สวัสดีค่ะ เกริ่นก่อนว่า เรากับเพื่อนเพิ่งไปเลห์ ลาดัค ประเทศอินเดีย เมื่อต้นเดือนพฤษา ก็เลยอยากจะมาแชร์วิธีการทำ e-visaอินเดีย เพื่อเป็นอีกทางเลือกในการทำวีซ่าให้เพื่อนๆชาว บลูแพลนเน็ต ที่มีแพลนจะไปเยือนเมืองแขก เพราะสถานทูตอินเดียเพิ่งปรับราคาวีซ่าเข้าประเทศอินเดียแบบ Regular visa ขึ้น มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 เมษาฯ60ที่ผ่านมา ซึ่งราคาก็แพงขึ้นเกือบสองเท่า สำหรับเราที่ไม่มีแพลนจะเดินทางไปอินเดียอีกรอบภายใน 6เดือน, 1 ปี ก็เลยเลือกสมัครแบบ e-Visa แทน
           
วิธีการนั้นก็ง่ายแสนง่าย แค่ปลายนิ้ว ไม่ต้องเสียเวลาไปต่อคิวยื่นที่สถานทูตให้เมื่อยตุ้ม เหมาะกับคนที่อยู่ต่างจังหวัด หรือคนที่ไม่อยากลางาน(เหมือนเรา) สมัครวันนี้ อีกไม่เกิน 72 ชม.ก็ได้รับตอบกลับวีซ่า  เร็ว ง่าย แถมราคาถูกกว่าไปยื่นที่สถานทูตโดยตรงด้วย แต่ E-Visa ก็มีข้อจำกัด ข้อแตกต่างกับวีซ่าที่ได้รับจากสถานทูตอยู่บ้าง ไปดูกันเลย

อ้อ! ลืมบอกไปว่า วีซ่าท่องเที่ยวเข้าอินเดีย สามารถทำได้ 2 แบบ คือ
1) แบบที่ไปยื่นกับสถานทูตโดยตรง(Regular Visa)-ซึ่งเราไม่มีข้อมูลในการสมัครเลย
แต่มีราคาค่าธรรมเนียมที่อัพเดตมาฝากค่ะ สำหรับวีซ่าท่องเที่ยว 1 ปี ก็จะมีค่าธรรมเนียมอยู่ที่ 4,100 บาท
ซึ่งค่าธรรมเนียมของ e-Tourist Visa อยู่ที่ $50 หรือประมาณ 1,800 บาท

2) สมัครออนไลน์ (E-Tourist Visa)-ที่เราจะรีวิว


ส่วนขั้นตอนในการสมัครก็ง่ายมากๆ ตามรูปด้านล่างเลย
สมัครออนไลน์ >> จ่ายออนไลน์ >> รับวีซ่าออนไลน์ >> เล็ทสโกว ทู อินเดีย!


สิงที่ควรรู้ก่อนสมัคร E-Tourist Visa
1)    เป็นวีซ่าประเภทท่องเที่ยว สามารถอยู่ในอินเดียได้ 60 วันนับจากวันที่เข้าประเทศ
        (เพิ่งเปลี่ยนตอนเมษาฯ60  จากเดิม 30 วัน)
2)    ประเภทวีซ่าเป็น Double Entry คือสามารถเข้า-ออก ประเทศอินเดียได้ 2 ครั้ง ภายใน 120 วัน
        (เพิ่งเปลี่ยนตอนเมษาฯ60  จากเดิมเป็น Single Entry เข้าประเทศได้ครั้งเดียว)
3)    นักท่องเที่ยวสามารถยื่นขอ E-Tourist Visa ได้ไม่เกิน 2 ครั้ง ต่อ 1 ปีปฏิทิน
4)    **สมัครวีซ่าล่วงหน้าอย่างน้อย 4 วันก่อนเดินทาง เช่น ถ้าจะเดินทางวันที่ 5 กันยาฯ อย่างช้าสุดต้องสมัครวันที่ 1 กันยาฯ และ
        *วีซ่าจะสามารถใช้ได้ภายในช่วงเวลา 120 วัน(4เดือน) ตามช่วงที่สถานทูตกำหนดมาเท่านั้น นับจากวันที่ได้รับอนุมัติวีซ่า
5)    e-Visa สามารถเข้าอินเดียได้ทาง 24 สนามบิน ดังนี้เท่านั้น Ahmedabad, Amritsar, Bagdogra, Bengaluru, Calicut, Chennai, Chandigarh,Cochin, Coimbatore, Delhi, Gaya, Goa, Guwahati, Hyderabad, Jaipur, Kolkata, Lucknow, Mangalore, Mumbai, Nagpur, Pune, Tiruchirapalli, Trivandrum & Varanasi (เพิงเปลี่ยนตอนเมษาฯ60 จากเดิมเข้าได้แค่จาก 9 สนามบิน)
และทางเรือ 3 Port คือ Cochin,Goa และ Mangalore

เพิ่มเติม คือก่อนไปเพื่อนเราค่อนข้างกังวลว่า e-Visa จะใช้เข้าเลห์ไม่ได้ ถ้าใครจะไปเลห์,ลาดัค ก็สามารถทำ E-Visa ได้เลยนะคะ(แต่ต้องเข้าอินเดียทาง 24 สนามบินที่บอกไว้ด้านบน เช่น นิวเดลี,มุมไบ)  ตอนแรกก็ไม่มั่นใจว่าใช้ได้ป่าว แต่ ณ ตอนนี้ยืนยันว่าใช้ได้ 100%ค่ะ
ส่วน inner line permit ที่ต้องใช้เวลาไปเที่ยวสถานที่ต่างๆในลาดัค เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่ยังมีความอ่อนไหวเพราะเป็นชายแดน เช่น ทะเลสาบปันกอง สามารถไปติดต่อทำกับเอเจนซี่ทัวร์ที่นู่นได้เลยค่ะ ค่าธรรมเนียม 700 รูปีต่อคน หรือประมาณ 350 บาท
                                    ___________________________________________________________

เอกสารที่ต้องเตรียมก่อนสมัคร

1)    ไฟล์สแกน(PDF File) พาสปอร์ตหน้าแรก ขนาดไม่ต่ำกว่า 10 KB แต่ไม่เกิน 300 KB
2)    ไฟล์ภาพถ่ายผู้สมัคร
-    ต้องเป็นไฟล์ JPEG
-    ขนาดภาพ ไม่ต่ำกว่า 10 KB แต่ไม่เกิน 1 MB
-    ความกว้างและความสูงของภาพต้องมีขนาดเท่ากัน เช่น ขนาด 2x2
-    ต้องเป็นภาพที่เห็นหน้าตรง เห็นชัดทั้งใบหน้าและต้องไม่มี accessary ปิดบังใบหน้า
-    สีพื้นหลังควรเป็นสีขาวหรือสีอ่อนๆ แต่แนะนำให้ใช้สีขาวค่ะ
-    ต้องไม่มีขอบ/กรอบ
3)     ที่อยู่ที่พัก/โรงแรมในอินเดีย เบอร์โทรศัพท์ > มีให้กรอกตอนสมัคร

เอาหละ ถ้าเตรียมพร้อมตาม list ด้านบนแล้วก็ไปกรอก E-Visa กันเล๊ยย!!!

1.    เข้าไปที่ Website https://indianvisaonline.gov.in/evisa/tvoa.html
2.    ไปที่ tab ด้านบน คลิกเลือก e-Visa Application.

3.    จะเจอหน้าแรกแบบนี้ ให้กรอกข้อมูลให้ครบทุกช่องตามช่องที่มี *
โดยที่ช่อง Passport Type >> เลือกแบบ Ordinary ค่ะ
             Port Of Arrival >> เลือกสนามบินที่เข้า
             Visa Service >> เลือก eTOURIST VISA


4. Continue ไปยังหน้าถัดไป ตรงที่เราใส่กรอบสีแดงไว้คือ  Temporary Application ID ให้จดเลขไว้ค่ะ เผื่อกรอกไม่เสร็จหรือลุกไปทำอย่างอื่น จะได้สามารถกลับมากรอกต่อได้โดยที่ไม่ต้องเริ่มใหม่ เข้าไปที่หน้า Complete Partially Filled Form https://indianvisaonline.gov.in/evisa/CompletePartially นี้ค่ะ


5.กรอกข้อมูลให้ครบทุกข้อในแต่ละหน้า กรอกไปเรื่อยๆค่ะ ค่อนข้างเยอะอยู่พอสมควร
ในหน้านี้จะบอกว่าเราได้วีซ่าระยะเวลา 60 วัน เป็นประเภทแบบ Double Entry เหมือนที่เราได้บอกไว้ด้านบน


6. หน้านี้จะให้ใส่ Reference Name in India กับในไทย ก็กรอกที่อยู่กับเบอร์โทรโรงแรมค่ะ ส่วนในไทยก็กรอกชื่อพ่อ แม่ คนรู้จัก

7.เมื่อกรอกข้อมูลครบทุกหน้าแล้ว ก็จะมีให้อัพโหลดไฟล์ภาพถ่ายและหน้า passport และให้เราเช็ค แก้ไข ยืนยันข้อมูลอีกที

8.ชำระเงินผ่านทางออนไลน์-สถานะการสมัครวีซ่าจะได้รับการยืนยันว่าสมัครเรียบร้อยเมื่อเราจ่ายเงินแล้วเท่านั้น!
   - ราคาค่าธรรมเนียมวีซ่า $50 +charge หรือประมาณ 1,800 บาท
   - เมื่อชำระเงินเรียบร้อยแล้วจะมีอีเมล์กลับมาบอกว่าได้รับ Visa Application และจะใช้เวลา 72 ชม.ในการพิจารณา
   - เราสามารถเช็ค Visa Status ได้โดยนำเลข Application ID ไปเช็คที่ https://indianvisaonline.gov.in/evisa/StatusEnquiry

9.จริงๆก็ไม่ถึง 72 ชม. ของเรา 24 ชม.ก็ได้รับ e-Visa แล้ว เร็วมากๆ จะมีอีเมล์กลับมาบอกอีกเช่นเคย
โดยในหน้าเอกสาร e-Visa หรือ ETA ต้องมีคำว่า "GRANTED" เพื่อยืนยันการอนุมัติวีซ่า เท่านี้ก็เตรียมแพ็คกระเป๋าออกเดินทางได้เลย!
-สามารถเซฟไฟล์ e-Visa แบบภาพด้านล่าง จากเมนู Visa Status >> Print Status

10.สำคัญมาก ห้ามลืมเด็ดขาด!!! วันเดินทาง เราต้องปริ้นท์หน้า e-Visa หรือ ETA นี้ไปด้วย เพื่อใช้ผ่าน ตม.ที่ไทยและรับวีซ่าที่อินเดีย หรือจะเซฟเป็น PDF ไว้ในมือถือด้วยก็ได้

11.เมื่อไปถึงสนามบินอินเดีย ตอนตรวจคนเข้าเมือง ให้ไปที่ช่อง E-Visa ซึ่งจะแยกจาก Immigration ธรรมดา
โดยใช้เอกสาร ETA กับ Passport ก็จะได้ประทับตราวีซ่ามาแบบภาพด้านล่างนี้

เพิ่มเติม เมื่อเราได้รับตราประทับวีซ่าเรียบร้อยแล้ว ถ้าเข้าประเทศอินเดียครั้งต่อไปก็สามารถไปเข้าช่อง Immigration ปกติได้เลย ไม่ต้องเข้าช่อง E-Visa อีกแล้ว

สัญลักษณ์ของสนามบินอินทิรา คานธี เหมือนเป็นการบอกว่า เรามาถึงอินเดียแล้ว!



แถว Immigration E-Visa จะเดินเลยถัดไปจากภาพด้านบน เราใช้เวลาต่อแถวประมาณ 1 ชม. ใครมีไฟลท์ต่อก็อย่าลืมเผื่อเวลานะคะ

อีกนิสนึงค่ะ วันเดินทางอย่าลืมปริ้นท์หน้ารายละเอียดไฟลท์บินไปด้วยนะคะ หรือจะเซฟเป็นรูป/PDFไว้ในมือถือก็ได้ เพราะสนามบินส่วนใหญ่ในอินเดียเค้าจะขอเช็คตั้งแต่ประตูทางเข้าเลยค่ะ


ก็ขอจบการรีวิวเท่านี้ หวังว่าข้อมูลที่เรามาแชร์จะมีประโยชน์กับเพื่อนๆนะคะ ถ้าหากมีอะไรเพิ่มเติมก็คอมเม้นได้เลยค่ะ )
หรือมีอะไรไม่เข้าใจ ไม่รู้จะกรอกยังไง ทักมาถามกันได้นะคะที่เพจ >>https://www.facebook.com/Everywherewewander/
ไว้กระทู้หน้าเราจะมาแชร์ข้อมูลช่วงที่ไปเที่ยวเลห์ ลาดักห์ ให้ได้อ่านกัน