คือเมื่อเดือนเมษาที่ผ่านมารถผมโดนชนจากด้านข้างกลางสี่แยก เนื่องจากอีกฝ่ายผ่าไฟแดงมาชนแล้วทางนั้นก็ยอมรับผิด สภาพรถผมคือล้อหัก โครงรถด้านคนนั่งยุบไปเลย คือชนแรงมาก พอดีผมทำประกันของวิริยะไว้แล้วทางคู่กรณีก็เป็นประกันเจ้าเดียวกัน ทางคู่กรณียอมรับผิดก็จบไป ลากรถเข้าอู่ซ่อม ระหว่างที่ซ่อมทางอู่ก็โทรมาแจ้งว่า อะไหล่หายาก ถ้าของแท้ผมต้องจ่ายครึ่งราคาเพราะอะไหล่เดิมเก่าแล้วหรือถ้าต้องรอมือ2รถก็จะซ่อมนานเกิน60วัน (รถผมยี่ห้อ chevrolet optra ปี2009) ผมก็แจ้งไปว่าผมไม่จ่ายเพราะรถผมเช็คสภาพทุกปีขับดีไม่มีปัญหาอะไรถ้าจะซ่อมนานเกิน60วันผมก็โอเค ระหว่างนั้นก็ซ่อมไป จนเมื่อเดือนที่แล้วมีเจ้าหน้าที่ประกันโทรมาถามว่าอะไหล่อีกชิ้นจะเปลี่ยนมือ1ไหมโดนที่ผมต้องจ่ายอีกครึ่งนึงของราคาจริง จากราคาจริง2หมื่นกว่าบาท ผมก็แจ้งไปว่าไม่เอา ทางนั้นก็โอเคไป จนเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาทางอู่โทรมราแจ้งว่ารถผมซ่อมเสร็จแล้วโดนมีค่าใช้จ่ายร่วมที่ผมยินยอมในการจะชำระร่วมเพื่อเปลี่ยนอะไหล่ อีกเกือบหมื่นบาท ผมจึงโทรไปถามทางวิริยะ แล้วได้คุยกับเจ้าหน้าที่ที่รับเคสผมไว้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่บอกว่าผมได้ยินยอมในการชำระร่วมค่าอะไหล่ คือผมโคตรโมโหและตกใจ...ความรู้สึกของการโดนยัดเยียดข้อกล่าวหาในสิ่งที่ผมไม่เคยได้พูดหรือตกลง กลับกันคือผมคัดค้านการจ่ายร่วมในการซ่อมมาตลอด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ของวิริยะก็ยังยืนยันว่าเค้ามีพยานด้วยว่าผมพูดว่ายินดีที่จะจ่ายค่าซ่อมร่วม เห้ยยย!!! รถผมโดนขับผ่าไฟแดงมาชนแล้วผมประกันชั้น1กับทางคุณ แล้วผมยังจะต้องมาจ่ายค่าซ่อมรถเองอีกเกือบหมื่นบาทด้วยหรอ  ทางพนักงานวิริยะคนนั้นบอกต่อว่า รถอายุเกิน2ปีมันก็ต้องมีอุปกรณ์เสื่อมแล้ว ให้ผมไปเรียกร้องเอาเองได้หรือไม่ได้ไม่รู้ ต้องดูประวัติด้วยว่าผมทำกับวิริยะมากี่ปี ประวัติเป็นยังไง มีอะไรอีกไหมผมต้องรีบไปทำงานต่อแล้วก็รีบตัดบท สุดยอดมากๆๆๆๆๆๆครับ สิ่งที่เสียความรู้สึกมากๆคือ การโดนปรักปรำในสิ่งที่ผมไม่ได้พูดไปว่าผมยินดีที่จ่ายค่าซ่อมร่วม(ในเคสที่ผมโดนรถผ่าไฟแดงมาชนแล้วบังเอิญได้ทำประกันชั้น1กับทางวิริยะไว้) มันคือการโดนยัดเยียด มันคือการปรักปรำข้อกล่าวหาดีดีนี่เอง