จากกระทู้เรื่อง...
"ไม่อนุญาตให้เรียก กาเฟรว่าพี่น้อง โดย อาจารย์ทางศาสนา"
Gundum GX - 14 มิถุนายน เวลา 18:49 น. 32 2
เรื่องนี้เป็นความเข้าใจผิดของอาจารย์ทางศาสนาอิสลามที่สุดโต่งอย่างขาดเหตุผล เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิด...มุสลิมไทยก็คือพี่น้องร่วมชาติไทยกับพี่น้องชาวไทยร่วมชาติท้งหลาย, .... ตามหลักการของศาสนาอิสลามมุสลิมเชื่อว่า มนุษย์ทุกๆคนเป็นลูกหลานท่านนบีอดัมไม่ใช่หรือ? และ ใครเป็นผู้ห้ามหรือที่ไม่อนุญาตในเรื่องตามหัวข้อกระทู้ดังกล่าว?
..........
มีฮาดีษอยู่หลายบทที่กล่าวสอนให้มุสลิมรักปวงชนเยี่ยงพี่น้องเพื่อให้ถึงความศรัทธาต่ออัลลอฮ์อย่างแท้จริงโดยที่ไม่จำกัดอยู่เฉพาะในกลุ่มชนผู้ที่นับถือศาสนาอิสลาม(มุสลิม)เท่านั้น...จากซอเฮี๊ยะฮาดีษมุสลิม 1844
อับดุลละฮ์ อิบนุ อะมัร รายงานว่า: ท่านศาสนทูต ของ อัลลอฮ์ (ขอสันติสุขและพรจงมีแด่ท่าน) กล่าวว่า:
أَحَبَّ أَنْ يُزَحْزَحَ عَنْ النَّارِ وَيَدْخُلَ الْجَنَّةَ فَلْتُدْرِكْهُ مَنِيَّتُهُ وَهُوَ يُؤْمِنُ بِاللَّهِ وَالْيَوْمِ الْآخِرِ وَيَأْتِي إِلَى النَّاسِ مَا يُحِبُّ أَنْ يُؤْتَى إِلَيْهِ
"ผู้ใดก็ตามปราถนาที่จะหลุดพ้นจากไฟนรกและเข้าสู่สวงสวรรค์,เขาผู้นั้นจะต้องตายในขณะมีความศรัทธาต่อพระเจ้าและความศรัทธาในวันสิ้นโลก,และเขาผู้นั้นจะต้องปฏิบัติตนต่อผู้อื่นด้วยวิธีการที่เขาปรารถนาจะให้ผู้อื่นปฏิบัติต่อเขา" (ซอเฮี๊ยะมุสลิม 1844)
คำกล่าวของท่านศาสดามูฮัมมัด ที่ว่า “เขาผู้นั้นจะต้องปฏิบัติตนต่อผู้อื่นด้วยวิธีการที่เขาปรารถนาจะให้ผู้อื่นปฏิบัติต่อเขา”, ข้อความดังกล่าวนี้เป็น ข้อความที่แฝงไปด้วยวิทยปัญญา, ครอบคลุมไปถึงมวลมนุษชาตทั้งหมด ไม่ว่าจะมีความศรัทธาใดๆก็ตาม, มนุษย์ทุกคนสมควรได้รับ ความเอาใจใส่, ความเข้าใจต่อความรู้สึกในจิตใจของกันและกันและความมีเมตตาต่อกันและกันโดยไม่คำนึงถึงทางเลือกทางความศรัทธาของพวกเขา
ความมีเมตตาต่อมนุษยชาตและความเข้าใจความรู้สึกของกันและกันดังกล่าวนี้สามารถที่จะก่อให้เกิด พื้นฐานของความร่วมมือและการวิสาสะ ระหว่าง มุสลิมกับชุมชนที่มีความศรัทธาอื่นๆ, ถ้ามุสลิมและผู้ที่มีความศรัทธาอื่นๆ พร้อมใจกันปฏิบัติตามหลักการนี้, ความรักและความเมตตาความสงบและความยุติธรรมจะกระจายไปทั่วโลก
วัตถุประสงค์ของฮาดีษ หรือคำกล่าวนี้ คือการรวมหัวใจของผู้คนและแก้ไขสถานการณ์ของชุมชน ซึ่งป็นหลักการสำคัญในศาสนาอิสลามที่อัลลอฮ์ผู้ทรงอานุภาพทรงกำชับไว้, โดยชี้แจงว่าหากทุกคนรัก คนอื่น ๆ เช่นเดียวกับที่ตัวเขามีความรักต่อตัวเขาเองแล้ว เขาจะปกป้อง รักษาพวกเขาเป็นอย่างดีที่สุดและเขาจะไม่เป็นอันตรายต่อกันและกัน ความรักที่มีต่อกันและกันเช่นนี้จะแผ่กระจายไปในสังคม ซึ่งจะเป็นจุดกำเนิดของความดีและการกำจัดความชั่วร้ายในสังคมมนุษย์ได้
อาจจะกล่าว ได้ว่าทุกๆคนที่เราพบเห็นจะตกอยู่ในกลุ่มที่เป็นพี่น้องเดียวกันตามหลักการของศาสนาอิสลามอย่างน้อยก็หนึ่งประเภท ในฐานะที่เราเป็น มุสลิมหน้าที่ของเราในการปฏิบัติต่อผู้ที่มีความศรัทธาอื่นๆ ให้เป็นไปอย่างดีตามสิทธิที่พวกเขามี ไม่ว่าเขาจะนับถือศาสนาใดๆก็ตาม, จะเป็นสมาชิกในครอบครัว, หรือเพื่อนมนุษย์ร่วมโลกเดียวกันกับเรา
จาก.....Brotherhood in the Quran and Sunnah
Abu Amina Elias • January 20, 2014
"มุสลิมก็คือกลุ่มชนที่เป็นพี่น้องร่วมโลกเดียวกันกับผู้ศรัทธาอื่นๆ ตามหลักการของศาสนาอิสลาม"
จากกระทู้เรื่อง...
"ไม่อนุญาตให้เรียก กาเฟรว่าพี่น้อง โดย อาจารย์ทางศาสนา"
Gundum GX - 14 มิถุนายน เวลา 18:49 น. 32 2
เรื่องนี้เป็นความเข้าใจผิดของอาจารย์ทางศาสนาอิสลามที่สุดโต่งอย่างขาดเหตุผล เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิด...มุสลิมไทยก็คือพี่น้องร่วมชาติไทยกับพี่น้องชาวไทยร่วมชาติท้งหลาย, .... ตามหลักการของศาสนาอิสลามมุสลิมเชื่อว่า มนุษย์ทุกๆคนเป็นลูกหลานท่านนบีอดัมไม่ใช่หรือ? และ ใครเป็นผู้ห้ามหรือที่ไม่อนุญาตในเรื่องตามหัวข้อกระทู้ดังกล่าว?
..........
มีฮาดีษอยู่หลายบทที่กล่าวสอนให้มุสลิมรักปวงชนเยี่ยงพี่น้องเพื่อให้ถึงความศรัทธาต่ออัลลอฮ์อย่างแท้จริงโดยที่ไม่จำกัดอยู่เฉพาะในกลุ่มชนผู้ที่นับถือศาสนาอิสลาม(มุสลิม)เท่านั้น...จากซอเฮี๊ยะฮาดีษมุสลิม 1844
อับดุลละฮ์ อิบนุ อะมัร รายงานว่า: ท่านศาสนทูต ของ อัลลอฮ์ (ขอสันติสุขและพรจงมีแด่ท่าน) กล่าวว่า:
أَحَبَّ أَنْ يُزَحْزَحَ عَنْ النَّارِ وَيَدْخُلَ الْجَنَّةَ فَلْتُدْرِكْهُ مَنِيَّتُهُ وَهُوَ يُؤْمِنُ بِاللَّهِ وَالْيَوْمِ الْآخِرِ وَيَأْتِي إِلَى النَّاسِ مَا يُحِبُّ أَنْ يُؤْتَى إِلَيْهِ
"ผู้ใดก็ตามปราถนาที่จะหลุดพ้นจากไฟนรกและเข้าสู่สวงสวรรค์,เขาผู้นั้นจะต้องตายในขณะมีความศรัทธาต่อพระเจ้าและความศรัทธาในวันสิ้นโลก,และเขาผู้นั้นจะต้องปฏิบัติตนต่อผู้อื่นด้วยวิธีการที่เขาปรารถนาจะให้ผู้อื่นปฏิบัติต่อเขา" (ซอเฮี๊ยะมุสลิม 1844)
คำกล่าวของท่านศาสดามูฮัมมัด ที่ว่า “เขาผู้นั้นจะต้องปฏิบัติตนต่อผู้อื่นด้วยวิธีการที่เขาปรารถนาจะให้ผู้อื่นปฏิบัติต่อเขา”, ข้อความดังกล่าวนี้เป็น ข้อความที่แฝงไปด้วยวิทยปัญญา, ครอบคลุมไปถึงมวลมนุษชาตทั้งหมด ไม่ว่าจะมีความศรัทธาใดๆก็ตาม, มนุษย์ทุกคนสมควรได้รับ ความเอาใจใส่, ความเข้าใจต่อความรู้สึกในจิตใจของกันและกันและความมีเมตตาต่อกันและกันโดยไม่คำนึงถึงทางเลือกทางความศรัทธาของพวกเขา
ความมีเมตตาต่อมนุษยชาตและความเข้าใจความรู้สึกของกันและกันดังกล่าวนี้สามารถที่จะก่อให้เกิด พื้นฐานของความร่วมมือและการวิสาสะ ระหว่าง มุสลิมกับชุมชนที่มีความศรัทธาอื่นๆ, ถ้ามุสลิมและผู้ที่มีความศรัทธาอื่นๆ พร้อมใจกันปฏิบัติตามหลักการนี้, ความรักและความเมตตาความสงบและความยุติธรรมจะกระจายไปทั่วโลก
วัตถุประสงค์ของฮาดีษ หรือคำกล่าวนี้ คือการรวมหัวใจของผู้คนและแก้ไขสถานการณ์ของชุมชน ซึ่งป็นหลักการสำคัญในศาสนาอิสลามที่อัลลอฮ์ผู้ทรงอานุภาพทรงกำชับไว้, โดยชี้แจงว่าหากทุกคนรัก คนอื่น ๆ เช่นเดียวกับที่ตัวเขามีความรักต่อตัวเขาเองแล้ว เขาจะปกป้อง รักษาพวกเขาเป็นอย่างดีที่สุดและเขาจะไม่เป็นอันตรายต่อกันและกัน ความรักที่มีต่อกันและกันเช่นนี้จะแผ่กระจายไปในสังคม ซึ่งจะเป็นจุดกำเนิดของความดีและการกำจัดความชั่วร้ายในสังคมมนุษย์ได้
อาจจะกล่าว ได้ว่าทุกๆคนที่เราพบเห็นจะตกอยู่ในกลุ่มที่เป็นพี่น้องเดียวกันตามหลักการของศาสนาอิสลามอย่างน้อยก็หนึ่งประเภท ในฐานะที่เราเป็น มุสลิมหน้าที่ของเราในการปฏิบัติต่อผู้ที่มีความศรัทธาอื่นๆ ให้เป็นไปอย่างดีตามสิทธิที่พวกเขามี ไม่ว่าเขาจะนับถือศาสนาใดๆก็ตาม, จะเป็นสมาชิกในครอบครัว, หรือเพื่อนมนุษย์ร่วมโลกเดียวกันกับเรา
จาก.....Brotherhood in the Quran and Sunnah
Abu Amina Elias • January 20, 2014