พยายามกี่ครั้งก็ตามแต่
หัวใจที่เต้นแรงราวกับจะทะลุออกมาจากอก เหมือนมันไม่อยากจะอยู่ตรงที่เดิมอีกต่อไป ทำให้ผมรู้ตัวว่ายังมีลมหายใจอยู่ แต่ก็คงอีกไม่นานนักหรอก ปืนลูกโม่กับกระสุนขนาดจุดสามแปดนิ้วบรรจุเต็มรังเพลิง กำลังจะให้คำตอบในเวลาอีกไม่กี่อึดใจต่อจากนี้
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกในชีวิตที่ผมทำแบบนี้ แต่ดูเหมือนมือซึ่งกำลังเอื้อมไปยังหัวเตียงเพื่อคว้าเจ้าอาวุธมหากาฬนั้น มันสั่นเทาเกินกว่าสมองของผมจะสั่งให้หยุดได้
ใช่...ผมยังไม่ชิน แล้วจะมีใครบ้างในโลกนี้ชินกับการฆ่าตัวตาย
ในขณะที่มือขวาข้างถนัดจ่อปลายกระบอกปืนที่ขมับเตรียมพร้อมสำหรับการเหนี่ยวไก ใจผมก็คิดไปต่างๆ นานา ถึงต้นสายปลายเหตุของสถานการณ์ตอนนี้...
อีกห้านาทีก็หกโมงเย็นแล้ว ผมนั่งรอฟ้าด้วยใจระทึกมาตั้งแต่ชั่วโมงก่อน ดูเวลาที่ข้อมือสลับกับนาฬิกาบนผนังร้านไปมาอยู่อย่างนี้ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ราวกับมันเดินไม่ตรงกันเสียอย่างนั้น ที่เป็นอย่างนี้เพราะมันเป็นนัดสำคัญระหว่างผมกับฟ้า อันที่จริงถ้าจะพูดให้ถูกคือนัดสำคัญของผมเดียว เพราะ...คู่นัดของผมไม่รู้เรื่องว่า วันนี้ผมจะขอคบเธอเป็นแฟนเสียที หลังจากตามจีบมานานร่วมสี่ปี
ในที่สุดคนที่เดินผ่านประตูร้านเข้ามาก็เป็นคนที่ผมรอเสียที
“พี่วุธสั่งอะไรหรือยังคะ” คือคำถามแรกที่ฟ้าเอ่ยเมื่อนั่งลงตรงข้ามกับผม
“ยังเลยจ้ะ...พี่มาเมื่อตะกี้นี่เอง” การโกหกบางทีก็ช่วยให้อีกฝ่ายไม่รู้สึกอึดอัด โดยเฉพาะกับคนที่จะต้องเจอกับแผนที่ทำให้ต้องคิดหนัก ในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า
“เอาอะไรดีนะ” นัยน์ตาดำสนิทไล่สำรวจรายการอาหารของร้านในมือ ทำให้ผมมีโอกาสได้ลอบมองใบหน้าสวยใสนั้นโดยเจ้าของไม่รู้ตัว และมันตอกย้ำให้ผมมั่นใจว่าผู้หญิงคนนี้คือคนที่ต้องการที่สุดในชีวิต
“ฟ้าจ๊ะ...พี่มีอะไรอยากบอก” หลังจากเธอส่งรายการอาหารให้พนักงานบริการ ผมก็กลืนน้ำลายอึกใหญ่ก่อนจะกลั้นใจถาม
ตาโตคู่นั้นมองมาที่ผมพร้อมความสงสัย “มีอะไรเหรอคะพี่วุธ”
“เรารู้จักกันมาก็หลายปีแล้ว พี่ว่าอะไรๆ มันก็เปลี่ยนแปลงไปเยอะ แต่เรายังเหมือนเดิมอยู่เลย”
ผมพยายามพูดอ้อมๆ แต่มันตรงไปสำหรับฟ้าหรือเปล่า เธอถึงได้เงียบไปอย่างนั้น
“พี่วุธคะ...ฟ้ายังไม่มีใคร แต่ฟ้ายังไม่พร้อมกับเรื่องนี้ โดยเฉพาะกับพี่คนที่ฟ้ารู้สึกดีด้วยมาตลอด แต่มันไม่ใช่แบบคนรัก แบบที่พี่อยากให้เป็น” ใช่...ผมรู้มาตลอดว่าคนพูดคิดแบบนั้นจริงๆ แต่หัวใจผมกลับไม่เคยที่จะยอมรับ มันดันทุรังขอความรักจากเธอครั้งแล้วครั้งเล่า
“สักวัน...พี่หวังเอาไว้ว่า คำตอบของฟ้าจะเปลี่ยนไปจากเดิม แต่ตลอดมามันก็ไม่เคยเปลี่ยน ไม่ว่าพี่จะพยายามกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง มันก็จบลงแบบเดิม”
เธอเงียบไปอีกครั้ง
“ตั้งแต่รู้จักกันมา ไม่เคยมีครั้งไหนหรือเรื่องอะไรเลยที่ฟ้าจะปฏิเสธพี่ นี่เป็นครั้งแรก...และเป็นเรื่องที่ฟ้าไม่อยากฝืนใจตัวเอง หวังว่าพี่คงเข้าใจ” น้ำเสียงของความอึดอัดเอ่ยขึ้นพร้อมกับแววตาที่สั่นไหวนั้น ฉีกหัวใจผมออกเป็นเสี่ยงๆ
“ฟ้าไม่เคยรู้ว่าพี่พยายามขอความรักจากฟ้ามากี่ครั้งแล้ว ความจริงการที่เรามานั่งอยู่ตรงนี้ เป็นเพราะทุกครั้งที่ฟ้าปฏิเสธ พี่จะกลับไปเริ่มต้นใหม่ และรอเวลาเพื่อขอใหม่อีกครั้ง แต่พี่ก็ผิดหวังทุกครั้ง...ครั้งนี้ก็ด้วย”
“พี่วุธพูดอะไร ฟ้าไม่เข้าใจ”
“เปล่า...ช่างเถอะไม่มีอะไร” ผมฝืนยิ้มให้เธอ
บอกความจริงไปก็คงไม่มีใครเชื่อ ว่าผมถูกฟ้าปฏิเสธมาไม่ต่ำกว่ายี่สิบครั้งแล้ว และทุกครั้งเธอจะไม่รู้ว่าเคยถูกผมขอความรัก นั่นก็เพราะว่า...ผมสามารถย้อนอดีตกลับไปแก้ไขจุดเริ่มต้นได้ ครั้งนี้ก็ยังเป็นเช่นเดิม ที่ผมอยากจะกลับไปเริ่มเช้าวันนี้ใหม่อีกครั้ง ต่างเพียงผมจะไม่ขอคบกับเธอซ้ำ แต่จะรอโอกาสต่อไปในครั้งหน้า ซึ่งไม่รู้ว่า...
...การกลับไปเริ่มต้นใหม่นั้น ผมต้องใช้กุญแจแห่งกาลเวลาที่ถืออยู่ในมือ ปืนกระบอกนี้เท่านั้น
สิ่งที่ยากที่สุดสำหรับผมตอนนี้ คงมีแค่กัดฟันเหนี่ยวไกให้ทุกอย่างมันลุล่วง และหวังแค่เพียงว่า...เมื่อผมตื่นขึ้นมา มันจะยังเป็นเช้าวันเดิม
เปรี้ยง!
สิ้นเสียงมัจจุราชนั้น ทุกอย่างก็ดับวูบลง...
********************
วิชชากาญจน์ วิรุฬห์อักษรากร
พยายามกี่ครั้งก็ตามแต่
หัวใจที่เต้นแรงราวกับจะทะลุออกมาจากอก เหมือนมันไม่อยากจะอยู่ตรงที่เดิมอีกต่อไป ทำให้ผมรู้ตัวว่ายังมีลมหายใจอยู่ แต่ก็คงอีกไม่นานนักหรอก ปืนลูกโม่กับกระสุนขนาดจุดสามแปดนิ้วบรรจุเต็มรังเพลิง กำลังจะให้คำตอบในเวลาอีกไม่กี่อึดใจต่อจากนี้
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกในชีวิตที่ผมทำแบบนี้ แต่ดูเหมือนมือซึ่งกำลังเอื้อมไปยังหัวเตียงเพื่อคว้าเจ้าอาวุธมหากาฬนั้น มันสั่นเทาเกินกว่าสมองของผมจะสั่งให้หยุดได้
ใช่...ผมยังไม่ชิน แล้วจะมีใครบ้างในโลกนี้ชินกับการฆ่าตัวตาย
ในขณะที่มือขวาข้างถนัดจ่อปลายกระบอกปืนที่ขมับเตรียมพร้อมสำหรับการเหนี่ยวไก ใจผมก็คิดไปต่างๆ นานา ถึงต้นสายปลายเหตุของสถานการณ์ตอนนี้...
อีกห้านาทีก็หกโมงเย็นแล้ว ผมนั่งรอฟ้าด้วยใจระทึกมาตั้งแต่ชั่วโมงก่อน ดูเวลาที่ข้อมือสลับกับนาฬิกาบนผนังร้านไปมาอยู่อย่างนี้ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ราวกับมันเดินไม่ตรงกันเสียอย่างนั้น ที่เป็นอย่างนี้เพราะมันเป็นนัดสำคัญระหว่างผมกับฟ้า อันที่จริงถ้าจะพูดให้ถูกคือนัดสำคัญของผมเดียว เพราะ...คู่นัดของผมไม่รู้เรื่องว่า วันนี้ผมจะขอคบเธอเป็นแฟนเสียที หลังจากตามจีบมานานร่วมสี่ปี
ในที่สุดคนที่เดินผ่านประตูร้านเข้ามาก็เป็นคนที่ผมรอเสียที
“พี่วุธสั่งอะไรหรือยังคะ” คือคำถามแรกที่ฟ้าเอ่ยเมื่อนั่งลงตรงข้ามกับผม
“ยังเลยจ้ะ...พี่มาเมื่อตะกี้นี่เอง” การโกหกบางทีก็ช่วยให้อีกฝ่ายไม่รู้สึกอึดอัด โดยเฉพาะกับคนที่จะต้องเจอกับแผนที่ทำให้ต้องคิดหนัก ในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า
“เอาอะไรดีนะ” นัยน์ตาดำสนิทไล่สำรวจรายการอาหารของร้านในมือ ทำให้ผมมีโอกาสได้ลอบมองใบหน้าสวยใสนั้นโดยเจ้าของไม่รู้ตัว และมันตอกย้ำให้ผมมั่นใจว่าผู้หญิงคนนี้คือคนที่ต้องการที่สุดในชีวิต
“ฟ้าจ๊ะ...พี่มีอะไรอยากบอก” หลังจากเธอส่งรายการอาหารให้พนักงานบริการ ผมก็กลืนน้ำลายอึกใหญ่ก่อนจะกลั้นใจถาม
ตาโตคู่นั้นมองมาที่ผมพร้อมความสงสัย “มีอะไรเหรอคะพี่วุธ”
“เรารู้จักกันมาก็หลายปีแล้ว พี่ว่าอะไรๆ มันก็เปลี่ยนแปลงไปเยอะ แต่เรายังเหมือนเดิมอยู่เลย”
ผมพยายามพูดอ้อมๆ แต่มันตรงไปสำหรับฟ้าหรือเปล่า เธอถึงได้เงียบไปอย่างนั้น
“พี่วุธคะ...ฟ้ายังไม่มีใคร แต่ฟ้ายังไม่พร้อมกับเรื่องนี้ โดยเฉพาะกับพี่คนที่ฟ้ารู้สึกดีด้วยมาตลอด แต่มันไม่ใช่แบบคนรัก แบบที่พี่อยากให้เป็น” ใช่...ผมรู้มาตลอดว่าคนพูดคิดแบบนั้นจริงๆ แต่หัวใจผมกลับไม่เคยที่จะยอมรับ มันดันทุรังขอความรักจากเธอครั้งแล้วครั้งเล่า
“สักวัน...พี่หวังเอาไว้ว่า คำตอบของฟ้าจะเปลี่ยนไปจากเดิม แต่ตลอดมามันก็ไม่เคยเปลี่ยน ไม่ว่าพี่จะพยายามกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง มันก็จบลงแบบเดิม”
เธอเงียบไปอีกครั้ง
“ตั้งแต่รู้จักกันมา ไม่เคยมีครั้งไหนหรือเรื่องอะไรเลยที่ฟ้าจะปฏิเสธพี่ นี่เป็นครั้งแรก...และเป็นเรื่องที่ฟ้าไม่อยากฝืนใจตัวเอง หวังว่าพี่คงเข้าใจ” น้ำเสียงของความอึดอัดเอ่ยขึ้นพร้อมกับแววตาที่สั่นไหวนั้น ฉีกหัวใจผมออกเป็นเสี่ยงๆ
“ฟ้าไม่เคยรู้ว่าพี่พยายามขอความรักจากฟ้ามากี่ครั้งแล้ว ความจริงการที่เรามานั่งอยู่ตรงนี้ เป็นเพราะทุกครั้งที่ฟ้าปฏิเสธ พี่จะกลับไปเริ่มต้นใหม่ และรอเวลาเพื่อขอใหม่อีกครั้ง แต่พี่ก็ผิดหวังทุกครั้ง...ครั้งนี้ก็ด้วย”
“พี่วุธพูดอะไร ฟ้าไม่เข้าใจ”
“เปล่า...ช่างเถอะไม่มีอะไร” ผมฝืนยิ้มให้เธอ
บอกความจริงไปก็คงไม่มีใครเชื่อ ว่าผมถูกฟ้าปฏิเสธมาไม่ต่ำกว่ายี่สิบครั้งแล้ว และทุกครั้งเธอจะไม่รู้ว่าเคยถูกผมขอความรัก นั่นก็เพราะว่า...ผมสามารถย้อนอดีตกลับไปแก้ไขจุดเริ่มต้นได้ ครั้งนี้ก็ยังเป็นเช่นเดิม ที่ผมอยากจะกลับไปเริ่มเช้าวันนี้ใหม่อีกครั้ง ต่างเพียงผมจะไม่ขอคบกับเธอซ้ำ แต่จะรอโอกาสต่อไปในครั้งหน้า ซึ่งไม่รู้ว่า...
...การกลับไปเริ่มต้นใหม่นั้น ผมต้องใช้กุญแจแห่งกาลเวลาที่ถืออยู่ในมือ ปืนกระบอกนี้เท่านั้น
สิ่งที่ยากที่สุดสำหรับผมตอนนี้ คงมีแค่กัดฟันเหนี่ยวไกให้ทุกอย่างมันลุล่วง และหวังแค่เพียงว่า...เมื่อผมตื่นขึ้นมา มันจะยังเป็นเช้าวันเดิม
เปรี้ยง!
สิ้นเสียงมัจจุราชนั้น ทุกอย่างก็ดับวูบลง...
วิชชากาญจน์ วิรุฬห์อักษรากร