[CR] เช่าจักรยานปั่นวันเดียวที่เมืองลับเเล (จ. อุตรดิตถ์ )

สวัสดีครับเพื่อนๆชาว facebook. เอ้ย!!! ไม่ใช่ สวัสดีครับเพื่อนๆชาว Pantip. ทุกๆท่าน เอิ๊กๆ ช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมาผมได้มีโอกาสขึ้นไปเที่ยวจังหวัดหนึ่งทางภาคเหนือ นั้นก็คือ จ. อุตรดิตถ์ ที่ อ. ลับเเล มาครับ ติดตามรับชมกันได้เลยครับ


เมืองลับเเล ในความคิดของผมนะ เป็นเมืองเล็กๆเเห่งหนึ่ง ที่อุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติป่าไม้เอามากๆซะจริงๆ มีน้ำตก เป็นเมืองที่สงบ  ผู้คนใช้ชีวิตกันอย่างเรียบง่าย  ผลไม้เลื่องลืออย่างทุเรียนหลงลับเเล เเละ หลินลับเเล จัดว่าเป็นผลิตผลอันดับ 1 ที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวจากทั่วสาระทิศเข้ามาชิมลิ้มรสชาติของทุเรียน เเละ สัมผัสบรรกาศของเมืองลับเเลเเห่งนี้


..ประวัติของเมืองลับเเล..

มีเรื่องเล่าปรัมปราเเต่ในอดีตเล่าต่อๆกันมาว่า  มีชายหนุ่มคนหนึ่งได้เดินไปในป่าเเต่ระหว่างนั้นได้พบหญิงสาวสวยหลายคนได้เดินออกมาจากในป่า หญิงสาวทั้งหมดได้นำเอาใบไม้มาซ่อนเเอบไว้ในที่ต่างๆเเละเดินเข้าไปในเมือง ชายหนุ่มได้เห็นสงสัยจึงเดินไปหยิบใบไม้มาเก็บไว้ 1 ใบ ตกบ่ายหญิงสาวเหล่านั้นกลับมาเเต่ละคนได้มาหยิบใบไม้ของตนเองที่ซ่อนไว้เเละเดินเข้าป่าหายลับไป เเต่มีหญิงสาว 1 นางที่หาใบไม้ไม่เจอนางรู้สึกวิตกเดือดร้อนเป็นอย่างมาก ชายหนุ่มผู้นั้นจึงปรากฎตัวขึ้นพร้อมคืนใบไม้ให้กับหญิงสาวผู้นั้น เเต่มีข้อเเลกเปลี่ยนว่า ขอติดตามนางไปที่หมู่บ้านด้วย หญิงสาวผู้นั้นจึงยินยอมเเละพาชายหนุ่มไปยังที่หมู่บ้าน (ลับเเล) ชายหนุ่มสงสัยเป็นอย่างมากว่าทำไมหมู่บ้านเเห่งนี้มีเเต่หญิงสาวไม่มีผู้ชายอยู่เลย!? นางจึงเล่าบอกกับชายหนุ่มว่า ทั้งเมืองนี้มีเเต่ผู้หญิงที่มีศีลธรรม ถือวาจาสัตย์ ใครประพฤติผิดก็ต้องออกจากหมู่บ้านเเห่งนี้ไป ผู้ชายส่วนมากมักไม่รักษาวาจาสัตย์จึงต้องออกจากหมู่บ้านไปกันหมด! ชายหนุ่มได้หลงรักหญิงสาวผู้นี้จึงได้ให้คำมั่นวาจาสัตย์ต่อครอบครัวของเธอ อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขดีจนมีบุตรด้วยกัน 1 คน อยู่มาวันหนึ่งภรรยาไม่อยู่บ้าน ชายหนุ่มผู้เป็นสามีจึงต้องเลี้ยงบุตร บุตรน้อยเกิดร้องไห้เรียกหาเเต่เเม่ไม่ยอมหยุด ชายผู้เป็นสามีจึงปลอบลูกน้อยว่า " เเม่มาเเล้วๆ " มารดาซึ่งได้อยู่ใกล้ๆก็ได้ยิน จึงรู้สึกโกรธมาก ที่บุตรเขยพูดเท็จ เมื่อบุตรสาวกลับมาที่บ้านจึงบอกเล่าเรื่องให้ฟัง เมื่อนางทราบเรื่องจึงรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก ที่สามีไม่รักษาวาจาสัตย์ นางจึงบอกให้สามีออกจากหมู่บ้านไปเเละนางก็ได้จัดเตรียมเสบียงอาหารให้สามีพร้อมมาส่งสามีชี้ทางออกของหมู่บ้านให้ ระหว่างทางสามีได้รู้สึกว่าย่ามเสบียงที่ภรรยาให้มาเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆเเละหนทางที่จะถึงหมู่บ้านชายหนุ่มก็ไกล เขาจึงได้ล้วงย่ามหยิบขมิ้นทิ้งออกเกือบหมดในระหว่สงเดินทาง เมื่อชายหนุ่มเดินมาถึงหมู่บ้านของเขา บรรดาญาติมิตรต่างก็ซักถามว่าหายไปไหนมาเป็นเวลานาน ชายหนุ่มจึงเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ฟังรวมถึงเรื่องขมิ้นที่อยู่ในถุงย่าม ชายหนุ่มจึงหยิบขมิ้นที่เหลืออยู่ 1 เเง่ง ขึ้นมาเเต่ปรากฎว่า ขมิ้นนั้นได้กลับกลายเป็นทองคำเเท่ง เขาจึงรู้สึกประหลาดใจเเละเสียดาย จึงเดินออกไปหาขมิ้นที่ทิ้งไว้เเต่กลับพบว่าขมิ้นเหล่านั้นได้งอกกลายเป็นต้นขมิ้นหมดเเละเมื่อขุดขึ้นมาก็พบว่าเป็นขมิ้นธรรมดาๆ ชายหนุ่มจึงพยายามหาทางที่จะกลับไปยังหมู่บ้านลับเเลอีกครั้งเเต่เดินอยู่ในป่าเท่าไหร่ก็วนกลับออกมาอยู่ที่เดิม ไม่สามารถหาหนทางเข้าไปยังหมู่บ้านลับเเลได้อีกเลย.

ผมเริ่มนั่งรถสองเเถวที่จะไปเมืองลับเเลจากในตัวเมืองอุตรดิตถ์ซึ่งอยู่ใกล้ๆกับสถานีรถไฟอุตรดิตถ์ ประมาณ 06.30 น. เเต่เนื่องจากว่ารถสองเเถวไม่มีผู้สารเลย ณ ตอนนั้น ลุงก็เอ่ยถามผมว่า จะไปไหนไปเมืองลับเเล ใช่มั้ย  เหมาไปเลย คนเดียว ลุงคิด 100 บาท ผมก็.. . เอิ่ม คิดในใจ อยู่ครู่นึง ก็บอกลุงว่า เดี๋ยวผมนั่งรออีกสักพักก็ได้เผื่อว่าจะมีผู้โดยสารเพิ่ม นั่งรออยู่เกือบๆ 20 ทีได้มั้ง ก็มีผู้โดยเพิ่มมาอีก 1 คน คุณลุงก็บอกออกรถเลย ค่าโดยสารรถ 100 บาท เหมือนเดิมจ้าา า ซึ่งจริงๆเเล้วจากคิวรถโดยสาร(ลับเเล)จากในตัวเมืองไปลงที่ซุ้มประตูเมืองลับเเล ระยะทาง ไม่น่าจะถึง 10 ก.ม. เเต่ก็เอาเถอะช่วยๆคุณลุง เพราะก่อนจะขึ้นรถมาคุณลุงก็เล่าบอกกับผมว่า ผู้โดยสารเส้นนี้คนน้อย ไม่ค่อยคุ้มค่าน้ำมันรถ ส่วนใหญ่เขาจะมีรถส่วนตัวกันไป-มาเอง เราก็ได้เเต่รับฟังเรื่องที่คุณลุงเล่าให้ฟัง เเละเเล้วก็มาถึงซุ้มประตูเมืองลับเเลเเล้วครับ


ถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกกันซักหน่อย ครั้งหนึ่งเคยมาเที่ยว มาเยือน ณ ที่ เมืองลับเเลเเล้วนะ  จำได้ว่าที่เมืองลับเเล เขามีบริการให้เช่ารถจักรยานด้วยนะ ก็เลยเดินไปสอบถามเเม่ค้าคนเเถวๆนั้น ก็ได้ข้อมูลมาว่า  ที่เมืองลับเเล เค้ามีรถจักรยานให้เช่าสำหรับนักท่องเที่ยวด้วยนะครับ ที่ศูนย์บริการท่องเที่ยวเมืองลับเเล ซึ่งตั้งอยู่หน้าซุ้มประตูทางเข้าเมืองลับเเลเลยครับ เปิดเวลา 08.30 น. - 19.00 น. ระหว่างที่ผมรอทางศูนย์บริการท่องเที่ยวเปิด ก็เดินๆ ชม พิพิธภัณฑ์เมืองลับเเลกันไปพลางๆครับ







พิพิธภัณฑ์ก็จะเเสดงให้เห็นถึงความเป็นอยู่ บ้านเรือน วิถีชีวิตของเมืองลับเเลครับ  08.30 น. ได้เวลาเดินไปเช่าจักรยานปั่นเที่ยวเมืองลับเเลกันครับ



นักท่องเที่ยวสามารถขอรับเช่าจักรยานจากศูนย์บริการท่องเที่ยวปั่นเที่ยวในเมืองลับเเลได้ฟรี เพียงเเค่ลงชื่อในสมุดกับทางเจ้าหน้าที่ศูนย์บริการฯ พร้อมทั้งยังมีข้อมูลเเผนที่จากทางเจ้าหน้าที่ค่อยบริการให้ข้อมูลกับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเมืองลับเเลด้วยนะครับ น่ารักจริงๆ
ปั่นกันมาที่เเรกก่อนเลยครับ (บ้านบนดอย ไอติมทุเรียนหลงลับเเล) ระยะทางประมาณ 6 ก.ม.



หลังจากกินไอติมทุเรียนหลงลับเเลเสร็จเเล้วผมก็จอดรถจักรยานเดินข้ามมาอีกฝั่งถนนก็จะเป็นตลาดที่มีขายเเต่ทุเรียน เเละก็ทุเรียน เเต่ที่เลื่องลือขึ้นชื่อมากที่สุดของเมืองลับเเลต้องยกให้เค้าเลยล่ะ ทุเรียนพันธุ์หลงลับเเล เเละ หลินลับเเล ซึ่งในวันที่ผมขึ้นไป ณ วันนั้นทุเรียนพันธุ์หลงลับเเล ขายกันอยู่ที่ ก.ก. ละ 300 - 400 บาท ส่วนพันธุ์หลินลับเเล ขายอยู่ที่ก.ก. ละ 500 บาท ครับ พ่อค้า เเม่ค้าทุเรียนที่นี่เค้าบอกกับผมว่า.. . ช่วงนี้ทุเรียนกลับมามีราคาสูงขึ้น เพราะว่าเป็นช่วงที่ทุเรียนใกล้จะวาย หรือใกล้จะหมดฤดูนั้นเอง จึงทำให้มีราคาสูงขึ้น พ่อค้าเเม่ค้าทุเรียนยังเเน่ะนำให้มาช่วง กลางๆเดือนพฤษภาคม - ต้นเดือนมิถุนายน ช่วงนี้ทุเรียนหลง - หลินลับเเลจะเยอะมากๆราคาจะถูกลง อยู่ที่ประมาณกิโลฯละ 200 บาทครับ..
อันนี้ รูปทรงของพันธุ์หลินลับเเล ครับ ก.ก. ละ 500 บาท ผมจัดมา 1 ลูก 1 ก.ก. ครับ.. (ลูกเล็กมากๆ เเละ ราคาเเพงมากๆครับ **พูดในใจ ผมกะว่า.. . สุกเมื่อไหร่นะ จะกินไม่ให้เหลือเเม้เเต่เปลือกของทุเรียนเล้ยย!!! 555)

ส่วนอันนี้คือ พันธุ์หลงลับเเล ครับ ดูๆไปก็คล้ายๆทุเรียนพันธุ์บ้านๆธรรมดา ผมจัด มา 2 ลูก ก.ก. ละ 300 บาท  เเม่ค้าคิดผมรวมทั้งหมด 3 ลูก 1,000 บาท ครับ

หลังจากที่อุดหนุนทุเรียนไปให้ที่บ้านจากเเม่ค้าทุเรียนเสร็จ ฝากทุเรียนไว้กับเเม่ค้าก่อน ก็ปั่นไปยังน้ำตกเเม่พูลกันครับ จากตรงนี้ ปั่นต่อไปอีกประมาณ 6 - 7 ก.ม. ครับ มีป้ายบอกทางนะ ระหว่างทางก่อนถึงน้ำตกเเม่พูลก็มีร้านอาหาร ร้านกาเเฟมากมาย เเวะกินข้าวเติมพลังกันก่อนครับ




ในวันที่ผมมาน้ำตกเเม่พูล ยังมีน้ำไม่มากนัก อากาศร่มเย็นสดชื่นมากๆ มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติด้วย ผมนี่ก็เดินตามเกาะกลุ่มกับเหล่านักท่องเที่ยวชาวต่างชาติกลุ่มนี้ไปถ่ายรูปไปด้วย ตีเนียนด้วยซะเลยๆ นักท่องเที่ยวฝรั่งกลุ่มนี้พูดทักทายผมเป็นภาษาไทยด้วยนะ ชัดมากกก ก (สวัสดีครับ / สวัสดีค่ะ) ผมนี่อึ้งเลยอ่ะครับ 555



หลังจากที่เดินสำรวจเล่นน้ำตกเเม่พูลเป็นที่พอใจเเล้วก็ปั่นจักรยานกลับเข้าไปยังตัวเมืองลับเเล ตามล่าหาร้านข้าวพันผักกันครับ..



ร้าน '' ลับเเล ม่วนใจ '' ผมสั่งเมนูมาทั้งหมด  4 อย่างครับ อันเเรกนี่คือ ข้าวพันไข่ = 40 บาท..


อย่างที่ 2 / 3 คือ ขนมปากหม้อ = 40 บาท เเละ น้ำเเดงมะนาวโซดา = 45 บาท


อย่างที่ 4 สุดท้าย ข้าวพันม่วนใจ๋ = 20 บาท ราคาไม่เเพงเลย อร่อยมากด้วยครับ..



หลังจากกินอิ่มเสร็จก็ปั่นจักรยานไปคืนให้กับทางเจ้าหน้าที่ศุนย์บริการนักท่องเที่ยวครับ ขากลับผมนี่หลงทางไปหน่อยนึง เเอบเห็นที่เสาไฟฟ้าด้วยว่า ที่ เมืองลับเเลเคยถูกน้ำท่วมใหญ่ด้วยครับ ระดับน้ำที่ทำเครื่องหมาย สูงใช่ได้เลยนะครับ กลับมาถึงบ้านผมนึกยังเสียดายที่ไม่ได้ถ่ายรูปเก็บไว้  มาคืนจักรยานก็ 5 โมงเย็น ไม่มีรถสองเเถวเเล้ว ทางเจ้าหน้าที่ศูนย์ฯจึงอาสาช่วยไปส่งผมที่สถานีรถไฟอุตรดิตถ์เพื่อกลับบ้าน จบทริป ขอบคุณครับ.
ชื่อสินค้า:   อ. ลับเเล จ. อุตรดิตถ์
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่