หลังจากสอบผ่านและได้ใบขับขี่ญี่ปุ่นมาเมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ก็โดนรบเร้าให้รีวิวอยู่เรื่อยๆ แต่ก็ยังตั้งหลักไม่ได้สักที วันนี้ได้ฤกษ์แล้วค่ะ ไปดูกันนนน
เพื่อให้ง่ายต่อความเข้าใจและสะดวกสำหรับคนที่ต้องการทำใบขับขี่ญี่ปุ่น จึงขอทำเป็น flowcahrt ที่ดูได้รวดเร็วไว้ให้ นะคะ จะแชร์ จะ save เก็บไว้ก็ได้เลยค่ะ😊
ในส่วนของการรายละเอียดประกอบ flowchart ขออนุญาตเล่าถึง “การเปลี่ยนใบขับขี่จากไทยเป็นญี่ปุ่น” เป็นส่วนใหญ่นะคะ เพราะเราทำในขั้นตอนนี้ (ประสบการณ์ตรง)
การทำใบขับขี่ที่ญี่ปุ่นจะไปทำที่ศูนย์สอบใบขับขี่ ซึ่งจะมีศูนย์ฯตามเมืองใหญ่ๆ ค่ะ เราทำเรื่องเปลี่ยนใบขับขี่ที่ศูนย์สอบใบขับขี่คาโดมะที่โอซาก้า (Kadoma, Osaka) รายละเอียดปลีกย่อยอาจแตกต่างกันไปในแต่ละศูนย์สอบฯ เช่น ขั้นตอนการนัด ระบบการให้บริการ แต่แก่นสาระสำคัญเราคิดว่าไม่ต่างกัน
การทำใบขับขี่ญี่ปุ่นของชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศญี่ปุ่น
เราขอแบ่งเป็น 2 กรณีนะคะ
1. กรณีที่ไม่เคยมีใบขับขี่ไทย
กรณีนี้ต้องลงเรียนขับรถยนต์ที่โรงเรียนสอนขับรถค่ะ ใช้เวลาเรียนโดยทั่วไปประมาณ 1 เดือน ค่าใช้จ่ายประมาณ 200,000 - 400,000 เยน (60,000 - 120,000 บาท) แล้วแต่โรงเรียนและคอร์สที่เลือก (มีแบบกินนอนไปจนถึงเลือกชั่วโมงเรียนตามเราสะดวก) ถ้าสอบผ่านหลักสูตรของโรงเรียนแล้ว (ทั้งสอบปฏิบัติและข้อเขียน) สามารถนำใบไปยื่นสอบที่ศูนย์สอบใบขับขี่ได้เลยค่ะ การสอบที่ศูนย์สอบฯจะสอบเฉพาะข้อเขียน ไม่มีสอบขับรถ
(กรณีนี้จะเหมือนคนญี่ปุ่นที่จะทำใบขับขี่รถยนต์ครั้งแรก แต่คนญี่ปุ่นพิเศษอยู่อย่างหนึ่งคือ ไม่ต้องไปเรียนขับรถที่โรงเรียนก็สามารถเดินไปสอบที่ศูนย์สอบฯได้โดยตรง แต่ก็ต้องสอบทั้งข้อเขียนและสอบปฏิบัติค่ะ ส่วนใหญ่พูดได้ว่าเกือบทั้งหมดไปเรียนที่โรงเรียนสอนขับรถก่อนทั้งนั้น ไม่ค่อยมีใครไปสอบโดยตรงสักเท่าไหร่ค่ะ โดยมากจะไปเรียนกันตอนเข้ามหาวิทยาลัย ใช้ช่วงปิดเทอมฤดูร้อนหรือฤดูหนาวไปเรียนค่ะ)
2. กรณีมีใบขับขี่ไทย
กรณีนี้ต้องเป็นใบขับขี่ที่ไม่หมดอายุ และต้องถือใบขับขี่นั้นอยู่ในประเทศไทยมากกว่า 90 วัน นับตั้งแต่วันออกใบขับขี่ จึงจะสามารถทำเรื่องเปลี่ยนใบขับขี่ไทยเป็นญี่ปุ่นได้
**เพิ่มเติมเรื่อง การถือใบขับขี่แล้วอยู่ในประเทศที่ออกใบขับขี่อย่างน้อย 90 วัน
กรณีนี้มีคนที่สับสนอยู่ไม่ใช่น้อย ถ้าเป็นคนที่ได้ใบขับขี่มานานแล้วมักไม่ค่อยมีปัญหา แต่คนที่เพิ่งได้ใบขับขี่มาใหม่ๆ เป็นครั้งแรกอาจจะต้องเช็คเรื่องระยะเวลานี้ด้วยค่ะ
เงื่อนไขระบุไว้ว่า -> 外国免許取得(交付)後、免許発給国に滞在した期間が通算して3か月(90日)以上あることが証明できること。 ต้องพิสูจน์ได้ว่าอยู่อาศัยในประเทศที่ออกใบขับขี่รวมทั้งหมดไม่น้อยกว่า 90 วัน นับตั้งแต่ได้รับใบขับขี่
เงื่อนไขใช้คำว่า 通算 ค่ะ แม้จะออกนอกประเทศไทยเป็นช่วงๆ ก็จะนับวันที่อยู่ไทย เอามารวมกัน ถ้ามากกว่า 90 วันก็เข้าเงื่อนไขค่ะ
ขั้นตอนการเปลี่ยนใบขับขี่ไทยเป็นญี่ปุ่น
เอกสารที่ต้องใช้
1. ใบขับขี่ไทย
2. ไชริวการ์ด
3. เอกสารการแปลใบขับขี่ไทยเป็นภาษาอังกฤษ จาก Japan Automobile Federation หรือ JAF เราใช้วิธีส่งใบขับขี่ตัวจริงและสำเนา สำเนาหน้า passport พร้อมเงิน 3,500 เยน (ประมาณ 1,050 บาท) ทางจดหมายไปที่ JAF ใช้เวลาประมาณ 3 วัน ก็ได้รับเอกสารตอบกลับมาค่ะ
4. ใบรับรองการอยู่อาศัยที่ญี่ปุ่น จูมินเกียว (住民票) ขอได้ที่ที่ทำการของเมืองที่เราอยู่
5. Passport ทุกเล่ม ขนไปให้หมดค่ะ
6. รูปถ่าย 1 รูป ขนาด 3 x 2.4 cm. ถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือน (ใช้ติดเฉพาะใบคำขอค่ะ ไม่ใช้ติดใบขับขี่ เราใช้กล้องตั้งถ่ายแล้วไป print ที่เซเว่น ใครจะเดินไปถ่ายที่ตู้ถ่ายรูปก็สะดวกดีนะคะ ราคาเริ่มต้น 800 เยน)
7. เงินประมาณ 5,000 เยน (1,500 บาท)
เมื่อเตรียมเอกสารเรียบร้อยก็ไปที่ศูนย์สอบฯได้เลยค่ะ **บางศูนย์สอบฯอาจต้องโทรไปนัดก่อน แนะนำให้โทรไปถามศูนย์สอบฯของตัวเองก่อนนะคะ เราไปที่ศูนย์สอบฯคาโดมะที่โอซาก้า ครั้งแรกแบบชิวมาก ไปถึง 9 โมงครึ่ง เจ้าหน้าที่บอกว่าปิดรับแล้วให้มาวันถัดไป (รับจำกัด 25 คนต่อวัน) ครั้งที่สองไปถึง 7 โมงครึ่ง เคาน์เตอร์เปิด 8.45 น. แต่คนมายืนต่อแถวกันแล้วค่ะ
ศูนย์สอบขับรถคาโดมะ โอซาก้า
เดินไปเข้าแถวที่เคาน์เตอร์หมายเลข 6
พอถึงคิวก็ยื่นเอกสาร
เจ้าหน้าที่จะให้แบบฟอร์มมากรอก ในแบบฟอร์มเราต้องกรอกเลือกชนิดรถที่จะสอบ เราเลือกเกียร์ออโต้ จากนั้นเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบเอกสาร ถ้าครบจะสัมภาษณ์ต่อเลย
แบบฟอร์มพร้อมติดรูปถ่าย
การสัมภาษณ์
สัมภาษณ์เกี่ยวกับประวัติการขับรถการทำใบขับขี่ของเรา (สัมภาษณ์เป็นภาษาญี่ปุ่น สามารถนำล่ามไปด้วยได้ค่ะ โชคดีสำหรับเราที่เจ้าหน้าที่พูดภาษาอังกฤษได้นิดหน่อย การสัมภาษณ์ลูกผสมอังกฤษญี่ปุ่นจึงเริ่มขึ้นและจบลงด้วยดีค่ะ เท่ไปเลย 😎)
ตัวอย่างคำถามที่เราเจอ
ใครสอนขับรถ [ไปเรียนที่โรงเรียนสอนขับรถค่ะ], ใช้เวลาเรียนกี่วัน [1 อาทิตย์ค่ะ], ตอนไปสอบใบขับขี่ได้สอบข้อเขียนไหม [สอบค่ะ], ได้สอบขับรถไหม [สอบค่ะ)] ฯลฯ
สอบข้อเขียน
จำนวน 10 ข้อ ข้อสอบเป็นภาษาไทยค่ะ แต่ก็แอบงงกับบางคำถามเพราะการแปลกลับหน้าไปหลัง จะว่ายากก็ไม่ยากจะว่าง่ายก็ไม่เชิงเพราะบางกฎก็ต่างจากบ้านเรา ทั้งตอบแบบมั่นใจและเดาแบบวัดดวงอยู่ 1 ข้อ แต่ก็ผ่านไปด้วยดีค่ะ เราได้เต็ม 10 คะแนน
ตรวจวัดสายตา
แบบรูปตัว C ตัว C อ้าปากไปทางไหนให้ตอบไปทางนั้นค่ะ จะใช้นิ้วชี้ทิศเอาก็ได้นะคะเราทำมาแล้ว 😉
และแบบสี เขียว เหลือง แดง บอกตามที่เห็นค่ะ (ภาษาอังกฤษก็ได้นะคะ อันนี้เราก็ทำมาแล้วเหมือนกันค่ะ 😁)
เข้าแถวรอวัดสายตา ตู้ข้างในสีดำๆ นั่นคือเครื่องวัดค่ะ
เมื่อผ่านทั้ง 3 ด่าน เจ้าหน้าที่จะให้คู่มือมาอ่าน (ภาษาญี่ปุ่นและภาษาไทย) รวมถึงเส้นทางที่จะใช้สอบขับรถยนต์ (เราได้คอร์ส B) เราสามารถเข้าไปดูถนนเส้นทางในสนามสอบได้ค่ะ ตามช่วงเวลาที่กำหนด 2 ช่วง คือ 7.00-8.00 น. และ 12.00-12.20 น.
ขั้นตอนการจองวันสอบไปจนถึงได้ใบขับขี่
คอร์ส B ขับตามเส้นทางสีดำ
คู่มือภาษาญี่ปุ่น
คู่มือภาษาไทยแต่ไม่ละเอียดเท่าภาษาญี่ปุ่น
เดินไปดูสนามสอบกันสักหน่อย
จ่ายเงินและนัดวันสอบปฏิบัติ
เจ้าหน้าที่จะบอกวันที่ได้คิวเร็วที่สุด แต่ถ้าเราไม่ว่างหรือมีวันที่สะดวกสามารถบอกและนัดได้เลยค่ะ (ถ้านัดแล้วติดธุระวันนั้น สามารถโทรมาเลื่อนนัดได้ค่ะ แต่ต้องเป็นไปตามเงื่อนไขการนัด)
วันสอบปฏิบัติขับรถ
มาตามเวลานัดในบัตรนัด เข้าแถว ยื่นใบนัด จ่ายเงิน แล้วไปนั่งรอในห้องรอสอบ
พอถึงเวลาจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาอธิบายวิธีการสอบและเส้นทางรวมถึงการขับขี่ที่เสียคะแนน (ภาษาญี่ปุ่นล้วน) อธิบายจบก็ถามว่าใครมาสอบครั้งแรกบ้าง (เรา//ยกมือ หันไปมองรอบ ๆ มีคนยกมือ 3 คนจากจำนวนคนเกือบ 30 คน)
จากนั้นเจ้าหน้าที่จะพาเราไปตรวจวัดสายตาอีกรอบ (ตัว C และสามสี) ตรวจเสร็จกลับมาที่ห้องเพื่อรอสอบตามคิว ลำดับการสอบจะขึ้นไว้ที่จอโทรทัศน์ พอถึงคิวเราก็ให้เดินจากห้องรอสอบไปที่สนามสอบได้เลยค่ะ
นั่งรอเจ้าหน้าที่มาอธิบายวิธีการสอบ
ลำดับการสอบจะขึ้นที่จอโทรทัศน์
ที่สนามสอบ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่คุมสอบจะเรียกให้เราไปนั่งเบาะหลังเพื่อดูเส้นทางและวิธีการสอบกับคนลำดับก่อนหน้า 1 รอบก่อนสอบขับจริง
ผลการสอบขับรถ
รอบแรก ขับเป็นตัวของตัวเองผสมกับการอ่านคู่มือที่ได้ไป 👉🏻ไม่ผ่าน
รอบสอง อ่านคู่มือให้แน่นๆ ขับตามคู่มือ 👉🏻ไม่ผ่าน
รอบนี้ถามตำรวจคุมสอบเลยค่ะว่าพลาดตรงไหน [พลาดตรงกลางสี่แยกไฟแดงที่จะเลี้ยวขวา ตรงกลางสี่แยกจะมีลูกศรให้รถแต่ละเลน แต่เราไม่เห็นค่ะ คร่อมลูกศรของฝั่งตรงข้ามซะเลย แอบเสียดายอยู่เหมือนกันเพราะขับจนจะจบคอร์สอยู่แล้ว ตำรวจถามว่าได้ไปเรียนขับรถที่โรงเรียนมาไหม [ค่ะ เรียนที่ไทยค่ะ] หมายถึงที่ญี่ปุ่น [ออๆ ไม่เคยค่ะ😅] คนที่ผ่านส่วนใหญ่เขาไปเรียนที่โรงเรียน แล้วคุณตำรวจก็แนะนำให้ไปเรียน เพราะถูกชมว่าขับรถดีโดยเฉพาะถนนรูปตัว S (ยิ้มเลยค่ะ เซียนดอยอย่างเราไม่เสียชื่อแล้ว😂😂)
รอบสาม 👉🏻ผ่าน หลังจากขับจนจบคอร์ส ตำรวจคุมสอบจะแจ้งผลทันที และผ่านค่ะ แทบกรี๊ดดดดด ดีใจสุดๆ
จากนั้นให้ทำตามขั้นตอนในเอกสารที่ได้ครั้งแรกคือไปที่เคาน์เตอร์เบอร์ 6 เราสอบเสร็จเกือบ 10 โมง นัดอีกที 11 โมงค่ะ
พอถึงเวลานัดจะมีเจ้าหน้าที่มาเรียกคนที่ผ่านไปตรวจเอกสารว่าถูกต้องไหม วันนั้นมีคนผ่าน 4 คน จากทั้งหมด 24 คน คุณตำรวจหญิงแสดงความยินดีใหญ่มาก おめでとうございます 🎉🎉🎉 นึกย้อนไปถึงรอบแรกที่ตำรวจถามว่าใครมาสอบเป็นครั้งแรก มีคนยกมือแค่ 3 คน เข้าใจแล้วค่ะเพราะมันยากจริงๆ 😅😅
[รอบสามที่เราผ่านมาได้เพราะได้เทคนิควิธีการขับรถแบบญี่ปุ่นจากโรงเรียนสอนขับรถที่ไปเรียนมา
เราตัดสินใจไปเรียนขับรถเพื่อสอบ โดยเลือกคอร์ส 2 วัน วันละ 3 ชั่วโมง (40,000 เยน ประมาณ 12,000 บาท)
วันแรกซ้อมขับรถในสนามของโรงเรียน ฝึกนิสัยการมองกระจก เปิดไฟเลี้ยวนับ 1, 2, 3 หักพวงมาลัยให้ชิน เลี้ยวให้ชิดขอบถนน ซ้อมถนนรูปตัว S และ L
วันที่สองไปขับในสนามสอบจริง ขับวนอยู่นั้นจนจำเส้นทางและชินกับญี่ปุ่นสไตล์ สนุกดีค่ะ ใครจะสอบแนะนำไปโรงเรียนสอนขับรถก็ดีนะคะ ไม่เสียเวลาด้วย]
ตรวจเอกสารเสร็จก็จ่ายเงิน กดตั้งรหัส PIN (รหัสจะใช้จนกว่าจะเปลี่ยนใบขับขี่ครั้งต่อไป ควรตั้งรหัสให้เราจำได้นะคะ) รอถ่ายรูป แล้วก็รับใบขับขี่กลับบ้านค่ะ
ใบขับขี่ที่ได้มีอายุ 3 ปี นอกจากขับรถเกียร์ออโต้แล้ว ยังสามารถขับรถมอเตอร์ไซค์ขนาดไม่เกิน 50 cc ได้ด้วยค่ะ
กรณีที่ย้ายที่อยู่ ต้องไปที่สถานีตำรวจเพื่อเปลี่ยนที่อยู่ในใบขับขี่ด้วย
ข้อมูลอ้างอิง : ประสบการณ์ตรงของตัวเอง สัมภาษณ์คนญี่ปุ่นและ เว็บไซต์ดังต่อไปนี้ค่ะ
JAF 👉🏻
https://english.jaf.or.jp/?_gl=1*bwna9x*_ga*MTE4NTk1MjI0Ny4xNjM0OTE2NTI4*_ga_7L9642ERG7*MTYzNTA0NzQwNS4yLjAuMTYzNTA0NzQxNS4w&_ga=2.79146260.1048994073.1635047406-1185952247.1634916528
ศูนย์สอบใบขับขี่เกียวโต 👉🏻
https://www.pref.kyoto.jp/fukei/foreign/s_men1/gaimen/index.html
ศูนย์สอบฯคานากาวะ 👉🏻
https://www.police.pref.kanagawa.jp/mes/mes83046.htm
การทำใบขับขี่ญี่ปุ่นของชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศญี่ปุ่น 2021
เพื่อให้ง่ายต่อความเข้าใจและสะดวกสำหรับคนที่ต้องการทำใบขับขี่ญี่ปุ่น จึงขอทำเป็น flowcahrt ที่ดูได้รวดเร็วไว้ให้ นะคะ จะแชร์ จะ save เก็บไว้ก็ได้เลยค่ะ😊
ในส่วนของการรายละเอียดประกอบ flowchart ขออนุญาตเล่าถึง “การเปลี่ยนใบขับขี่จากไทยเป็นญี่ปุ่น” เป็นส่วนใหญ่นะคะ เพราะเราทำในขั้นตอนนี้ (ประสบการณ์ตรง)
การทำใบขับขี่ที่ญี่ปุ่นจะไปทำที่ศูนย์สอบใบขับขี่ ซึ่งจะมีศูนย์ฯตามเมืองใหญ่ๆ ค่ะ เราทำเรื่องเปลี่ยนใบขับขี่ที่ศูนย์สอบใบขับขี่คาโดมะที่โอซาก้า (Kadoma, Osaka) รายละเอียดปลีกย่อยอาจแตกต่างกันไปในแต่ละศูนย์สอบฯ เช่น ขั้นตอนการนัด ระบบการให้บริการ แต่แก่นสาระสำคัญเราคิดว่าไม่ต่างกัน
การทำใบขับขี่ญี่ปุ่นของชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศญี่ปุ่น
เราขอแบ่งเป็น 2 กรณีนะคะ
1. กรณีที่ไม่เคยมีใบขับขี่ไทย
กรณีนี้ต้องลงเรียนขับรถยนต์ที่โรงเรียนสอนขับรถค่ะ ใช้เวลาเรียนโดยทั่วไปประมาณ 1 เดือน ค่าใช้จ่ายประมาณ 200,000 - 400,000 เยน (60,000 - 120,000 บาท) แล้วแต่โรงเรียนและคอร์สที่เลือก (มีแบบกินนอนไปจนถึงเลือกชั่วโมงเรียนตามเราสะดวก) ถ้าสอบผ่านหลักสูตรของโรงเรียนแล้ว (ทั้งสอบปฏิบัติและข้อเขียน) สามารถนำใบไปยื่นสอบที่ศูนย์สอบใบขับขี่ได้เลยค่ะ การสอบที่ศูนย์สอบฯจะสอบเฉพาะข้อเขียน ไม่มีสอบขับรถ
(กรณีนี้จะเหมือนคนญี่ปุ่นที่จะทำใบขับขี่รถยนต์ครั้งแรก แต่คนญี่ปุ่นพิเศษอยู่อย่างหนึ่งคือ ไม่ต้องไปเรียนขับรถที่โรงเรียนก็สามารถเดินไปสอบที่ศูนย์สอบฯได้โดยตรง แต่ก็ต้องสอบทั้งข้อเขียนและสอบปฏิบัติค่ะ ส่วนใหญ่พูดได้ว่าเกือบทั้งหมดไปเรียนที่โรงเรียนสอนขับรถก่อนทั้งนั้น ไม่ค่อยมีใครไปสอบโดยตรงสักเท่าไหร่ค่ะ โดยมากจะไปเรียนกันตอนเข้ามหาวิทยาลัย ใช้ช่วงปิดเทอมฤดูร้อนหรือฤดูหนาวไปเรียนค่ะ)
2. กรณีมีใบขับขี่ไทย
กรณีนี้ต้องเป็นใบขับขี่ที่ไม่หมดอายุ และต้องถือใบขับขี่นั้นอยู่ในประเทศไทยมากกว่า 90 วัน นับตั้งแต่วันออกใบขับขี่ จึงจะสามารถทำเรื่องเปลี่ยนใบขับขี่ไทยเป็นญี่ปุ่นได้
**เพิ่มเติมเรื่อง การถือใบขับขี่แล้วอยู่ในประเทศที่ออกใบขับขี่อย่างน้อย 90 วัน
กรณีนี้มีคนที่สับสนอยู่ไม่ใช่น้อย ถ้าเป็นคนที่ได้ใบขับขี่มานานแล้วมักไม่ค่อยมีปัญหา แต่คนที่เพิ่งได้ใบขับขี่มาใหม่ๆ เป็นครั้งแรกอาจจะต้องเช็คเรื่องระยะเวลานี้ด้วยค่ะ
เงื่อนไขระบุไว้ว่า -> 外国免許取得(交付)後、免許発給国に滞在した期間が通算して3か月(90日)以上あることが証明できること。 ต้องพิสูจน์ได้ว่าอยู่อาศัยในประเทศที่ออกใบขับขี่รวมทั้งหมดไม่น้อยกว่า 90 วัน นับตั้งแต่ได้รับใบขับขี่
เงื่อนไขใช้คำว่า 通算 ค่ะ แม้จะออกนอกประเทศไทยเป็นช่วงๆ ก็จะนับวันที่อยู่ไทย เอามารวมกัน ถ้ามากกว่า 90 วันก็เข้าเงื่อนไขค่ะ
ขั้นตอนการเปลี่ยนใบขับขี่ไทยเป็นญี่ปุ่น
เอกสารที่ต้องใช้
1. ใบขับขี่ไทย
2. ไชริวการ์ด
3. เอกสารการแปลใบขับขี่ไทยเป็นภาษาอังกฤษ จาก Japan Automobile Federation หรือ JAF เราใช้วิธีส่งใบขับขี่ตัวจริงและสำเนา สำเนาหน้า passport พร้อมเงิน 3,500 เยน (ประมาณ 1,050 บาท) ทางจดหมายไปที่ JAF ใช้เวลาประมาณ 3 วัน ก็ได้รับเอกสารตอบกลับมาค่ะ
4. ใบรับรองการอยู่อาศัยที่ญี่ปุ่น จูมินเกียว (住民票) ขอได้ที่ที่ทำการของเมืองที่เราอยู่
5. Passport ทุกเล่ม ขนไปให้หมดค่ะ
6. รูปถ่าย 1 รูป ขนาด 3 x 2.4 cm. ถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือน (ใช้ติดเฉพาะใบคำขอค่ะ ไม่ใช้ติดใบขับขี่ เราใช้กล้องตั้งถ่ายแล้วไป print ที่เซเว่น ใครจะเดินไปถ่ายที่ตู้ถ่ายรูปก็สะดวกดีนะคะ ราคาเริ่มต้น 800 เยน)
7. เงินประมาณ 5,000 เยน (1,500 บาท)
เมื่อเตรียมเอกสารเรียบร้อยก็ไปที่ศูนย์สอบฯได้เลยค่ะ **บางศูนย์สอบฯอาจต้องโทรไปนัดก่อน แนะนำให้โทรไปถามศูนย์สอบฯของตัวเองก่อนนะคะ เราไปที่ศูนย์สอบฯคาโดมะที่โอซาก้า ครั้งแรกแบบชิวมาก ไปถึง 9 โมงครึ่ง เจ้าหน้าที่บอกว่าปิดรับแล้วให้มาวันถัดไป (รับจำกัด 25 คนต่อวัน) ครั้งที่สองไปถึง 7 โมงครึ่ง เคาน์เตอร์เปิด 8.45 น. แต่คนมายืนต่อแถวกันแล้วค่ะ
ศูนย์สอบขับรถคาโดมะ โอซาก้า
เดินไปเข้าแถวที่เคาน์เตอร์หมายเลข 6
พอถึงคิวก็ยื่นเอกสาร
เจ้าหน้าที่จะให้แบบฟอร์มมากรอก ในแบบฟอร์มเราต้องกรอกเลือกชนิดรถที่จะสอบ เราเลือกเกียร์ออโต้ จากนั้นเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบเอกสาร ถ้าครบจะสัมภาษณ์ต่อเลย
แบบฟอร์มพร้อมติดรูปถ่าย
การสัมภาษณ์
สัมภาษณ์เกี่ยวกับประวัติการขับรถการทำใบขับขี่ของเรา (สัมภาษณ์เป็นภาษาญี่ปุ่น สามารถนำล่ามไปด้วยได้ค่ะ โชคดีสำหรับเราที่เจ้าหน้าที่พูดภาษาอังกฤษได้นิดหน่อย การสัมภาษณ์ลูกผสมอังกฤษญี่ปุ่นจึงเริ่มขึ้นและจบลงด้วยดีค่ะ เท่ไปเลย 😎)
ตัวอย่างคำถามที่เราเจอ
ใครสอนขับรถ [ไปเรียนที่โรงเรียนสอนขับรถค่ะ], ใช้เวลาเรียนกี่วัน [1 อาทิตย์ค่ะ], ตอนไปสอบใบขับขี่ได้สอบข้อเขียนไหม [สอบค่ะ], ได้สอบขับรถไหม [สอบค่ะ)] ฯลฯ
สอบข้อเขียน
จำนวน 10 ข้อ ข้อสอบเป็นภาษาไทยค่ะ แต่ก็แอบงงกับบางคำถามเพราะการแปลกลับหน้าไปหลัง จะว่ายากก็ไม่ยากจะว่าง่ายก็ไม่เชิงเพราะบางกฎก็ต่างจากบ้านเรา ทั้งตอบแบบมั่นใจและเดาแบบวัดดวงอยู่ 1 ข้อ แต่ก็ผ่านไปด้วยดีค่ะ เราได้เต็ม 10 คะแนน
ตรวจวัดสายตา
แบบรูปตัว C ตัว C อ้าปากไปทางไหนให้ตอบไปทางนั้นค่ะ จะใช้นิ้วชี้ทิศเอาก็ได้นะคะเราทำมาแล้ว 😉
และแบบสี เขียว เหลือง แดง บอกตามที่เห็นค่ะ (ภาษาอังกฤษก็ได้นะคะ อันนี้เราก็ทำมาแล้วเหมือนกันค่ะ 😁)
เข้าแถวรอวัดสายตา ตู้ข้างในสีดำๆ นั่นคือเครื่องวัดค่ะ
เมื่อผ่านทั้ง 3 ด่าน เจ้าหน้าที่จะให้คู่มือมาอ่าน (ภาษาญี่ปุ่นและภาษาไทย) รวมถึงเส้นทางที่จะใช้สอบขับรถยนต์ (เราได้คอร์ส B) เราสามารถเข้าไปดูถนนเส้นทางในสนามสอบได้ค่ะ ตามช่วงเวลาที่กำหนด 2 ช่วง คือ 7.00-8.00 น. และ 12.00-12.20 น.
ขั้นตอนการจองวันสอบไปจนถึงได้ใบขับขี่
คอร์ส B ขับตามเส้นทางสีดำ
คู่มือภาษาญี่ปุ่น
คู่มือภาษาไทยแต่ไม่ละเอียดเท่าภาษาญี่ปุ่น
เดินไปดูสนามสอบกันสักหน่อย
จ่ายเงินและนัดวันสอบปฏิบัติ
เจ้าหน้าที่จะบอกวันที่ได้คิวเร็วที่สุด แต่ถ้าเราไม่ว่างหรือมีวันที่สะดวกสามารถบอกและนัดได้เลยค่ะ (ถ้านัดแล้วติดธุระวันนั้น สามารถโทรมาเลื่อนนัดได้ค่ะ แต่ต้องเป็นไปตามเงื่อนไขการนัด)
วันสอบปฏิบัติขับรถ
มาตามเวลานัดในบัตรนัด เข้าแถว ยื่นใบนัด จ่ายเงิน แล้วไปนั่งรอในห้องรอสอบ
พอถึงเวลาจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาอธิบายวิธีการสอบและเส้นทางรวมถึงการขับขี่ที่เสียคะแนน (ภาษาญี่ปุ่นล้วน) อธิบายจบก็ถามว่าใครมาสอบครั้งแรกบ้าง (เรา//ยกมือ หันไปมองรอบ ๆ มีคนยกมือ 3 คนจากจำนวนคนเกือบ 30 คน)
จากนั้นเจ้าหน้าที่จะพาเราไปตรวจวัดสายตาอีกรอบ (ตัว C และสามสี) ตรวจเสร็จกลับมาที่ห้องเพื่อรอสอบตามคิว ลำดับการสอบจะขึ้นไว้ที่จอโทรทัศน์ พอถึงคิวเราก็ให้เดินจากห้องรอสอบไปที่สนามสอบได้เลยค่ะ
นั่งรอเจ้าหน้าที่มาอธิบายวิธีการสอบ
ลำดับการสอบจะขึ้นที่จอโทรทัศน์
ที่สนามสอบ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่คุมสอบจะเรียกให้เราไปนั่งเบาะหลังเพื่อดูเส้นทางและวิธีการสอบกับคนลำดับก่อนหน้า 1 รอบก่อนสอบขับจริง
ผลการสอบขับรถ
รอบแรก ขับเป็นตัวของตัวเองผสมกับการอ่านคู่มือที่ได้ไป 👉🏻ไม่ผ่าน
รอบสอง อ่านคู่มือให้แน่นๆ ขับตามคู่มือ 👉🏻ไม่ผ่าน
รอบนี้ถามตำรวจคุมสอบเลยค่ะว่าพลาดตรงไหน [พลาดตรงกลางสี่แยกไฟแดงที่จะเลี้ยวขวา ตรงกลางสี่แยกจะมีลูกศรให้รถแต่ละเลน แต่เราไม่เห็นค่ะ คร่อมลูกศรของฝั่งตรงข้ามซะเลย แอบเสียดายอยู่เหมือนกันเพราะขับจนจะจบคอร์สอยู่แล้ว ตำรวจถามว่าได้ไปเรียนขับรถที่โรงเรียนมาไหม [ค่ะ เรียนที่ไทยค่ะ] หมายถึงที่ญี่ปุ่น [ออๆ ไม่เคยค่ะ😅] คนที่ผ่านส่วนใหญ่เขาไปเรียนที่โรงเรียน แล้วคุณตำรวจก็แนะนำให้ไปเรียน เพราะถูกชมว่าขับรถดีโดยเฉพาะถนนรูปตัว S (ยิ้มเลยค่ะ เซียนดอยอย่างเราไม่เสียชื่อแล้ว😂😂)
รอบสาม 👉🏻ผ่าน หลังจากขับจนจบคอร์ส ตำรวจคุมสอบจะแจ้งผลทันที และผ่านค่ะ แทบกรี๊ดดดดด ดีใจสุดๆ
จากนั้นให้ทำตามขั้นตอนในเอกสารที่ได้ครั้งแรกคือไปที่เคาน์เตอร์เบอร์ 6 เราสอบเสร็จเกือบ 10 โมง นัดอีกที 11 โมงค่ะ
พอถึงเวลานัดจะมีเจ้าหน้าที่มาเรียกคนที่ผ่านไปตรวจเอกสารว่าถูกต้องไหม วันนั้นมีคนผ่าน 4 คน จากทั้งหมด 24 คน คุณตำรวจหญิงแสดงความยินดีใหญ่มาก おめでとうございます 🎉🎉🎉 นึกย้อนไปถึงรอบแรกที่ตำรวจถามว่าใครมาสอบเป็นครั้งแรก มีคนยกมือแค่ 3 คน เข้าใจแล้วค่ะเพราะมันยากจริงๆ 😅😅
[รอบสามที่เราผ่านมาได้เพราะได้เทคนิควิธีการขับรถแบบญี่ปุ่นจากโรงเรียนสอนขับรถที่ไปเรียนมา
เราตัดสินใจไปเรียนขับรถเพื่อสอบ โดยเลือกคอร์ส 2 วัน วันละ 3 ชั่วโมง (40,000 เยน ประมาณ 12,000 บาท)
วันแรกซ้อมขับรถในสนามของโรงเรียน ฝึกนิสัยการมองกระจก เปิดไฟเลี้ยวนับ 1, 2, 3 หักพวงมาลัยให้ชิน เลี้ยวให้ชิดขอบถนน ซ้อมถนนรูปตัว S และ L
วันที่สองไปขับในสนามสอบจริง ขับวนอยู่นั้นจนจำเส้นทางและชินกับญี่ปุ่นสไตล์ สนุกดีค่ะ ใครจะสอบแนะนำไปโรงเรียนสอนขับรถก็ดีนะคะ ไม่เสียเวลาด้วย]
ตรวจเอกสารเสร็จก็จ่ายเงิน กดตั้งรหัส PIN (รหัสจะใช้จนกว่าจะเปลี่ยนใบขับขี่ครั้งต่อไป ควรตั้งรหัสให้เราจำได้นะคะ) รอถ่ายรูป แล้วก็รับใบขับขี่กลับบ้านค่ะ
ใบขับขี่ที่ได้มีอายุ 3 ปี นอกจากขับรถเกียร์ออโต้แล้ว ยังสามารถขับรถมอเตอร์ไซค์ขนาดไม่เกิน 50 cc ได้ด้วยค่ะ
กรณีที่ย้ายที่อยู่ ต้องไปที่สถานีตำรวจเพื่อเปลี่ยนที่อยู่ในใบขับขี่ด้วย
ข้อมูลอ้างอิง : ประสบการณ์ตรงของตัวเอง สัมภาษณ์คนญี่ปุ่นและ เว็บไซต์ดังต่อไปนี้ค่ะ
JAF 👉🏻 https://english.jaf.or.jp/?_gl=1*bwna9x*_ga*MTE4NTk1MjI0Ny4xNjM0OTE2NTI4*_ga_7L9642ERG7*MTYzNTA0NzQwNS4yLjAuMTYzNTA0NzQxNS4w&_ga=2.79146260.1048994073.1635047406-1185952247.1634916528
ศูนย์สอบใบขับขี่เกียวโต 👉🏻https://www.pref.kyoto.jp/fukei/foreign/s_men1/gaimen/index.html
ศูนย์สอบฯคานากาวะ 👉🏻 https://www.police.pref.kanagawa.jp/mes/mes83046.htm