[CR] Julley 'LEH,LADAKH' 168 ชั่วโมงต้องมนต์บนหิมาลัย [PART 1]


                                                                 
J U L L E Y หรือในภาษาไทยออกเสียงว่า 'จูเล'

                                                              
  _____________________________________

                    
ภาษา Ladakhi คำแรกที่ได้ยินหลังจากเท้าแตะพื้นเมืองเลห์ ที่คุณลุงแท็กซี่จากสนามบินสอนเราตอนมาส่งที่เกสเฮ้าส์
                    ใช้ทักทาย สวัสดี บอกลา ขอบคุณ บลาบลา หรืออะไรไม่ออกก็จูเล่ไว้ก่อน ฮ่าๆ คำที่พูดง่ายแสนง่ายในวันแรกๆแต่กลับเป็น
                     คำที่พูดยากและไม่อยากพูดในวันสุดท้ายในดินแดนที่ได้ชื่อว่า 'ทิเบตน้อย' นี้

                                                              
_____________________________________


      
        ขอเกริ่นก่อนว่าทริปนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากการอ่านกระทู้ของ พี่ปั้น the walking Backpacker '9 เหตุผลที่ก่อนตาย คุณควรไปเห็น Leh Ladakh กับตาตัวเอง' https://ppantip.com/topic/34109505 และดูรายการ View finder ของคุณภูริเมื่อปีที่แล้ว จังหวะนั้นอดใจไม่ได้แล้ว ยังไงก็ต้องได้ไป เลห์ ลาดักห์!  บวกกับความใจง่ายของเพื่อน ชวนปุ๊บ ตอบตกลงปั๊บภายใน5นาที จนคนชวนยังแทบช็อค(เหมือนมันแทบไม่ได้คิด) เพื่อน3คนยอมร่วมชะตากรรมไปกับเราในการไปเยือนอินตะระเดีย เมืองแขกเป็นครั้งแรก ทริปนี้ก็เลยเกิดขึ้น เราเดินทางกันวันที่ 29 เมษา-7 พฤษาภาที่ผ่านมา โดยที่ไม่ได้รู้เลยว่าช่วงนั้นเป็นฤดูอะไร อากาศหนาวมั้ย ผู้คนจะเป็นยังไง อาหารกินได้มั้ย รู้แต่ถอยหลังกลับไม่ได้แล้ว ลุยโลด! จนตอนนี้ผ่านมาเดือนกว่าๆ ก็ยังคิดถึง โอ๊ย เข้าใจแล้วที่เค้าว่า 'ชีวิตนี้ต้องไปเห็นด้วยตาและรับรู้ด้วยใจด้วยตัวเองจริงๆ' บอกเลยแล้วจะต้องตกหลุมรัก "ลาดักห์" เหมือนเรา


ฝากติดตามและเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ รีวิวไม่ค่อยเก่ง รูปอาจจะไม่สวยแต่หวังว่าทุกคนจะชอบนะคะ  
และฝากเพจน้อยๆของพวกเราด้วย https://web.facebook.com/Everywherewewander/ แวะไปทักทายพูดคุยกันได้ค่ะ

เอาหละ! เกริ่นมาเยอะละตามประสาคนเวิ่นเว้อ ขอเริ่มเลยละกัน 55

เตรียมตัวก่อนเดินทาง

1.เลห์ ลาดักห์ มันคือส่วนไหนของโลกกันนะ ?

     "เมืองเลห์" เมืองหลวงหรือ main city ของจังหวัดลาดักห์ ที่เรามักจะคุ้นเคยกันในชื่อ เลห์ลาดักห์(นี่ก็เพิ่งรู้ตอนถามจากลาดัคกี้) เป็นจุดหมายปลายทางที่เราจะต้องนั่งเครื่องไปลงที่นี่  อยู่ในรัฐจัมมู-แคชเมียร์ที่ประกอบไปด้วย 3 จังหวัด คือ ลาดักห์ แคชเมียร์(เมืองหลักคือศรีนาการ์) และจัมมู ซึ่งเป็นรัฐที่อยู่เหนือสุดของประเทศอินเดีย บอกเลยว่าเป็นที่เดียวในอินเดียที่แทบไม่มีความอินเดียอยู่เลย
แอบสปอยก่อนนิดนึง อิอิ

2.การเดินทางและวีซ่า
- ไม่มีไฟลท์บินจากไทยไปที่เมืองเลห์โดยตรง เราต้องบินจากไทยไปลงที่นิวเดลีก่อน แล้วต่อเครื่องไปที่เลห์
-จากนิวเดลีไปเลห์ สามารถเลือกไปทางรถไฟหรือรถบัส ผ่านทางLeh-Manali เส้นนี้เค้าบอกสวยมาก แต่ใช้เวลาหลายวัน

เรื่องสายการบิน
1) พวกเราเลือกนั่ง การบินไทย ไปลงที่นิวเดลี(International Terminal) แล้วบินจากนิวเดลีไปเลห์ด้วยสายการบิน Go Air ของอินเดีย
- มีข้อเสียคือต้องนั่งรถ shuttle bus ไปที่Domestic Terminal ซึ่งไกลกันพอสมควร ต้องเผื่อเวลาในการต่อเครื่องให้ดี
-แต่พวกเรามีเวลาเหลือเฟือ ไปถึงเดลีเที่ยงๆแวบไปเดินเล่นในเมือง แล้วก็กลับมารอไฟลท์ไปเลห์ในเช้ามืดวันถัดไป
2) ถ้าต้องการสะดวก แนะนำเป็นสายการบิน Jet Airways ของอินเดีย อันนี้จะต่อเครื่องจาก international terminal ไปได้เลย
3) สายการบินจากไทยไปอินเดีย : การบินไทย, Jet Airways,Air India,Spice Jet  
   สายการบินจากเดลีไปเลห์ : Jet Airways,Go Air,Vistara(อันนี้ก็ขึ้นจาก International Terminal),Spice Jet ประมาณนี้
   - หลักๆก็คงเป็น Jet Airways กับ Go Air
   - ไฟลท์ไปเลห์ส่วนมากจะมีตอนเช้าตรู่อย่างเดียวเลย

ค่าตั๋ว
- ราคาอยู่ที่ประมาณ 15,000-20,000 บาท เราเคยเห็นโปรของ Jet Airways ประมาณ 13xxx
- ควรจองตั๋วตั้งแต่เนิ่นๆ ไฟลท์กทม-เดลีไม่ค่อยมีปัญหา แต่จะแพงกับไฟลท์เดลี-เลห์

เรื่องวีซ่า
เข้าอินตะระเดียก็ต้องทำวีซ่านะเออ
เราได้เขียนไว้ในกระทู้นี้แล้ว https://ppantip.com/topic/36523887 หวังว่าจะเป็นประโยชน์นะคะ ^^

3.แล้วจะต้องเตรียมร่างกายยังไงหละ?

          เนื่องจากเมืองเลห์ ตั้งอยู่ที่ระดับความสูง 3,500 เมตรจากระดับน้ำทะเล ท่ามกลางเทือกเขาหิมาลัยอันหนาวเหน็บ แน่นอนว่ามนุษย์พื้นที่ราบลุ่ม อาศัยอยู่ระดับน้ำทะเลอย่างเราจะต้องปรับตัวกับอากาศที่มีออกซิเจนเบาบาง อาจทำให้เราเหนื่อยง่ายหายใจไม่ออก  จนเป็น AMS(Acute Mountain Sickness)หรือโรคแพ้ความสูง อาการก็เหมือนที่บอก เหนื่อย หายใจไม่ออก ปวดหัว เบื่ออาหาร คลื่นไส้ไปจนมีไข้และหนาวสั่น แถมโรคนี้เกิดได้กับทุกเพศทุกวัยไม่เกี่ยวกับความฟิตของร่างกาย เพื่อเป็นการป้องกันและเพื่ออรรถรถในการท่องเที่ยวลาดักห์ ควรเตรียมยา Diamox(Acetazolamide) ไปด้วย
วิธีใช้ยา Diamox
1) ต้องกิน 24 ชั่วโมงก่อนไปถึงที่เลห์
2) อย่าลืมเช็คขนาดยาด้วยนะ
     - ถ้าเม็ดขนาด 125 mg ให้กิน 1 เม็ดต่อทุก 12 ชั่วโมง
     - ถ้ายาขนาด 250 mg ก็ให้กินครึ่งเม็ดจ้า
     ถ้าไม่แน่ใจก็ถามจากเภสัชกรได้ค่ะ

4.ช่วงเวลาไหนที่เหมาะกับการท่องเที่ยว?
    ด้วยความที่เป็นที่สูงมากๆ ลาดักห์เลยหนาวเย็นตลอดทั้งปี ช่วงหน้าร้อนอากาศก็ยังเย็นสบาย ส่วนช่วงหน้าหนาวนี่เค้าบอกว่าหนาวขนาด -20 องศา บรึ๋ยยยย
    ช่วงหน้าหนาว : ตุลา-มีนา อากาศหนาวจัด หนาวแบบน่าจะแข็งตายไปเลย แต่ลาดัคกี้บอกมาว่า Chadar Trek หรือการเดินเทรคเข้าไปในแม่น้ำ Zanskar ที่เป็นน้ำแข็งก็น่าสนใจนะ ต้องกลับไปแน่นอน!
    ช่วงฤดูใบไม้ผลิ : ปลายเมษา-พฤษภา ที่พวกเราไปมา อากาศก็ยังติดลบอยู่ บนักท่องเที่ยวก็ยังไม่เยอะมาก
    ช่วงหน้าร้อน : มิถุนา-กันยา เป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวเยอะ แต่อากาศกำลังดีเหมาะแก่การท่องเที่ยว

5.อื่นๆ
- เตรียมเสื้อกันหนาว กันลม ถุงมือ ถุงเท้า อะไรก็ได้ที่ทำให้ร่างกายอบอุ่นไปให้พร้อม
- ที่นู่นแดดแรงมากจีจี แรงจนคนไม่ชอบใส่แว่นอย่างเราต้องงัดแว่นออกมาใส่
- อาหารที่นู่นก็จะกินลำบากนิดนึง(แต่สำหรับเรา กินมันทุกอย่าง๕๕๕) มีกลิ่นเครื่องเทศ ผงกะหรี่ ใครที่กินยากโปรดจงเตรียมเสบียงไปให้พร้อม หมูฝอย หมูหยอง น้ำพริก มาม่า
- ใช้เงินรูปี คิดเป็นเงินไทยก็เอาสองหารได้เลย เช่น 100 รูปี ประมาณ 50 บาท
- อย่าลืมเตรียมสำเนาพาสปอร์ตไปด้วย เพื่อใช้ทำ inner line permit ด้วยนะคะ เวลาที่เราไปเที่ยวตามที่ต่างๆนอกเมืองเลห์ จะต้องทำ permit เพื่อใช้ผ่านทางค่ะ เพราะพื้นที่ส่วนใหญ่ในลาดักห์เป็นเขตชายแดน เป็นพื้นที่ที่อ่อนไหว สามารถติดต่อบริษัททัวร์ท้องถิ่นที่นู่นให้ทำให้ ราคา 700 รูปี
- บอกกล่าวที่บ้าน พ่อ แม่ แฟน ให้เรียบร้อย เตรียมตัวตัดขาดจากโลกภายนอกชั่วครู่ เพราะอาจจะไม่มีอินเตอร์เน็ตให้ใช้
                        
ไม่ต้องอ่านข้อมูลอะไรมากมาย รูปอย่าไปดูเยอะ เตรียมตัว เตรียมใจ ทำสมองให้ว่างๆ แล้วลุยกันเลย!!!



                                                              
  เอาหละ เอาจริงและ ! ทีนี้ก็เข้าสู่ชั่วโมงต้องมนต์กันเล๊ยยยย

                                                                  
  _____________________________________


                                                            
:: ทริปนี้เราใช้เวลากันทั้งหมด 9 วัน 8 คืน รวมวันเดินทางแล้ว ::

Day 1 : BKK-New Delhi

จากไทยไปนิวเดลีใช้เวลาแค่ประมาณ 4 ชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งเรามาถึงกันตอนเที่ยง! แดดที่เดลีมันช่างแผดเผา เหมือนจะละลายไปกับพื้นถนน
สารภาพเลยว่าพวกเราไปไม่กี่ที่ คือ Connaught Place เพื่อหาข้าวกิน มื้อแรกในอินเดีย รอด!!!,ป้อม Red Fort กับตลาด Chandni Chowk
แล้วกลับมาหมดแรงข้าวต้มที่สนามบิน อันนี้ขอไม่ลงรายละเอียดนะคะ
- ถ้าไม่ได้ยินเสียงแตรรถ แปลว่ายังมาไม่ถึงอินเดีย! ตราตรึงมากบอกเลย


Day 2: New Delhi-Leh

                                                                  
    -ไฟลท์จากนิวเดลีไปเลห์-

                                                    
  ค่าเครื่องหลักร้อย(ดอลล่า) แต่วิวนี่หลักแปดแสนล้าน

ไฟลท์บินของพวกเราคือตอน 6.40 แต่ฝนเทแต่เช้าเลย ท้องฟ้าขมุกขะมัว พร้อมกับเจ้าหน้าที่ประกาศว่าเที่ยวบินดีเลย์! แอบกลัวเบาๆว่าจะไม่ได้เห็นเทือกเขาหิมาลัย

สัญญากับตัวเองว่าขึ้นเครื่องแล้วจะไม่หลับเด็ดขาด แต่ด้วยความที่เมื่อคืนนอนสนามบิน หลับๆตื่นๆ เลยเผลองีบไปนิดนึง>< ต้องขอบคุณเพื่อนที่สะกิดขึ้นมาดูวิว
เป็นไฟลท์ที่ระยะเวลาแค่ชั่วโมงกว่าๆ แต่ไม่สามารถละสายตาจากวิวข้างนอกหน้าต่างได้เลยยันเครื่องลง สวยจนแทบจะลืมหายใจ เทือกเขาหิมาลัยสุดลูกหูลูกตาจริงๆ ขาไปให้เลือกที่นั่งริมหน้าต่างฝั่งซ้ายนะคะ ขากลับก็ฝั่งขวา บอกเลยว่าคุ้มเกินคุ้ม

ท้องฟ้าช่างไม่เป็นใจซะเลย แต่ก็สวยไปอีกแบบ ยิ้ม)

ทันทีที่เครื่องแตะรันเวย์สนามบินเลห์ มองไปรอบๆนี่เหมือนโดนโอบล้อมไปด้วยภูเขา 360 องศา ยกมือถือมาจะถ่าย แต่เจ้าหน้าที่เค้าไม่ให้ถ่ายรูปนะคะ นี่แอบถ่ายตอนเค้าเผลอ555 บรรยากาศมันช่างมาคุเหลือเกิน ฟ้าสีเทาๆ แถมมีหิมะปรอยมาเป็นสาย ในใจก็เริ่มหวั่นๆ ว่าทริปนี้กูจะเห็นอะไรมั้ย พอก้าวออกจากเครื่องบิน อารมณ์ตอนนั้นแบบ อื้อหือ! ใครเอาช่องฟรีซมาเปิดใส่หน้า สั่นตั้งแต่วิแรก จากนิวเดลี 40 องศามาเหลืออุณหภูมิเลขตัวเดียวหรืออาจจะต่ำกว่า0 ด้วยเสื้อยืด1ตัวถ้วนนนน

สนามบินที่นี่เป็นอาคารเล็กๆ ซึ่งถ้าไม่บอกก็คงดูไม่ออกว่าเป็นสนามบิน รับกระเป๋าเสร็จ ออกมายืนเก้ๆกังๆนอกอาคาร หาแท็กซี่เข้าเมืองเลห์ก่อนละกัน หนาววุ้ยยยย ราคาก็จะประมาณ 2-3ร้อยรูปี แม้พี่แขกอินเดียจะได้ชื่อว่าชอบโก่งราคา แต่ที่เลห์เราไม่ต้องกลัวว่าพี่เค้าจะโกงเลยค่ะ เพราะที่เลห์จะมีเรทแท็กซี่มาตรฐานบอกไว้ ขอเค้าดูได้หรือเช็คได้ในเว็บ
http://www.travelhimalayas.in/transportation/taxi-rental/316-leh-local-taxi-rates-2015.html

ชื่อสินค้า:   เลห์ ลาดักห์ อินเดีย
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่