สวัสดีค่า จขกท.เป็นครูสอนภาษาอังกฤษคนหนึ่ง ที่ผ่านมารู้สึกว่านักเรียนหลายคนมักจะสับสนกับคำศัพท์ภาษาอังกฤษเหล่านี้บ่อยมากๆ จึงขอรวบรวมไว้เพื่อแบ่งปันความรู้นะคะ
1. attack vs attract เป็นคำกริยาทั้งคู่ แต่ attack แปลว่าโจมตี / attract แปลว่าดึงดูด
2. comfortable vs convenient เป็นคำคุณศัพท์ทั้งคู่ คำแรก สบาย (เช่น a comfortable bed) / คำหลัง สะดวก (เช่น a convenient location)
3. contact vs contract เป็นคำกริยาทั้งคู่ คำแรก ติดต่อ/ คำหลัง ติดโรค หรือถ้าเป็นคำนามแปลว่า สัญญา
4. country vs county เป็นคำนามทั้งคู่ คำแรก ประเทศ, ชนบท / คำหลัง เขตการปกครอง, มณฑล
5. daily vs dairy คำแรก ประจำวัน (เช่น daily routine)/ คำหลัง โรงโคนม, ที่ทำจากนม (เช่น dairy product)
6. decide vs design เป็นคำกริยาทั้งคู่ คำแรก ตัดสินใจ / คำหลัง ออกแบบ
7. deny vs refuse เป็นคำกริยา แปลว่าปฏิเสธทั้งคู่ แต่คำแรก ปฏิเสธว่าไม่ได้ทำ/ คำหลัง ปฏิเสธว่าจะไม่ทำ
8. except vs expect คำแรก ยกเว้น / คำหลัง คาดหวัง
9. exit vs exist คำแรก ทางออก / คำหลัง คงอยู่
10. life vs live คำแรก ไลฟ์ ชีวิต / คำหลัง ลิฟว์ อาศัย หรือเป็นคำคุณศัพท์ อ่านว่า ไลฟว์ แปลว่า (ถ่ายทอด)สด
11. Michael vs Michelle เป็นชื่อคน คำแรก ไมเคิล / คำหลัง มิเชล
12. price vs prize เป็นคำนามทั้งคู่ คำแรก ราคา/ คำหลัง รางวัล
13. quite vs quiet คำแรก วิเศษณ์ ค่อนข้าง/ คำหลัง คุณศัพท์ เงียบ
14. receipt vs receive คำแรกคำนาม อ่านว่ารีซีท ใบเสร็จ/ คำหลัง กริยา รีซีฟว์ ได้รับ
15. religion vs region เป็นคำนามทั้งคู่ คำแรก ศาสนา/ คำหลัง ภูมิภาค
16. royal s loyal คำแรก เกี่ยวกับราชวงศ์/ คำหลัง จงรักภักดี
17. sleep vs asleep คำแรก เป็นกริยา นอนหลับ/ คำหลัง เป็นคำคุณศัพท์ หลับ
18. start vs begin แปลว่าเริ่มต้นเหมือนกัน ใช้แทนกันได้ในหลายๆกรณี แต่ถ้าเป็นเครื่องจักร, เครื่องยนต์ ใช้ start
19. wake up vs get up แปลว่าตื่นนอนเหมือนกัน แต่ wake up คือรู้สึกตัวตื่น ส่วน get up คือลุกขึ้น (จากที่นอน)
20. weather vs whether คำแรกเป็นคำนาม สภาพอากาศ/ คำหลัง เป็นคำสันธาน แปลว่า หรือไม่
ถ้าท่านใดมีคำอื่นๆอยากเพิ่มเติมก็เชิญเลยนะคะ แบ่งปันความรู้กันค่าาา ^^
คำศัพท์ 20 คู่ที่ชวนให้สับสน
1. attack vs attract เป็นคำกริยาทั้งคู่ แต่ attack แปลว่าโจมตี / attract แปลว่าดึงดูด
2. comfortable vs convenient เป็นคำคุณศัพท์ทั้งคู่ คำแรก สบาย (เช่น a comfortable bed) / คำหลัง สะดวก (เช่น a convenient location)
3. contact vs contract เป็นคำกริยาทั้งคู่ คำแรก ติดต่อ/ คำหลัง ติดโรค หรือถ้าเป็นคำนามแปลว่า สัญญา
4. country vs county เป็นคำนามทั้งคู่ คำแรก ประเทศ, ชนบท / คำหลัง เขตการปกครอง, มณฑล
5. daily vs dairy คำแรก ประจำวัน (เช่น daily routine)/ คำหลัง โรงโคนม, ที่ทำจากนม (เช่น dairy product)
6. decide vs design เป็นคำกริยาทั้งคู่ คำแรก ตัดสินใจ / คำหลัง ออกแบบ
7. deny vs refuse เป็นคำกริยา แปลว่าปฏิเสธทั้งคู่ แต่คำแรก ปฏิเสธว่าไม่ได้ทำ/ คำหลัง ปฏิเสธว่าจะไม่ทำ
8. except vs expect คำแรก ยกเว้น / คำหลัง คาดหวัง
9. exit vs exist คำแรก ทางออก / คำหลัง คงอยู่
10. life vs live คำแรก ไลฟ์ ชีวิต / คำหลัง ลิฟว์ อาศัย หรือเป็นคำคุณศัพท์ อ่านว่า ไลฟว์ แปลว่า (ถ่ายทอด)สด
11. Michael vs Michelle เป็นชื่อคน คำแรก ไมเคิล / คำหลัง มิเชล
12. price vs prize เป็นคำนามทั้งคู่ คำแรก ราคา/ คำหลัง รางวัล
13. quite vs quiet คำแรก วิเศษณ์ ค่อนข้าง/ คำหลัง คุณศัพท์ เงียบ
14. receipt vs receive คำแรกคำนาม อ่านว่ารีซีท ใบเสร็จ/ คำหลัง กริยา รีซีฟว์ ได้รับ
15. religion vs region เป็นคำนามทั้งคู่ คำแรก ศาสนา/ คำหลัง ภูมิภาค
16. royal s loyal คำแรก เกี่ยวกับราชวงศ์/ คำหลัง จงรักภักดี
17. sleep vs asleep คำแรก เป็นกริยา นอนหลับ/ คำหลัง เป็นคำคุณศัพท์ หลับ
18. start vs begin แปลว่าเริ่มต้นเหมือนกัน ใช้แทนกันได้ในหลายๆกรณี แต่ถ้าเป็นเครื่องจักร, เครื่องยนต์ ใช้ start
19. wake up vs get up แปลว่าตื่นนอนเหมือนกัน แต่ wake up คือรู้สึกตัวตื่น ส่วน get up คือลุกขึ้น (จากที่นอน)
20. weather vs whether คำแรกเป็นคำนาม สภาพอากาศ/ คำหลัง เป็นคำสันธาน แปลว่า หรือไม่
ถ้าท่านใดมีคำอื่นๆอยากเพิ่มเติมก็เชิญเลยนะคะ แบ่งปันความรู้กันค่าาา ^^