แชร์ประสบการณ์การเรียนขับรถ+ทำใบขับขี่ที่ญี่ปุ่น

สวัสดีค่ะ
วันนี้จะมาเล่าประสปการณ์การเรียนขับรถที่ญี่ปุ่นให้ฟังค่ะ

ก่อนอื่นเลยคำถามที่เราโดนถามบ่อยเองเช่นกันเวลาจะเรียนขับรถที่นี่จากคนไทย
●ทำไมถึงต้องถึงต้องไปเรียนขับรถด้วย ฝึกเองแล้วไปสอบเลยไม่ได้เหรอ?
- ระบบการทำใบขับขี่ที่นี่ ถ้าไม่ได้ผ่านการเรียนทีโรงเรียนมาก่อน แล้วเดินดุ่มๆเข้าไปสอบเลยจะสามารถผ่านได้ยากมาก และคงต้องสอบและเสียเงินหลายรอบ รวมถึง การที่จะฝึกขับเองนั้น เป็นไปได้ยากค่ะ ที่ญี่ปุ่น มีกฏหมายที่ไม่สามารถให้คนที่ไม่มีใบขับขี่ไปซี้ซั้วฝึกขับรถเองได้เลยค่ะ (เดี๋ยวจะอธิบายต่อทีหลังนะคะ)

●ทำไมไม่กลับไปทำใบขับขี่ที่ไทย แล้วเอามาแปลที่นี่ หรือใช้ใบขับขี่สากล ?
- การที่จะเอาใบขับขี่ไทยมาแล้วมาทำเรื่องสำหรับคนที่มีบขับขี่ไทย สามารถทำได้ค่ะ แต่อย่างเราไม่เคยมีใบขับขี่ที่ไทยมาก่อน ถ้าหากว่ากลับไปทำใบขับขี่ที่ไทย ทำได้ แต่ไม่สามารถเอามาแล้วยื่นเรื่องทำใบขับขี่ที่นี่ได้ เพราะ

1. ต้องมีเวลาอยู่ไทย และใช้ใบขับขี่นั้นที่ไทยก่อนเกินเวลา 3 เดือนขึ้นไป
2. ถ้าทำใบขับขี่ที่ไทยแล้ว ใบแรกก็มีอายุแค่ปีเดียว ถึงทำมาแล้วก็ยังไม่สามารถใช้ได้

หรือในกรณีที่สามารถทำใบขับขี่สากลได้แล้ว ใบขับขี่สากลมีอายุแค่ 1 ปี และถ้าอยู่ ญี่ปุ่นเกิน 1 ปี ก็จะไม่สามารถใช้ใบขับขี่สากลได้ต่อค่ะ


ด้วยข้อจำกัดหลายๆอย่าง และมีความจำเป็นแล้ว เลยทำให้ต้องตัดสินใจเรียนขับรถที่ญี่ปุ่นค่ะ
โดยโรงเรียนขับรถที่นี่นั้น ถ้าให้พูดแบบสรุปๆง่ายๆเลย คือถ้าเราไปลงเรียนขับรถกับโรงเรียนที่ได้รับการรับรองอย่างถูกต้องตามกฏหมายแล้ว เมื่อเราเรียนจบแล้ว เราสามารถเอาใบจบไปยื่น พร้อมสอบข้อเขียนและได้ใบขับขี่มาได้เลยค่ะ

พูดดูเหมือนจะง่ายนะคะ แต่จริงๆไม่ง่ายเลยค่ะ
ก่อนอื่น ค่าเรียนเลย แพงมากกกกกก
อย่างโรงเรียนที่เราเลือกเรียน
เกียร์ออโต้ 267,840 เยน
เกียร์ธรรมดา 280,800 เยน
ก็เกือบๆ 1แสนบาท
(โรงเรียนอื่นๆเองราคาก็ไม่ต่างจากนี้ไปเท่าไหร่ค่ะ อาจจะมีถูกกว่า แพงกว่าได้บ้าง แต่บวกลบไม่เกิน 2หมื่นเยนแน่นอนค่ะ)
ส่วนเราเลือกเรียนเกียร์ธรรมดาค่ะ ไหนๆจะเสียตังค์ระก็ขอเอาให้คุ้มๆหน่อย เรียนทีเดียว

เวลาเรียน ขั้นตอนอะไรก็เยอะค่ะ
ถ้าเราจ่ายตัง ทำเรื่องสมัครอะไรเรียบร้อยแล้ว
จะต้องเข้าไปฟังการปฐมนิเทศก่อนเลย 1 ชั่วโมง จะอธิบายว่า เพื่อที่จะให้ได้มาซึ่งใบขับขี่จะต้องทำยังไงบ้าง จะต้องผ่านการเรียน การสอบยังไง และลงเรียนยังไง
พร้อมทั้งบังคับต่อชั่วโมงต่อไปเลยคือทดสอบทางจิตวิทยา (ผลนั้นเอาไปทำอะไรนั้นจะพูดถึงทีหลังนะคะ)
และชั่วโมงที่ 3 แบบต่อเนื่องเลยค่ะ บังคับเรียน เลคเชอร์ชั่วโมงแรก
ในการเรียนนั้น จะมีแบ่งเป็น 2 อย่างค่ะ คือ
1 เรียนเลคเชอร์
2 เรียนขับรถจริง
การเรียนการสอนนั้น ถ้าจะให้พูดเปรียบเทียบให้เข้าใจง่ายๆก็คือ คงเหมือนการเรียนในโรงเรียนปกติ 1 ปี ที่มี 2 เทอม
ทั้ง 2 เทอม ก็ประกอบไปด้วย การเรียนทั้งเลคเชอร์และเรียนขับรถกับรถจริง
โดนเทอมแรก จะต้องเรียนเลคเชอร์ 10 ชั่วโมง และเรียนขับรถจริง 15 ชั่วโมงค่ะ
การเรียนเลคเชอร์นั้น จะเป็นระบบที่ว่า ในแต่ละวันของสัปดาห์เค้าจะมีตารางมาให้เราค่ะว่า วันไหนคาบไหนโรงเรียนจะมีการเรียนการสอนหมายเลขไหน 1-10 บ้าง แล้วเราจะต้องเก็บเรียนเบอร์ 1-10 ให้ครบ โดยที่ไม่จำเป็นจะต้องเรียนเรียงตามลำดับค่ะ  ไม่ต้องทำการจอง หรือลงทะเบียนล่วงหน้า พอถึงเวลา ก็เดินเข้าห้องไปนั่งเรียนได้เลย


รูปกระดาษตารางเวลาเรียนค่ะ

โดยแต่ละคนก็จะมีแฟ้มประจำตัวค่ะ เป็นแฟ้มข้อมูล บันทึกการเรียน
เรียนเสร็จแต่ละคาบ เค้าก็จะปั๊มให้ว่าเราเรียนคลาสนี้แล้ว
ตอนเรียนก็โหดค่ะ ห้ามใช้โทรศัพท์มือถือ (โดนสั่งว่าต้องปิดเครื่องเลย ให้สั่นก็ไม่ได้) ห้ามหลับ ถ้าหลับ หรือเห็นว่าไม่ตั้งใจฟังอะไร ครูอาจจะไม่ปั๊มให้ผ่านได้ค่ะ
เนื้อหาของแต่ละคาบก็จะมีตามนี้ค่ะ
(ตัวเลขคือ ตัวเลขประจำแต่ละคาบนะคะ)
1 พูดถึงเรื่องการขับรถคร่าวๆ การแต่งตัว ปฏิบัติตัวเมื่อจะต้องขับรถ
2 ความหมายของสีไฟ สัญลักษณ์ไฟจราจร
3 เครื่องหมายจราจรต่างๆ
4 การขับรถตามเลน ถ้าถนที่ไม่มีเลนขับยังไง
5 การขับรถเพื่อข้ามแยก ข้ามทางรถไฟ
6 ระยะห่างเพื่อความปลอดภัยเวลาขับรถ วิธีการขับรถออโต้
7 การปฏิบัติตนตอนขับรถกับผู้สัญจรตามท้องถนนอื่นๆ (คนเดินถนน จักรยาน)
8 การเปลี่ยนเลน การให้สัญญานเพื่อความปลอดภัย
9 การขับแซง ขับสวน การให้ทางรถฉุกเฉิน
10 ระบบของใบขับขี่ ประเภทใบขับขี่ กฏหมายเกี่ยวกับใบขับขี่

อันนี้เป็นรูปหนังสือเรียนค่ะ
เล่มซ้าย เป็นหนังสือที่ใช้เรียนเลคเชอร์
เล่มขวา เป็นเหมือนไว้ประกอบตอนเรียนขับจริง ให้เราไปอ่าน ศึกษาเองเวลาว่าง เหมือนคู่มือขับรถค่ะ


ทุกๆคาบตอนแรกจะเป็นการสอนกับหนังสือเรียน และตอนท้ายจะเปิดให้ดูวีดีโอเพื่อให้เห็นภาพจริง+สรุปเนื้อหาค่ะ
ถ้าเราเรียนครบแล้วทั้ง 10 หมายเลข จะต้องทำการสอบ อารมณ์เหมือนสอบกลางภาคเลยค่ะ
โดยอันนี้ก็ไม่ต้องนัด ไม่ต้องจอง อยากสอบเดินไปห้องพักครูได้เลย เค้าจะพาเราไปสอบที่คอม
ข้อสอบมี 50 ข้อ เป็นข้อสอบให้ตอบว่าบทความนั้นถูกหรือผิด
ต้องให้ได้มากกว่า 45 คะแนนถึงจะสอบผ่าน ภายในเวลา 30 นาที
สอบเสร็จรู้ผลเลยทันที และจะมีคอมปริ้น ข้อที่เราทำผิดออกมา และต้องไปนั่งเขียนแก้ลงในใบนั้นว่า ทำไมถึงผิด และที่ถูกต้องคืออะไร เนื้อหาเรื่องนี้อยู่ในหนังสือเรียนหน้าอะไร จะต้องเขียนเลขหน้าลงไปด้วยนะคะ
ถ้าคะแนนไม่ถึง 45 คือไม่ผ่าน และต้องนั่งแก้ข้อที่ผิดให้หมด เอาไปส่งถึงจะมีสิทธิ์สอบใหม่ วันนึงสามารถสอบได้แค่ 2 ครั้ง แต่จะสอบกี่ครั้งก็ได้จนกว่าจะผ่าน
แต่ถึงจะได้คะแนนมากกว่า 45 คะแนนก็ต้องแก้แล้วเอาไปส่งเหมือนกันนะคะ ไม่งั้นเค้าจะไม่ปั๊มลงแฟ้มประจำตัวให้ว่าเราสอบผ่านค่ะ

ในส่วนที่ 2 คือเรียนขับรถจริง ในเทอมแรกก็มี 15 ชั่วโมงค่ะ
จะต้องทำการจองเวลาเรียน และต้องเรียนตามลำดับค่ะ (เรียนได้มากสุดแค่วันละ 2 ชั่วโมงเท่านั้น  แต่เรียนต่อเนื่องเลยไม่ได้ ต้องเรียน ทีละคาย และพักระหว่างคาบอย่างต่ำ 10 นาที )
การเรียนใน 15 ชั่วโมงแรกนั้น จะเรียนอยู่แต่ในสนามขับรถของโรงเรียนเท่านั้น ไม่สามารถออกไปขับตามท้องถนนได้โดยเด็ดขาด
เนื้อหาแต่ละคาบก็คือ
(ตัวเลขคือ ตัวเลขประจำแต่ละคาบนะคะ)
1 นั่งเรียนกับเครื่องเหมือนเครื่องขับรถตามเกมเซนเตอร์ค่ะ จะสอนถึงส่วนประกอบต่างๆของที่นั่งคนขับ อะไรอยู่ตรงไหน พวงมาลัยต้องจับยังไง ไฟเลี้ยวอยู่ตรงไหน การจัดปรับที่นั่งให้เหมาะกับร่างกาย
2 การออกรถ และการหยุดรถ
3 การควบคุมความเร็ว ปรับเร่ง-ลดความเร็ว
4 การเปลี่ยนเลน
5 การออกตัว และหยุดรถให้ได้ตามสัญญานไฟจราจร และการหยุดรถให้ได้ตามต้องการ(เช่นจอดให้คนข้ามตรงทางม้าลาย)
6 วิธีขับรถเกียร์ออโต้ (สำหรับคนที่เรียนขับแบบออโต้ก็อาจจะไม่มีคาบนี้ค่ะ เรียนแบบเกียร์ธรรมดามาอยู่แล้ว มาเจอแบบนี้เค้าเลยไม่อะไรมาก สอนแบบคร่าวๆ แล้วก็ให้รับรู้ถึงอันตรายของการขับแบบเกียร์ออโต้ เช่นการเหยียบเบรคสลับเป็นคันเร่ง รับรู้ถึงว่าถ้าเหยียบแล้วรถพุ่งไปเลยจะเป็นยังไง)
(เราเรียนขับเกียร์ธรรมดา ก็จะมีคาบนี้มาเพื่อสอนให้รู้ระบบ และการขับรถของเกียร์ออโต้ คนที่เลือกเรียนขับเกียร์ออโต้ก็จะไม่มีชั่วโมงนี้ค่ะ และเวลาเรียนของเกียร์ออโต้จะน้อยกว่า และค่าเรียนก็ถูกกว่าด้วยเหตุผลตรงนี้แหละค่ะ)
7 การเลี้ยวเข้าโค้ง การขับรถในทางโค้งหักศอก
8 การเลี้ยวเข้าโค้ง การขับรถในทางโค้งหักศอก
9 การขับรถขึ้นเนิน และลงเนิน
10 การถอยรถ และการขับรถในทางแคบ
11การขับรถในทางแคบ
12 (มาถึงตรงนี้จะเริ่มเข้าภาคผนวกคือเอาทุกอย่างมาใช้รวมกันค่ะ) ขับเพื่อหลบสิ่งกีดขวาง การเปลี่ยนเลน การขับรถตามไฟและกฏจราจร
13 การขับรถข้ามทางแยก สี่แยกต่างๆ
14 การขับรถออกจากทางแยกที่ทัศนวิสัยแย่ การขับรถข้ามทางรถไฟ
15 ผนวก และสรุป การซ้อมขับเพื่อเตรียมตัวสอบ

ถ้าเรียนเลคเชอร์มาครบ 10ชั่วโมง + ทำการสอบกับคอมผ่านแล้ว
และเรียนขับรถจริงมาครบ 15 ชั่วโมงแล้ว ก็จะต้องทำการสอบเหมือนสอบปลายภาคค่ะ
ขั้นตอนคือ สอบขับรถก่อน แต่สอบในสนามโรงเรียนค่ะ เส้นทางจะเป็นยังไง เจอลำดับทางอะไรยังไงนั้น จะไม่มีการบอกล่วงหน้า จะอธิบายให้ฟังก่อนขับจริง และผู้คุมสอบที่นั่งข้างๆตอนสอบจะบอกอีกทีค่ะ เช่น เลี้ยวขวาแยกข้างหน้า ไปทางแยกตรงนี้ๆ  แต่อย่างอื่นๆที่เป็น้อบังคับจะไม่บอกเลยค่ะ อย่างถ้าไฟแดงเราต้องหยุด พอไฟเขียวจะขับออกไปแล้วต้องมองซ้าย มองขวาก่อน ว่ามีรถ มีคนพุ่งออกมามั้น ถ้าลืมโดนตัด 5 คะแนน
คะแนนสอบตรงนี้ต้องได้มากกว่า 70 คะแนนถึงจะผ่านค่ะ
ตอนสอบจะเป็นระบบตัดแต้ม
ถ้าไม่ผ่าน ก็กลับบ้านเดี๋ยวนั้นค่ะ ตกรอบ ฮ่าๆๆ ทำการสอบแก้ตัวใหม่วันหลังได้ แต่ต้องทำการเรียนขับรถทบทวน(และต้องเสียเงินเพิ่ม)เหมือนชั่วโมงที่ 15 ใหม่ก่อน แล้วถึงจะกลับมาสอบได้


รูปคอร์สของทางที่ฝึกขับภายในโรงเรียนค่ะ
จะเห็นว่ามีตัวเลขกำกับอยู่  คือตอนสอบครูเค้าจะไม่บอกว่า เอ้า เลี้ยวเข้าทางแคบ หรือต่อไปข้ามทางรถไฟ
แต่จะบอกเป็นตัวเลขค่ะ ก่อนสอบก็ควรจะจำว่าเบอร์ไหนเป็นอะไร จะได้เตรียมตัวได้ถูกค่ะ
ทางแคบที่ว่าคือเป็นตัว S อย่างในเบอร์ 13,14
ทางหักศอก แบบเบอร์ 15,11
ส่วนใหญ่คนจะตกตรงสองอันนี้นี่แหละค่ะ ถ้าชนเสา ปีนฟุตบาธปั๊บคือตกเลย
แต่ถ้าล้อชนฟุตบาธแล้ว และถอยแก้ได้ค่ะ ไม่เป็นไร


ถ้าผ่านแล้วจะต้องไปสอบข้อเขียนต่อ ซึ่งคราวนี้สอบแบบฝนกระดาษข้อสอบค่ะ

ที่ต้องสอบแบบนี้ก็เพราะ นี่คือการสอบเพื่อให้ได้ใบขับขี่ชั่วคราว ซึ่งจำเป็นต่อการเรียนต่อในครึ่งหลัง
ที่ได้พูดไปตอนแรกว่า ในครึ่งแรกที่ต้องเรียนขับรถแต่ในสนามของโรงเรียนก็เพราะว่า ถนนของญี่ปุ่น ถ้าไม่มีใบขับขี่จะไม่สามารถขับรถได้เลยค่ะ
การสอบนี้เองก็คือการยืนยันว่าเราสามารถขับรถ และรู้ถึงกฏจราจร และสามารถทำตามกฏจราจรได้แล้วในระดับนึง แต่ต้องทำการซ้อม+เรียนขับจริงต่ออีก
ข้อสอบข้อเขียนนั้น ก็คือข้อสอบจริงภาคบังคับของทางกรมขนส่งเลยค่ะ ตอนเราสอบเสร็จโรงเรียนก็ต้องส่งไปตรวจที่ขนส่ง ถ้าผ่านแล้ว ขนส่งจะทำการออกใบขับขี่ชั่วคราวมาให้เลย


ใบขับขี่ชั่วคราว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่