ติดตามไปเที่ยวกับเรา #ฅนชอบเที่ยว www.facebook.com/konchoptieow
รีวิวเพจ :
goo.gl/OfQhcH
ว่ากันด้วยเมือง "อุตรดิตถ์" "ใครว่าแค่..ทางผ่าน
วันนี้ #ฅนชอบเที่ยว ได้รับโอกาสดีๆ เป็นส่วนหนึ่งของรายการท่องเที่ยวไทย ของช่องอัมรินทร์ ทีวี 34 รายการ "ชื่นใจไทยแลนด์" ขอพาท่องเที่ยวสถานที่ต่างๆ ของจังหวัดอุตรดิตถ์ ที่แอด..เชื่อว่าใครหลายคนไม่เคยได้ไป ไม่ว่าจะเป็นทุเรียนเมืองลับแล ข้าวพันผักเมนูที่หาทานที่ไหนไม่ได้นอกจากที่นี่ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ที่เข้าใจว่าปลูกเฉพาะในภาคใต้..ที่ถึงกับต้องร้องว่า อ้าวเฮ้ย!!! ที่นี่ก็ปลูกกันด้วยหรอ!! และอีกหลายๆ อย่างที่แอดอยากจะพาทุกๆ ท่าน เก็บกระเป๋า แล้วตามแอดไปเที่ยวกันครับ
เริ่มจากการเดินทางสู่เมืองลับแล "อุตรดิตถ์" เราออกเดินทางกันช่วงเย็นวันจันทร์ จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 (พหลโยธิน) > วังน้อยอยุธยา แยกเข้า ทางหลวงหมายเลข 32 > อ่างทอง > สิงห์บุรี > ชัยนาท > จนถึงนครสวรรค์ แยกเข้าเส้นทางหมายเลข 117 > พิษณุโลก แล้วใช้ทางหลวงหมายเลข 11 > จนถึงจังหวัดอุตรดิตถ์
สถานที่เที่ยวทริปนี้
- ประตูลับแล เมืองห้ามพูดโกหก
- ตลาดผลไม้หัวดง แหล่งซื้อ-ขายทุเรียนลับแล
- สวนทุเรียนภูริด บุฟเฟ่ทุเรียนแบบไม่อั้น พร้อมชมสวนทุเรียน
- ข้าวพันผัก อาหารพื้นเมือง ถ้าใครไม่ได้กินถือว่าไม่ถึงอุตรดิตถ์
- เที่ยวชมศูนย์รวมแหล่งเรียนรู้ชาวลาวเวียง กลุ่มเย็บปักถักร้อย (ปักกระเป๋า ถักชายผ้ากะต้อย)
- ชมวิถีของชาวบ้าน ใช้เวลาว่างกับกลุ่มทำไม้กวาดทางมะพร้าว
- ท่าปลา ชมวิถีชีวิตของชาวบ้าน การหาปลา ที่เขื่อนดิน อ.ท่าปลา
- ชมวิสาหกิจชุมชนหาดไก่ต้อย ขั้นตอนการทำมะม่วงหิมพานต์
- ร้านกล้วยแปรรูป ของแม่บ้านเกษตร
ค่าใช้จ่ายที่จำเป็น
ค่าที่พักโฮมสเตย์ หาดสองแคว คืนละ 350 บาท \ ต่อคน พร้อมอาหารเย็น-เช้า
ค่าน้ำมันไป-กลับ 1500 บาท
ค่าบุ๊ฟเฟ่ทุเรียน 699 บาท \ ต่อคน อิ่มท้องแตกเลย ฮ่าๆๆ
ข้าวพันผัก 350 บาท
ยินดีต้อนรับเข้าสู่เมืองลับแล จ้า!!
ยินดีต้อนรับเข้าสู่เมืองลับแล จ้า!!
เช้าวันแรก |ซุ้มประตู เมืองลับแล |
ถ่ายรูปเช็คอิน เป็นสถานที่ที่ใครมาลับแลแล้วต้องมา ใครไม่มาถือว่ามาไม่ถึง
พิพิธภัณฑ์เมืองลับแล
| ตลาดผลไม้หัวดง |
ก้าวแรกที่เปิดประตูรถ สิ่งแรกที่เจอคือ..กลิ่นทุเรียนครับ 555+ จะบอกว่ากลิ่นทุเรียนหอมไปทั่วตลาด ไม่ว่าจะเดินไปทางไหน ทุเรียนวางกันเรียงรายเต็มไปหมด และทุเรียนที่ขึ้นชื่อของที่นี่ ก็คือ.. “หลงหลินลับแล” ที่หาทานได้ยาก และราคาสูงทุเรียนหลงลับแล เริ่มต้นกิโลกรัมละ 250+ บาท และทุเรียนหลินลับแล เริ่มต้นกิโลกรัมละ 400+ บาท
นี่มันภูเขาทุเรียนใช่ไหม เยอะมากๆ
หลังจากเดินดูทุเรียนที่ตลาดผลไม้หัวดง เราเตรียมเดินทางต่อ..ไปกินบุ๊ฟเฟ่ทุเรียน
และนี่ก็เป็นเส้นทาง ..ทางมันจะยาวๆ หน่อย^^
ถึงแล้ว!!! #สวนทุเรียนภูริด จากตลาดผลไม้หัวดง มายังสวนทุเรียนใช้เวลาประมาณ 20 นาทีเท่านั้น
สำหรับใครที่จะมีที่นี่ แนะนำว่าควรมีรถส่วนตัวนะครับ
บุ๊ฟเฟ่ทุเรียนที่นี่ ราคาสุดคุ้มเพียง 699 บาท ก็สามารถทานทุเรียนหมอนทอง และทุเรียนหลงลับแล ที่ขึ้นชื่อของเมืองอุตรดิตถ์ ที่ราคาสูงถึง 250-400 แบบไม่อั้นกันเลยที่เดียว แถมด้วยอีกหลายๆ เมนู
พร้อมแล้วก็เริ่มทานกันเลยครับ
เมนูทุเรียนเชื่อม หวาน มัน ^_^
ทุเรียนบวช หอม หวาน มัน ฟินเลย
และก็ตามด้วยเมี่ยงคำสูตรเฉพาะของที่สวนภูริด [รวมในบุ๊ฟเฟ่]
หลังจากกินบุ๊ฟเฟ่กันจนแน่นท้องเป็นที่เรียบร้อย ก็ได้เวลาบุกสวนทุเรียน บอกเลย..ว่าทั้งอิ่มท้อง ทั้งได้ความรู้กลับบ้าน
สำหรับการจะขึ้นไปเที่ยวบนสวนทุเรียนได้จะมี 2 วีธี
1. เดินเท้า 30 นาที แอดได้แอบสอบถามคุณลุงเจ้าของสวน มีคนเดินขึ้นไปเหมือนกันนะครับ ถือเป็นการออกกำลังกาย
2. ซิ่งมอเตอร์ไซค์ครับ วิธีนี้จะบอกว่าใครที่ชอบเที่ยวแนวลุยๆ ไม่ควรพลาดครับ สนุกมากๆ ทางแอบโหด
ว่าแล้วพี่ก้อง ก็ออกรถนำไปก่อนแล้วครับ...
ถึงแล้ว สวนทุเรียน และนี่ก็คือทุเรียนหลงและหลินลับแล ของเมืองอุตรดิตถ์ ลุงเจ้าของสวนโชว์วิธีการเก็บฝากต้นแบบสดๆ
และบอกถึงความแตกต่างระหว่าง หลินและหลง
อีกเรื่องที่แอดได้ความรู้จากการที่ได้มาเยือนสวนทุเรียน ก่อนมาแอบสงสัยตลอดว่า..ทำไมทุเรียนมันถึงได้ราคาสูงอะไรขนาดนี้ ในเมื่อตวามต้องการของตลาดมันสูง แล้วทำไมไม่ปลูกใหม่
คำตอบก็คือ การที่เราปลูกทุเรียนแล้วรอเก็บเกี่ยวผลทุเรียน ครั้งแรกใช้เวลาถึง 25-30 ปี พอได้ยินถึงได้ร้อง อ๋อ!! เลย นั่นหมายถึงถ้าแอดอยากจะลงทุนปลูกทุเรียนขาย ไม่ใช่ว่าจะเก็บเกี่ยวได้ใน 2-3 ปี แต่ต้องรอถึง 25+ ปี เลยนะครับ
เจ้านี่พระเอกของเรา พาเราซิ่งขึ้นเขา
หลังจากเราได้ชมสวนทุเรียนแล้ว ก่อนเดินทางกลับ ได้แวะมาดูอีกสิ่งที่ขาดไม่ได้ คือสลิงขนส่งทุเรียนครับ เนื่องจากที่นี่ปลูกทุเรียนบนภูเขา จึงต้องหาวิธีขนส่งที่สะดวก ประหยัดเวลา และค่าใช้จ่าย
ทุเรียนลอยฟ้า ^^
เจ้านี่เป็นรถที่ใช่ขนส่งทุเรียนของชาวบ้านที่นี่ครับ
หลังจากตะลุยกินทุเรียนของเมืองลับแลเรียบร้อย พวกเราขอไปหาของอร่อยกินต่อครับ
และได้ยินมาว่า ใครมาอุตรดิตถ์ต้องห้ามพลาดเมนูนี้
นั่นคือ...ข้าวพันผัก อาหารพื้นเมือง
Google Map :
https://goo.gl/maps/QcTNZt4GACJ2
แม่ครัวของร้าน
ไข่ม้วนทรงเครื่องเห็ดเข็มทอง
แนะนี่ก็คือ ข้าวพันผัก
จัดชุดใหญ่เลยครับ
ต่ออีกสักจาน
หลังจากกินเมนูที่ห้ามพลาดแล้ว เราเดินเล่นกันต่อมาที่ร้านข้าวแคบ
แถมมีโอกาสได้ลองทำด้วย ดูได้ไหม ^_^
การทำข้าวแคบจะใช้หม้อเดียวกับสาคูนึ่งครับ
หลังจากนั้นนำมาตากแห้งประมาณ 2 วันครับ
ถัดมาอีกซอยเรามาดูคุณป้าท่อผ้าพื้นเมือง
หลังจากที่เราได้ท่องเที่ยวกันแบบจัดเต็มกันมาทั้งวัน ก็ต้องขอตัวพักผ่อนเอาแรงกันสักหน่อย
พรุ้งนี้จะได้มีแรงลุยกันต่อครับ
เช้าวันใหม่ ขอพาไป..เที่ยวชมศูนย์รวมแหล่งเรียนรู้ชาวลาวเวียง กลุ่มเย็บปักถักร้อย (ปักกระเป๋า ถักชายผ้ากะต้อย)
ที่..ที่ผู้สูงวัย และชาวบ้านร่วมกลุ่มกันในยามว่าง เย็บปักกระเป๋า ถักชายผ้ากะต้อย
การที่ได้ท่องเที่ยวแบบวิถีไทย ได้เห็นรอยยิ้มของคนในพื้นที่ บ้างครั้งก็รู้สึกสุขใจแบบบอกไม่ถูกเหมือนกันนะครับ
สำหรับภาพปักผืนนี้ คือภาพ “ตักบาตรหาบจังหัน” ประเพณีท้องถิ่นแห่งเดียวในไทย
เป็นประเพณีท้องถิ่น..ที่สืบทอดกันมาจากบรรพบุรุษ
และที่ต่อไปก็คือ กลุ่มทำไม้กวาดทางมะพร้าว
ชมลุงป้าตีกลอง กิจกรรมยามว่างและ
"อุตรดิตถ์" ใครว่าแค่..ทางผ่าน
ติดตามไปเที่ยวกับเรา #ฅนชอบเที่ยว www.facebook.com/konchoptieow
รีวิวเพจ : goo.gl/OfQhcH
ว่ากันด้วยเมือง "อุตรดิตถ์" "ใครว่าแค่..ทางผ่าน
วันนี้ #ฅนชอบเที่ยว ได้รับโอกาสดีๆ เป็นส่วนหนึ่งของรายการท่องเที่ยวไทย ของช่องอัมรินทร์ ทีวี 34 รายการ "ชื่นใจไทยแลนด์" ขอพาท่องเที่ยวสถานที่ต่างๆ ของจังหวัดอุตรดิตถ์ ที่แอด..เชื่อว่าใครหลายคนไม่เคยได้ไป ไม่ว่าจะเป็นทุเรียนเมืองลับแล ข้าวพันผักเมนูที่หาทานที่ไหนไม่ได้นอกจากที่นี่ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ที่เข้าใจว่าปลูกเฉพาะในภาคใต้..ที่ถึงกับต้องร้องว่า อ้าวเฮ้ย!!! ที่นี่ก็ปลูกกันด้วยหรอ!! และอีกหลายๆ อย่างที่แอดอยากจะพาทุกๆ ท่าน เก็บกระเป๋า แล้วตามแอดไปเที่ยวกันครับ
เริ่มจากการเดินทางสู่เมืองลับแล "อุตรดิตถ์" เราออกเดินทางกันช่วงเย็นวันจันทร์ จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 (พหลโยธิน) > วังน้อยอยุธยา แยกเข้า ทางหลวงหมายเลข 32 > อ่างทอง > สิงห์บุรี > ชัยนาท > จนถึงนครสวรรค์ แยกเข้าเส้นทางหมายเลข 117 > พิษณุโลก แล้วใช้ทางหลวงหมายเลข 11 > จนถึงจังหวัดอุตรดิตถ์
สถานที่เที่ยวทริปนี้
- ประตูลับแล เมืองห้ามพูดโกหก
- ตลาดผลไม้หัวดง แหล่งซื้อ-ขายทุเรียนลับแล
- สวนทุเรียนภูริด บุฟเฟ่ทุเรียนแบบไม่อั้น พร้อมชมสวนทุเรียน
- ข้าวพันผัก อาหารพื้นเมือง ถ้าใครไม่ได้กินถือว่าไม่ถึงอุตรดิตถ์
- เที่ยวชมศูนย์รวมแหล่งเรียนรู้ชาวลาวเวียง กลุ่มเย็บปักถักร้อย (ปักกระเป๋า ถักชายผ้ากะต้อย)
- ชมวิถีของชาวบ้าน ใช้เวลาว่างกับกลุ่มทำไม้กวาดทางมะพร้าว
- ท่าปลา ชมวิถีชีวิตของชาวบ้าน การหาปลา ที่เขื่อนดิน อ.ท่าปลา
- ชมวิสาหกิจชุมชนหาดไก่ต้อย ขั้นตอนการทำมะม่วงหิมพานต์
- ร้านกล้วยแปรรูป ของแม่บ้านเกษตร
ค่าใช้จ่ายที่จำเป็น
ค่าที่พักโฮมสเตย์ หาดสองแคว คืนละ 350 บาท \ ต่อคน พร้อมอาหารเย็น-เช้า
ค่าน้ำมันไป-กลับ 1500 บาท
ค่าบุ๊ฟเฟ่ทุเรียน 699 บาท \ ต่อคน อิ่มท้องแตกเลย ฮ่าๆๆ
ข้าวพันผัก 350 บาท
ยินดีต้อนรับเข้าสู่เมืองลับแล จ้า!!
ยินดีต้อนรับเข้าสู่เมืองลับแล จ้า!!
เช้าวันแรก |ซุ้มประตู เมืองลับแล |
ถ่ายรูปเช็คอิน เป็นสถานที่ที่ใครมาลับแลแล้วต้องมา ใครไม่มาถือว่ามาไม่ถึง
พิพิธภัณฑ์เมืองลับแล
| ตลาดผลไม้หัวดง |
ก้าวแรกที่เปิดประตูรถ สิ่งแรกที่เจอคือ..กลิ่นทุเรียนครับ 555+ จะบอกว่ากลิ่นทุเรียนหอมไปทั่วตลาด ไม่ว่าจะเดินไปทางไหน ทุเรียนวางกันเรียงรายเต็มไปหมด และทุเรียนที่ขึ้นชื่อของที่นี่ ก็คือ.. “หลงหลินลับแล” ที่หาทานได้ยาก และราคาสูงทุเรียนหลงลับแล เริ่มต้นกิโลกรัมละ 250+ บาท และทุเรียนหลินลับแล เริ่มต้นกิโลกรัมละ 400+ บาท
นี่มันภูเขาทุเรียนใช่ไหม เยอะมากๆ
หลังจากเดินดูทุเรียนที่ตลาดผลไม้หัวดง เราเตรียมเดินทางต่อ..ไปกินบุ๊ฟเฟ่ทุเรียน
และนี่ก็เป็นเส้นทาง ..ทางมันจะยาวๆ หน่อย^^
ถึงแล้ว!!! #สวนทุเรียนภูริด จากตลาดผลไม้หัวดง มายังสวนทุเรียนใช้เวลาประมาณ 20 นาทีเท่านั้น
สำหรับใครที่จะมีที่นี่ แนะนำว่าควรมีรถส่วนตัวนะครับ
บุ๊ฟเฟ่ทุเรียนที่นี่ ราคาสุดคุ้มเพียง 699 บาท ก็สามารถทานทุเรียนหมอนทอง และทุเรียนหลงลับแล ที่ขึ้นชื่อของเมืองอุตรดิตถ์ ที่ราคาสูงถึง 250-400 แบบไม่อั้นกันเลยที่เดียว แถมด้วยอีกหลายๆ เมนู
พร้อมแล้วก็เริ่มทานกันเลยครับ
เมนูทุเรียนเชื่อม หวาน มัน ^_^
ทุเรียนบวช หอม หวาน มัน ฟินเลย
และก็ตามด้วยเมี่ยงคำสูตรเฉพาะของที่สวนภูริด [รวมในบุ๊ฟเฟ่]
หลังจากกินบุ๊ฟเฟ่กันจนแน่นท้องเป็นที่เรียบร้อย ก็ได้เวลาบุกสวนทุเรียน บอกเลย..ว่าทั้งอิ่มท้อง ทั้งได้ความรู้กลับบ้าน
สำหรับการจะขึ้นไปเที่ยวบนสวนทุเรียนได้จะมี 2 วีธี
1. เดินเท้า 30 นาที แอดได้แอบสอบถามคุณลุงเจ้าของสวน มีคนเดินขึ้นไปเหมือนกันนะครับ ถือเป็นการออกกำลังกาย
2. ซิ่งมอเตอร์ไซค์ครับ วิธีนี้จะบอกว่าใครที่ชอบเที่ยวแนวลุยๆ ไม่ควรพลาดครับ สนุกมากๆ ทางแอบโหด
ว่าแล้วพี่ก้อง ก็ออกรถนำไปก่อนแล้วครับ...
ถึงแล้ว สวนทุเรียน และนี่ก็คือทุเรียนหลงและหลินลับแล ของเมืองอุตรดิตถ์ ลุงเจ้าของสวนโชว์วิธีการเก็บฝากต้นแบบสดๆ
และบอกถึงความแตกต่างระหว่าง หลินและหลง
อีกเรื่องที่แอดได้ความรู้จากการที่ได้มาเยือนสวนทุเรียน ก่อนมาแอบสงสัยตลอดว่า..ทำไมทุเรียนมันถึงได้ราคาสูงอะไรขนาดนี้ ในเมื่อตวามต้องการของตลาดมันสูง แล้วทำไมไม่ปลูกใหม่
คำตอบก็คือ การที่เราปลูกทุเรียนแล้วรอเก็บเกี่ยวผลทุเรียน ครั้งแรกใช้เวลาถึง 25-30 ปี พอได้ยินถึงได้ร้อง อ๋อ!! เลย นั่นหมายถึงถ้าแอดอยากจะลงทุนปลูกทุเรียนขาย ไม่ใช่ว่าจะเก็บเกี่ยวได้ใน 2-3 ปี แต่ต้องรอถึง 25+ ปี เลยนะครับ
เจ้านี่พระเอกของเรา พาเราซิ่งขึ้นเขา
หลังจากเราได้ชมสวนทุเรียนแล้ว ก่อนเดินทางกลับ ได้แวะมาดูอีกสิ่งที่ขาดไม่ได้ คือสลิงขนส่งทุเรียนครับ เนื่องจากที่นี่ปลูกทุเรียนบนภูเขา จึงต้องหาวิธีขนส่งที่สะดวก ประหยัดเวลา และค่าใช้จ่าย
ทุเรียนลอยฟ้า ^^
เจ้านี่เป็นรถที่ใช่ขนส่งทุเรียนของชาวบ้านที่นี่ครับ
หลังจากตะลุยกินทุเรียนของเมืองลับแลเรียบร้อย พวกเราขอไปหาของอร่อยกินต่อครับ
และได้ยินมาว่า ใครมาอุตรดิตถ์ต้องห้ามพลาดเมนูนี้
นั่นคือ...ข้าวพันผัก อาหารพื้นเมือง
Google Map : https://goo.gl/maps/QcTNZt4GACJ2
แม่ครัวของร้าน
ไข่ม้วนทรงเครื่องเห็ดเข็มทอง
แนะนี่ก็คือ ข้าวพันผัก
จัดชุดใหญ่เลยครับ
ต่ออีกสักจาน
หลังจากกินเมนูที่ห้ามพลาดแล้ว เราเดินเล่นกันต่อมาที่ร้านข้าวแคบ
แถมมีโอกาสได้ลองทำด้วย ดูได้ไหม ^_^
การทำข้าวแคบจะใช้หม้อเดียวกับสาคูนึ่งครับ
หลังจากนั้นนำมาตากแห้งประมาณ 2 วันครับ
ถัดมาอีกซอยเรามาดูคุณป้าท่อผ้าพื้นเมือง
หลังจากที่เราได้ท่องเที่ยวกันแบบจัดเต็มกันมาทั้งวัน ก็ต้องขอตัวพักผ่อนเอาแรงกันสักหน่อย
พรุ้งนี้จะได้มีแรงลุยกันต่อครับ
เช้าวันใหม่ ขอพาไป..เที่ยวชมศูนย์รวมแหล่งเรียนรู้ชาวลาวเวียง กลุ่มเย็บปักถักร้อย (ปักกระเป๋า ถักชายผ้ากะต้อย)
ที่..ที่ผู้สูงวัย และชาวบ้านร่วมกลุ่มกันในยามว่าง เย็บปักกระเป๋า ถักชายผ้ากะต้อย
การที่ได้ท่องเที่ยวแบบวิถีไทย ได้เห็นรอยยิ้มของคนในพื้นที่ บ้างครั้งก็รู้สึกสุขใจแบบบอกไม่ถูกเหมือนกันนะครับ
สำหรับภาพปักผืนนี้ คือภาพ “ตักบาตรหาบจังหัน” ประเพณีท้องถิ่นแห่งเดียวในไทย
เป็นประเพณีท้องถิ่น..ที่สืบทอดกันมาจากบรรพบุรุษ
และที่ต่อไปก็คือ กลุ่มทำไม้กวาดทางมะพร้าว
ชมลุงป้าตีกลอง กิจกรรมยามว่างและ