วันนี้ คนงานของผม(เป็นคนลาว มีบัตรถูกต้อง) กลับไปเยี่ยมบ้านที่ประเทศลาว แล้วขากลับเข้ามาซื้อบุหรี่ติดตัวเข้ามา 3 คอตตอล
มาทั้งหมด 4 คน ประกอบด้วยคนงานผู้ชาย 1 ภรรยาคนงานกับลูกชายวัย 1ขวบ และ น้องสาวคนงาน 1 ข้ามด่านมาทางจังหวัดมุกดาหาร
ตอนข้ามด่านมาไม่มีปัญหา ถือเข้ามาคนละ 1 คอตตอล แต่พอขึ้นรถที่ท่ารถ บขส มีเจ้าหน้าที่สั่งให้ลงจากรถ
คนงานของผมเดินลงจากรถถือบุหรี่ลงมา 3 คอตตอล ภรรยาอุ้มลูกตามลงมาด้วยกัน
เจ้าหน้าที่ได้แสดงตัวเข้าจับกุมแจ้งข้อหาว่ามีบุหรีเกินกว่ากฎหมายอนุญาต โดยที่คนงานผม
พยายามอธิบายว่าภรรยาอุ้มลูกอยู่(ยืนอยู่ข้างๆ) แล้วเค้าไม่รู้ว่าต้องถือคนละคอตตอล จึงถือลงมาเองคนเดียว
เจ้าหน้าที่ไม่ยอมและนำตัวไป หลังจากนั้นแจ้งข้อกล่าวหาและให้เซนต์รับทราบ ตัวคนงานก็อ่านภาษาไทยไม่ออก ให้เซนต์อะไรก็เซนต์อย่างเดียวเลย
หลังจากนั้น คนงานได้ติดต่อมาทางผม ผมจึงได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่แจ้งผมว่าจะต้องเสียค่าปรับ 14,850 บาท และขอความเห็นใจว่า ให้ช่วยดูที่เจตนาว่าเด็กเค้านำเขามาสูบและมาฝากเพื่อนคนงานด้วยกัน ไม่ได้นำเข้ามาจำหน่าย
สุดท้ายแล้วเจ้าหน้าที่ก็ไม่ยอมนำตัวเด็กไปลงบันทึกประจำวันที่สถานนีตำรวจด้วย และยืนยันว่าจะต้องนำเงินมาเสียค่าปรับ มิเช่นนั้นแล้วหลัง 16.00 น. จะต้องนำตัวเข้าห้องขัง และส่งฟ้องศาลในวันรุ่งขึ้น ผมบอกเจ้าหน้าที่ว่าตัวเด็กจะมีเงินที่ไหนตั้ง 14,850 บาท เจ้าหน้าที่บอกกับผมว่าให้ผมโอนค่าปรับเข้าบัญชีหัวหน้า แล้วจะออกใบเสร็จรับเงินให้ ผมเห็นว่าถ้าไม่โอนให้เด็กต้องนอนในคุกคืนนี้ แล้วภรรยากับลูกเล็กจะไปอยู่ที่ไหนในคืนนี้ ผมจึงโอนค่าปรับเข้าบัญชีหัวหน้าหลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ออกใบเสร็จรับเงิน และนำตัวเด็กมาส่งที่ บขส
ขอเตือนทุกคนที่ยังไม่รู้ ไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือต่างด้าว ห้ามถือบุหรี่ให้กันโดยเด็ดขาดจนกว่าจะกลับถึงที่พักปลายทางของท่าน(เจ้าหน้าที่บอกมาอย่างนั้น) มิเช่นนั้นท่านจะต้องเสียค่าปรับแพงมากโดยไม่ฟังคำอธิบายใดๆทั้งสิ้น (โดยส่วนตัวผมก็อยากจะทราบเหมือนกันว่าเงินที่เข้าหลวง 14,850 บาท ในนั้นมีรางวัลนำจับหรือไม่)
หลังจากที่ได้คุยกับเด็กล่าสุดที่ได้ขึ้นรถ บขส กลับเข้ากรุงเทพแล้ว เด็กบอกว่าคนขายตั๋วสงสารเค้า เลยลดค่าตั๋วจาก 535 บาท เหลือ 500 บาท และบอกว่าโดนกันเยอะกรณีแบบนี้ ต้องขอขอบคุณในน้ำใจของคนขายตั๋วที่ถึงแม้ส่วนลดจะไม่ได้มากมายอะไร แต่ทำให้คนที่เค้ามาจากต่างบ้านได้รู้ว่าอย่างน้อยยังมีคนมีน้ำใจและเห็นใจเค้า
ขอบคุณครับ
เตือนทุกคนที่จะนำบุหรีข้ามด่านเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน
มาทั้งหมด 4 คน ประกอบด้วยคนงานผู้ชาย 1 ภรรยาคนงานกับลูกชายวัย 1ขวบ และ น้องสาวคนงาน 1 ข้ามด่านมาทางจังหวัดมุกดาหาร
ตอนข้ามด่านมาไม่มีปัญหา ถือเข้ามาคนละ 1 คอตตอล แต่พอขึ้นรถที่ท่ารถ บขส มีเจ้าหน้าที่สั่งให้ลงจากรถ
คนงานของผมเดินลงจากรถถือบุหรี่ลงมา 3 คอตตอล ภรรยาอุ้มลูกตามลงมาด้วยกัน
เจ้าหน้าที่ได้แสดงตัวเข้าจับกุมแจ้งข้อหาว่ามีบุหรีเกินกว่ากฎหมายอนุญาต โดยที่คนงานผม
พยายามอธิบายว่าภรรยาอุ้มลูกอยู่(ยืนอยู่ข้างๆ) แล้วเค้าไม่รู้ว่าต้องถือคนละคอตตอล จึงถือลงมาเองคนเดียว
เจ้าหน้าที่ไม่ยอมและนำตัวไป หลังจากนั้นแจ้งข้อกล่าวหาและให้เซนต์รับทราบ ตัวคนงานก็อ่านภาษาไทยไม่ออก ให้เซนต์อะไรก็เซนต์อย่างเดียวเลย
หลังจากนั้น คนงานได้ติดต่อมาทางผม ผมจึงได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่แจ้งผมว่าจะต้องเสียค่าปรับ 14,850 บาท และขอความเห็นใจว่า ให้ช่วยดูที่เจตนาว่าเด็กเค้านำเขามาสูบและมาฝากเพื่อนคนงานด้วยกัน ไม่ได้นำเข้ามาจำหน่าย
สุดท้ายแล้วเจ้าหน้าที่ก็ไม่ยอมนำตัวเด็กไปลงบันทึกประจำวันที่สถานนีตำรวจด้วย และยืนยันว่าจะต้องนำเงินมาเสียค่าปรับ มิเช่นนั้นแล้วหลัง 16.00 น. จะต้องนำตัวเข้าห้องขัง และส่งฟ้องศาลในวันรุ่งขึ้น ผมบอกเจ้าหน้าที่ว่าตัวเด็กจะมีเงินที่ไหนตั้ง 14,850 บาท เจ้าหน้าที่บอกกับผมว่าให้ผมโอนค่าปรับเข้าบัญชีหัวหน้า แล้วจะออกใบเสร็จรับเงินให้ ผมเห็นว่าถ้าไม่โอนให้เด็กต้องนอนในคุกคืนนี้ แล้วภรรยากับลูกเล็กจะไปอยู่ที่ไหนในคืนนี้ ผมจึงโอนค่าปรับเข้าบัญชีหัวหน้าหลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ออกใบเสร็จรับเงิน และนำตัวเด็กมาส่งที่ บขส
ขอเตือนทุกคนที่ยังไม่รู้ ไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือต่างด้าว ห้ามถือบุหรี่ให้กันโดยเด็ดขาดจนกว่าจะกลับถึงที่พักปลายทางของท่าน(เจ้าหน้าที่บอกมาอย่างนั้น) มิเช่นนั้นท่านจะต้องเสียค่าปรับแพงมากโดยไม่ฟังคำอธิบายใดๆทั้งสิ้น (โดยส่วนตัวผมก็อยากจะทราบเหมือนกันว่าเงินที่เข้าหลวง 14,850 บาท ในนั้นมีรางวัลนำจับหรือไม่)
หลังจากที่ได้คุยกับเด็กล่าสุดที่ได้ขึ้นรถ บขส กลับเข้ากรุงเทพแล้ว เด็กบอกว่าคนขายตั๋วสงสารเค้า เลยลดค่าตั๋วจาก 535 บาท เหลือ 500 บาท และบอกว่าโดนกันเยอะกรณีแบบนี้ ต้องขอขอบคุณในน้ำใจของคนขายตั๋วที่ถึงแม้ส่วนลดจะไม่ได้มากมายอะไร แต่ทำให้คนที่เค้ามาจากต่างบ้านได้รู้ว่าอย่างน้อยยังมีคนมีน้ำใจและเห็นใจเค้า