หลายปีมากๆ สำหรับการเข้าๆ ออกๆ พันทิพ ได้แต่เก็บเกี่ยวความรู้จักที่แห่งนี้ วันนี้ถือโอกาสส่งมอบความประสบการณ์นี้เป็นการตอบแทนครับ

จากบ้านเก่าชั้นเดียวอายุร่วม 30 ปี   Renovate ให้เป็นร้านกาแฟ มีห้องเรียน ห้องคั่วกาแฟ ในพื้นที่ขนาด 60 ตารางเมตร

ครั้งแรกที่ได้เห็นทำเล ตัวบ้านและคำตอบตกลงว่าจะทำสัญญาเช่า 2 ปี  สิ่งที่อยู่ในหัวแล่นทันทีว่าอะไรจะต้องทำและห้องไหนเป็นห้องสำหรับกิจกรรมอะไร

ห้องแรกห้องกระจกขนาด 8 ตารางเมตรฝ้าเพดานเป็นระแนงไม้สีน้ำตาเข้มมีพัดลมอยู่ตัวนึง ผมจะเก็บเขาไว้ ห้องนี้จะไม่ทำอะไรเลยใส่โคมไฟอย่างที่ชอบแล้วทำเป็นห้อง Slow Bar แต่ท้ายสุดตัดสินใจทุบเป็นห้องโถงกาแฟใหญ่ โดยการขยายผนังออกทั้งสองด้าน
ด้านข้างฝั่งซ้ายของบ้าน ห้องเรียนผุดขึ้นในหัวผมตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น ด้วยสัดส่วนและความสะดวกในการเข้าออกทั้งจากด้านนอกและด้านในรวมถึงห้องน้ำและห้องครัว ห้องนี้จึงเป็นห้องแรกที่ช่างถูกเรียกตัวให้มาเนรมิตเพียง 1 อาทิตย์ห้องสอนก็สามารถเปิดให้นักเรียนคลาสแรกใช้งาน ผมดัดแปลงฝาผนังด้วยการใช้กระดานอัดบุกำแพงทั้งหมดแทนวอลเปเปอร์เดิมที่ยากเกินกว่าจะลอกออก  ถอดบานเกร็ดออกทั้งสองด้านแล้วทำหน้าต่างไม้พาเลทสไลด์ อีกด้านใส่เป็นกระจกบานเลื่อน เพิ่มเติมประตูกั้นระหว่างห้องครัวและห้องน้ำ  ทาสีขาวกำแพงด้านในแล้วติดภาพเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับกาแฟ



ภายในห้องเรียนภาพในหลวง ภาพวาดจากน้ำกาแฟ ที่ประมูลมาจากงาน Thailandcoffeefest2017 ภาพนี้ต้องอยู่มุมนี้บนกำแพงเซรามิคเผาสีน้ำตาลนี้เท่านั้น เป็นกำแพงที่ผมชื่นชอบเป็นพิเศษ และเป็นกำแพงเซรามิคอายุเท่าบ้าน ที่ยังคงเหลืออยู่ เพิ่มเติมแสงสว่างเล็กน้อยทำให้ภาพวาดพระองค์ท่านโดดเด่นมาก



หลังจากห้องเรียนเสร็จไปแล้วอย่างรวดเร็วภายในสัปดาห์เดียว ห้องสำหรับเครื่องคั่วคือเป้าหมายต่อไป ผมนัดให้น้องช่างอ๊อก พร้อมจัดเตรียมอุปกรณ์เชื่อม ทั้งตู้เชื่อมและทุกอย่างที่ต้องใช้รวมทั้งเหล็กหลายชนิดสำหรับต่อเติมขยายส่วนของตัวบ้านออกไปอีก ร่วมสองเมตรลึก 6 เมตร กั้นด้วยเมทัลชีทและกระจกเก่าบานใหญ่สองบานที่รื้อมาจากห้องสะสมกีต้าร์ของพี่ปู พงษ์สิทธิ์ คัมภีร์  เพิ่มเติมส่วนหน้าด้วยประตูบานเฟี้ยมครึ่งล่างกั้นด้วยไม้พาเลทที่เหลือจากทำฝ้าเพดาน ส่วนบนทำเป็นกระจกให้สามารถมองออกไปด้านนอกได้ และมองเข้ามาเห็นเครื่องชงและบรรยากาศภายในได้


ถึงคราวห้องหลักของร้านกาแฟได้เวลาต้องจัดการ หลังจากห้องอื่นๆ เข้าที่เข้าทาง เริ่มจากห้องกระจกเดิมที่คิดไว้แต่แรกว่าจะทำห้องสโลบาร์ ถูกทุบทิ้งเพราะผมเปลี่ยนใจขยายเป็นห้องโถงใหญ่ โดยขยายกำแพงกระจกออกไปในส่วนของลานจอดรถให้เหลือเพียง 1 คัน ปรับพื้นให้เสมอกันเป็นพื้นปูนขัดมัน ทาสีกำแพงเป็นสีเทา ทำโครงฝ้าเพดานด้วยเหล็กขนาด 2*1 นิ้วใช้ไม้ลังพาเลทที่ไสด้านเดียวขนาด ½*5 นิ้วยาวแผ่นละ 1 เมตรสนนราคามัดละ 100 บาท ปูได้ขนาดพื้นที่ 1 ตารางเมตรต่อมัด และเพราะฝีมือปราณีตของช่างจึงเป็นฝ้าเพดานที่ผมชอบจริงๆ  ซึ่งจริงๆ แล้วร้านเดิมก็ทำฝ้าแบบนี้ ที่บ้านก็ด้วย ผมนี่ชอบไม้เอามากๆสะแล้ว ;)

เดวค่อยมาต่อการเติมแต่งภายในเป็นจุดๆ นะครับ