ดิฉันทำงานในบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งซึ่งถือว่าเป็นบริษัทที่มีความมั่นคงระดับหนึ่งค่ะ
แล้วอยู่มาวันนึงมีเพื่อนมาบอกว่าอยากทำงานด้วย เพื่อนคนนี้เคยสนิทกันระดับนึง
แต่ห่างหายกันไปเกือบสิบปี แต่เจอก็ยังทักทายกันปกติดีค่ะ เนื่องจากอยู่กลุ่มเดียวกัน
ด้วยความที่อยากให้เพื่อนได้งานดี ค่าตอบแทนที่ดีจึงตกลงให้เพื่อนมาสมัคร
เนื่องจากตอนนั้นเป็นช่วงที่ผู้จัดการระดับสูง ให้ช่วยหาคนพอดีค่ะ
เพื่อนรองานอยู่นานค่ะเนื่องจากบุคลิกของเพื่อนไม่เข้าตากรรมการ ดูเด็ก แต่ดิฉันก็เชียร์
เต็มที่ค่ะ ว่าเพื่อนมีความรับผิดชอบดี ทำงานเก่งซึ่งจริง ๆ ก็ไม่เคยทำงานร่วมกัน
พี่ผู้จัดการจึงให้ดิฉันช่วยรับรองเพื่อน เพื่อการรันตีว่าเพื่อนจะสู้งาน
และไม่ท้อลาออกไปเมื่อสอนงานแล้ว ถ้าดิฉันตกลงรับรองเงื่อนไข
พี่เค้าจะให้เงินเดือนมากกว่าที่เก่าของเพื่อนอีก จำนวนหนึ่ง
ดิฉันตกลงทันทีเพราะคิดว่าได้ช่วยเหลือเรื่องงานและรายได้ให้เพื่อน
รู้สึกเหมือนกับทำบุญช่วยเหลือคนแล้วได้ความสบายใจมาก ๆ
พี่ผู้จัดการจึงรับเพราะเนื่องจากอยากให้มีคนมาช่วยฉันทำงาน
พี่เค้าบอกว่าถ้าเป็นเพื่อนกันคงเข้าขากัน
โดยให้เริ่มงานได้ทันที
เป็นไปอย่างที่คิดค่ะ เพื่อนดีใจมาก ๆ ค่ะ
ดิฉันก็ดีใจมาก ๆ เช่นกันค่ะ แม้จะไม่ได้รับคำขอบคุณใด ๆ
แต่คิดว่าเล็กน้อยมาก สำหรับความเป็นเพื่อน
แต่ไม่นานค่ะนิสัยเพื่อนเริ่มเปลี่ยนไปมาก เหมือนไม่ใช่เพื่อนที่เคยรู้จักกัน
เพื่อนเริ่มติดผู้ชายในที่ทำงาน เริ่มเอาเปรียบในการทำงาน
จนผู้จัดการเข้ามาเตือนดิฉันว่าเพื่อนเราทำงานฉลาดนะแต่ฉลาดแปลก ๆ
และมีเหตุการณ์นึงทีเพื่อนโดนพี่ที่ทำงานตำหนิ
แล้วพยายามพูดให้ดิฉันโกรธเกียดไปด้วย
แต่ดิฉันเฉย ๆ เพราะพี่คนนั้นดีกับดิฉันมากและคิดว่าเพื่อนคงแยกแยะได้
แต่ไม่เลยค่ะ เพื่อนโกรธดิฉันโดยการทำท่าทีไม่อยากคุยด้วย ซึ่งแรก ๆ ดิฉันไม่รู้ตัว
และเริ่มรู้สึกแปลก ๆ จนแน่ใจ จึงนิ่งบ้างและไม่พยายามคุยก่อน ถ้าเพื่อนไม่คุย
จนเพื่อนเหมือนรู้ว่าดิฉันรู้ จึงพยายามมาพูดคุยด้วย ซื้อของมาฝาก ทำดีขึ้นผิดไป
แต่ดิฉันก็ให้อภัยค่ะ และเพื่อนก็เริ่มบอกว่ามีคนเริ่มนินทาเธอแล้วเรื่อง งานบ้าง เรื่อง ผู้ชายบ้าง
ดิฉันจึงเตือนเพื่อนว่าเรื่องส่วนตัวก็ไม่ควรเล่าไปทั้งหมด เพราะเพื่อนเป็นคนเปิดเผยมาก
ผู้จัดการก็จะรับรู้ตลอดเกี่ยวกับโปรเจ็คนี้ค่ะ และเห็นว่าฉันตั้งใจกับโปรเจ็คตรงนี้มาก
ประสบการณ์ฝากงานให้เพื่อน เคย สนิท!!!
เริ่มเรื่องเลยนะคะ
แล้วอยู่มาวันนึงมีเพื่อนมาบอกว่าอยากทำงานด้วย เพื่อนคนนี้เคยสนิทกันระดับนึง
แต่ห่างหายกันไปเกือบสิบปี แต่เจอก็ยังทักทายกันปกติดีค่ะ เนื่องจากอยู่กลุ่มเดียวกัน
ด้วยความที่อยากให้เพื่อนได้งานดี ค่าตอบแทนที่ดีจึงตกลงให้เพื่อนมาสมัคร
เนื่องจากตอนนั้นเป็นช่วงที่ผู้จัดการระดับสูง ให้ช่วยหาคนพอดีค่ะ
เพื่อนรองานอยู่นานค่ะเนื่องจากบุคลิกของเพื่อนไม่เข้าตากรรมการ ดูเด็ก แต่ดิฉันก็เชียร์
เต็มที่ค่ะ ว่าเพื่อนมีความรับผิดชอบดี ทำงานเก่งซึ่งจริง ๆ ก็ไม่เคยทำงานร่วมกัน
พี่ผู้จัดการจึงให้ดิฉันช่วยรับรองเพื่อน เพื่อการรันตีว่าเพื่อนจะสู้งาน
และไม่ท้อลาออกไปเมื่อสอนงานแล้ว ถ้าดิฉันตกลงรับรองเงื่อนไข
พี่เค้าจะให้เงินเดือนมากกว่าที่เก่าของเพื่อนอีก จำนวนหนึ่ง
ดิฉันตกลงทันทีเพราะคิดว่าได้ช่วยเหลือเรื่องงานและรายได้ให้เพื่อน
รู้สึกเหมือนกับทำบุญช่วยเหลือคนแล้วได้ความสบายใจมาก ๆ
พี่ผู้จัดการจึงรับเพราะเนื่องจากอยากให้มีคนมาช่วยฉันทำงาน
พี่เค้าบอกว่าถ้าเป็นเพื่อนกันคงเข้าขากัน
โดยให้เริ่มงานได้ทันที
เป็นไปอย่างที่คิดค่ะ เพื่อนดีใจมาก ๆ ค่ะ
ดิฉันก็ดีใจมาก ๆ เช่นกันค่ะ แม้จะไม่ได้รับคำขอบคุณใด ๆ
แต่คิดว่าเล็กน้อยมาก สำหรับความเป็นเพื่อน
เพื่อนเริ่มติดผู้ชายในที่ทำงาน เริ่มเอาเปรียบในการทำงาน
จนผู้จัดการเข้ามาเตือนดิฉันว่าเพื่อนเราทำงานฉลาดนะแต่ฉลาดแปลก ๆ
และมีเหตุการณ์นึงทีเพื่อนโดนพี่ที่ทำงานตำหนิ
แล้วพยายามพูดให้ดิฉันโกรธเกียดไปด้วย
แต่ดิฉันเฉย ๆ เพราะพี่คนนั้นดีกับดิฉันมากและคิดว่าเพื่อนคงแยกแยะได้
แต่ไม่เลยค่ะ เพื่อนโกรธดิฉันโดยการทำท่าทีไม่อยากคุยด้วย ซึ่งแรก ๆ ดิฉันไม่รู้ตัว
และเริ่มรู้สึกแปลก ๆ จนแน่ใจ จึงนิ่งบ้างและไม่พยายามคุยก่อน ถ้าเพื่อนไม่คุย
จนเพื่อนเหมือนรู้ว่าดิฉันรู้ จึงพยายามมาพูดคุยด้วย ซื้อของมาฝาก ทำดีขึ้นผิดไป
แต่ดิฉันก็ให้อภัยค่ะ และเพื่อนก็เริ่มบอกว่ามีคนเริ่มนินทาเธอแล้วเรื่อง งานบ้าง เรื่อง ผู้ชายบ้าง
ดิฉันจึงเตือนเพื่อนว่าเรื่องส่วนตัวก็ไม่ควรเล่าไปทั้งหมด เพราะเพื่อนเป็นคนเปิดเผยมาก
ดิฉันก็พูดบอกหมด เพราะคิดว่าเพื่อนกัน และยังแนะนำวิธีการวางแผนงาน
การนำเสนอเพื่อจะได้ทำออกมาได้ดี
ในการทำงานดิฉันจะปรึกษาผู้จัดการตลอดแบบนี้ดีไหม ต้องเพิ่มเติมอะไรไหม ขาดอะไรไหม
ผู้จัดการก็จะรับรู้ตลอดเกี่ยวกับโปรเจ็คนี้ค่ะ และเห็นว่าฉันตั้งใจกับโปรเจ็คตรงนี้มาก
แล้วแจ้งให้ทราบว่าเพื่อนฉันส่งโปรเจ็คแล้วนะ และงานที่ส่งเป็นงานแบบเดียวกันกับฉันเลย
เหมือนกันแบบชนิดที่โครนนิ่งกันมาเลย
ดิฉันทั้งอึ้งและเสียใจมาก ๆ ผู้จัดการเลยเรียกมาคุยกัน
แต่ผู้จัดการก็บอกว่าแนวทางแก้ไขในชิ้นงานนี่พี่เค้าช่วยให้คำปรึกษาฉันมาตลอด
เพื่อนเงียบและเริ่มเสแสร้งใส่ ว่าดิฉันต่อว่าเค้าด้วยคำพูดแรง ๆ เหมือนไม่ใช่เพื่อนกัน
ดิฉันอึ้งอยู่พักใหญ่ ทั้งเสียใจและโกรธ สรุปพี่ผู้จัดการจึงยกงานนั้นให้ฉัน
ส่วนเพื่อนก็เสแสร้งต่อว่าต้องขอโทษด้วยนะไม่คิดว่าจะเหมือนกันได้ขนาดนี้
และพูดให้กำลังใจหลาย ๆ อย่างซึ่งดิฉันนั่งน้ำตาแตกมาก
พี่เค้าเลยบอกว่ารู้อยู่แล้วว่าเค้าดูคนไม่ผิด ต่อไปอย่าไว้ใจใครมากเกินไป
พี่เค้าทั้งสอนทั้งเตือนให้กำลังใจ ทำให้ปัญหาในใจสิ่งที่เสียมันหายไป และดีขึ้น
ว่าเราไม่ได้สูญเสียเพื่อนรักไป เราแค่เสียคนไม่จริงใจคนนึง
แต่เค้าต่างหากที่สูญเสียค่ะ
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านนะคะ