แค่อยากเก็บเงินเพื่อไปเรียนต่อ ? แต่แม่ด่าว่าเห็นแก่ตัว

ขอบคุณทุกคนครับสำหรับคำแนะนำ ตอนนี้เรื่องราวผ่านไปด้วยดีแล้วครับ ขอบคุณมากครับๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
ก่อนอื่นผมขอตอบคำถามให้คุณก่อนครับ

ผมแค่อยากเก็บเงินไว้เรียนต่อผมผิดหรอ ?
ตอบ ไม่ผิดครับ คนเรารักความก้าวหน้า นำเงินที่หามาด้วย น้ำพักน้ำแรงตัวเองเพื่อพัฒนาตัวเองวันหน้าแข็งแกร่งพอจึงจะเป็นที่พึ่งครอบครัวเป็นการสร้าฐานการสร้างครอบครัวในอนาคตครับ  เพียงแต่คุณไม่มีคนในครอบครัวที่เข้าใจประเด็นนี้ครับ  

ผมดูเป็นลูกทรพีขนาดนั้นเลยหรอ ?
ตอบ ไม่ทรพีครับ  เพียงแค่แม่ไม่เข้าใจเจตนาคุณครับและไม่อยากเข้าใจ  บางทีที่ท่านแสดงอาการแบบนั้นออกมาท่านอาจจะเกิดจากความเคลียดที่สะสมจากการผิดหวังเรื่องธุรกิจก็เป็นได้นะครับ  อย่าไปเถียงครับ  ยิ่งเถียงก็ไปไกลครับเดี๋ยวจะเกิดประเด็นประจานใส่ร้ายคุณให้ดูแย่ในสายตาคนอื่นครับเพราะหากคนในครอบครัวพูดเรื่องไม่ดีตัวเองออกมาให้คนอื่นรู้คนอื่นย่อมมีโอกาสเชื่อมากครับ  นิ่งเฉยครับ ครับแต่ไม่ทำตามอะครับ และพิสูจน์ให้ท่านเห็นในแนวทางที่ดีกว่าเดิมครับ

ผมให้ครอบครัวเดือนล่ะ 1,000-1,500 น้อยไปหรอครับ ?
ตอบ  ไม่น้อยครับ ค่อนข้างมากด้วยครับ สำหรับเงินที่คุณหาได้แต่ละเดือน  เพียงแต่ในบ้านคุณ  อาจจะมี  การบริหารจัดการเรื่องเงินที่ยังไม่ลงตัวอะครับ  เลยมองคุณเป็นเพียงคนที่ต้องเสียสละทุกๆอ่างเป็นที่ระบายเป็นที่พึ่งเป็นแนวๆกงสีอะครับ(ขอโทษนะครับที่ผมพิมพ์แรงไปบ้างแต่เป็นไปตามที่ผมเคยโดนมา)

ถ้าผมจะออกจากบ้าน จะดูว่าเห็นแก่ตัวไหมครับ ?
ตอบ  ออกไปเถอะครับ  หากออกไปแล้วเพื่อพัฒนาตนเองเพื่อวันนึงสร้างตัวได้มั่นคงแล้วกลับมาหาครอบครัวตอนนั้นก็ยังไม่สายนะครับ   ดีกว่าอยู่ต่อแล้วมองอนาคตไม่ได้ครับ  ไหนจะอนาคตคุณต้องสร้างครอบครัวตัวเองอีก สู้ๆนะครับ
..............................
ส่วนนึงมาจากชีวิตผมครับที่อยากเล่าให้ฟัง

              ครั้งนึงผมเคยเป็นทหาร ยศนายสิบ  ส่งแม่เดือนละ 5000 ส่งน้องเรียน ปวช.เอกชน เดือนละ 4000 ครับ ส่งน้องอีกคนเรียน ม.ต้น เดือนละ 3000 และต้องทำงานเป็นเด็กเสริฟห์ร้านอาหารกลางคืนเพื่อส่งให้แม่เพิ่มอีกเดือนนึงประมาณอีก 3000ครับ (แม่มักโทรมาขอด้วยสารพัดข้ออ้างครับ) อันนี้ก่อนได้เมียคนปัจจุบันนะครับ
              เดือนๆนึงผมแทบจะไม่เหลืออะไรติดตัวครับอาศัยกินข้าวฟรีที่ที่ทำงานเลี้ยงข้าวครับ แล้ววันนึงผมก็ประสบอุบัติเหตุหมอบอกคุณอาจจะมีโอกาสเดินไม่ได้ทั้งชีวิต(อาจจะมีโอกาส) แล้วรู้ป่ะครับผลที่ผมโดนคือ  ทั้ง 3 คน ไม่โทรมาไม่ติดต่อ  ปิดการติดต่อทุกชนิดจากผมครับ  ประมาณว่า  ไม่มีเสียงตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก(ผมเป็นทหารอยู่ภาคกลางแต่ แม่น้องอยู่ภาคใต้) ตอนนั้นอารมณ์อยากตายครับ  เพื่อนร่วมงานก็ดูถูก  โชคดีครับที่ตอนนั้นมีเจ้านายช่วยให้ผ่านช่วงเวลาเลวร้ายครับพอกลับมาเดินได้ก็ลาออกจากทหารครับ แล้วพอผมเริ่มเดินได้ ก็ติดต่อผมอีกขอเงินอีกเน้นเงินๆๆๆเป็นหลักพอไม่ได้เงินก็ด่าๆๆๆสารพัดคำประจานคำใส่ร้าย ผมก็อยากตายรอบสองครับ ว่า นี่หรือคือสิ่งตอบแทนที่เราทำเพื่อครอบครัว? และคือสุดท้ายผมขอรวบรัดเหตุการณ์นะครับ เเละต่อให้เจอเรื่องร้ายๆมาแค่ไหนแต่จิตใจเราต้องไม่เปลี่ยนครับ และเหตุการณ์ที่เป็นอุปสรรคชีวิตช่วยให้เราพัฒนาและเรียนรู้ครับ เพียงแค่ที่ผ่านมาเราแค่ทำสิ่งดีๆเรื่องราวดีๆผิดคน แค่นั้นเองครับ
..................
ปล.ฝากเพิ่มเติมครับ  อย่าปล่อยให้น้ำลายคนอื่นที่ไม่ประสงค์ดี  มาทำลายความฝันเราครับ
...................
ปล.2 ที่ช้ำกว่านั้น  ผมเรียนเก่งสุดในสามคนพี่น้อง  แต่แม่ไม่ให้เรียนครับสูงๆครับและความเป็นจริงที่ยิ่งกว่านั้นคืออกมาทำงานเป็นเด็กปั๊มตั้งแต่ ป.6เพื่อส่งน้องที่เรียนแย่ๆ พฤติกรรมแย่ๆ ช่วงเป็นเด็กปั๊มก็ส่งน้องส่งแม่ประมาณ 2ปีกว่าครับ ก่อนมาเป็นทหารอีกครับ ส่งไปรอบนึงแล้วครับ แบบว่าเป็นพี่ต้องสละให้น้องอะครับ เพิ่งจะมาได้เรียนได้เพิ่มเติมความรู้จริงๆก็ตอนได้ลูกครับ
....................
เป็นกำลังใจให้นะครับ
สู้ๆครับ
ความคิดเห็นที่ 3
ออกจากบ้านเถอะ
ส่งเงินให้แม่ เท่าที่เคยส่ง
แต่ตัดการติดต่อจากเขาด้วย
ไม่งั้นคุณโดนด่าเละทุกวันแน่

เอาสติสมาธิไปใช้สำหรับทำงานและเรียน
เรียนจบแล้วก็ส่งข่าวให้เค้ารู้
และส่งเงินให้รายเดือน

การออกจากบ้าน น่าจะทำให้เป็นการไม่เบียดเบียนสิ่งที่เขาครอบครอง
เขาก็อาจจะด่าลับหลัง แต่ก็ทำอะไรคุณไม่ได้
การรับเงินจากคุณทุกเดือน น่าจะทำให้เขาคิดได้มั่งละมัง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่