว่าฉันนี่นะ เคยไปเยี่ยมเยือนอัครา
แล้วก็เคยเห็น Taj Mahal มาแล้วนะเหวย
แต่อวดทีไรเพื่อนพ้องก็งงกันทุกที
ว่าเธอไปที่ไหนมานะ ทำไมฉันไม่รู้จัก

บรรยายกันไป โต้กันมา สุดท้ายก็เข้าใจว่า
คนอินเดียเขาออกเสียงทั้งชื่อเมือง
และชื่อ Taj Mahal ต่างจากเราว่ะ
โดยชื่อเมืองเขาจะออกเสียงประมาณ ‘อ๊ากกร้า’
ส่วน Taj Mahal จะออกเสียงประมาณ
…‘ต๊าจ มะอัล’ ถ้าไม่ออกเสียงแบบนี้
เวลาถามทาง หรือเวลาเมาท์มอย
ระวังคุยกับคนอินเดียไม่รู้เรื่องเด้อ



ถ้าว่ากันเรื่องสถานที่ท่องเที่ยว
อัคราก็ไม่ค่อยมีอะไรหวือหวามากมายนัก
นักท่องเที่ยวส่วนมากเลยมากันแค่วันสองวัน
โปรแกรมท่องเที่ยวแบบทั่วไปที่นี่
คือหนึ่งต้องแหกขี้ตาตื่นไปดูพระอาทิตย์ขึ้น
ที่ Taj Mahal แต่เราขอแนะนำอย่างนึง
ถ้าวันไหนดูทรงแล้วพระอาทิตย์อาจไม่โผล่
ก็ไม่ต้องแหกขี้ตาไปหรอกเด้อ ตื่นสายก็ได้
หรือใครที่เวลาของวันเริ่มต้นตอนเที่ยงเหมือนเรา
จะรอดูตอนพระอาทิตย์ตกดินก็สวยไปอีกแบบ

ส่วนอีกจุดหมายหนึ่งที่ทุกทัวร์ต้องมา
นั่นคือป้อมอัครา (Agra Fort)
เอาจริงๆ จากการที่เราเคยไปมาหลายเมือง
ป้อมพวกนี้มันไม่ค่อยแตกต่างกันเท่าไหร่
ต่างกันตรงค่าเข้าชมนี่แหละ
แต่ป้อมอัครามันเลิศตรงที่ใช้หนังสือเดินทางไทย
ลดราคาค่าเข้าได้ถูกแสนถูกเลย
จากราคาค่าเข้า 550 รูปี (225 บาท)
หากคุณโทรมาในสิบนาทีนี้
ลดไปเล้ย เหลือ 80 รูปี (40 บาท)

เอ้อ หนังสือเดินทางไทย
ใช้ลดค่าเข้า Taj Mahal ได้เหมือนกัน
โอ๊ย สิทธิพิเศษเว่อร์วัง ปลื้มมาก
เอาไว้ให้เพื่อนๆ ต่างชาติที่ไปด้วยอิจฉาเล่น
ลดจาก 1,000 รูปี (500 บาท)
เหลือ 530 รูปี (265 บาท)

ที่หนังสือเดินทางไทยได้ส่วนลด
เป็นเพราะประเทศไทยเป็นสมาชิก BIMSTEC
ซึ่งเป็นความร่วมมือทางวิชาการและเศรษฐกิจ
ระหว่างประเทศต่างๆ ริมอ่าวเบงกอล
อ่าวเบงกอลนี่ พอมาอยู่แถวเขตแดนบ้านเรา
ใช้ชื่อเรียกว่าทะเลอันดามัน
อารมณ์เหมือนกับแม่น้ำต่างๆ ในบ้านเรา
ที่เป็นแม่น้ำสายเดียวกัน
แต่พอไหลผ่านแต่ละจังหวัด ก็มีชื่อเรียกต่างกันไป

เพราะฉะนั้น ใครที่ไปเที่ยวอินเดีย
ก่อนจะเสียเงินค่าเข้าสถานที่ต่างๆ
ให้สังเกต หรือถามคนขายตั๋วก่อนว่า
มีส่วนลดสำหรับประเทศใน BIMSTEC ไหม
เพราะเขาไม่ได้ลดราคาให้เราทุกที่



นอกเหนือจากสถานที่ในโปรแกรมทัวร์หลัก
อัคราก็มีสุสานคนนู้นคนนี้เต็มไปหมด
ใครที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์
และสถาปัตยกรรมคงเพลินน่าดู
หรือใครที่ชอบธรรมชาติ
เขาก็มีสวน Mehtab Bagh
สวนขนาดย่อมฝั่งตรงข้าม Taj Mahal
ซึ่งเป็นอีกจุดที่มองเห็น Taj Mahal ได้สวยมาก
และก็ Taj Nature Walk ให้ไปเดินเล่น
ชมนก ชมไม้ ชมธรรมชาติในเมืองกัน
ส่วนตัวเรานั้น ขอเดินเล่นชิลๆ
แอ๊วหนุ่มอินเดีย ฝึกภาษาฮินดีแทนดีกว่า
(เอาจริงๆ ก็คืองก)

ก่อนที่จะมาอัครา
เรานึกภาพว่ามันคงจะเป็นเมืองที่สะอาด
เพราะเป็นที่ตั้งของ Taj Mahal เลยนะ
แต่พอมาถึง อืม สะอาดจริงด้วย
...แต่สะอาดแค่ Taj Mahal ว่ะ (ฮือ)
พ้นเขตกำแพงอนุสรณ์สถานมาปุ๊บ
เป็นขยะกองโต แมลงวันบินว่อน
และกองขี้สารพัดขี้
ยิ่งริมแม่น้ำยมุนาที่แสนโด่งดังยิ่งไม่ต้องพูดถึง
ถือเป็นภาพที่ตรงกันข้ามดี
นี่สิ งานอาร์ตของจริงเด้อ

ต้องขอสารภาพตามตรง
ถึงแม้เราจะมาเมืองนี้เป็นรอบที่สองแล้ว
รอบแรกตอนสิงหาคม 2016
รอบสองตอนมกราคม 2017
เดินผ่านอนุสรณ์แห่งรักเป็นร้อยรอบ
แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่เคยเยื้องย่างเข้าไปเลย
เพราะเราหันหลังกลับก่อนจะถึงคิวซื้อตั๋วทุกที
ใช่สิ... ก็ชั้ลคือแม่นกสาวร้อยเล่ห์!
จะไปอินกับความรักได้ยังไง (หลอก)

จริงๆ คือเอาเงินไปซื้อเคเอฟซี (ฮ่า)
ก็บั่บ… กินมังสวิรัติมาเนิ่นนาน
ชีวิตมันก็ต้องการเนื้อสัตว์แซ่บๆ บ้าง
ละอย่าให้เมาท์ เคเอฟซีอินเดียคือแซ่บลื้ม!
เผื่อใครไม่รู้ ที่อินเดียเขากินมังสวิรัติกันซะส่วนมาก
แต่ร้านอาหารที่ไม่มังสวิรัติก็มีนะ
แต่มันต้องใช้ความพยายามตามหาหน่อย

แต่เฮ้ย มาถึงอัคราทั้งทีใช่มะ
ถึงจะไม่เคยเข้าไปข้างใน ก็ขอมองมันข้างนอก
ให้ครบจากทุกมุมกันหน่อยเถอะ



และนี่คือสถานที่ต่างๆ
ที่สามารถมองดู Taj Mahal
ได้สวยงามและแปลกตากว่าใคร

1

มุมนี้ฟรี อยู่ติดกับ Taj Mahal เลย
อยู่ใกล้กับประตูฝั่งตะวันออก
Taj Mahal มีประตูทางเข้าหลายจุด
ใครที่จองที่พักแล้วติดต่อออโต้ริกชอว์ให้ไปส่ง
ต้องเช็กให้ดีๆ นะว่าที่พักใกล้ประตูไหน

เดินเลยประตูตะวันออก (Eastern Gate)
ไปนิดนึง เลยไปตามทางริมแม่น้ำ
ก็จะเจอลานให้ชม Taj Mahal ได้ฟรีๆ
แต่อย่างที่บอก แถวนี้ขยะเยอะเว่อร์
ทั้งๆ ที่มันห่างมาจาก Taj Mahal แค่นิดเดียว


2

มุมนี้ไม่ฟรี แต่ต้องไฟต์กันนิดนึง
นั่นคือ การนั่งเรือพายไปกลางแม่น้ำยมุนา
แล้วชม Taj Mahal กลางแม่น้ำเลย
ที่ต้องไฟต์นิดนึงก็เพราะเรือมีจำกัด
เราโชคดีที่ไปตรงกับวันศุกร์
ซึ่ง Taj Mahal ปิด! ย้ำ ปิด!
เขาไม่ได้เปิดให้เข้าชมทุกวันนะจ๊ะ
ก่อนไปก็เช็กวันด้วย

พอมันปิด นักท่องเที่ยวเลยไม่ค่อยมี
เลยได้ล่องเรือแบบไม่ต้องแก่งแย่งกับใคร
เราไปกับขุ่นเจ้ชาวจีนที่พักที่เดียวกัน
คุณลุงฝีพายเสนอราคามาตอนแรก 500 รูปี
ขุ่นเจ้ต่อไปต่อมาได้ 150 รูปี (75 บาท) เฉย
ฮือ น้องกลัวแล้วเด้อ ฝีปากคนจีนเด้อ
แต่เราไม่รู้นะว่าจริงๆ ลุงคิดราคาเท่าไหร่
แต่ก็อย่าไปต่อลุงเยอะเลยเนาะ
เขาใช้แรงพายไม่ใช่เบาๆ แถมลุงยังน่ารักอีก

แต่วิวที่ได้คือดีมาก
นี่ขนาดวันที่เราไปฟ้าปิด
ถ้าวันไหนฟ้าเปิด หรือเป็นช่วงพระอาทิตย์ตก
มันจะสวยขนาดไหนกัน!
แถมริมแม่น้ำยังมีหมู่มวลนกกระสาเต็มเลย
ใครอยากล่องเรือก็ตามหาลุงกันได้
แถวๆ จุดชมหมายเลข 1 ที่เราบอก
จำหน้าลุงจากรูปภาพเอาไว้




3

มุมที่สามคือส่อง Taj Mahal จาก Mehtab Bagh
วิวที่ได้ก็ไม่ต่างจากล่องเรือมาก
แต่เราว่ามันแอบเดินทางไปยากนิดนึง
ต้องอ้อมรถไปข้ามสะพานไปอีกฝั่ง
กว่าจะเข้าไปถึงสวนนี้ได้
ราคาค่าเข้าปกติอยู่ที่ 200 รูปี (100 บาท)
แต่คนไทยเอาไปเลยจ้า 15 รูปี (7 บาท)
เห็นของถูกแล้วความดันขึ้นเว่อร์

ใครที่อยากไปสวนแห่งนี้
มีทางเดียวคือต้องนั่งออโต้ริกชอว์ไป
ถึงแม้จะมีมิเตอร์กันทุกคัน
แต่พี่แกไม่มีใครใช้กันสักคนจ้า
เพราะฉะนั้นต้องไปไฟต์ต่อราคากันหน่อย
แต่เพื่อนเราบอกว่า
ประมาณ 200 รูปีถือว่าโอเค
กรณีที่เริ่มต้นจากแถว Taj Mahal

4

มุมต่อไปเป็นมุมที่มองมาจากป้อมอัครา
ค่าเข้าบอกไปในย่อหน้าก่อนๆ นี้แล้ว
จากป้อมนี้จะได้เห็น Taj Mahal ในมุมสูง
มันจะมีมุมหนึ่ง เป็นมุมที่เขาเคลมว่า
เป็นมุมเดียวกับที่ Shah Jahan
ผู้สร้างอนุสรณ์แห่งรักมองเห็นสิ่งที่ตัวเองสร้าง
ตอนที่เขาถูกลูกชายตัวเองจับมาขังไว้ที่ป้อม
โดยเราจะได้มองเห็น Taj Mahal
ผ่านรูเล็กๆ บนผนังห้องที่เขาถูกคุมขังอยู่

วิธีไปป้อมอัคราก็มีสองทาง
ถ้าเริ่มต้นจากแถว Taj Mahal
หนึ่งคือออโต้ริกชอว์ สองคือเดิน
ออโต้ริกชอว์ราคาควรประมาณ 150 รูปี
ส่วนถ้าอยากเดินก็ประมาณ 2-3 กิโลเมตร



5

มุมสุดท้ายเป็นมุมที่เราชอบมากที่สุด
ไม่เสียค่าเข้าใดใด แต่ไม่แนะนำให้ไปคนเดียว
วิธีไปก็ง่ายๆ เดินมาทางด้านหลังป้อมอัครา
จะเจอกับสถานีรถไฟป้อมอัครา
(Agra Fort Railway Station)
หาทางเดินลงไปริมแม่น้ำที่เเห้งเหือด

เราไม่รู้ว่าแม่น้ำนี้มันเคยเต็มตลิ่งไหม
เพราะไปทีไรก็แห้งขอดตลอด
เดินลงไปกลางแม่น้ำได้สบาย
คนท้องถิ่นจะพาวัวควายมากินหญ้าที่นี่
ด้านสาวๆ ก็มาล้อมวงกันซักผ้าหลากสีสัน





ความพีกของจุดนี้คือ
เราสามารถเห็น Taj Mahal ได้โดยไม่มีใครมาบัง
อาจจะไม่สวยเท่ามองจากข้างใน
แต่ก็เป็นมุมที่สวยงามดี
จุดนี้เพียงแค่เปลี่ยนมุมกล้อง
ก็เปลี่ยนบรรยากาศได้เลย
มุมนึงถ่ายไปเห็นแต่ขยะบนเนินทราย
อีกมุมนึงเห็นเป็นไร่อะไรซักอย่าง
อะไรจะตรงกันข้ามขนาดนี้!

สำหรับใครที่ไปคนเดียว
ยังไม่ค่อยกล้าเดินดุ่มๆ ไปกลางแม่น้ำ
ก็สามารถเดินบนรางรถไฟที่พาดยาวข้ามแม่น้ำ
ชมวิวของ Taj Mahal แทน
ก็ได้อารมณ์ไปอีกแบบ



สำหรับใครที่อยากมาอัครา
สามารถเดินทางมาได้ทั้งรถไฟ
เครื่องบิน และรถบัสเลย
มีให้เลือกหลากหลายมากๆ
ปกติแล้วนักท่องเที่ยวหลายๆ คน
มักจะเดินทางมาจากเดลี
หรือไม่ก็ไปเดลีต่อหลังจากอัครา
เพราะเดลีอยู่ใกล้มากๆ
นั่งรถประมาณ 3 ชม. ก็ถึงแล้ว

สิ่งหนึ่งที่เราไม่ค่อยชอบที่เมืองนี้คือ
ไม่ค่อยมีบริการรถเมล์
ทั้งๆ ที่เมืองท่องเที่ยวแบบนี้ควรมีรถเมล์สิ
นักท่องเที่ยวจะได้เดินทางสะดวก
แต่นี่คือจะไปไหนต้องขึ้นออโต้ริกชอว์ตลอด
แล้วชื่อเสียงออโต้ก็อย่างที่รู้ๆ
ชอบโก่งราคากันสุดฤทธิ์

ไม่รู้ว่าเราจะมีโอกาสได้กลับไปอีกไหม
แต่ถ้าได้กลับไป คราวหน้า
ต้องมีผู้พาเข้า Taj Mahal ให้ได้
ขอลั่นวาจาเอาไว้ตรงนี้เล้ย!

อะ ย้ำอีกรอบ!
Taj Mahal ปิดวันศุกร์เด้อค่ะเด้อ




ติดตามเรื่องเล่าสนุกๆ จากการเที่ยวธรรมชาติ
ตามประสาคนรักธรรมชาติ แต่ธรรมชาติไม่รัก
ได้ที่ https://www.facebook.com/mossyisnaturaldisaster/
หรือ https://www.instagram.com/mossymouse/


นอนกลางดิน กินกลางทะเลทราย ริมชายแดนอินเดีย-ปากีสถาน ที่เมือง Jaisalmer
https://ppantip.com/topic/36537473

มุมไบ...ไปไหนดี 10 ที่เที่ยวเก๋ไก๋ ในเมืองบอลลีวูด ที่ไปได้ด้วยรถไฟเที่ยวละ 3 บาท
https://ppantip.com/topic/36544804